Corsair Vengeance 2000 Wireless 7.1 Gaming Headset Review : Testing & Conclusion (4/4)
.
Testing & Conclusion
ภาพขณะทำการทดสอบครับ
ผมลองดูหนังแล้วเลือกไปที่ 7.1 Channel ดูแต่ว่าตัวหนังที่มีนั้นคงได้แค่ 5.1 Channel เท่านั้น ว่ากันไปครับ เสียงที่ได้ยินนั้นถูกจำลองให้กว้างออกไป และลอยออกไปเป็นบริเวณกว้างรอบๆศรีษะแบบรู้สึกได้เลยครับ เสียงกลางต่ำ และเสียงความถี่ต่ำน่าจะเป็นจุดเด่นของ Vengeance 2000 แรงปะทะของเสียงระเบิดและแรงอัดนั้นให้ความรุนแรงและหนักหน่วงเอาเรื่อง จะมีเสียงหึ่งๆไปกวนเสียงกลางบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่เสียอรรถรสแต่อย่างใด จุดสังเกตุจุดนึงคือ รอยต่อระหว่างเสียงต่ำกับเสียงกลางนั้นอาจจะไม่กลมกลืนซักเท่าไหร่นัก ตัว Driver นั้นอาาจะถูกจูนมาแบบนั้นซึ่งจะไปกระทบความลื่นไหลและต่อเนื่องของย่านความถี่ขณะฟังเพลงบ้าง แต่น่าจะเป็นเพราะว่า Corsair ไม่ต้องการให้เสียงต่ำมากๆนั้นขึ้นไปรบกวนเสียงในย่านกลางขึ้นไปมากนัก ทำให้เวลาที่ฟังเพลงประเภทอคูสติกจะไม่รู้สึกว่าเอะอะอะไรก็มีเสียงเบสหึ่งอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
.
เสียงแหลมนั้นจัดพอควร กลางแหลมเปิดมาก รายละเอียดเสียงแหลมนั้นอาจจะไม่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับหูฟังที่ออกแบบมาเฉพาะทางฟังเพลงโดยเฉพาะ เสียงกลางฟังลื่นๆดีครับแต่อาจจะไม่เปิดและพุ่งมากนักและติดจะอวบอ้วนไปบ้างเนื่องจากมีความถี่ต่ำขึ้นมารวมๆอยู่ด้วย แต่ตรงนี้ลองเปลี่ยน Profile ไปใช้ให้เหมาะกับโอกาสน่าจะช่วยให้ฟังเพราะขึ้นครับ ผมว่าจุดเด่นที่สำคัญที่สุดสำหรับ Vengeance 2000 นั่นคือมันเป็นหูฟังแบบไร้สายครับ น้ำหนักนั้นถือว่าไม่หนักอย่างที่คิดเลย ผมลองใส่หูฟังนี้ดูหนังจนจบเรื่องก็ไม่รู้สึกว่าเมื่อยคอแต่อย่างใด การส่งสัญญาณระหว่างหูฟังถึงตัวรับก็ถือว่าดีครับ ไม่มีสะดุดระหว่างใช้งานเลย คือมันเหมือนกับเป็นหูฟังที่มีสายปกติแบบนั้น ลองไปพิสูจน์ดูว่ามันเหมาะกับคุณหรือเปล่าได้ที่ร้านอุปกรณ์เกมส์ชั้นนำ หรือจะไปที่ Scanner ก็ได้ครับ ผมว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว..
.
.
CHANE
.
อุปกรณ์ที่ใช้ฟังเปรียบเทียบ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition <คลิ๊กเพื่อเข้าชมรีวิว> และ Sennheiser HD465 . .
.
ขอขอบคุณ
Scanner
.