Article by Nongkoo OverclockTeam On September 5, 2022 351 views
HyperX DuoCast ไมโครโฟนสำหรับสตรีมเมอร์ นักสร้างคอนเทนต์เสียงคมชัด เพื่อคุณภาพงานที่ดี
HyperX DuoCast ไมโครโฟนสำหรับสตรีมเมอร์ นักสร้างคอนเทนต์เสียงคมชัด เพื่อคุณภาพงานที่ดี

hyperx-mic สิ่งหนึ่งที่เหล่าสตรีมเมอร์ เกมแคสเตอร์ และนักสร้างคอนเทนต์ต่างให้สำคัญในการทำงาน ไม่น้อยไปกว่าเรื่องของพีซี จอมอนิเตอร์ รวมถึงเกมมิ่งเกียร์อื่น ๆ ก็คือ ไมโครโฟน ที่รับเสียงได้คมชัด มีความแม่นยำ ใช้งานง่าย รองรับแอปพลิเคชัน ในการสื่อสารที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้การทำงานสะดวกยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับไมโครโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก HyperX DuoCast ไมโครโฟนในรุ่นที่ 3 ของซีรีส์ ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวเข้ามาเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วอย่าง HyperX QuadCast S และ SoloCast ซึ่งจะมาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ในกลุ่มนี้ได้มากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นคร่าว ๆ ดังนี้

hyperx-mic-1

เริ่มที่ HyperX QuadCast S ไมโครโฟนแยกที่มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน เหมาะทั้งกับสตรีมเมอร์และคนทำ Podcast มีตัวกรองเสียง และตัวยึดลดการสั่นสะเทือน อีกทั้งยังมีช่องต่อหูฟังมาให้ มาในโทนสีดำ-แดงดูดุดัน พร้อมไฟสถานะแจ้งการเปิด-ปิดไมค์ จุดเด่นอยู่ที่สามารถรับเสียงได้ถึง 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบสเตอริโอ (Stereo) แบบรอบทิศทาง (Omnidirectional) แบบเน้นรับเสียงด้านหน้า (Cardioid) และแบบสองทิศทาง (Bidirectional) อีกทั้งยังสามารถใช้ได้กับหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น PC PS4 PS5 และ Mac เป็นต้น รองรับการทำงานร่วมกับ Discord และ TeamSpeak สนนราคาอยู่ที่ 5,990 บาท

hyperx-quadcast-s

รุ่นถัดมาคือ HyperX SoloCast ไมโครโฟนรุ่นน้องเล็กจาก HyperX ในราคาน่ารักแค่ 1,990 บาท มีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการพกพา และการใช้งานในพื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะใช้ในการแชท สตรีมเกม จนถึงการบันทึกเสียง ตอบโจทย์การรับเสียงแบบเน้นจากด้านหน้าของไมโครโฟนเพียงทิศทางเดียว (Cardioid) มีฟังก์ชันแตะเพื่อเปิด-ปิดการรับเสียง ให้ความละเอียดของเสียงที่ระดับ 24-bit/96kHz สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ได้ มี 2 สีให้เลือก คือสีขาวและดำ รองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันสตรีมอย่าง OBS, XSplit, Streamlabs รวมถึงยังสนับสนุน TeamSpeak และ Discord อีกด้วย

hyperx-solocast

และไมโครโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HyperX DuoCast ที่ออกแบบมาสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ อินฟลูเอนเซอร์และเกมเมอร์ ไมโครโฟนรองรับการเชื่อมต่อกับพอร์ต USB ให้ความละเอียดของเสียงสูงสุดที่ระดับ 24-bit/96kHz ทำให้สามารถบันทึกเสียงได้อย่างคมชัด และมีคุณภาพสูง มีชุดกรองเสียงลมในตัวที่ช่วยลดเสียงปะทุและเสียงรบกวน และยังมี Shock mount ตัวยึด ลดการสั่นสะเทือนมาในตัวอีกด้วย รูปแบบการรับเสียงจะคล้ายกับ HyperX QuadCast โดยปรับรูปแบบได้ทั้งเน้นรับเสียงจากด้านหน้า (Cardioid) และรับเสียงแบบรอบทิศทาง (Omnidirectional) ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบคนเดียว และแบบอัดเสียงพร้อมกันหลายคน ที่ตัวไมโครโฟนมาพร้อมแสงไฟ LED แบบวงแหวนรอบตัว ที่ช่วยบอกสถานะการทำงาน และสามารถปรับแต่งการใช้งาน ผ่านทางซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ได้ ผู้ใช้งานสามารถเปิด-ปิดการรับเสียงของไมโครโฟนได้ด้วยฟังก์ชัน Tap-to-Mute ที่เพียงแค่แตะเบา ๆ ตรงปุ่มด้านบน นอกจากนี้ยังพร้อมช่องต่อหูฟังในตัว สนนราคาอยู่ตรงกลางระหว่าง QuadCast และ SoloCast ที่ 3,290 บาท ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งทั้งการบันทึกเสียงแบบคนเดียว และการสนทนาหลายคนพร้อมกัน ในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ทำให้ HyperX DuoCast เป็นไมโครโฟนที่ตอบโจทย์ได้ลงตัว สำหรับผู้ต้องการอุปกรณ์ ที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์กว่ารุ่นเริ่มต้นอย่าง SoloCast ที่เน้นสำหรับการรับเสียงทิศทางเดียวมากกว่า รวมถึงยังมีคุณสมบัติหลาย ๆ ด้านที่ใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่สุดอย่าง QuadCast ด้วย อาทิ การมีชุดกรองเสียงรบกวนในตัว และการมีช่องต่อหูฟังเพื่อมอนิเตอร์ระหว่างการใช้งาน เป็นต้น เพื่อการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลาย และมีคุณภาพสูงไปพร้อมกัน สามารถเข้าชมข้อมูล และเลือกซื้อ HyperX DuoCast ได้ที่หน้าร้านจำหน่ายออนไลน์อย่างเป็นทางการที่นี่