เยี่ยมชมบูธ Smart Education ระบบการศึกษาอัจฉริยะในงาน 2019 SMART CITY SUMMIT & EXPO ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน : Introduction (1/1)
ภายหน้าบูธ Smart Education ที่บอกถึงระบบ Smart Classroom ในการจัดห้องเรียนหรือการเรียนการสอนแบบอัจฉริยะที่เข้ากับการศึกษาสมัยใหม่
เมื่อเข้ามาด้านหน้าก็จะเป็นการจัดระบบการเรียนแบบใช้กล้องที่จับภาพตัวผู้สอนและผู้เรียนโดยแอพพลิเคชั่นในการช่วยสอน ทั้งสื่อมีเดียต่างๆที่ใช้งานได้ง่ายดายมากๆครับ
ตัวผู้สอนและผู้เรียนแม้จะอยู่คนละห้องหรือคนละที่ก็สามารถเรียนได้เหมือนกับอยู่ห้องเดียวกันครับ
หน้าจอเป็นแบบทัคสกรีนทั้งหมดในการใช้งานซึ่งง่ายต่อผู้สอนและผู้เรียนมากๆ
สามารถที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อนำสื่อต่างๆเข้ามาช่วยสอนได้อีกด้วย
มีอีบุ๊คที่ใช้ในการเขียนและศึกษา
เลือกข้อความแก้ไขแทนกระดานดำได้สบายๆครับ
กล้องฉายภาพที่คล้ายๆ เครื่องวิชวลไลเซอร์ ( Visualizer ) แบบใหม่ที่ไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนเดิมและสามารถแสดงผลได้โดยตรงกับคอมพิวเตอร์หรือจอโปรเจคเตอร์ได้สบายๆครับ
ใช้งานง่ายมากๆครับสะดวกจริงๆ
เครื่องนี้เรียกว่า Magic Box ครับซึ่งสามารถจะใช้งานได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ออกแบบมาในการใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในการเขียนโปรแกรมทั้ง สแคท ภาษาซี และอื่นๆที่ผู้เรียนใช้การออกแบบเขียนภาษาครับ
สามารถเชื่อมต่อเข้าชุดคิทในการต่อวงจรการทำงานให้ผู้เรียนได้ฝึกออกแบบทักษะการคำนวณด้านอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้นครับ
สามารถใช้งานเป็นสเมือนอินเตอร์เน็ตแบบออฟไลน์ได้ด้วยครับ ซึ่งความจุนั้นมากถึง 60GB กันเลยทีเดียวครับ โดยทางผู้ผลิตนั้นได้บอกว่าในโลกของเรานั้นระบบอินเตอร์เน็ตเข้าถึงโรงเรียนนั้นมีอยู่สูงมากๆ เค้าจึงใส่ข้อมูลที่สำคัญๆที่นักเรียนจะใช้ค้นหาลงในเจ้า Magic Box เครื่องนี้เลยครับ ทำให้ผู้เรียนสามารถค้นคว้าแบบออฟไลน์เสมือนใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย ยอดเยี่ยมมากๆ
Magic Box ผู้ช่วยสอนและเป็นสื่ออนไลน์แบบออฟไลน์ที่ช่วยให้ผู้เรียนที่อยู่ห่างไกลเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
สามารถเข้าใช้งานโปรแกรมสแคทที่นักเรียนได้เขียนโค๊ดหรืออกแบบเอาไว้ได้อีกด้วยครับ
เข้าไปออกแบบและจำลองการใช้งานได้อีกด้วยครับ ดีจริงๆ
สื่อจำลองแบบทดลองในรายวิชาต่างๆก็มีให้เลือกมากมายครับ โดยในรูปเป็นการทดลองเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อธิบายการงานของขั้วแม่เหล็กและกระแสไฟ โดยเราสามารถปรับแต่งการจำลองได้เสมือนจริงเลยครับ ยอดเยี่ยมมากๆ
สามารถเลือกแบบจำลองให้นักเรียนได้ลองผิดถูกกันแบบไม่ต้องกลัวอันตรายครับ
นวัฒกรรมใหม่ๆขนมากันเพียบกันเลยทีเดียวครับ
แบบทดลองโดยมีผู้สอนอยู่ในสื่ออธิบายไปพร้อมกันเลยครับ ทำให้ผู้เรียนมีความสนใจมากยิ่งขึ้น
คู่มือทดลองแล๊ปต่างๆก็มีเพียบครับ ทั้งเน้นงานสร้างสรร คำนวณ เน้นความสนุก อื่นๆมากมาย
อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าคืออะไรดูแล้วเหมือนเครื่องสแกนอุปกรณ์อะไรสักอย่างครับ
เรามาชมระบบ VR ในการเรียนการสอนกันครับ กับการทดลองที่ใช้ VR เป็นสื่อการเรียน
ระบบทั้งหมดใช้ Acer ในการผลิตครับ ของเค้าดีจริงๆ
Acer Predator ใช้งานคู่กับ VR จาก Acer ในการผลิตสื่อการเรียนชุดนี้ครับ
VR พร้อมใช้งาน
ในการทดสอบผมได้ลองเรียนรู้ด้วย VR เครื่องนี้ดูครับ โดยเป็นการทดลองแล๊ปวิทยาศาสตร์ในเรื่องของสารประกอบเคมีชนิดต่างๆ
การใช้งานก็ง่ายมากๆครับ ระบบนิ่งเสถียรมากๆ การจับหรือการมองเห็นตอบสนองได้อย่างสมบรณ์แบบ ผมว่านักเรียนคงชอบแน่นอนครับ
ในตัวระบบ VR ก็จะเป็นการจำลองให้เราจับสารเคมีประเภทต่างๆมาเทผสมกันในแต่ละขวดนั่นเองครับ เป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักระมัดระวังและนำสารเคมีต่างๆมาทดลองผสมกันโดยไม่เกิดอันตรายต่อผู้เรียนครับ
ตอนนี้กำลังเทส่วนผสมสารเคมมีลงไปในขวดครับ
เมื่อเทเสร็จเราก็จะทำการจุดไฟแล้วสังเกตุผลทดสอบที่ออกมาครับว่าสารเคมีแต่ละตัวนั้นจะเกิดประกายไฟเป็นสีอะไรบ้าง ซึ่งผมมองว่าเป็นอะไรที่สนุกเกิดการเรียนรู้และไม่เป็นอันตรายต่อผู้เรียนด้วยครับ เหมาะกับเด็กนักเรียนชั้นประถมต้นและปลายมากๆเลยครับก่อนที่เค้าจะได้ทดสอบของจริง
ด้ามจับ VR จาก Acer ครับของเค้าดีจริงๆ สุดยอดใช้งานง่ายมากๆ
เล่นเพลินสนุกมากครับ ถ้าเป็นนักเรียนระดับประถมนี่ไม่มีเบื่อแน่นอนแบบนี้
ระบบจำลองได้สมจริงมากๆครับเหมือนเรากำลังทำการทดลองอยู่จริงๆเลยทีเดียว
การทดสอบกระแสไฟฟ้าก็มีให้ทดสอบเช่นกันครับ สามารถสร้างแบบจำลองได้เยอะมากๆทั้งปรับลดกระแสไฟ ตัวนำไฟฟ้า เปลี่ยนแรงดัน อื่นๆมากมาย สุดยอดจริงๆครับ
แบบจำลองต่างๆทั้งเครื่องจักรกล การทำงาน อื่นๆมากมาย
มาดูในส่วนของระบบสุขภาพกันบ้างครับกับเครื่องตรวจสุขภาพแบบอัจฉริยะที่สามารถบอกความดัน ระบบเลือด การเต้นของหัวใจ และอื่นๆจบในเครื่องเดียวเลยครับ
การใช้งานก็เพียงแค่เอาแขนเข้าไปตรวจด้านในให้เครื่องวิเคราะห์และประเมิณสุขภาพเราครับ
แสดงผลเป็นตัวเลขออกมาเลยครับ
ไมรโครโฟนอัจฉริยะที่ออกแบบมาสำหรับผู้สอนครับ
มาดูห้องเรียนสื่อสารภาษาอัจฉริยะครับ โดยสามารถเรียนกับผู้สอนได้โดยตรง
ผู้สอนและผู้เรียนสามารถโต้ตอบสื่อสารกันได้และสามารถเขียนหน้าจออธิบายแนะนำทั้งการสนทนา ทักทาย การอ่าน การใช้คำพูด อื่นๆและผู้สอนสามารถที่จะแก้ไขรายละเอียดข้อบกพร่องของผู้เรียนได้ในขณะนั้นเลยครับ
ตัวระบบจะวิเคราะห์ผู้เรียนจากสีหน้า ท่าทาง อารมณ์ในขณะนั้นโดยการสแกนแทคกิ้งที่ใบหน้าผู้เรียนตลอดเวลา พร้อมวิเคราะห์ออกมาภายหลังการเรียนเลยครับ โดยผู้เรียนมองไปทางซ้ายขวากี่ครั้ง ยกมือกี่ครั้ง มีปฏิกริยาตอบสนองอย่างไรบ้าง ซึ่งสุดยอดมากๆไม่ต้องทำแบบเก็บข้อมูบให้ยุ่งยาก เก็บข้อมูลสถิติแบบ Real Time กันเลยทีเดียว
Concluions
ก็จบลงไปครับสำหรับเยี่ยมชมบูธ Smart Education ระบบการศึกษาอัจฉริยะที่ทางบูธนั้นขนมาให้เราชมแบบเต็มอิ่มกับการจัดการเรียนการสอนสมัยใหม่แบบ Smart Education ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและเป็นการเรียนรู้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ถือเป็นนวัฒกรรมการศึกษาที่ทันสมัยสอดคล้องกับ SMART CITY อย่างแท้จริงครับ ในวันพรุ่งนี้ผมจะนำท่านไปเยี่ยมชมบรรยากาศภายในงาน 2019 SMART CITY SUMMIT & EXPO กันครับว่าจะมีนวัฒกรรมที่อัจฉริยะ SMART CITY แบบใดโปรดติดตามครับ สำหรับบทความนี้ผมก็ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ