Tesla Motors with Tegra inside! : Page 1 (1/2)

Article by tpp On November 5, 2011 3,200 views
Tesla Motors with Tegra inside!
 1 2 > 
. teslamodels_ss01_610x4571 สวัสดีครับ วันนี้คงเป็นอีกวันที่ Vmodtech จะได้นำเอาเทคโนโลยีซึ่งเป็นการต่อยอดของ Tesla ซึ่งอย่างที่ทราบแล้วว่า Tesla นั้นเป็นระบบ GPU Computing ที่สามารถนำเอาไปช่วยในการออกแบบหรือว่าคำนวนในงานที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำมากที่สุด วันนี้ Tesla ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ระบบไฟฟ้าคันแรกภายใต้ชื่อของ Tesla เอง ชื่อรุ่นว่า Model S ซึ่งตามรายงานข่าวนั้น ตัวที่ผมจะนำบทความจาก CNET มาแปลและนำเสนอให้ได้อ่านกันด้านล่างจะเป็น Beta 1 หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นต้นแบบลำดับที่สองนั่นเองครับ (Credit: CNET) เมื่องานแสดงช่วงสุดสัปดาห์ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Tesla ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าและกลุ่มนักข่าวได้ร่วมรับชม Model S Beta 1 รถยนต์ซีดานระบบไฟฟ้ารุ่นที่ปรับปรุงเป็นรุ่นที่สอง ซึ่งทาง Tesla ตั้งใจไว้ว่าจะเริ่มสายการผลิตในต้นปีหน้านี้ .

teslamodels_ss02_620x433 teslamodels_ss03_620x433
teslamodels_ss04_620x433 teslamodels_ss05_620x433
เมื่อเข้าไปในส่วนของที่นั่งผู้โดยสาร ข้อสังเกตุแรกที่ผมรู้สึกได้ซึ่งไม่ต่างจากคนอื่นๆที่ร่วมงานนี้ก็คือ ก้านควบคุมระบบการขับเคลื่อนนั้นมันเหมือนกับที่พบในรถ Mercedes-Benz ไม่มีผิด ระบบการบังคับเลี้ยวด้วยไฟฟ้าซึ่งสัมพันธ์กันกับชุดเฟืองบังคับเลี้ยว ซึ่งมันจะอยู่ร่วมกันบนก้านควบคุมการขับเคลื่อนที่ถูกผลิตโดย ZF ผู้ผลิตอุปกรณ์รถยนต์ชั้นนำ, Jim Dunlay รองประธานกรรมการของ Powertrain Engineering, เชื่อผมเถอะว่าด้วยวิธีการผลิต เทสล่า ก็มีระบบควบคุมการขับเคลื่อนในแบบของตัวเอง คล้ายกับระบบควบคุมอื่นๆที่อาจจะมีการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างผู้ผลิตเจ้าอื่นๆ . และคันเกียร์ก็เป็นส่วนนึงที่แสดงให้เห็นสิ่งที่ Tesla ต้องการจะบอกโดยเรียกเจ้า Model S ว่า Beta 1 และทำมัยผมถึงไม่ได้จับพวงมาลัยของเจ้า Model S ไม่ใช่วันนี้ครับ Tesla สร้างมันขึ้นมาอย่างโปร่งใส ซึ่งต่างจากผู้ผลิตยนตรกรรมเจ้าอื่นที่ไม่เคยให้คุณเห็นรูปแบบการพัฒนาในขั้นต้นเลย รถนี้เป็นหนึ่งในห้าคันที่อยู่ในการพัฒนาขั้นแรกซึ่งมันได้ถูกผลิตขึ้นในโรงงานประกอบในดีทรอยต์ มิชิแกน และในขั้นต่อไปหรือ Beta 2 จะถูกสร้างขึ้นในโรงงานของ Tesla เองที่ฟรีมองค์ แคลิฟอเนียร์ ซึ่ง รถจำนวน 50 คันจะถูกสร้างขึ้นภายในเดือนนี้ Beta 2 นั้นไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้พนักงานของ Tesla ปรับปรุงรายละเอียดของรถ แต่ยังเป็นการทดสอบความสะดวกของการผลิตที่จะเริ่มใหม่นี้ด้วย แต่ไม่ใช่ว่า Beta 1 Model S จะไม่ได้ทำอะไรพร้อมๆกันไปด้วย ได้มีการตรวจเช็คระบบเกียร์ ตรวจสอบพวงมาลัยบังคับเลี้ยว ตรวจสอบยาง ตรวจสอบรายละเอียดการตบแต่งภายในอย่างสวยงาม ทั้งหมดนี้เป็นไปตาม Beta 1 โดย Tesla แม้กระทั้งงานพื้นๆอย่างตรวจสอบระบบควบคุมความบันเทิงบริเวณกลาง Stack ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ดิจิตอลแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งมันยังคงมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง ตัวอย่างเช่นก้านควบคุม รูปแบบหน้าตาของโปรแกรมควบคุมความบันเทิงและสารสนเทศนั่นเอง
teslamodels_ss15_620x433 teslamodels_ss12_620x433

อย่างที่พนักงานของ Tesla Graham Sutherland ผู้ที่มีหน้าที่ทดลองขับ Model S Beta ผ่านเส้นทางลาดสั้นๆ สิ่งแรกที่ทำให้รู้สึกว่ามันแสนจะผ่อนคลายระหว่างที่ขับขี่ผ่านมันไป Graham บอกว่าเหตุผลมาจากการออกแบบการวาง Battery นั่นเองที่มีส่วนให้เสถียรภาพในการขับขี่เยี่ยมยอด ถ้ามองถึงบุคลิกเฉพาะด้านการออกแบบของรถนั้น เค้าไม่ค่อยอยากจะบอกเท่าไหร่ว่าทำอย่างไรถึงสามารถกระจายน้ำหนักจาก Battery ที่ใหญ่และแบนราบที่ได้ประกอบไว้สามารถช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่ ผมเริ่มถามเค้าถึงการปรับแต่งช่วงล่างซึ่ง Graham บอกว่ามันกำลังอยู่ในช่วงปรับจูนตามที่ Tesla CEO, Elon Musk ต้องการ คือต้องการให้การบุคลิกการควบคุมเหมือนกับ Porsche และสะดวกสบายเหมือน Audi ซึ่งมันต้องการการปรับแต่งโดยเทคโนโลยีด้านระบบการสั่นสะเทือนเพื่อช่วยประคองรถเหมือนๆกับปกติคือ double wishbones ที่ล้อหน้า และแบบ Multilink ที่ล้อหลัง ไม่มี Air Suspension และเทคโนโลยีของการปรับความหนืดด้วยสนามแม่เหล็กแต่ประการใด teslamodels_ss18.แต่ว่าความรู้สึกในการขับขี่จะค่อนข้างราบเรียบ ซึ่งความน่าสนใจที่ว่านี้น่าจะมีผลมาจากการปรับปรุงเรื่องของการสันดาปของเครื่องยนต์ โดยการขจัดเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นบริเวณห้องผู้โดยสารด้านหน้า แต่เปลี่ยนเป็นการตกแต่งแบบหรูหราเข้าไปแทน พูดถึงเรื่องของความฉับพลันของการเร่ง ซึ่ง Graham บอกว่า แม้ว่า Model S จะมีขนาดใหญ่กว่า Roadster แต่เมื่อได้ลองกดคันเร่งอย่างรุนแรงจนความเร็วขึ้นไปที่ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง 70 และ 80 ก่อนที่จะผ่อนคันเร่ง จากที่ผมเคยมีประสพการณ์กับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารุ่นอื่นมาแล้วทำให้ผมได้รู้ว่า อัตราเร่งของ Model S นั้นราบเรียบและเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถมาหยุดมันได้ในห้วงเวลาที่อัตราเร่งได้ถูกเปลี่ยนจากระบบเกียร์ มันทำให้รู้สึกประหลาดใจว่า Tesla สามารถทำมันได้อย่างไรกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าขนาดใหญ่แบบนี้ที่ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Battery Pack ที่ดูเหมือนจะคล้ายตู้เย็นรวมถึงมอเตอร์ที่มีขนาดเพียงแค่ผลแตงโม . ในมุมมองอื่นของ Model S, ขนาดของ battery นั้นบางมาก ประมาณคร่าวๆไม่น่าจะเกินสี่นิ้วซึ่งถูกประกอบอยู่ใต้รถ ส่วนมอเตอร์จะถูกยึดอยู่บริเวณเพลาด้านหลังที่จะใหญ่กว่า Roadster เพียงเล็กน้อย ตัว Battery Cell นั้นก็เป็นเพียง Lithium-ion ที่ใช้กันอยู่ใน Laptop นั่นเอง Tesla ทำการจัดเตรียมความจุของ Battery ไว้อย่างเพียงพอและมีการระบายความร้อนด้วยน้ำโดยที่มันสามารถจ่ายไฟได้ 85 Kilowatt-hours หรือสามารถวิ่งได้ไกล 300 ไมล์เลยทีเดียว กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นอยู่ที่ 362 แรงม้า และมีแรงบิด 306 pound-feet ซึ่งสามารถปั่นรอบเครื่องยนต์ได้ตั้งแต่ 0-7000 รอบต่อนาที มันสามารถพาให้ Model S วิ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 5.6 วินาที จริงๆแล้วในช่วงสุดสัปดาห์นั้น Elon Musk CEO ของ Tesla ได้เปิดเผยว่าจะมีการเริ่มต้นพัฒนา Model S แบบ Sport ขึ้นมาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของมันคือ จาก 0-40 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาไม่เกิน 4 วินาที . Tesla พิสูจน์ความเชื่อด้วยการพิสูจน์หลังจากที่ Graham ได้สิ้นสุดการทดลองในสนามทดสอบที่โรงงานของ Tesla

.

 1 2 >