Review : Sony VAIO E 14P (SVE14A15) : Overview (1/4)
Review : Sony VAIO E (SVE14A15)
...ครั้งก่อนๆผมได้นำเสนอโน๊ตบุ๊กในระดับไฮเอนด์ ประเภทว่าทรงพลังหลุดโลกไปเครื่องถึงสองเครื่องด้วยกัน มาวันนี้เราปรับอารมณ์มาพบกับโน๊ตบุ๊กไซส์ 14 นิ้ว มาตรฐานๆ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และความครบครันในแง่การใช้งานจริงจากทาง Sony ภายใต้แบรนด์ VAIO ในรุ่น VAIO E กันบ้างครับ VAIO E นั้นเป็นโน๊ตบุ๊กไซส์ 14 นิ้ว ที่ใช้ขุมพลังพิมพ์นิยมอย่าง Intel Core i5 2450M แรม 4GB และมีกราฟฟิคชิปแยกเป็น AMD Radeon HD7670M ที่สามารถทำงานแบบ Hybrid คือตัวชิปกราฟฟิคจะถูกเรียกใช้งานเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่ต้องการพลังการประมวลผลทางด้านกราฟฟิคมากๆเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมี USB 3.0 มาให้ถึงสองพอร์ต รวมไปถึงของแถมหลายๆชิ้น และดีไซน์ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า นี่แหละ คือโน๊ตบุ๊กที่ซื้อแล้ว "จบเรื่อง" จริงๆแบบหัวเรื่องบทความของเราในวันนี้ครับ
Processor | Intel Core i7 2450M 2.5GHz 3mb L3 cache |
Chipset | Intel HM76 |
Memory | 4GB DDR3-1333MHz |
Graphics Adapter | Intel HD3000 & AMD Radeon HD7670M |
Display | 14" 1600x900px |
Harddisk | 640GB 5400RPM |
Optical Drive | DVD-RW |
Network | Intel Centrino wireless N 2230 |
Connection Port | USB3.0x2 USB2.0 x2, HDMI, VGA, RJ45 |
Battery | 59W.hr |
Weight | 2.2Kg |
OS Bundled | Windows 7 Home Premium |
...เมื่อผมเริ่มตรวจสอบรายละเอียดเชิงเทคนิคในเบื้องที่ลึกลงไปอีก ก็พบว่าถึงแม้ว่าซีพียูจะเป็น Intel Core 2nd Generation ไม่ใช่ Ivy-bridge ก็ตามที่ แต่อุปกรณ์แวดล้อมต่างๆอย่างชิปเซ็ต HM76 และเมมโมรี DDR3 1600MHz ที่ถูกติดตั้งมาและทำงานที่ความเร็ว 1333MHz ตลอดจนการ์ดไวเรส Centrino 2230 (จัดว่าเป็นการ์ดชั้นดีกว่าการ์ดแบบอื่นๆ) นั้น เป็นอุปกรณ์แวดล้อมที่เราจะพบได้ในเครื่อง Ivy-bridge (อย่างน้อยก็สองเครื่องก่อนที่เคยรีวิวไป ก็มีอุปกรณ์มาให้แบบนี้) และแน่นอนว่าชิป HM76 นั้นเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่ทำมาเพื่อ Ivy-Bridge โดยเฉพาะ มี USB3.0 ในตัวมันเอง และมันสามารถ backward compatible กับ Sandy-Bridge ตัวนี้ได้ ผมก็จึงตั้งข้อสังเกตว่าอนาคตน่าจะมี VAIO E โมเดลนี้ที่เป็นชิปซีพียู Ivy-Bridge ออกมาก็เป็นได้ครับ แต่อย่างไรก็ดี เราลองมาชมตัวเครื่องโดยภาพรวมกันก่อนดีกว่าครับ
...ตัวเครื่องที่ผมได้รับมานั้นเป็นโมเดลสีเทาครับ สัมผัสโดยรวมนั้นให้ความรู้สึกหรูหราและพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊กหลายๆค่ายพอสมควร
...ผิวสัมผัสที่ไม่ลื่นและเงาจนเกินไปทำให้ดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อในสายตาของผม หากมองย้อนกลับไปดู VAIO E series ในรุ่นก่อนนี้ผมคิดว่า E series ใหม่ที่เขาเรียกๆกันว่า 14P นี่แหละครับ ดูแล้วลงตัวกว่ากันมากเลยทีเดียว ในขณะที่ E series เก่านั้นดูเหมือนจะมีรายละเอียด ดีเทลในการออกแบบที่จุกจิกและค่อนข้างรกสายตา แต่ใน E series ใหม่ กลับมีรายละเอียดการออกแบบที่เรียบง่าย และแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ VAIO ได้ดีกว่าเดิมมากๆ
..บานพับและขอบของหน้าจอนั้นมีการเก็บงานมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเลยทีเดียวครับ น้ำหนักของบานพับนั้นผมคิดว่ากำลังดีแล้ว มั่นคงแข็งแรง ลมพัดไม่มีสั่น และไม่หนักเกินไป แต่ถ้าจะใช้มือเดียวยกขึ้นมานั้นก็บอกได้เลยว่ายังทำไม่ได้ครับ
...ภายในยังคงมีลักษณะเส้นสายดีไซน์ และวัสดุ เหมือนกับภายนอก
คีย์บอร์ดนั้นมีการเรียงเลย์เอาท์ออกมา เอาเข้าจริงแล้วก็เหมือนๆกับโน๊ตบุ๊กของโซนี่ในหลายๆรุ่นที่ผมเคยสัมผัสมาครับ โดยภาพรวมแล้วผมไม่พบปัญหาระหว่าการพิมพ์ใช้งานทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน ปกติแล้วผมจะเป็นคนพิมพ์ไม่ค่อยมองแป้น ซึ่งแป้นของ E series ตัวนี้ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาในการปรับตัวอะไรเลยครับ
นอกจากลักษณะคีย์ที่เป็นปุ่มแยกแล้ว ก็ยังมีไฟ backlight ติดมาให้อีกด้วย
สังเกตว่าบริเวณที่วางข้อมือ ขอบทัชแพดนั้นจะมีการแซมลายสีม่วงไว้เล็กน้อย แอบเปรี้ยวเบาๆกับโน๊ตบุ๊กระดับนี้ ที่ผมคิดว่าส่วนใหญ่แล้วคนที่จะซื้อใช้ก็คงจะเป็นกลุ่มนักศึกษาที่มีชีวิตอยู่กับหอพักเป็นเสียส่วนใหญ่นั้นแหละครับ
...ส่วนของทัชแพดนั้นก็สามารถใช้งานได้ดี ตัวทัชแพดนั้นเป็นลักษณะแป้นโล่งๆ และปุ่มกดแยกซ้ายขวาในตัวมันเอง ซึ่งส่วนตัวแล้วผมคิดว่าปุ่มลักษณะนี้มันทำให้ขัดอรรถรสการใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ไปเล็กน้อย แต่ก็ถือว่ายังพอรับได้ บริเวณแผ่นสำหรับทัชรองรับการทำงาน Multi touch สามารถใช้งานได้ลื่นไหลดี ส่วนการเลื่อนเคอร์เซอร์ไปมาก็ให้ความรู้สึกที่เป็น linear ดีใช้ได้ครับ แต่เนื่องด้วยทัชแพดที่มีขนาดใหญ่ คนที่ชอบจังหวะการลากเคอร์เซอร์สั้นๆเร็วๆ อาจจะขัดใจสักเล็กน้อย