สรุปเหตุการณ์สำคัญในรอบปี 2557 ของอินเทล : Page 2 (2/4)

Article by Venom-Crusher On December 7, 2014 6,261 views
สรุปเหตุการณ์สำคัญในรอบปี 2557 ของอินเทล
 < 1 2 3 4 > 

dsc_5190

คุณสติยา ลังการ์พินธุ์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการศึกษา บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด

6.บุกเบิกอุปกรณ์เพื่อการสวมใส่ นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าตลาดอุปกรณ์ประมวลผลเพื่อการสวมใส่ ( wearables) จะเติบโตขึ้นถึง 4 เท่า ตัวภายในปี 2560[2] ด้วยเหตุนี้ อินเทลจึงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Fossil Group, Inc*, Opening Ceremony* และ SMS Audio LLC* เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ประมวบผลเพื่อการสวมใส่สำหรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม นอกจากนี้ อินเทลยังได้ซื้อกิจการของบริษัท BASIS Science Inc ผู้พัฒนาอุปกรณ์เก็บข้อมูลด้านสุขภาพที่ล้ำยุคที่สุดอย่าง Basis band. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในตลาดอุปกรณ์เพื่อการสวมใส่และเซนเซอร์ตรวจจับต่างๆ   อินเทลจึงได้จัดตั้งโครงการและการแข่งขันในด้านดังกล่าวมากมาย ทั้งในรายการ Make it Wearable, Analytics for Wearables และ RealSense Technology App ส่วนการเปิดตัว Intel® Edison (อินเทล® เอดิสัน)  คอมพิวเตอร์ดูอัลคอร์ขนาดจิ๋วที่ใช้หน่วยประมวลผลควาร์ก (Quark-based computer) มีราคาต่ำ และมีรูปร่างและขนาดเท่ากับเอสดีการ์ดทั่วไป ก็ถือเป็นการสนับสนุนนวัตกรรมใหม่ในวงการนี้เช่นกัน

dsc_5193

7.เชื่อมต่อเครือข่ายแห่งอนาคต เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) จะเชื่อมต่อสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ กว่า 50,000 ล้านชิ้นเข้าด้วยกันภายในปี 2563[3] และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อินเทลได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Open Interconnect Consortium และ Industrial Internet Consortium เพื่อร่วมสนับสนุนการเติบโตของเทคโนโลยีดังกล่าวและผลักดันให้เกิดการสร้างมาตรฐานสำหรับการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ อินเทลยังได้จับมือกับพันธมิตรหลายรายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำเทคโนโลยีเครือข่ายไปใช้งานอย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม ดังเช่นในโครงการวิจัยร่วม Project Mobii ซึ่งเป็นการร่วมค้นคว้าวิจัยด้านยานยนต์อัจฉริยะร่วมกับฟอร์ด อินเทลและชุงฮวา เทเลคอม ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านนวัตกรรม IoT คลาวด์ และเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Networking; SDN) โดยชุงฮวา เทเลคอมเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายแรกของเอเชียที่จับมือกับอินเทลเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี IoT และความร่วมมือนี้ก็เป็นโครงการวิจัยนวัตกรรม IoT โครงการที่ห้าของอินเทลทั่วโลก โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาระบบสมาร์ทโฮม ระบบจัดการพลังงาน และระบบจัดการยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก นอกจากนี้ อินเทลและมิตซูบิชิ อิเล็กทริก ยังได้ประกาศความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้งานเทคโนโลยี IoT แบบครบวงจร ควบคู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบดังกล่าว ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันนำระบบอัตโนมัติรูปแบบใหม่นี้มาทดลองใช้ที่โรงงานของอินเทลในประเทศมาเลเซีย     เพื่อพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ของเทคโนโลยี IoT ในภาคธุรกิจ ทั้งการใช้งานเครื่องจักรกลที่ต่อเนื่องและยาวนานยิ่งขึ้น ศักยภาพการผลิตที่แข็งแกร่งขึ้น และการวางแผนซ่อมบำรุงอุปกรณ์ต่างๆ ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบจะเสื่อมสภาพลงจนไม่สามารถใช้งานได้ สำหรับประเทศไทย อินเทลได้ทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรทางธุรกิจ Embedded อาทิ Advantech, ADLINK, Dell OEM, และ QNAP เพื่อให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ loT ใช้งานได้จริง รวมถึงการสรรสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆในโครงสร้างภายในของ loT แบบครบวงจร ทั้งในภาคธุรกิจค้าปลีก อุตสาหกรรม พลังงาน และการสื่อสารร

dsc_5178

the-era-of-integration-3

คุณสติยา ลังการ์พินธุ์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการศึกษา บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับกาลิเลโอ บอร์ด (Galileo Board) นวัตกรรมจากอินเทลที่จะช่วยส่งเสริมวงการศึกษาวิทยาศาสตร์ไทย

8.เปิดโลกใหม่กับ "บิ๊ก ดาต้า" อินเทลได้เปิดตัวชิปประมวลผลตระกูล Intel® Xeon® processor E7 v2 (อินเทล ซีออน E7 V2 โปรเซสเซอร์) และ Intel® Xeon® processor E5-2600/1600 v3 (อินเทล ซีออน E5-2600/1600 V3 โปรเซสเซอร์)  ออกสู่ตลาดเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมสามารถจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน กว่าร้อยละ 81 ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด 500 เครื่องทั่วโลก[4]เลือกใช้ชิปประมวลผลจากอินเทล และชิปรุ่นใหม่เหล่านี้ก็จะเข้ามาตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้ใช้งานระบบศูนย์ข้อมูล (data center) เพื่อให้สามารถรับมือได้กับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการใช้พลังงานและความปลอดภัยอีกด้วย 9.ผู้นำแห่งอนาคต อินเทลเชื่อว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นหัวใจของการสร้างสรรค์นวัตกรรม ดังจะเห็นได้จากงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนานาชาติของอินเทล (Intel ISEF) ซึ่งเป็นการแข่งขันโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมปลายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปีนี้ นาธาน ฮาน วัย 15 ปี สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศไปครองได้สำเร็จจากผลงานซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาวิจัยการกลายพันธุ์ของยีนอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านม ส่วนในปีนี้ โครงงานวิทยาศาสตร์ "ผลของสารจากพืชบางชนิดที่มีต่อเปอร์เซ็นต์การฟักเป็นตัวของไข่และการตายของหอยเชอร์รี่ หอยทากสยาม และหอยทากยักษ์แอฟริกา"  โดยนายวันทา กำลัง และนายภัทรพงศ์ ลิมปวัฒนะ จาก โรงเรียนพนมสารคามพนมอดุลวิทยา ประเทศไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศมูลค่า 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นรางวัลที่ 4 ในหมวดพืชวิทยา บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกเป็นองค์กรดีเด่นผู้ทำประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ในสาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี จากทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รางวัลอันทรงเกียรตินี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีในหมู่เยาวชน ซึ่งรวมไปถึงการสนับสนุนการแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับชาติของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เช่นเดียวกับการสนับสนุนการพัฒนาศูนย์สะเต็มศึกษาในประเทศไทย (สะเต็มศึกษาประกอบด้วย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์ และ คณิตศาสตร์)

dsc_5213

the-era-of-integration-4

คุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับคอมพิ้วต์ สติ๊ก (Compute Stick) นวัตกรรมล่าสุดจากอินเทลที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์ไอทีในยุค The Era of Integration

10.เพื่อโลกในอนาคตที่ดีกว่า นอกจากความสำเร็จในด้านนวัตกรรมแล้ว อินเทลยังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกด้วยเทคโนโลยี โดยบริษัทได้ประกาศแผนงานที่จะยุติการนำเข้าแร่วัตถุดิบจากพื้นที่ภายใต้ข้อขัดแย้ง (conflict minerals) ในทุกขั้นตอนการผลิต[5] และยังได้รับเลือกให้เป็นองค์กรดีเด่นอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกาในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียนอีกด้วย อินเทลยังคงมุ่งมั่นในการลดช่องว่างด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีและเสริมสร้างความเท่าเทียมทางสิทธิระหว่างชายและหญิง ผ่านการเปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงในหลายประเทศทั่วโลกได้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ และก้าวเดินสู่อนาคตได้อย่างมั่นใจ สำหรับประเทศไทย อินเทลได้ร่วมมือกับ Plan International ในโครงการ Intel® Learn Easy Steps เพื่อเปิดศูนย์ฝึกอบรมอาชีวศึกษา 2 แห่ง (จังหวัดระยองและนครปฐม) เยาวชนหญิงในศูนย์ฝึกอบรมทั้งสองแห่งนี้ได้ทำงานร่วมกันและริเริ่มธุรกิจขนาดเล็ก โดยใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีในการพัฒนาแผนธุรกิจ การคำนวณต้นทุน และการติดตามการดำเนินงานธุรกิจ นอกจากนี้ อินเทลร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ในการพัฒนาและทดสอบค่ายต้นแบบฝึกสอนการเขียนแอพพลิเคชั่นมือถือสำหรับเยาวชนหญิงในระดับมัธยมต้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนหญิงเหล่านี้เห็นภาพว่าตนเองสามารถเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีได้ในอนาคตได้เช่นเดียวกัน

dsc_5254

คุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และคุณสติยา ลังการ์พินธุ์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการศึกษา บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาร่วมงานในช่วงปิดท้ายอย่างเป็นกันเอง

ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา อินเทลได้ร่วมอบรมและเสริมศักยภาพให้กับบุคลากรครูกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก เพื้อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้แก่การพัฒนาศึกษาในอนาคต ในปีนี้ อินเทล ประเทศไทย ได้เปลี่ยนรูปแบบการอบรมเป็นแบบออนไลน์ด้วยหลักสูตร Intel Teach Element นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรฝึกอบรม Intel Educate Future Scientists ที่กำลังเริ่มใช้ในปีนี้ โดยเป็นการร่วมมือการระหว่าง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติและองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)    อินเทลได้เปิดโครงการความร่วมมือในการเร่งการพัฒนาสะเต็มศึกษา (STEM Acceleration Partnership) ด้วยการทำงานร่วมกับหลากหลายสถาบันโดยเฉพาะ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เพื่อส่งเสริมสะเต็มศึกษาในประเทศไทย

นอกจากนี้  อินเทลยังเล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณมหาศาล (big data analytics) ในการรักษาโรคร้ายต่างๆ จึงได้ประกาศความร่วมมือกับ มูลนิธิไมเคิล เจ ฟ็อกซ์เพื่อทำการวิจัยและรักษาโรคพาร์กินสัน

 < 1 2 3 4 >