Review : HP SlateBook X2 แท็บเล็ต + โน๊ตบุ๊ค Android Tegra 4 Quadcore : Overview (1/1)
...เท่า ที่พอจะนึกจำความได้ เราน่าจะห่างหายจากการรีวิวแท็บเล็ตแอนดรอยด์กันมานานพอสมควรครับ วันนี้ผมกลับมา พร้อมกับโน๊ตบุ๊ก / แท็บเล็ต ที่ไม่รุ้ว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี เพราะมันคือ HP "SlateBook" X2 ซึ่ง HP เคลมว่ามันเป็น 100% Notebook, 100% Tablet แต่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มาพร้อมกับขุมพลังสุดฮอตอย่าง NVIDIA Tegra 4 Quad-Core โดยตัวเครื่องจะมีกำหนดเปิดวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ครับ ซึ่งในรีวิวนี้เราก็จะมาชมความแรง และการใช้งานกันไปพร้อมๆกันในรีวิวนี้เลยครับ
Slatebook X2 นั้นจะว่าไปจริงๆแล้ว มันก็คือๆว่าเป็นแอนดรอยด์แท็บเล็ตทั่วๆไป ที่สามารถแยกตัวบอดี้ได้เป็น 2 ส่วน คือตัวส่วนแท็บเล็ต ขนาด 10 นิ้ว และตัวส่วนคีย์บอร์ด ที่มีแบตเตอร์รี่เสริมติดตั้งมาให้
แต่การออกแบบ โดยภาพรวมนั้นเรียกได้ว่าเหมือนจงใจ มาให้เน้นใช้งานในลักษณะที่เหมือนๆกับเน็ทบุ๊คขนาดเล็กๆ เลยทีเดียว ตัวแท็บเล็ต แผงเมนบอร์ดต่างๆ ฝังอยู่บนตัวชิ้นเดียวกับจอ ปุ่มเพาเวอร์และคีย์บอร์ด ดังที่เห็นในรูปแรกของบทความนั้น ตรงนี้จะกดไม่ค่อยสะดวกสักนิดหนึ่งครับ ต้องอาศัยความคุ้นเคยกันหน่อย
ตัว เครื่องโดยรวมๆนั้นทำมาจากวัสดุโลหะ ที่ดูหรูหรา และแข็งแรงทนทานเลยทีเดียวครับ ซึ่งผมคิดว่า HP ทำตัวเครือ่งมาได้เกินราคาจริงๆ (ราคาเปิดตัวท่ 480USD) ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ ถึงแม้จะมีขนาด 10 นิ้ว เหมือนๆกับแท็บเล็ตแอนดรอยด์หลายๆรุ่นที่วางจำหน่ายกัน แต่เจ้า SlateBook X2 นั้นก็จะมีสัดส่วนรูปร่าง ที่ทะมัดทะแมง และกระเดียดไปทางความน่าจะเป็นเน็ตบุ๊ค มากเสียกว่าจะเกิดมาเพื่อเป็นแท็บเล็ต ที่พูดนี่คือกล่าวรวมถึงเรื่องของความเหมาะสมของน้ำหนักด้วยครับ
ให้ ดูว่า การจับถือด้วยมือข้างเดียว ยังพอเป็นไปได้ แต่สำหรับผม ขอติงว่า มันไม่ค่อยถนัดมือนักนะครับ น้ำหนักมันมีอยู่พอสมควร ซึ่งตรงนี้ทำให้มัน มีปัญหาเวลาที่นำไปติดตั้งกับ keyboard docking เหมือนๆกับ convertible tablet ทั่วไป คือตัวเครื่องจะหงายหลังลงไปง่ายพอสมควร เพราะน้ำหนักตัวแท็บเล็ต มันหนักกว่าตัวคีย์บอร์ดนั้นเอง
หน้า จอนั้นเป็นขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมความละเอียด 1920x1200 ซึ่งสูงกว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์หลายๆรุ่นที่เรามักเห็นกัน ส่วนพาแนลผมขอเคลมด้วยตัวเองไปก่อนครับว่าน่าจะเป็น IPS แหล่งข่าวหลายๆแหล่ง ยังไม่มีใครบอกไว้ สีสันที่ได้ ก็สดใสสวยงามดี และตัวจอก็มีกระจกที่ดูน่าจะแข็งแรงดีพอสมควรเลย
ตัวคีย์บอร์ดด้านล่างมีลูกยางกันลื่นอย่างดีติดมาให้
กลไก การล็อค ก็เหมือนๆกับแท็บเล็ตที่เป็นพวก Convertible ทั่วๆไป คือสไลด์ ล็อค และจะมีส่วนเชื่อมต่อที่เชื่อมทั้งคีย์บอร์ด และแบตเตอร์รี่เสริม ซึ่งจากการทดลองใช้งาน ผมได้มีโอกาสได้เล่นๆจิ้มๆอยู่น่าจะเป็นเวลาราวครึ่งวัน ซึ่งน่าจะเป็นครึ่้งวันที่หนักหน่วงพอสมควร กับการทดสอบ benchmark ด้วย แบตเตอร์รี่ ยังลดลงไปไม่ต่ำกว่า 50% ของตัวแท็บเล็ต เรียกได้ว่าก็น่าจะอึดใช้การได้อยู่ครับ
คีย์บอร์ด นั้น มีการจัดวางเลย์เอาท์มาได้สมตัวครับ คือสมเหตุสมผลกับขนาด 10.1 นิ้ว ซึ่งก็จะมีอารมณ์ประมาณว่าอึดอัดๆนิดหน่อย สามารถใช้พิมพ์อีเมลเล็กๆน้อยๆ ตลอดจนพิมพ์จดหมายสัก 3-4 หน้าได้ ถ้ามากกว่านั้นก็อาจจะเมื่อยและล้าได้ ตัวแป้นนั้นมีลักษณะที่ดีดตัวขึ้นมาเร็วๆ และมีความลึกอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้งานได้ครับ ไม่ลึกมากนัก เพราะขนาดเครื่องไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ส่วนตัวทัชแพด ก็เรียกได้ว่ามีความแม่นยำดีมาก ไม่มีอาการหน่วง และมีความเป็น linear ที่ดี ตลอดจนสามารถทำ gesture ลงบนทัชแพดได้
ถ้า ใครสังเกตรูปก่อนหน้านี้จะเห็นว่าได้ทำการเสียบตัวรับสัญญาณไร้สายของเมาส์ ออฟติคัลไว้ ใช่แล้วครับ USB 2.0 ที่มีติดมาให้ในเครื่องนี้ เป็นพอร์ตแบบ host port ทั่วๆไป เสียบใช้งานอุปกรณ์อินพุตได้หลากหลาย ตลอดจนเสียบอุปกรณ์จำพวก storage อย่างแฟลชไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสก์ external ได้เลย
ส่วน ด้านนี้จะเป็นพอร์ต HDMI และ สลอตสำหรับเสียบ SD Card ซึ่งนอกจากนี้ภายในตัวเครื่องก็จะมีหน่วยความจำขนาด 64GB ออนบอร์ดมาให้อยู่แล้ว
กล้องด้านหลัง 2MP
ภาพสองภาพนี้ ถ่ายจากกล้อง 2 ล้านพิกเซล ด้านหลังตัวเครื่อง เรียกได้ว่าไม่น่าตื่นเต้นอะไรครับ
System information
ตรง นี้ก็จะแสดงว่า ตัวเครื่องใช้ Android 4.2.2 และหากใครสังเกตดีดี จะพบว่าระบบเสียงนั้นมี DTS+ ติดมาให้ด้วยครับ ซึ่้งผมได้เครื่องมาเวลาค่อนข้างกระชั้น เลยไม่ได้ทดลองฟังอะไรมากนัก
AnTuTu Benchmark 3.3.1
เอา ล่ะสำหรับหน้านี้ก็สรุปได้ว่า เป็นชิป CPU จาก NVIDIA และมีเมมโมรี (แรม) ขนาด 2GB ซึ่งเข้าใจว่าที่โชว์ 1829 คงจะเกลี่ยไปใช้กับงานระบบแล้วส่วนหนึ่ง
สำหรับคะแนนก็ออกมา 24032 คะแนน สังเกตได้ว่า แรงกว่า Tegra 3 รุ่นเดิมทิ้งห่างไปพอสมควร ซึ่งจากฐานข้อมูลของ Antutu Benchmark แท็บเล็ต Tegra 3 ความละเอียดจอเท่าๆกันนี้ จะทำคะแนนได้เพียงแค่ราวๆ 14xxx คะแนนเท่านั้นเองครับ
แต่คะแนนพอเข้าไปอยู่ในอันดับจริงๆ ก็จะแพ้พวกเครื่อง overclock กับเครืองที่มีความละเอียดจอต่ำกว่าอยู่พอสมควรครับ
สำ หรับชาร์ทในโปรแกรม จะเห็นได้ว่า แรงแซงหน้าแท็บเล็ตแอนดรอยด์ด้วยกันมาไกลพอสมควรเลยทีเดียว ขึ้นไปป้วนเปี้ยนกับพวกโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยคะแนน AnTuTu 3D Rating benchmark ครับ
.
.
กล่าว ถึงตัวเครื่อง SlateBook ก็เรียกได้ว่าเป็นการผสมกันระหว่างแท็บเล็ต และโน๊ตบุ๊ค ที่ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าไอเดียนี้จะไม่ใช่ไอเดียที่ใหม่ก็ตาม แต่ HP ได้นำไอเดียของการเป็น Convertible tablet มาปรับใช้ และทำออกมาได้ยอดเยี่ยมในแง่ของคุณภาพงานประกอบ และความสวยงามลงตัว ตลอดจนคงความสามารถในการยืดหยุ่นในการใช้งานของเครื่องจำพวกนี้ไว้ได้
ใน ด้านความแรงของ Tegra 4 ก็แน่นอนว่า มาเป็นหัวตารางอีกเช่นเคย ซึ่งจุดเด่นของ NVIDIA Tegra 4 นั้นก็จะไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องความแรง แต่เป็นเรื่องของแพลตฟอร์ม ที่จะมีเกม cross-platform หลายๆเกม ใน Tegra Zone ให้ได้เลือกซื้อมาเล่นกัน และสมรรถนะในการใช้งานโดยทั่วๆไป เรียกได้ว่าลื่นขึ้นกว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์ Tegra รุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผมก็ได้อัดวีดีโอในการใช้งานพื้นๆทั่วไปมาให้ได้ชมกันแล้วครับ
ทดลองเปิดอ่านไฟล์ PDF บน HP SlateBook X2
ทดลองเปิดหน้าเว็บด้วย Chrome บน HP SlateBook X2
.
.
...สำหรับ วันนี้ก็เรียกได้ว่า น่าจะจุใจกันไปทีเดียวครับ กับผลการทดสอบเจ้า Tegra 4 บนแท็บเล็ตขนาดเต็มมือแบบนี้ ซึ่งวันนี้ก็คงต้องหมดเนื้อหาลงแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ