INTEL CORE i5 12400F PROCESSOR REVIEW

Article by Nongkoo OverclockTeam On January 15, 2022 121,659 views
INTEL CORE i5 12400F PROCESSOR REVIEW
 1 2 3 4 >  Last ›

intel-core-i5-12400f-processor-review

...สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้ผมก็มีรีวิวซีพียู Intel Alder Lake ในรุ่นที่12 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวกันไปได้ไม่นานมานี้ในรุ่นระดับกลางที่ราคาไม่สูงมากมาฝากทุกท่านให้ได้รับชมกันครับกับซีพียูที่ใครหลายๆ คนรอคอยที่เน้นความคุ้มค่าในรุ่น INTEL CORE i5 12400F ในรหัส Intel Alder Lake ในรุ่นที่ 12 หรือ 12th Gen Core ขนาดสถาปัตย์ 10nm ที่มีจำนวนคอร์มากถึง 6C/12T ความเร็ว 2.5Ghz - 4.4Ghz สำหรับในรหัสรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Non K รหัส F ที่ทำการตัดกราฟฟิกการ์ด iGPU ในตัวออกครับ โดยราคาก็จะต่ำกว่าตัวที่เป็นรหัสธรรมดาที่กราฟฟิกในตัวครับ ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นซีพียูที่บรรดาคอเกมส์และผู้ใช้งานทั่วไปให้ความสนใจในกรณีที่เน้นใช้การ์ดจอแยกเป็นหลักครับ ตัวซีพียู INTEL CORE i5 12400F  มีอัตราบริโภคไฟที่ 65W พีคสูงสุดเคลมไว้ที่ 116W และมีฮีตซิงค์ Laminar RM1 ของซีพียู Intel Core i5 12400F ดีไซน์ใหม่สีดำดุดัน ตัวฮีตซิงค์ดูใหญ่โตมากกว่าเดิมมาให้ใช้งานกันแบบคุ้มๆ อีกด้วยครับ สำหรับหน้าร้านที่วางจำหน่ายตอนนี้ราคาอยู่ที่ราวๆ 6,8XXบาทไทยครับ ที่สำคัญเป็นซีพียูที่ทางอินเทลนั้นบอกว่าเป็นรุ่นคุ้มค่าสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ทั่วไปอีกด้วยครับกับจุดเด่นในการเล่นเกมส์ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมมากๆ เดี๋ยวในบททดสอบเราจะได้เห็นกันครับว่าดีจริงหรือไม่

...

...สำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่ทางอินเทลได้นำเสนอก็คือระบบไฮบริดจ์ที่มีคอร์ใหญ่แบบ Performance Core (P-core) และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) แต่สำหรับตัวซีพียู INTEL CORE i5 12400F จะมีเฉพาะ P-Core เท่านั้นครับจะไม่มี E-Core โดยทำงานที่ 6C/12T ที่ความเร็วสูงสุด 4.4Ghz ทุกคอร์ในการทำงานครับ โดยมาพร้อมซ๊อกเก็ตใหม่ล่าสุด LGA1700 และรองรับ LGA1800 ที่ใช้งานกับเมนบอร์ดชิปเซ็ตใหม่อย่าง Z690 / B660 / H610 รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับแรม DDR5-4800 และรองรับแรม DDR4 ได้ในเมนบอร์ดบางรุ่น รองรับ PCIe Gen 5 จำนวน x16 เลน รองรับ Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6E สำหรับรายละเอียดเชิงลึกก็ตามข้อมูลด้านล่างได้เลยครั

INTRODUCTION

2021-10-26_10-39-00

ซีพียูในรหัส Alder Lake นั้นเป็นซีพียูสถาปัตย์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบบไฮบริดจ์คอร์ คอร์เล็ก+คอร์ใหญ่ ที่ใช้ระบบ Intel Thread Director ในการทำงานครับ พร้อมชุดคำสั่งใหม่อย่าง Intel® SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel® AVX2 แต่สำหรับ INTEL CORE i5 12400F นั้นจะมีเฉพาะ P-Core เท่านั้นครับ

2021-10-26_10-39-12

ในรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ซ๊อกเก็ตใหม่ LGA 1700 ครับและมีรุ่น Mobile และ Ultra Mobile รวมอยู่ด้วย

2021-10-26_10-39-26

เทคโนโลยีใหม่แบบไฮบริดจ์ที่มีคอร์ใหญ่แบบ Performance Core (P-core) ใช้คอร์ซีพียู Golden Cove และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) ใช้คอร์ซีพียู Gracemont ในการทำงาน ด้วยระบบ Intel Thread Director ที่เป็นเหมือนเลเยอร์ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง OS Scheduler ของซีพียูคอยทำหน้าที่แจ้งสถานะการทำงานของแต่ละคอร์ เพื่อให้ระบบ OS Schedule นั้นเลือกการใช้งานของแต่ละคอร์ตามความเหมาะสมของการใช้งานของโปรแกรมที่ทำงานนั่นเองครับ จึงทำให้ซีพียู Alder Lake นั้นจะมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้นในงานรองรับงานที่หลากหลายและที่สำคัญประหยัดในเรื่องของพลังงานไปได้มากเลยครับกับการใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องทำงานกันทุกคอร์นั่นเองครับ

2021-10-26_10-40-02

ซีพียู Alder Lake มาพร้อมแรม DDR5-4800 และจะมีบางรุ่นที่รองรับแรม DDR4 ได้อีกด้วยครับ

2021-10-26_10-40-14

รองรับ PCIe Gen 5 จำนวน x16 เลน และ PCIe 4.0 ได้ในเมนบอร์ดบางรุ่นครับ

2021-10-26_10-40-29

รองรับ Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6E

Product Appearance

dsc_1724

ตัวกล่องมาในกล่องสีฟ้าสดใสโดดเด่นด้วยโลโก้ Intel Core อันเป็นเอกลักษณ์ครับ ขนาดกล่องใกล้เคียงกับรุ่นเดิมครับ

dsc_1730

ด้านหลังกล่องบอกรายละเอียดต่างๆ

dsc_1742

ด้านข้างบอกรายละเอียดสเปกการทำงานคร่าวๆ ครับ

dsc_1747

ด้านในมีคู่มือและสติ๊กเกอร์ Core i5 ครับ

dsc_1791

ฮีตซิงค์ Laminar RM1 รุ่นใหม่ที่อยู่ในซีพียูระดับกลางของทางอินเทลในรุ่นที่ 12 ครับ

dsc_1780

ตัวฮีตซิงค์ทำมาจากอลูมิเนียมทั้งหมดครับ ดูหนาและสวยงามขึ้นกว่าเดิมเลยครับ

dsc_1789

หน้าสัมผัสก็จะเป็นทองแดงเหมือนเดิมครับ

dsc_1800

ตัวซีพียูขนาดจะใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้านี้ครับ ด้วยซ๊อกเ็ตใหม่ LGA1700 และขนาดของ DIE ที่เพิ่มขึ้นทำให้ขนาดใหญ่ตามไปด้วยครับ ขนาดอยู่ที่ 37.5 mm x 45 mm (W x D x H) : 14.00 x 13.20 x 16.50 cm น้ำหนักอยู่ที่ 0.46 KG

dsc_1818

หน้าสัมผัสยังเป็นแบบเดิมครับ Land grid array หรือ LGA1700 เหมือนรุ่นก่อนๆ ครับ

ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ

...

Test Setup

SYSTEMS
.CPU .INTEL CORE i5 12400F
.Thermal Grease .Noctua NT-H2 THERMAL PASTE
.Motherboard . MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI DDR4
.Memory ..KINGTON FURY BEAST DDR5 5200Mhz 32GB
.Graphic Card . ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL
.Harddisk . Plextor M6PRO 256 / KINGSTON SSD 256GB
.CPU Cooler ..Laminar RM1
.Power Supply ..MSI MAG CORELIQUID 360R
.Operation System ..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น INTEL CORE i5 12400F รุ่นใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับเมนบอร์ดตัวแรง MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI DDR4 ของทาง MSI รุ่นใหม่ล่าสุดแนวเกมส์มิ่สุดคุ้มจัดเต็มร่วมกับกราฟฟิกการ์ด ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL จากทางเอซุสครับ

dsc_1843

บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยฮีตซิงค์ Laminar RM1 รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางอินเทล

CPU-Z

cpuid

cpuz

ในส่วนของความเร็วที่ใช้งานจริงของซีพียู INTEL CORE i5 12400 จะอยู่ที่ความเร็ว 2.5Ghz บูตแบบ Max Turbo Frequency ที่ความเร็วสูงสุดที่ 4.4Ghz ความเร็ว All Core 4.4Ghz แคช 18 MB Intel Smart Cache บัสแรม DDR5 5200Mhz CL38-38-38-82-120 2T 1.25v ผมทดสอบตามค่า XMP ที่วิ่งกันที่บัส 5200Mhz ได้สบายๆด้วยแรม KINGTON FURY BEAST DDR5 5200Mhz 32GB ตัวแรงของเราในวันนี้ครับ ในส่วนของ Vcore นั้น Idle จะวิ่งอยู่ที่ประมาณ 0.78v ในส่วนของการทำงานเต็มที่จะวิ่งอยู่ที่ 1.02v ในแบบ Fulload ครับ อัตราบริโภคไฟอยู่ที่ 65W และอัตราบริโภคไฟสูงสุดอยู่ที่ 116 W

GPU-Z

gpuz

ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรง

INTEL CORE i5 12400F Core & Threads

core

INTEL CORE i5 12400 จำนวนคอร์ที่แสดงการทำงานจะเป็น 6/12 เทรดครับ ทำงาน ALL Core ที่ P-Core Performance-cores ความเร็ว 4.0Ghz ทุกคอร์การทำงานครับ

รายละเอียดจาก AIDA64

cpu

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1MB

s1

SuperPI 32MB

s32

HyperPI 32M 16Thread

h32

h32-2

s1-g

สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 8.173วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 6นาที 33.431 วินาที HyperPI 32MB ก็ผ่านหมดแรงแบบนิ่งๆ ใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพครับ

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark

allfritz-g

wp-g

winrar-g

wPrime นั้นก็ทำเวลาได้ดีครับ 109วินาที ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 18777KB/s ในส่วนของ Fritzchess Benchamrk อยู่ที่ 53.3คะแนน แรงในระดับแถวหน้าของซีพียูระดับกลางเลยครับ

X264 FHD

x264

x264-1

x264-g

ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 56.78FPS แรงเยี่ยมดีมากครับประสิทธิภาพการถอดรหัสไฟล์

Corona 1.3 Benchmark

crn

crn-g

Corona เรนเดอร์ทำเวลากันได้เร็วมากๆครับ ทำงานครบทุกเทรดทั้ง 6คอร์ ที่เวลา 2นาที ทำได้ดีมากครับ

FRYRENDER X64

frd

frd-g

Fryrender ก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพครับ เวลาอยู่ที่ 2นาที 7วินาที เรนเดอร์ได้เร็วครับ

V-RAY Benchmark

vr

vr-g

V-Ray Benchmark ทำการเรนเดอร์ซีพียูอยู่ที่ 13610คะแนน แรงดีครับ

Google Chrome : JetStream2

jet2

jet2-g

Google Chrome : JetStream2 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 221คะแนนครับ แรงเยี่ยมเลยครับ

Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1

kkkk-g

Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 512คะแนนครับ แรงเยี่ยมอีกแล้วครับ

AIDA64 Cache & MemoryBenchmark

aida64mem

ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 73798 MB/s , 73694MB/ 71371 MB/s กับบัสแรม 5200Mhz ซึ่งประสิทธิภาพอ่าน/เขียนทะลุ 73K ทั้งคู่ครับ แรงเยี่ยมมากครับ

Video Render Test

Blender Render 2.82

bd

bd2

bd-g

ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดีครับกับการเรนเดอร์กราฟฟิกแอนนิเมชั่นที่ทำเวลาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวอยู่ที่ 3นาที 15วินาทีเท่านั้นครับในไฟล์ไม่ใหญ่มาก และไฟล์ใหญ่ๆอยู่ที่ 21นาที 31วินาทีเท่านั้นเอง ประสิทธิภาพงานเรนเดอร์ถือว่าแรงขึ้นกว่าเดิมมากเลยครับ

Cinebench 20

c20

c20-g

Cinebench 23

c23

c23-g

โปรแกรม Cinebench 23 เวอร์ชั่นล่าสุดเรนเดอร์ไปที่คะแนน 12406คะแนน แรงเยี่ยมทั้งคู่เลยครับ งานเรนเดอร์ก็ทำได้ดีเยี่ยมกับขุมพลัง 6C/12T ครับ

เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ

PCMark10

pc10

pc10-g

PCMark10 อยู่ที่ 7552คะแนนครับ แรงเลยทีเดียว

3DMark11

11

11x

11-g

3Dmark11 รวมอยู่ที่ 33141คะแนนแรงเยี่ยมไปเลย

3DMark 2013

fire

fire-g

Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 26933คะแนน แรงมากครับด้านกราฟฟิก

spy

spyx

spy-g

3DMark Time Spy คะแนนรวมอยู่ที่ 12679คะแนน แรงเยี่ยมจริงๆ

Unigine2

un2

Unigine2 อยู่ที่คะแนน 7826คะแนน แรงมากๆ ครับ

เราไปชมผลทดสอบเกมส์มิ่งกันต่อเลยครับ

Gaming Test

เรามาชมผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันครับ ซึ่งซีพียู Intel 12th Gen นั้นทาง Intel ได้โปรโมทว่าคือซีพียูที่ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมส์ที่โดดเด่นในปีนี้กันเลยทีเดียวและยิ่งเป็นรุ่น Core i5 12400F ที่มีราคาไม่สูงมากก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ครับกับประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ที่ในรุ่นก่อนหน้านั้นทำออกมาได้ดีไม่แพ้ตัวท็อป เราไปชมกันเลยครับว่าINTEL CORE i5 12400F นั้นจะทำผลงานด้านเกมส์มิ่งได้ดีมากน้อยขนาดไหน เราไปชมกันเลยครับ

DIRT 5

hero_dirt5

20220108221927_1

20220108221913_1

d5

เกมส์ DIRT5 ปรับสุดหมดอยู่ที่ 86เฟรมเรทครับ แรงลื่นไหลสุดๆ ครับ

Horizon Zero Dawn

20200810220601_1

20220112012346_1

hz-g

Horizon Zero Dawn อยู่ที่ 119เฟรมเรทแรงมากๆ เลยครับ นำระดับหัวแถว

Grand Theft Auto V

gta-v

2022-01-11_20-22-12gta-v-g

GTA V เกมส์ยอดนิยมในตำนาน ปรับสุดหมด Full HD ระดับ Ultra อยู่ที่ 105เฟรมเรตเลยครับ แรงระดับหัวแถว

Metro Exodus

metro-exodus

mt

mt-g

Metro Exodus เปิดเต็ม Ultra Full HD อยู่ที่ 102เฟรมเรตครับ แรงลื่นไหลจริงๆ นำทุกรุ่นซีพียูครับ

Ashes of the Singularity

91bxit04wzl

as

as-g

Ashes of the Singularity เกมส์ที่ซัพพอต DX12 เกมส์แรกๆที่กินสเปคพอสมควรอยู่ที่ 127เฟรมเรตครับ แรงลื่นไหลกันสุดๆ

Shadow of the Tomb Raider

shadow-of-the-tomb-raider

t

tomb-g

Tomb Raider เล่นได้แรงๆเปิดสุดหมดที่ 173เฟรมเรตครับ แรงสุดๆครับ

Red Dead Redemption 2

red-dead-redemption-2

20220108210255_1

20220108210300_1

rd

FARCRY5 อยู่ที่ 90เฟรมเรตแบบคอนฟิกเปิดสุดหมดครับ แรงอย่างลื่นไหลสุดๆ เลยครับ

FINAL FANTASY XV

ff

ff-g

FINAL FANTASY XV เกมส์ออนไลน์ชื่อดังกราฟฟิกสุดอลังการอยู่ที่ 11213คะแนน แรงลื่นไหลครับ

เราไปชมผลทดสอบอุณหภูมิและอัตราบริโภคไฟกันต่อเลยครับ

Temperature & Power Consumption

temp

อุณหภูมิในการทำงานของซีพีย INTEL CORE i5 12400F กับชุดฮีตซิงค์ Laminar RM1ทดสอบด้วยโปรแกรม Prime95 สุดโหดรันกันยาวๆ 10นาทีเต็ม Idle อยู่ที่ 33-36องศาฯครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์อยู่ที่ 97-100องศาฯ ถ้าใช้งานทั่วไปความร้อนก็อยู่แถวๆ 70-80องศาฯ เท่านั้นเองครับ

power

อัตราการบริโภคไฟนั้นเมื่อใช้งานเต็มระบบ Idle จะอยู่ที่ 78W TDP ครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์ 6C/12T จะอยู่ที่ 166W TDP ครับ นี่คืออัตราการบริโภคไฟของซีพียู INTEL CORE i5 12400F ที่ทำงานอย่างเต็มระบบในการใช้งานจริงครับ ก็ถือว่ากินไฟไม่มากครับกับซีพียูในระดับกลางที่แรงขนาดนี้ ถือว่าคุ้มเลยครับ

เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆ ส่งท้ายกันเลยครับ

Maximum Overclock

CPU-Z

mem-oc

โดยในการทดสอบผมโอเวอร์คล๊อกกับซีพียู INTEL CORE i5 12400F ในรหัสรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Non K รหัส F ที่ทำการตัดกราฟฟิกการ์ด iGPU ในตัวออกและจะไม่สามารถปรับตัวคูณได้อย่างอิสระจะตันที่ความเร็ว 4.4Ghz ครับ แต่สำหรับบัสแรมนั้นท่านสามารถปรับใช้งานหรือโอเวอร์คล๊อกกันได้อย่างอิสระครับ ก็ถือเป็นการรีดประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดีอีกทางเลยครับสำหรับคนชอบเล่นบัสแรมสูงๆ โดยผลได้โอเวอรืคล๊อกไปที่บัส 5600Mhz ได้อย่างสบายๆ ครับ

mem-oc5600

สามารถโอเวอร์คล๊อกบัสแรมได้อย่างอิสระครับสำหรับซีพียู INTEL CORE i5 12400F ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดและประสิทธิภาพของชิปแรมในแต่ละรุ่นของท่านที่ใช้งานกันด้วยนะครับ

เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ

intel-core-i5-12400f-processor-review

Conclusion

...ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ INTEL CORE i5 12400F ที่ถือเป็นซีพียูระดับ Mainstream ในระดับกลางในรุ่น Core i5 ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากครับกับความคุ้มค่าและประสิทธิภาพการทำงานที่ทำออกมาในวันนี้ โดยตัวซีพียู INTEL CORE i5 12400F ในรหัสรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Non K รหัส F ที่ทำการตัดกราฟฟิกการ์ด iGPU ในตัวออกครับจะไม่สามารถโอเวอร์คล๊อกตัวคูณได้อย่างอิสระแต่จะสามารถโอเวอร์คล๊อกบัสแรมได้อย่างอิสระแทนครับ ในส่วนของการใช้งานทั่วไปต้องบอกเลยครับว่าขุมพลัง 6C/12T ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี 10nm ในรหัส Alder Lake ที่ใช้ Performance Core (P-core) เป็นหลักนั้นทำผลงานได้เป็นอย่างดีเลยครับ ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมส์ที่ท่านได้เห็นกันไปว่าประสิทธิภาพนั้นเทียบเท่าซีพียูตัวท็อปของรุ่นอย่าง Core i9 12900K ได้อย่างสบายๆ ครับกับผลทดสอบที่สามารถรีดพลังเฟรมเรทและกราฟฟิกออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกการทดสอบทั้งเกมส์ใหม่ DX11 / DX12 สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลดีเยี่ยมกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครจะเน้นเกมส์มิ่งนั้นรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ในจุดนี้เองก้ถือเป็นจุดเด่นของทางอินเทลตั้งแต่เจนเนอรเรชั่นที่แล้วครับและในรุ่น Core i5 ในรุ่นก่อนก็ทำได้ดีมาตลอดและเป็นตัวเลือกของบรรดาเกมส์เมอร์ที่งบประมาณจำกัดครับ

.

...ในเรื่องของอุณหภูมิถ้าท่านใช้งานกับฮีตซิงค์ Laminar RM1 รุ่นใหม่นั้นก็สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัวสวยงามดีและประหยัดไม่ต้องหาซื้อฮีตซิงค์เพิ่มครับ ถ้าใช้งานทั่วไปความร้อนก็อยู่แถวๆ 70-80องศาฯเท่านั้นเองครับ สำหรับในการทดสอบก็ต้องบอกก่อนครับเป็นการทดสอบแบบ Street Test กันยาวๆ ซึ่งความร้อนสะสมก็จะมากพอสมควรแต่ถ้าใช้งานจริงซีพียูก็ไม่ได้รันเต็ม 100% ตลอดในการใช้งานทั่วไปครับ ในเรื่องของอัตราการบริโภคไฟก็คงยังทำได้ดีครับในมาตรฐาน Core i5 เหมือนรุ่นที่ผ่านๆ มาก็ยังกินไฟในเรทที่ต่ำอยู่แม้ตัวซีพียูจะขนาดใหญ่ขึ้น DIE ใหญ่ขึ้น แต่การบริโภคไฟหรือพลังงานนั้นก็ไม่ได้สูงตามครับรวมไปถึงความร้อนสะสมด้วยในจุดนี้ผมมองว่าประสิทธิภาพความแรงที่ออกมากับอัตราการบริโภคไฟนั้นทำได้ดีเลยครับสำหรับ INTEL CORE i5 12400F ที่แรงขึ้นกินไฟไม่มาก

.

...ถ้าให้สรุปซีพียู INTEL CORE i5 12400F รุ่นนี้คือรุ่นประหยัดของ Core i5 ในรุ่น Non K รหัส F ที่ตัดกราฟฟิก iGPU ในตัวออกทำให้มีราคาที่ต่ำสุดในซีรี่ย์ ข้อสังเกตุอาจจะไม่มีกราฟฟิกในตัวมาให้ใช้งาน เป็นรุ่น Non K ทำให้โอเวอร์คล๊อกความเร็วซีพียูไม่ได้นี่คือข้อสังเกตุที่ผมให้ แต่ในด้านดีต้องบอกเลยครับนี่คือซีพียูในระดับกลางที่ผมมองว่าคุ้มค่าอีกรุ่นเลยทีเดียวในปี 2021 นี้ ทั้งประสิทธิภาพการทำงานที่ออกมาทั้งการใช้งานทั่วไป เรนเดอร์ ประมวลผล มันตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่ามากๆ กับขุมพลัง 6C/12T ซึ่งแม้จะไม่มีระบบคอร์ใหญ่+คอร์เล็กเหมือนกับรุ่นใหญ่ตัวท็อป Core i7 หรือ Core i9 แต่คุณภาพและประสิทธิภาพต้องบอกว่าทำออกมาได้แรงกว่ารุ่นเดิม (Gen 11th) ยิ่งในเรื่องความโดดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมส์ที่ทำให้ซีพียู INTEL CORE i5 12400F ฉายแสงออกมาให้เห็นความโดดเด่นจริงๆ ครับ กับประสิทธิภาพที่ขับพลังกราฟฟิกในการเล่นเกมส์สร้างเฟรมเรทได้เหนือคู่แข่งตัวท็อปหรือแม้กระทั่งสูสีกับรุ่นพี่ใหญ่ Core i9 ได้สบายๆ อีกด้วย ถือเป็นซีพียูคุณภาพที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าในราคาที่ไม่สูงมากเหมาะสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ที่กำลังมองหาซีพียูเอาไว้เล่นเกมส์และทำงานทั่วไปได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ยิ่งเล่นคู่กับบรรดาเมนบอร์ด B660 หรือ H610 ในชิปเซ็ตระดับกลางๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ประหยัดเกินคุ้มสามารถนำเงินไปลงการ์ดจอแรงๆ หรืออุปกรณ์อื่นเสริมได้ครบถ้วนสมบรูณ์แบบเลยครับ ผมมองว่า INTEL CORE i5 12400F นั้นเป็นซีพียูระดับกลางที่โดดเด่นด้านเกมส์มิ่งที่มาพร้อมขุมพลังประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในด้านเกมส์มิ่งอย่างแท้จริงในปี 2021 นี้ครับ

...

...โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 6,8XXบาท ท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายได้เลยครับ  แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

...

ราคา 6,8XXบาท Price $209USD

..

...

...

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

vmod award performance best vmod award innovation best

.

Special Thanks.

INTEL

 1 2 3 4 >  Last ›