Review : Thermaltake Commander MS-II : Page 1 (1/1)
...ผมคิดว่าหลายๆท่านน่าจะพอจำกันได้กับชื่อของ "Thermaltake Commander" เคสเหล็กขนาดกลางระดับเมนสตรีมที่มีฟีเจอร์ครบครัน ราคาไม่แพงมากนัก ในครั้งก่อนเราเคยได้มีรีวิวของ Thermaltake Commander MS-I ไปทั้งรุ่นออริจินัล และรุ่น Snow edition ที่เป็นเวอร์ชั่นสีขาวหน้าตาดุดันที่มีการปรับปรุงด้วยการเพิ่ม USB3.0 แบบ internal มาวันนี้ Thermaltake ได้ปรับปรุงให้ MS-x series ของเขาให้มีดีไซน์ที่ดูเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา กับ Commander MS-II ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วก็ยังคงเป็นเคสระดับราคาเริ่มต้นในสไตล์ MS-I ตัวเก่า และดีไซน์ก็อยู่ในทิศทางเดียวกันนั้นแหละครับ จะเป็นอย่างไร ก็ลองมาดูกัน
...เปิดมาแว้บแรก เรียกได้ว่าสัมผัสแรกที่เจอกันนั้นผมบอกได้เลยว่านี่แหละเป็น Commander series ดีไซน์ที่เน้นเหลี่ยมสันดุดัน แต่ใน MS-II นี้หน้ากากด้านหน้านั้นจะดูลดเอาลักษณะเหลี่ยมสันออกไปเหลือไว้เพียงดีไซน์ที่ยังดูดุดันอยู่บ้าง
...ตัวเคสเป็นเคสเหล็ก SECC (เหล็กแผ่นพับขึ้นรูปชุบกันสนิม) หน้ากากนั้นกรอบเป็นพลาสติกอย่างดีส่วนตะแกรงด้านหน้าทำจากเหล็ก คุณภาพดีใช้ได้ครับ เคาะๆกดๆแล้วไม่ยุบ หน้ากากนี้ Thermaltake เองบอกว่าเป็นดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแบรนด์ลูกของเขาอย่าง Tt eSports ซึ่่งเป็นแบรนด์เกมมิงของ Thermaltake ครับ
พอร์ตเชื่อมต่อยังคงเหมือนเดิมที่พบได้ในรุ่น MS-I โดยใน MS-II ยังคงมีไว้ซึ่งพอร์ต USB3.0 แบบ Internal 1 พอร์ต และ USB2.0 อีกหนึ่ง รวมทั้งแจ๊กหูฟังและไมโครโฟน ปุ่มเปิดปิดก็ทำออกมาได้ดูเรียบกลืนไปกับตัวเครื่องดี
...ช่องด้านหน้าสามารถติดตั้งพัดลมดูดอากาศขนาด 120มม ได้ ซึ่งจากโรงงานจะไม่มีการติดตั้งมาให้ครับ แต่ดูจากช่องลมแล้ว ถ้างบประมารการประกอบพีซีของท่านไม่ได้รัดติ้วจริงๆ ซื้อมาใส่ไว้สักตัว มีประโยชน์มากครับ เพราะช่องลมทำมาได้ดีเลยทีเดียว มีรูพรุนเยอะดูแล้วลมน่าจะไหลได้สะดวกดี
ด้านบนมีเผื่อมาให้ติดพัดลมได้อีกสองตัวด้วยกัน ทั้งขนาด 80 และ 120มม ตามสมัยนิยม
...และด้านล่างนั้นจะเป็นช่องระบายอากาศสำหรับเพาเวอร์ซัพพลาย และอาจจะติดตั้งพัดลมเพิ่มได้อีกนิดหน่อย ซึ่งทั้งช่องพัดลมด้านบนและด้านล่าง ก็มีตะแกรงคล้ายๆมุ้งลวดกันฝุ่นมาไว้ให้ด้วย ตะแกรงดังกล่าวสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้เมื่อใช้งานไปนานๆ เรียกได้ว่าดูแล้วก็ดูจะให้มาแบบจัดเต็มไม่ขี้เหนียวต้นทุนดีครับ
ด้านหลังมีรูสำหรับลอดสายยางหรือสายไฟมาให้สองรูตามสมัยนิยม ตัวแผงสำหรับ expansion slot ด้านหลังก็เป็นแบบสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ พร้อมรูระบายอากาศ ไม่ใช่แบบหักทิ้งดังที่จะพบได้ในเคสราคาถูกๆ
...หลังจากทดลองวางเมนบอร์ดไปตำแหน่งของถาดติดตั้งแล้วก็พบว่าเหลือพื้นที่อยู่ในระดับหนึ่ง ไม่มากเท่าไหร่ พอจะติดตั้งกราฟฟิคการ์ดไฮเอนด์ได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะเสียพื้นที่ติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟไปบ้างครับ ส่วนระบบการจัดการสาย ผมคิดว่าค่อนข้างแย่ เพราะไม่มีรูสำหรับลอดสายไปเก็บไว้ด้านหลังถาดเมนบอร์ด ซึ่งเคสสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีรูดังกล่าวที่ว่ามากันหมดแล้ว
พัดลมตัวเดียวที่แถมมาให้กับเคสชุดนี้คือตัวดูดออกด้านหลังนี้ครับ เป็นขนาด 120มม พร้อม LED สีน้ำเงิน 1000RPM
...ส่วนเรื่องของการยึดจับฮาร์ดดิสก์และไดร์ฟ 5.25 นั้นก็มีการปรับปรุงเล็กน้อย จากเดิมที่เป็นล็อคแบบบิดล็อคอันเล็กๆที่ดูแล้วไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ มาใน MS-II นี้ก็จะเป็นล็อคขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังใช้กลไกแบบ บิดล็อค อยู่เหมือนเดิมครับ ซึ่งก็โอเคสำหรับเคสราคานี้ เพราะถ้าเป็นแบบสไลด์ล็อค ก็คงจะพบได้ในเคสราคาแพงๆกว่านี้แน่นอน
.
.
...เรียกได้ว่าเป็นอีกเจเนอร์เรชั่นหนึ่งที่ผมยังไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงรายละเอียดอะไรมากนักกับเคสในตระกูล Commander MS ที่หลักๆที่มีการเปลี่ยนแปลงก็คงจะเป็นเรื่องของดีไซน์หน้ากากเสียมากกว่า ส่วนเนื้องาน ความหนาของเหล็ก ผมก็ได้แค่บอกแต่เพียงว่า มันถูกผลิตมาอย่างมีคุณภาพในระดับหนึ่ง ตามราคาของมัน ซึ่งโดยรวมแล้วก็ไม่มีจุดไหนทำให้ผมหงุดหงิดใจระหว่างที่จับมันพลิกไปพลิกมาครับ ฟีเจอร์ผมไม่ขอวิจารย์ซ้ำไปซ้ำมาอีก ก็แล้วกันเพราะเท่าที่ดูก็คงเห็นและทราบกันอยู่ครับ ใครที่อยากดูเปรียบเทียบกับ MS-I ก็สามารถ คลิกที่นี่ สำหรับรุ่นแรก และที่นี่ สำหรับ snow edition ได้เลยครับ
.
.