ECS Z77H2-AX Black Extreme Golden Board Review : Introduction (1/1)
...Ivy Bridge Intel Core 3rd generation นั้นมันก็คือ Sandy Bridge Intel Core 2nd generation ที่ถูกปรับปรุงรายละเอียดยิบย่อยตั้งแต่เทคโนโลยีการผลิต (22นาโนเมตร) ไปจนถึงฟีเจอร์ต่างๆของตัวโปรเซสเซอร์ ให้ดียิ่งๆขึ้นไปนั้นเองครับ แต่ยังคงพื้นฐานของ Sandy-Bridge ไว้ ถ้าให้พูดกันง่ายๆก็คือเป็น Sandy-Bridge Minorchange ออกมาเรียกว่า "Ivy Bridge"
...ทุกครั้งที่อินเทลมีการเปิดตัวสถาปัตยกรรมระดับไมโครใหม่ หรือมีการเปิดตัวโปรเซสเซอร์เจเนอร์เรชั่นใหม่ ก็คงจะได้หยิบยกเอาโมเดล "Tick-Tock" ของทางอินเทลขึ้นมาอธิบายอยู่ร่ำไป ครั้งนี้ก็เช่นกัน กล่าวได้คือจังหวะนาฬิกาเทคโนโลยีของอินเทลเดินไปในช่วง "Tock" นั้นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมระดับไมโครขนานใหญ่ หรือว่ากันให้เข้าใจง่ายๆก็ต้องใช้คำว่า "Modelchange" ส่วนจังหวะ "Tick" นั้นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมระดับไมโครด้วยการอิงพื้นฐานของโมเดล เริ่มต้น และนำมาปรับปรุงฟีเจอร์ให้ดียิ่งขึ้น โดยมากเป็นการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตให้ละเอียดขึ้น (นาโนเมตร)
...แน่นอนครับว่า Ivy-Bridge ที่ถูกจัดให้อยู่ในช่วงจังหวะการเดินทาง "Tick" นั้นคือการปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมระดับไมโครของอินเทลโดยอิงพื้นฐานมาจาก "Sandy-Bridge" ที่เราคุ้นเคยกันดี อินเทลเรียกนับให้ Ivy-Bridge ให้เป็น "Intel Core 3rd generation processor" โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตระดับ 22นาโนเมตร มาใช้ในการผลิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์อย่างแรกของทางอินเทลที่ใช้ เทคโนโลยีการผลิตนี้ ตลอดจนมีการปรับปรุงระบบกราฟฟิคอินติเกรตภายในตัวซีพียูให้มีประสิทธิภาพดี ขึ้น นำเอาเทคนิคการจัดเรียงโครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบใหม่มาใช้ ที่เรียกว่า "3D Tri-gate" ซึ่งจะทำให้ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลงและมีการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่ามาก ขึ้น นอกจากเทคนิคการผลิตใหม่ๆ อินเทลยังได้ทำให้ 3rd generation processor ของพวกเขาให้สนับสนุนการเชื่อมต่อ I/O แบบใหม่ๆด้วยตัวแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องอาศัยคอนโทรลเลอร์เพิ่มเติมใดๆในระบบ อย่าง PCI Express 3.0, SATA 6GB/s, USB3.0 ที่จะเป็นมาตรฐานสำหรับแพลตฟอร์มใหม่ของอินเทล และมีการสนับสนุนระบบไร้สายต่างๆอย่างกว้างขวางด้วยการเปิดตัวออ ฟชั่นของการ์ดไวเรสใหม่ถึง 5 ตัวด้วยกันครับ
...สถาปัตยกรรม โดยภาพรวมนั้นยังคงเป็นลักษณะที่มีการแชร์กันของ Level 3 Cache อยู่ระหว่างแกนประมวลผลทั้งสี่แกน และตัวประมวลผลกราฟฟิค และแน่นอนว่า System agent ต่างๆทั้งเมมโมรีคอนโทรลเลอร์ ส่วนควบคุมหน่วยแสดงผล ส่วนเชื่อมต่อบัสความเร็วสูง ยังคงมีอยู่ในตัวซีพียู (ส่วนประกอบที่เป็นชิปเซ็ตทิศเหนือเดิม) ซึ่งใน Ivy-Bridge นั้นก็ได้มีการสนับสนุนเมมโมรีแบบ DDR3L ซึ่งเป็นมาตรฐานเมมโมรีกินไฟต่ำของทาง JEDEC รวมไปถึงหน่วยประมวลผลกราฟฟิคใหม่ที่สนับสนุน DirectX 11 จากเดิมที่เป็น Intel HD2000 และ HD3000 ใน Sandy-Bridge อัพเกรดมาเป็น Intel HD2500 และ Intel HD4000 ใน Ivy-BridgeOVERCLOCKING
...ในส่วนของการโอเวอร์คล๊อก เนื่องจาก Ivy-Bridge นั้นยังคงเป็นซีพียูที่มีพื้นฐานคล้ายคลึงอยู่กับ Sandy-Bridge เดิม รายละเอียดส่วนใหญ่นั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนักครับ จะมีเพียงแค่ตัวคูณที่สามารถปรับได้สูงสุด 63 จากเดิม 59 และกลไกการปรับตัวคูณแบบ real-time แบบใหม่ รวมไปถึงความสามารถในการปรับแต่งความเร็วของตัวประมวลผลกราฟฟิคภายในที่จะ สามารถปรับให้ได้แรงขึ้นกว่าเดิม และสุดท้ายคือเรื่องของเมมโมรีที่สนับสนุนโปรไฟล์เมมโมรีประสิทธิภาพสูงแบบ XMP 1.3 พร้อมทั้งสามารถปรับอัตตราทดแรมต่อความเร็วซีพียูให้ดันความเร็วแรมไปได้ถึง ระดับ DDR 2667MHz จากเดิมที่เคยทำได้เพียง 2133 และ 2400 สำหรับ SNB-E ครับ
Graphics
...การปรับปรุงใน Ivy-Bridge ในด้านของกราฟฟิคสำหรับ Intel HD2500/4000 ก็จะมีตั้งแต่เพิ่มตัวประมวลผล EU (Execution Units) ที่ปกติเราๆจะคุ้นเคยกันในชื่อของ Shader Units (มันคือสิ่งเดียวกัน) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 12 ใน HD3000 เป็น 16 ใน HD4000 รวมไปถึงมีการออกแบบมาเพื่อพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานกับ Windows 8 อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการสนับสนุน API ล่าสุดอย่าง Direct X11 ที่สามารถทำ tesselation ภาพกราฟฟิคได้ครับ ซึ่งแต่เดิมใน HD2000 และ 3000 ใน 2nd gen นั้นจะสนับสนุนเพียงแค่ Direct X 10.1 เท่านั้น นอกจากนี้ยังคงการสนับสนุน HTML5.0 อย่างเต็มรูปแบบด้วยครับ
New 7 series Chipset
...Ivy-Bridge ถึงแม้จะเป็นการอัพเดตสถาปัตยกรรมของ Sandy-Bridge ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ใช่เป็นการยกเครื่องโครงสร้างใหม่หมด แต่ก็ยังคงมีชิปเซ็ตตระกูลใหม่เปิดตัวตามๆกันมาอย่าง Intel 7 Series ที่จะใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 65 นาโนเมตร สนับสนุนซีพียูทั้ง Sandy-Bridge และ Ivy-Bridge รองรับการต่อออกหน้าจอถึง 3 หน้าจอด้วยกัน มีตัวควบคุม SATA 6GB/s และ USB3.0 มาให้ในตัว รวมไปถึงเทคโนโลยียิบย่อยต่างๆของอินเทลตัวอย่างเช่น Rapid Storage เทคโนโลยีที่จะช่วยทำให้การเข้าถึงข้อมูลของฮาร์ดดิสก์จานหมุนลูกใหญ่ๆนั้น เร็วขึ้นด้วยการ cache ข้อมูลลงในฮาร์ดไดร์ฟ SSD ที่ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เท่าฮาร์ดดิสก์ลูกหลักก็ได้
...อินเทลยังคงยืนหยัดกับรหัสนำหน้าชิปเซ็ตข