Review : Thermaltake Commander MS-I Snow Edition : Page 1 (1/1)

Article by Northbridge On February 2, 2012 4,627 views
Review : Thermaltake Commander MS-I Snow Edition

...ถือเสียว่าเป็นการจับเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่เสียก็แล้วกันนะครับสำหรับในบทความวันนี้ เพราะทางเราก็เคยได้รับเคส Thermaltake Commander MS-I มารีวิวไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อเวลานานมาแล้ว ซึ่งในวันนี้ ทาง Thermaltake เองก็ได้ส่งเคสรุ่นเดียวกันนั้นมาให้ผมได้สัมผัสอีก แต่การกลับมาครั้งนี้นั้นเป็นการกลับมาในมาด "Snow Edition" ซึ่งผมขอเรียกการกลับมาครั้งนี้ว่าเป็นการกลับมาแบบสไตล์หิมะ ก็แล้วกันครับ ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะว่า MS-I เดิมนั้นจะถูกตกแต่งด้วยธีมสีดำล้วน แต่สำหรับ Snow Edition นั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นธีมสีขาว ที่ยังคงฟีเจอร์เดิมๆที่เคยมีอยู่ครบครัน ทั้ง USB 3.0 ที่ใน snow edition นั้นก็เป็นแบบพอร์ตสำหรับเสียบภายใน (เสียบลงเมนบอร์ดได้เลยไม่ต้องอ้อมสายไปหลังเคส) และระบบ Tools-Free ขั้นพื้นฐานสำหรับเคสในราคาระดับนี้ครับ

ดีไซน์โดยรวมๆนั้นเรียกได้ว่าถอดจากรุ่นพี่ Commander MS-I ตัวเก่าแทบไม่มีผิด เพียงแค่จับมาพ่นสีขาวนวลสลับกับลายตะแกรงสีดำ ก็ดูสะอาดตาและดุดันในสไตล์ของเคสรุ่นนี้อยู่แล้วครับ

การออกแบบที่เน้นเหลี่ยมสันเป็นเอกลักษณ์ของเคสรุ่นนี้

ฝาข้างนั้นก็มีการเจาะรูรังผึ้งระบายความร้อนให้บริเวณตำแหน่งของการ์ดจอ และก็มีการเจาะฝาใส่อะครีลิคให้ดูวับๆแวมๆตามสมัยนิยม

ด้านหน้าสามารถติดตั้งพัดลมขนาด 120มม หนาไม่เกิน 45มม ได้ แต่ไม่ได้ถูกติดตั้งมาจากโรงงานครับ

...พอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้อย่างพอเพียง ทั้ง USB 2.0 และ 3.0 ซึ่งใน Snow Edition นั้น Thermaltake ก็ยอมที่จะบรรจุเอาโมดูล USB3.0 ที่ใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบเสียบลงเมนบอร์ดโดยตรงเสียที เพราะแต่ก่อนนั้นจะต้องอ้อมสายไปเสียบด้านหลังเคส ซึ่งแบบเก่านั้นเท่าที่ผมเคยคุยกับทางคนของบริษัทผู้ผลิตเคสเขาบอกว่านอกจากจะประหยัดเนื้อที่โยงสายแล้ว แบบเสียบลงบอร์ดตรงๆนี้จะให้ความเสถียรและความเร็วที่ดีกว่า เหตุที่ตอนแรกมันยังเป็นแบบที่อ้อมสายไปด้านหลังเคสอยู่ก็เพราะว่าอินเทลเจ้าของมาตรฐาน USB3.0 นั้นไม่ยอมปล่อยสเป็คและมาตรฐานสำหรับโมดูลที่ไว้สำหรับเสียบลงบอร์ดโดยตรงมาตั้งแต่แรก ซึ่งผมเองก็ไม่เคยได้ลองแบบจริงๆจังๆเสียทีว่าดีกว่าจริงหรือไม่

...ด้านหลังเคสก็จะพบว่าเหมือนๆกับเคสระดับเมนสตรีมทั่วไป ช่อง expansion slot ไม่หวือหวาโดดเด่นอะไรมากนัก มีรูสำหรับลอดสายออกมาด้านนอกเคสมาให้ แต่ไม่มีการบุชองยางเอาไว้กันสายขูดแบบที่เรามะกจะพบได้ในเคสระดับราคาแพงกว่านี้

ภายในเคสนั้นก็จะพบว่ามีขนาดเท่าๆกับเคสขนาด mid-tower ทั่วไป ที่นำเอาเพาเวอร์ซัพพลายมาติดตั้งไว้ด้านล่าง(บนพื้นเคส)

ตัว Tools free นั้นมีมาให้แค่ตรงตัวฮาร์ดไดร์ฟและออฟติคัลไดรืฟ เป็นแบบมือบิดหมุนและสามารถถอดออกได้ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในเคสระดับราคาเริ่มต้นแบบนี้

เพดานเคสมีรูระบายอากาศสำหรับพัดลมถึงสองชุด แต่ละชุดสามารถติดตั้งพัดลมขนาด 120/140mm ได้ด้วย ส่วนพัดลมด้านหลังนั้นแถมมาให้ฟรีเป็นขนาด 120mm ครับ

...เมื่อสำรวจบริเวณภายในหลายๆจุดก็พบว่าพื้นที่ติดตั้งเมนบอร์ดนั้นมีการแหวกช่องระบายอากาศด้านหลังเมนบอร์ดไว้พอสมควร รวมไปถึงช่องที่ออกแบบมาไว้ให้สำหรับการลอดสายเคเบิล สายไฟต่างๆเอาไปซ่อนไว้ด้านหลังแผงเมนบอร์ด ก็ทำมาไว้ให้ใช้งานได้อย่างเหลือเฟือ (เจาะมาพรุนเลยว่างั้น) ซึ่งจากการทดลองติดตั้งการ์ดจอและคาดคะเนดูคร่าวๆผมคิดว่าหากติดตั้งกราฟฟิคการ์ดขนาดยาวๆเพียงตัวเดียว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก อาจจะติด HDD ไปตัวหนึ่ง แต่ถ้าติดตั้งแบบ Multi GPU หรือสองใบขึ้นไป คิดว่าคงจะเริ่มมีปัญหาแล้วแน่ๆ อาจจะต้องย้าย HDD ลงมาอีกประมาณ 2-4 ช่องแล้วแต่กรณีไป

.

.

...นับว่าเป็นการปรับโฉมครั้งเล็ก (Minorchange) ทีเรียกได้ว่าปรับมาแบบพอหอมปากหอมคอ เหมือนออกมากระตุ้นยอดขายให้กับเคสกลุ่มนี้ที่ผมคิดว่าน่าจะขายได้ในปริมาณที่มากกว่าเคสราคาแพงๆอยู่แล้ว ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่อย่าง USB3.0 internal ก็เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังมาตั้งแต่ที่ทำรีวิวของ MS-I รุ่นแรกอยู่แล้ว ราคาคิดว่าคงไม่น่าจะเกิน 1500 บาทแน่ๆครับสำหรับเคสตัวนี้ สำหรับวันนี้ก็คงต้องลาไปก่อน สวัสดี

.

.

ขอขอบคุณ Thermaltake