Review : Thermaltake V6 BlacX Edition : Page 1 (1/1)

Article by Northbridge On September 14, 2011 3,297 views
Review : Thermaltake V6 BlacX Edition

...ผมคลุกคลี อยู่กับคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์มาก็เรียกได้ว่า นานพอสมควรครับ นานจนผมเห็นความเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการของคุณภาพ และลูกเล่นของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ วันนี้เราพูดถึงเคส ผมเห็นสมัยก่อนเคสแบรนด์เนม ราคาระดับสองพันกว่าบาท เชื่อไหมครับว่า มันไม่มีลูกเล่นอะไรเลย เพาเวอร์ซัพพลายก็ติดอยู่ด้านบนแบบโบราณๆ ช่องที่ไว้สำหรับลอดสายไปด้านหลังเคสก็ไม่มี พัดลมจะแถมให้สักตัว อย่าได้หวังครับ อาจจะไม่มีมาให้ด้วยซ้ำ ต้องบอกตามตรงเลยครับว่าช่วงสองปีกว่าๆ ที่ผ่านมา เคสคอมพิวเตอร์ในระดับราคาเริ่มต้นแบบนี้ มีลูกเล่นและคุณภาพที่ดีขึ้นกว่ายุคเมื่อสัก 6-7 ปีก่อนชัดเจนมากๆ ผู้ผลิตพยายามใส่ลูกเล่นและของติดตัวเคสมาให้อย่างเต็มที่ เท่าที่ราคาจะเอื้ออำนวย อย่าง Thermaltake V6 BlaX Edition ตัวนี้ เป็นเคสขนาด Mid-Tower ATX ที่มีดีไซน์ที่เน้นสันเหลี่ยมที่ดุดัน และจุดเด่นสุดๆของมันก็คงจะหนีไม่พ้น Single Bay docking สำหรับฮาร์ดไดร์ฟแบบ SATA ทั้งขนาด 3.5 และ 2.5 นิ้วด้านบนนี่แหละครับ ซึ่งจะเป็นอย่างไร เราลองมาดูกันในบทความวันนี้เลย

...Thermaltake V6 ตัวเคสทำมาจากเหล็ก ซึ่งถ้าให้ผมพูดถึงความแน่นหนาและความหนัก ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลางเมื่อเทียบกับเคสหลายๆยี่ห้อในตลาดที่อยู่ในระดับไล่เลี่ยกัน การเก็บงานภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แผงด้านหน้านั้นเป็นตะแกรงเหล็กแบบ bay 5.25 ตลอดแนวตั้งแต่บนลงล่าง ส่วนกรอบสีดำเงาวาวนั้นจะทำมาจากพลาสติกที่ดูแล้วก็สวยงามดี แต่การเก็บขอบมุมและลบคม ยังทำมาได้เรียบร้อยแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ให้ความรู้สึก "premium" เสียเท่าไรนักครับ

ดีไซน์ฝาข้างทั้งสองฝา ก็ยังมีการล้อเล่นเข้ากับเส้นสาของหน้ากากโดยรวมไปในตัว

แผงหน้ากากเคสด้านหน้าจรดด้านบน จะเป็นส่วนเชื่อมต่อพอร์ต I/O ต่างๆทั้ง USB2.0 รวมไปถึง Audio Port ต่างๆ

เจ้าแท่น Docking นี่แหละครับถือเป็นไฮไลท์ ทาง Thermaltake เคลมไว้ว่า มันมีความเร็วเหนือกว่าการเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เฟส USB2.0 และ 3.0 เพราะว่าเจ้า bay ตัวนี้เชื่อมต่อเข้ากับสาย SATA ลงเมนบอร์ดตรงๆไปเลย และมีฝาปิดมาเรียบร้อย ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเมนบอร์ดที่รองรับฟีเจอร์ Hot-Swap SATA ก็น่าจะได้เปรียบในจุดนี้ไปเต็มๆครับ

มาดูทางด้านหลัง ง่ายๆไม่มีอะไรซับซ้อนนอกจากตะแกรงพัดลมที่ติดตั้งพัดลมความเร็วรอบ 1300RPM ขนาด 120mm มาให้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนฝาด้านบนนั้นก็มีตะแกรงรังผึ้งระบายความร้อน ที่สนับสนุนการติดตั้งพัดลมได้ถึงสองตัวด้วยกัน ตัวหนึ่งที่ติดมาให้เป็นขนาด 200mm พร้อมไฟ LED สีน้ำเงิน ความเร็วรอบ 800rpm ส่วนอีกช่องหนึ่งสามารถติดตั้งขนาด 120mm ได้อีกตัวหนึ่งเต็มๆครับ ส่วนพัดลมด้านหน้า น่าเสียดายเหมือนกันที่ Thermaltake ไม่ได้ติดตั้งพัดลมด้านหน้ามาให้ในรุ่นนี้

ภายในนั้นเรียกได้ว่ามีดีไซน์ที่มีหลายๆจุดที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ ทั้งการย้ายเอาจุดติดตั้ง PSU มาไว้ด้านล่างตามสมัยนิยม (แบบบหันพัดลมลง) และมีฟิลเตอร์กรองอากาศมาให้ที่พื้นเคส ไว้ให้สำหรับ PSU ดูดอากาศจากใต้เคสขึ้นมาได้เอง ส่วนแผงเมนบอร์ด ก็เว้นช่องว่างเอาไว้สำหรับการลอดสายสัญญาณและสายไฟต่างๆ เอาไปเก็บไว้ไม่ให้รกรุงรังได้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นมาตรฐานไปแล้วสำหรับเคสสมัยนี้ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปสักสิบปีก่อน เราคงหาเคสราคานี้ ที่ออกแบบมาให้มีช่องสำหรับลอดสายไปแบบนี้ได้ยากเลยทีเดียวครับ

ที่ติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟและไดร์ฟดีวีดี (3.5 และ 5.25) ถูกวางเรียงกันในแนวเดียวกันหมด เป็นนัยๆว่าถ้าอยากจะติดตั้งไดร์ฟ 3.5 หรือ FDD ก็ใส่ตัวแปลงที่มีมาให้ในกล่องเอาเอง ส่วนการติดตั้งเป็นระบบ Tools Free แบบบิดล็อค แบบเดียวที่เรามักจะพบได้ในเคสราคาไม่แพงมากนัก ซึ่งก็แน่นหนาดีครับไม่มีปัญหาอะไรจากการที่ลองสไลด์ฮาร์ดไดร์ฟเข้าไปติดตั้งดู แต่ส่วนตัวผมยังชอบแบบสไลด์แล้วล็อคมากกว่าแบบบิดมือแบบนี้

.

.

...ถือได้ว่าเป็นเคส Mid-Tower ATX ที่น่าสนใจมากอีกตัวหนึ่งเลยครับ ในช่วงราคาไม่เกิน 2200 บาทแบบนี้ ได้ทั้งลูกเล่น Docking HDD บนฝาเคสด้านบน รวมไปถึงพัดลมที่แถมติดเคสมาให้ถึงสองตัวด้วยกัน ถึงแม้ว่าความรู้สึกผมจะว่าเหล็กอาจจะบางไปเสียหน่อยสำหรับราคาระดับนี้แล้ว แต่แลกกับลูกเล่น และดีไซน์ที่ดุดันสวยงาม ใครที่ชอบ ก็สามารถไปหามาเป็นเจ้าของกันได้ มีวางจำหน่ายแล้ว ราคาก็อยู่ที่ราวๆ 2200 บาทนี่แหละครับ

.

.

ขอขอบคุณ Thermaltake Thailand