Review : Asus O!play mini plus : Page 1 (1/2)

Article by Northbridge On February 5, 2012 8,621 views
Review : Asus O!play mini plus
 1 2 > 

...ทุกวันนี้โลกของการรับชมระบบภาพและเสียงจากโทรทัศน์ นับวันก็จะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปจากระบบเดิมๆที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อเราเรื่อยๆครับ ซึ่งในยุคดิจิตอลแบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสำคัญของเครื่องเล่นแผ่นต่างๆนั้นเริ่มจะลดน้อยลงไป แต่ถูกแทนที่ด้วยเครื่องเล่นในลักษณะของเครื่องเล่นไฟล์ดิจิตอลต่างๆ อย่าง Asus O!play Mini plus วันนี้ที่เราได้รับมานั้นก็จะเป็นชุดกล่องสำหรับทำการติดตั้งระบบ Smart TV คือโทรทัศน์ อัจฉรียะ ที่สามารถเล่นไฟล์ได้หลากหลายฟอร์แมตผ่านเครือข่านอินเตอร์เนท หรือเครือข่ายภายในบ้าน หรือจะเล่นไฟล์มัลติมีเดียจากสื่อบันทึกข้อมูล USB หรือ memory card แบบต่างๆก็ได้อีกด้วย

...O!play Mini Plus นั้นเป็นกล่อง media box แบบชนิดที่ผมขอเรียกว่า เป็นกล่องเปล่า คือไม่มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลอยู่ภายใน ตัวของมันนั้นอาศัยความสามารถในการต่อเครือข่ายแลนความเร็วสูงทั้ง Gigabit Ethernet หรือ Wireless N ได้ด้วยตัวมันเอง และนอกจากนี้ก็ยังมีความสามารถในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Storage อื่นๆ ตั้งแต่ USB drive ทุกแบบ (ทั้งฮาร์ดดิสก์และแฟลช) รวมไปถึงเมมโมรีการ์ดที่สนับสนุน แบบ SD/MMC/xD/MS ในช่องเดียวกันได้เลยทีเดียว

capture

...รายละเอียดเท่าที่ลองสแกนดูประเภทไฟล์ที่รองรับก็พบว่ารองรับไฟล์ได้หลากหลายฟอร์แมต รวมไปถึงการเชื่อมต่อที่ผมบอกได้เลยว่าครับครัน

...ซึ่งคุณสมบัติในการเล่นไฟล์ต่างๆคือต้องอธิบายว่า การเล่นไฟล์ต่างๆนั้นจะสามารถทำได้สองทางคืออย่างแรก ใช้ storage เสียบเข้าโดยตรงกับตัว O!play Mini Plus ตัวนี้ คือผ่านทางพอร์ต USB หรือ memory card หรือว่าจะเล่นผ่านเนทเวิร์คผ่านไฟล์เซิฟเวอร์ในระบบของเรา (ตั้งวินโดวส์ให้แชร์ไฟล์ไว้ ก็ใช้ได้) และคงต้องหยิบมาพูดกันในพื้นที่พารากราฟนี้เลยว่ากล่องตัวนี้สนับสนุน DLNA คือระบบที่จะทำให้เราสามารถลากเอาไฟล์ภาพหรือมัลติมีเดียต่างๆเล่นผ่าน smart device อย่างแอนดรอย แล้วส่งสัญญาณภาพออกจอผ่านเครือข่าย Wireless lan ภายในบ้านได้เลยโดยตรงอีกด้วยครับ และการเล่นมีเดียต่างๆนี้ ก็สนับสนุนความละเอียดสูงถึง 1080P และระบบเสียงดิจิตอลขั้นสูงสุดอย่าง Dolby True HD7.1

ด้านหน้าเครื่องที่มีพอรฺ์ต USB และ Card reader มาให้ พร้อมไฟสถานะ

...ส่วนด้านหลังเครือ่งนี้จะพบว่ามีพอร์ตแปลกๆอยู่มากมาย ทั้ง eSATA ที่เป็นคอมโบพอร์ต เสียบ USB ในตัวได้ พอร์ต HDMI ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสายนำสัญญาณที่ส่งเป็นระบบดิจิตอล ทั้งภาพและเสียงในเส้นเดียวกัน ส่วนช่องแจ๊ค 3.5mm นั้นเอาไว้สำหรับเสียบ output เป็นแบบสาย Composite สำหรับระบบภาพและเสียงในแบบอะนาล็อค และช่องสุดท้ายขวาสุดก็จะเป็นช่องสำหรับระบบเสียงที่ใช้สายออฟติคัล ครับ

การทดลองใช้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าทดลองเสียบเอา HDD ที่ผมใช้อยู่ประจำ พร้อมทัง้เสียบสายแลน Ethernet 100Mbps เข้ากับตัวเครื่อง

 1 2 >