INTEL CORE i7 13700K PROCESSOR REVIEW : Introduction (1/12)
สเปก : เรามาดูรายละเอียดซีพียู INTEL CORE i7 13700K ที่ผมนำมาทดสอบให้ท่านได้ชมกันในวันนี้กันครับ INTEL CORE i7 13700K นั้นมีจำนวนคอร์ 16คอร์ P-Core 8 / E-Core 8 , 24เธรด ความเร็ว Base Clock E-core 2.50 GHz / P-core 3.40Ghz ความเร็วเทอร์โบสูงสุดของ E-core 4.20 GHz , P-core 5.30 GHz , ควาเร็วเทอร์โบสูงสุดของ P-core 5.40 GHz แคช 24 MB Intel Smart Cache แคช L2 ทั้งหมด 30 MB อัตราการบริโภคไฟปกติที่ 125W ในโหมดทำงานสูงสุดอยู่ที่ 253W ครับ รองรับแรมความจุ 128 GB ทั้ง DDR5 5600 MT/s และ DDR4 3200 MT/s กราฟฟิกในตัวในรุ่น UHD Intel 770 จำนวนคอร์ 32 ความเร็วอยู่ที่ 300 MHz ความเร็วบูตสูงสุด 1.50 GHz อินเตอร์เฟส eDP 1.4b, DP 1.4a, HDMI 2.1 ซีอกเก็ตที่ใช้งาน FCLGA1700 เหมือนกับรุ่นเดิมก่อนหน้านี้ครับ ชิปเซ็ต Intel 700 Series เมนบอร์ดใช้ Z790 เป็นรุ่นท็อปสุดและจะมีรุ่นอื่นๆ ตามมาเหมือนเช่นเคย ในส่วนของชุดคำสั่งที่รองรับ Intel SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel AVX2
.
สถาปัตย์ : INTEL CORE i7 13700K ใช้กระบวนการผลิต Intel 7 และสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง x86 ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพของระบบดีขึ้น เพื่อรองรับการทำงานมัลติทาสกิ้งของเวิร์กโหลด ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบเธรดเดียวที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบหลายเธรดที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน สถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูงของเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Intel Core เจเนอเรชัน 13 ได้ผสานรวมทั้งคอร์ประสิทธิภาพ (P-คอร์) ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา และคอร์ประสิทธิผล (E-คอร์) ที่เพิ่มจำนวนขึ้นถึงสองเท่า เพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบเธรดเดียวและหลายเธรดที่ดีขึ้น
.
เทคโนโลยี : ซีพียู INTEL CORE i7 13700K นั้นได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นมากมาย โดยเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มเข้ามามีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ
- เทคโนโลยี Intel® Adaptive Boost Technology และ Thermal Velocity Boost – ที่ช่วยเพิ่มความถี่ในการคล็อก (clock) หรือความเร็วสัญญาณนาฬิกาของโปรเซสเซอร์ได้ในทันทีตามพลังงานและอุณหภูมิของระบบในช่วงเวิร์กโหลดที่ได้รับ โดยเทคโนโลยีนี้มีอยู่ในโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 unlocked SKUs
- E-คอร์เพิ่มขึ้นใน Intel Core i5, i7 และ i9 - เพิ่มพลังการประมวลผลแบบหลายเทรดให้ทรงพลังขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานแบบมัลติทาสก์/เมกะทาสก์ที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น
- รองรับ PCIe Gen 5.0 พร้อมเลนด้านนอกโปรเซสเซอร์สูงสุด 16 เลน
- รองรับหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเป็น DDR5-5600 และ DDR5-5200 โดยยังคงสามารถใช้งานร่วมกับ DDR4 ได้
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแคช L2 เร็วขึ้นถึง 2 เท่า พร้อมเพิ่มขนาดแคช L3
สำหรับรายละเอียดเชิงลึกก็ตามข้อมูลด้านล่างได้เลยครับINTRODUCTION
ซีพีย Intel 13th Gen รุ่นที่ 13 ในรหัส Raptor Lake เทคโนโลยี Intel 7 และสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง x86 ที่พร้อมเปิดตัวในช่วงปลายปี 2022 นี้
ซีพียูที่ทำการเปิดตัวพร้อมกันในวันนี้มีอยู่ด้วยกัน 6รุ่นครับ ได้แก่ Intel Core i9-13900K/KF , Intel Core i7-13700K/KF , Intel Core i5-13600K/KF ซึ่งถือเป็นซีพียูตัวท็อปรุ่นยอดนิยมของ Core i9 / i7 /i5 นั่นเองครับ
อินเทลพัฒนาสถาปัตย์เทคโนโลยีแบบไฮบริดจ์ที่ทางอินเทลได้พัฒนาต่อยอดในเรื่องของ P-Core / E-Core และ Intel Thread Director ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งในรุ่นปัจจุบันและไปถึงซีพียูในรุ่นอนาคตอย่าง Meteor Lake และ Arrow Lake อีกด้วยครับ
ซีพียู Intel 13th Gen รุ่นที่ 13 นั้นจะมีทั้งรุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นท็อปตั้งแต่ 35W/65/125W ทั้งหมด 22รุ่น รวมไปถึงซีพียูตระกูล Mobile ในรุ่น U/P/H/HX ซีรี่ย์ของทางฝั่งแล็ปท็อปหรือโมบายที่เตรียมเปิดตัวต่อเนื่องกันครับ
ในส่วนของสถาปัตย์การทำงานได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้วย Intel SuperFin ทรานซิสเตอร์ที่ช่วยยกระดับคอร์การทำงานที่เรียกว่า Raptor Cove ที่ดีไซน์ออกแบบการส่งข้อมูลผ่านช่องทางได้รวดเร็วขึ้นเพิ่มความเร็วมากขึ้น 600Mhz รวมทั้งขนาดของแคช L2 2MB ต่อคอร์ที่ช่วยให้การรับส่งข้อมูลลื่นไหลขึ้นในอัลกอลิทัมที่เรียกว่า L2P ทำให้ประสิทธิภาพต่อคอร์ Intel 13th Gen รุ่นที่ 13ทำได้ดีมากยิ่งขึ้นครับ
จุดเด่นของประสิทธิภาพคอร์ Intel 13th Gen รุ่นที่ 13 ที่เพิ่มขเา้มาก็คือการเพิ่มจำนวน E-Core ขึ้นไปอีกครับเป็น 2เท่าครับ ยกตัวอย่าง Core i5-12600K รุ่นเดิมมี E-Core อยู่ที่ 4คอร์ แต่ในรุ่น Core i5-13600K รุ่นปัจจุบันล่าสุดมีจำนวนคอร์ E-Core อยู่ที่ 8คอร์ คือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าครับ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นดีขึ้นอย่างแน่นอน
การยกระดับของแรมที่รองรับทั้ง DDR4 และ DDR5 เหมือนเดิมรวมไปถึงประสิทธิภาพของแรมในการโอเวอร์คล๊อกที่ทำได้ดีมากยิ่งขึ้นในเรทความเร็ว 6000-7000Mhz+ นั้นทำได้อย่างง่ายๆแล้วใน ntel 13th Gen รุ่นที่ 13
ซีพียู Intel 13th Gen รุ่นที่ 13 รหัส "Raptor Lake" ประสิทธิภาพคอร์ทั้งแบบ Single Threads และ Multi Threads ที่แรงขึ้น 15% , 41% ในการทำงาน ทำให้บรรดาครีเอเตอร์น่าจะชื่นชอบประสิทธิภาพที่แรงขึ้นมามากเลยครับ
ประสิทธิภาพความแรงต่อ Watt หรือพลังงานที่ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อน
เทคโนโลยี Intel Thread Directorที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมรวมทั้งการรองรับระบบปฏิบัติการ Window11 22H2 รวมไปถึงการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วยครับ
ซีพียู Intel 13th Gen นั้นตอบโจทย์คอเกมส์มิ่งได้เป็นอย่างดีและยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้
ประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกที่เป็นจุดเด่นสำหรับนักโอเวอร์คล๊อกระดับมืออาชีพที่ต้องการเค้นพลังซีพียู Intel 13th Gen ในความเร็วสูงๆ ด้วย Extreme Tuning Unity แบบใหม่ที่สามารถลงรายละเอียดโอเวอร์คล๊อกต่อคอร์ได้ดียิ่งขึ้นหรือมือใหม่ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ Easy 1-Click Overclocking ได้เพียงคลิกเดียวระบบก็จะทำการโอเวอร์คล๊อกความเร็วที่เสถียรให้ท่านได้ใช้งานกันแบบง่ายๆ เลยครับ รวมไปถึงระบบโอเวอร์คล๊อกแรม XMP 3.0 ที่รองรับแรมความเร็วสูงๆ ได้อีกด้วย
ประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อน
เทียบประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ทั้งรุ่นก่อนและคู่แข่ง Intel 13th Gen ทำได้อย่างโดดเด่นมากแรงกว่าทุกการทดสอบ
ประสิทธิภาพด้านครีเอชั่นหรือในงานครีเอเตอร์ก็ทำได้ดีเหนือกว่าเช่นเดียวกัน
ด้วยซีพียูในรุ่นท็อป Core i9 13900K ที่เป็นซีพียูที่แรงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
อินเทลนั้นทำการเปิดตัวซีพียูในช่วงแรกทั้งหมด 6รุ่นครับ ได้แก่ Intel Core i9-13900K/KF , Intel Core i7-13700K/KF , Intel Core i5-13600K/KF ถ้าเน้นจริงๆ ก็เปิดตัว 3รุ่นเพียงแต่เป็นรหัส K/KF นั่นเองครับ
ในส่วนของรุ่นอื่นๆ ที่จะตามมามีทั้ง 22รุ่นตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่สุดมากมายเหมือนเช่นเคยครับ
เราไปชมรูปภาพตัวซีพียู INTEL CORE i7 13700K กันต่อเลยครับ
