Review : Lenovo Vibe X (S960) Android phone : 1 (1/1)
...วันนี้ เรามาชม สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จากค่าย Lenovo ในรุ่น Vibe X หรือชื่อโค้ดรุ่นว่า S960 ที่เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์เน้นความบางเพียง 6.9 มิลลิเมตร และเบาเพียง 121 กรัม ตัวเครื่องออกแนวโค้งมน ดีไซน์หรูหรา และที่สำคัญ ที่ผมอยากจะนำมาไว้ในหัวเรื่องเลยก็คือ ราคาเปิดตัวและจำหน่ายในปัจจุบันเพียงแค่ 12900 บาท เท่านั้นครับ
กล่อง บรรจุ และอุปกรณ์เสริม ก็มีมาให้ ตามภาพกันเลยครับ ตัวเครื่องนั้นใช้หน่วยประมวลผลแบบ Quadcore MediaTek 6589T ความเร็ว 1.5GHz พร้อมทั้งหน่วยความจำในตัว 16GB และ RAM 2GB มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 (Jelly Bean) และแบตเตอร์รี่แบบลิเธียมโพลีเมอร์ขนาด 2000 mAh ที่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้
ตัว เครื่องนั้นมีขนาดที่ผมก็ไม่ค่อยเชื่อครับว่า มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD 1080P (1920x1080px) พาแนลแบบ IPS พร้อมกระจกจอ Gorilla Glass ที่พอผมลองถือในมือของผม ก็พบว่าสามารถถือได้อย่างพอดีมือ ไม่ใหญ่เทอะทะจนดูเป็น Phablet
ตัว เครื่องนั้น มีขอบและการตัดมุมที่เน้นความโค้งมน การถือด้วยมือข้างเดียว สามารถทำได้ และสามารถเอื้อมนิ้วโป้งมาทัชอีกปลายขอบจอหนึ่งได้ แต่ไม่สะดวกนักครับ
ใน ด้านของความบาง ที่น่าจะเป็นจุดขายของตัวเครื่องนี้ ที่ผมอยากจะให้ลองดูกันก็คือ จุดที่หนาที่สุดของเครื่อง (กลางเครื่อง) หนา 6.9 มิลลิเมตร และมีสัดส่วนส่วนหนาบาง กำลังพอดี ไม่หลุดมือง่ายนัก บริเวณข้างเครื่องด้านนี้จะมีปุ่มเพาเวอร์ พร้อมกับแถบโครเมียม เพิ่มความหรูหรา
อีก ด้านหนึ่งจะเป็นที่ของถาดใส่ซิม ที่ต้องใช้เข็ม/คลิปหนีบกระดาษ กด เพื่อ eject ถาดออกมา ส่วนปุ่มปรับโวลุมจะอยู่ในด้านนี้ครับ โดยรวมๆแล้ว ตัวเครื่องที่ทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตเป็นเสียส่วนใหญ่ ให้สัมผัสในแรกสัมผัสที่ค่อนข้างดี แต่โดยรวมแล้วยังไม่ถือว่าแน่นหนา หรือแข็งมากนัก ยังมีความรู้สึกที่ว่าเครื่องหยุ่นๆมืออยู่บ้าง ส่วนปุ่มนั้นก็กดแล้วอาจจะมีบางจังหวะที่คลอนๆ ซึ่งตรงนี้ สมาร์ทโฟนในราคาไล่เลี่ยกัน ผมคิดว่าไม่น่าจะมีเจ้าไหนทำได้ดีกว่าเจ้าไหน
ตาม สไตล์ของแอนดรอยด์ ที่นอกจากจะมีกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแล้ว ก็ยังจะมีไฟ LED แสดงสถานะ (การแจ้งเตือน กรณีที่ปิดจออยู่) มาให้อีกด้วย
ปุ่มนั้นเป็น soft key ทั้งหมดครับสำหรับด้านหน้าเครื่อง มีตั้งแต่ปุ่มเมนู ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ฝาเครื่องด้านหลังจะเห็นงานชุบโครมเมียอยู่บ้าง แซมกับฝาหลังโพลีคาร์บอเนต ที่คล้ายๆกับอะลูมิเนียมที่เก็บงานมาแบบลายๆกันลื่น
กล้อง พร้อมแฟลช LED ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่บอกได้เลยว่า ลูกเล่นกล้องตัวนี้ อลังการงานสร้างมากๆครับ ซึ่งจะได้แสดงให้ดูในหน้าถัด ๆ ไป
ช่องเสียบ 3.5mm อยู่ด้านบนตัวเครื่อง
การเชื่อมต่อสำหรับชาร์จ หรือกับคอมพิวเตอร์ ใช้ช่องแบบ Micro USB
...มา ถึงในส่วนของอินเตอร์เฟซกันครับ ที่ต้องมาดูเพราะว่า Vibe X นั้น ใช้ UI ที่สร้างขึ้นเองโดยทีมของ Lenovo ซึ่งโดยหลักๆแล้ว หน้าเริ่มต้นของตัว UI นี้ ก็จะคล้ายๆกับแอนดรอยด์ทั่วๆไป แต่จะแปลกไปตรงที่ว่า ไม่มีเมนูรวมแอพ แอพทุกแอพ จะถูกนำมาวางไว้บนหน้าแรก หรือจับแยกไว้เป็นโฟลเดอร์ คล้ายๆกับใน iOS นั้นแหละครับ
เมื่อ กดปุ่ม Menu บนตัวปุ่มทัชด้านล่างเครื่อง (ข้างๆปุ่มโฮม) ก็จะมี preference มาให้เลือกดังภาพครับ ซึ่งเราสามารถเลือกพรีวิว หน้าโฮมแต่ละหน้าได้ เลือกตั้งค่าต่างๆ หรือเลือกเพิ่ม widget ตลอดจนเลือก theme ได้
หน้า Preview พร้อมกันนั้นยังสามารถเพิ่มหน้าต่างใหม่ไดอีกในหน้านี้
ธีม ที่มีให้เลือกมาโดยค่ามาตรฐาน ที่อาจจะปรับแต่งได้อีกเล็กน้อย
ใน ส่วนของการรูดหน้า Notification ลงมา ก็ดูเผินๆอาจจะเหมือนแอนดรอยด์ทั่วไป แต่ถ้าลองเล่นๆ ดู แล้วก็มีอะไรให้ปรับหรือกดเล่นอีกเยอะครับ
สังเกต ว่าพอกด expand ออกมา ก็จะเจอกับคีย์ลัดมากมาย ช่วยลดขั้นตอนการเข้าเมนูเซ็ตติ้งไปได้มากเลยทีเดียว ที่ผมชอบมากๆก็คือ Flash light แบบที่ผมเคยใช้งานบนไอโฟน หรือแอนดรอยโฟนบางเครื่อง ก็มีมาให้ใช้ในเมนูนี้โดยไม่ต้องโหลดแอพมาลงให้วุ่นวายอีกต่อไป
ฟีเจอร์ หนึ่งที่สามารถเรียกได้จากหน้า Notification ก็คือโหมดประหยัดพลังงานพิเศษ ที่ตัว UI จะเปลี่ยนตัวเองกลายมาเป็นหน้า ทึมๆดำๆ แบบด้านบนนี้ พร้อมกับล็อคตัวเองไม่ให้เราเข้าแอพอะไรที่อาจจะต้องใช้พลังงานแบตเตอร์รี่ มากเกินควร
เมนู การโทร และหน้าสมุดโทรศัพท์ ก็สามารถเรียกได้จากไอคอนเดียวกัน คือรูปหูโทรศัพท์ ตลอดจนสามารถเรียกดูข้อความ SMS ได้ในหน้าเดียวกันอีกด้วย
โฟลเดอร์จากค่าโรงงาน ก็มีแอพพลิเคชั่นที่จำเป็นๆ อย่างไฟฉาย เครื่องคิดเลข ตัวอัดเสียง นาฬิกา เข็มทิศ มาให้ครบครัน
หน้า power setting ในการตั้งค่า ก็ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับแต่งค่าด้วยไอคอนได้อย่างง่ายดาย
นอก จากนี้ยังมีฟีเจอร์ Smart Setting ที่จะช่วยควบคุมการเปิดปิดระบบ Wifi, GPS หรือ bluetooth ให้เปิดใช้งานไว้เฉพาะกรณีที่เรากำลังใช้เครื่องอยู่ และยังสามารถปรับรูปแบบการตั้งค่าได้ตามระดับพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอร์ รี่อีกด้วย
แอ พพลิเคชั่น SecureIt ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนแอนตี้ไวรัส แอนตี้สแปม และเสริมความปลอดภัยให้กับแอนดรอยด์อีกชั้น ตลอดจนยังช่วยเก็บขยะ เคลียร์แรม ระบบได้อีกด้วย
เมนู กล้องถ่ายภาพ ลูกเล่นมีให้เลือกล้นหลาม ตั้งแต่การปรับค่าความละเอียดต่างๆ ตลอดจน post processing ที่สามารถแสดงผลได้แบบ realtime ก่อนการถ่ายภาพ มีให้เลือกเล่น เยอะกว่าใน instagram มากๆเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีโหมดการถ่ายภาพเคลื่อนไหว และให้ผลลัพท์ไฟล์ออกมาเป็นไฟล์ GIF ได้ในทันทีอีกด้วย
ลอง เปิดแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็พบว่าสามารถแสดงผลได้สวยงาม ถึงแม้ความละเอียดจอจะละเอียดถึง 1920x1080 แต่ก็ไม่ได้แสดงผลออกมากว้างหรือโล่งมากนัก เพราะแอพพลิเคชั่นเวอร์ชั่นโทรศัพท์นั้นยังคงจัดสัดส่วนออกมาให้เน้นหน้าจอ ขนาดเล็กให้ถืออ่านด้วยมือได้ง่ายอยู่
นอก จากนี้ก็มีแอพพลิเคชั่น Route 66 สำหรับการนำทาง ซึ่งการทำงานนั้นก็จะสามารถนำทางได้แบบ turn by turn แบบที่เราอาจจะคุ้นๆกันในเครื่องพวก Garmin หรือแอพพลิเคชั่นอย่าง TomTom ซึ่งก็ใช้งานได้ฟรี 30 วัน เกินจากนี้ก็ต้องซื้อไลเซนส์ครับ
.
.
...เรียก ได้ว่าเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ ที่ดูเหมือนจุดขายนอกจากจะเป็นเรื่องของราคา และความบางเบา ตลอดจนสเป็คที่อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดีแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องของแอพพลิเคชั่น และอินเตอร์เฟซติดเครือง ที่ดูเหมือนว่าทาง Lenovo นั้นตั้งใจทำมาจริงๆ หลายๆฟีเจอร์นั้นใช้งานได้จริง ไม่ได้เป็นอินเตอร์เฟซที่สร้างขึ้นมารกๆ เอาไว้หน่วงเครื่องเฉยๆ ความลื่นไหลของตัวเครื่อง จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ว่ากลางๆ ไม่ได้ลื่นมาก แต่ก็ไม่ได้ช้าน่าเกลียด และการได้แอพ SecureIT ในการช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องแรมใกล้เต็ม หรือเคลียร์แคชต่างๆ ก็น่าจะช่วยในระยะยาวได้พอสมควร
...จุด อ่อนไม่กี่จุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรืองปุ่มกด ที่ผมว่าน่าจะยังแก้ไขปรับปรุงให้ความรู้สึกในการกดได้ดีกว่านี้อีก ตลอดจนแบตเตอร์รี่ขนาด 2000mAh ที่สำหรับเครื่องขนาด 5 นิ้ว พร้อมซีพียูควอดคอร์แบบนี้ ก็ไม่สามารถใช้งานได้ทั้งวันดีนัก ต้องอาศัยลูกเล่นการปรับโน่นนิดนี่หน่อย ตามที่ Lenovo นั้นให้แอพมาปรับ พฤติกรรมการใช้พลังงานของเครื่องเอาครับ ถึงจะอยู่ได้ทั้งวัน