Article by Nongkoo OverclockTeam On December 15, 2023 322 views
โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra นวัตกรรมเหนือระดับ ผนวกขุมพลังแห่ง AI เข้ากับ PC พลิกโฉมประสบการณ์ PC ให้ไม่เหมือนเดิม

โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra นวัตกรรมเหนือระดับ ผนวกขุมพลังแห่ง AI เข้ากับ PC พลิกโฉมประสบการณ์ PC ให้ไม่เหมือนเดิม

intel-core-ultra-2

โมบายล์โปรเซสเซอร์ Core Ultra รุ่นใหม่ล่าสุดของอินเทล ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ในระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อมอบประสิทธิภาพการประมวลผลให้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งเป็นหัวใจหลักของ AI PC

อินเทล เปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra วันนี้ในงาน “AI Everywhere” นับว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของขุมพลังโปรเซสเซอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผลระดับโลกและประสิทธิภาพด้านกราฟิก พร้อมให้ประสบการณ์ด้าน AI PC (ปัญญาประดิษฐ์บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) ที่ดีที่สุด1ไปยังแพลตฟอร์มโมบายล์ตลอดจนเทคโนโลยี Edge นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังช่วยขับเคลื่อน AI PC รุ่นแรก ๆ ของโลกมากกว่า 230 รุ่นจากแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย อาทิ Acer, ASUS, Dell, Dynabook, Google Chromebook, HP, Lenovo, LG, Microsoft Surface, MSI และ Samsung ซึ่งพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านไอทีชั้นนำทั่วโลกรวมถึงช่องทางออนไลน์

“การเปิดตัว Intel Core Ultra แสดงให้เห็นถึงความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้/เท่าในการประยุกต์ใช้ AI ใน PC ของอินเทล   และภายในปี 2571  AI PC จะครองสัดส่วนกว่า 80% ของตลาดพีซี2 ซึ่งเมื่อร่วมมือกับระบบนิเวศที่กว้างขวางของพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของเราแล้ว อินเทลจะยังคงเป็นผู้นำของโลกยุคใหม่ในด้านเทคโนโลยีการประมวลผล”  มิเชล จอห์นสตัน โฮลท์เฮาส์ (Michelle Johnston Holthaus) รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Client Computing Group ของอินเทล กล่าว

ทำไมถึงสำคัญ : ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน การสตรีมมิ่ง การเล่นเกม หรือการสร้างสรรค์ผลงาน ผู้ใช้งานต่างมองหาประสิทธิภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่มากขึ้น และพร้อมใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการประมวลผล ทำให้การใช้งาน AI ใน PC / ทำให้ AI PC กลายเป็นตัวแทนของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ที่ตอบสนองความต้องการนี้ได้ เพราะด้วยความสามารถในการเร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI acceleration) เข้ากับหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) และหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (Neural Processing Unit: NPU) โมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra จึงเป็นโปรเซสเซอร์ที่รองรับความสามารถในการประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์และช่วยประหยัดพลังงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเทล

AI ใน PC มอบประสบการณ์ที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับการใช้งานแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra เพราะกว่า 100 บริษัทผู้พัฒนาระบบ (Independent Software Vendor: ISV) และกว่า 300 ฟีเจอร์ของกระบวนการเร่งการประมวลผล AI ที่อยู่ภายใต้โครงการ AI PC Acceleration ของอินเทล ต่างได้รับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์/การปรับแต่งคุณสมบัติโดยเฉพาะสำหรับโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงแอปฯ และเฟรมเวิร์ก AI มากกว่าผู้จำหน่ายซิลิคอนคู่แข่งรายอื่น ๆ ถึง 3 เท่า3

นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแล้ว โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ยังมอบความสามารถในกระบวนการเร่งปัญญาประดิษฐ์ที่ประหยัดพลังงานบนเทคโนโลยี Edge พร้อมสนับสนุนเวิร์กโหลดด้านการประมวลผลภาพที่มีเวิร์กโหลดสูง อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมหลายด้านของตลาดแนวดิ่ง (Vertical Marketing System) อาทิ ด้านการแพทย์ การค้าปลีก และการผลิต เป็นต้น

ยกระดับอะไรบ้าง : Intel Core Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดของอินเทลในรอบ 40 ปี และยังมีการใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ ด้วยเทคโนโลยี Foveros ที่ช่วยให้ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ขั้นสูงสามารถจับคู่กระบวนการระดับแนวหน้าในการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับของขีดความสามารถ โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra และช่วยยกระดับสถาปัตยกรรม Performance-core (P-core) ใหม่ โดยการปรับปรุงการตอบสนองต่อการรับสั่งต่อรอบของ IPC (Instructions Per Clock Cycle) อีกทั้ง สถาปัตยกรรม Efficient-core (E-core)  และ Low-power Efficient-core (LP E-core) ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพแบบมัลติเธรดที่ปรับขนาดได้ ให้สูงเหนือคู่แข่งถึง 11% เพื่อมอบความเป็นผู้นำด้านการประมวลผล CPU สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบ Ultra Slim4

นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ยังมาพร้อมกับกราฟิก Intel® Arc™ GPU3ที่มีจำนวนคอร์ในตัว Xe-core สูงสุดถึง 8 คอร์ และยกระดับประสบการณ์ด้วยการอัปสเกลที่เสริมประสิทธิภาพด้วย AI เพื่อมอบประสิทธิภาพที่มากขึ้นพร้อมภาพที่มีความเที่ยงตรงสูงด้วย Xe Super Sampling (XeSS) รวมถึงรองรับ DX12 Ultimate และเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกขึ้นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า5  เคียงคู่ไปกับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่มีการรองรับคุณสมบัติกราฟิกใหม่ อาทิ ฮาร์ดแวร์สำหรับประมวลผล Ray tracing, การแรเงาแบบตาข่าย, การเข้ารหัสและถอดรหัส AV1, HDMI 2.1 และ DisplayPort 2.1 20G

และสำหรับ Intel® AI Boost แบรนด์ใหม่ล่าสุดของหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (NPU) ของอินเทลถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อรองรับเวิร์กโหลด AI ให้สามารถทำงานได้ยาวนานขึ้นด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำ ขณะเดียวกัน ยังเน้นการทำงานของ AI บน CPU และ GPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนับว่ามีประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

คุณสมบัติอื่น ๆ ของตระกูลโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่:

ปรับปรุงสถาปัตยกรรมให้สูงถึง 16 คอร์ (P-core จำนวน 6 คอร์, E-core จำนวน 8 คอร์ และ LP E-core จำนวน 2 คอร์), 22 เธรด และรองรับ Intel® Thread Director เจนเนอเรชั่นใหม่เพื่อการคำนวนเวิร์กโหลดที่เหมาะสมที่สุด

เพิ่มความถี่เทอร์โบสูงสุด 5.1 กิกะเฮิร์ทซ์ (GHz)

เพิ่มความจุหน่วยความจำ LP5/x สูงสุด 64 กิกะไบต์ (GB) และหน่วยความจำ DDR5 สูงสุด 96 กิกะไบต์ (GB)

รองรับ เทคโนโลยีระบบไร้สาย รวมถึง ผลิตภัณฑ์ Intel® Wi-Fi 6E (Gig+) แบบในตัว และ ผลิตภัณฑ์ Intel® Wi-Fi 77 (5 Gig) แบบแยกเพื่อเพิ่มความเร็วของอุปกรณ์ในการใช้ความเร็วไร้สายระดับ Multi-Gigabit ในการรับส่งไปยังอุปกรณ์ปลายทางหลายจุดมากขึ้น เพื่อการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้และเสถียร

ซอฟต์แวร์ Intel® Killer™ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออัจฉริยะและการจัดลำดับความสำคัญของการรับส่งข้อมูลเครือข่ายสำหรับแอปพลิเคชันเกมเมอร์และแอปพลิเคชันสำหรับครีเอเตอร์ ขยายความสามารถเทคโนโลยี Intel Bluetooth® LE Audio เพื่อประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม มีความเที่ยงตรงสูง และใช้พลังงานต่ำ อีกทั้งยังรองรับความสามารถ Bluetooth® Auracast™ สำหรับการปรับแต่งเสียง การกระจายเสียง Personal Audio Sharing และการเข้าถึงเครื่องช่วยฟังที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นและระบบช่วยเหลือการฟังใหม่ ๆ อีกด้วย

มอบความเร็วการเชื่อมต่อสูงสุด 40 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ด้วยพอร์ต Thunderbolt™ 4 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อพีซีกับจอภาพระดับ 4K พร้อมกันหลายจอ อีกทั้งมีการจัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ชุดเครื่องมือ OpenVINO™ รองรับการเปลี่ยนแปลงโค้ดเพียงเล็กน้อยและการตรวจจับอุปกรณ์อัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพ AI โดยการกำหนดเส้นทางปริมาณงานไปยังกลไกประมวลผลที่เหมาะสม และปรับปรุงขั้นตอนการทำงานด้วย ONNX และ ONNX Runtime เพื่อการอนุมานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป Intel Evo Edition ที่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra: กลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปรุ่น Intel® Evo™ ยังคงมอบประสบการณ์การใช้งานโดยรวมที่ดีที่สุด8ด้วยการมอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ไร้ขีดจำกัดและการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด รวมถึงการรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านแอปฯ Intel® Unison™ ซึ่ง Intel Evo รุ่นใหม่นี้ จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และมีฟีเจอร์เด่น ดังนี้:

ประสิทธิภาพและการตอบสนองที่เย็นกว่า เงียบกว่า

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ด้วยอายุการใช้งานกว่า 10+ ชั่วโมงเมื่อใช้งานจริงกับงานออกแบบที่มีความละเอียดสูงเต็มรูปแบบ

ระบบ Instant Wake และระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging)

ปรับปรุงเอฟเฟ็กต์วิดีโอ รวมถึง Windows Studio Effects

กล้องคุณภาพสูงตามเกณฑ์การวัดของกล้อง VCX

เชื่อมต่อกับโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อด้วย/อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยฟีเจอร์สุดพรีเมียมของ Intel Unison

ผ่านมาตรฐาน EPEAT สําหรับการออกแบบคอมพิวเตอร์ที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืนอย่างน้อยใน ระดับ Silver

รองรับซอฟต์แวร์ Intel® connectivity สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออัจฉริยะและการจัดลำดับความสำคัญการรับส่งข้อมูลเครือข่ายเพื่อประสิทธิภาพการทำงานมาตรฐาน การทำงานร่วมกัน และความบันเทิง

นอกจากนี้ยังมีโครงการ Engineered for Intel Evo ที่จะกําหนดคุณสมบัติของอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เสริมนั้นจะตรงตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพที่เข้มงวด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น โดยในปีนี้ โครงการได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านอุปกรณ์ Bluetooth LE Audio, เครื่องช่วยฟัง, Thunderbolt docks, จอภาพ, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล, ชุดหูฟัง Bluetooth, เมาส์, คีย์บอร์ด และตัวกระจายสัญญาณอีกด้วย

การจัดจำหน่าย: คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนโดยโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม Intel vPro® จะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้