ASUS Xonar Essence STX
Share | Tweet |
Xonar Essence STX
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิก Vmodtech ทุกท่าน วันนี้ Vmodtech ขอใช้พื้นที่ Review Sound Card จากค่าย Asus สั้นๆให้ฟังกันซักนิดครับ เรื่องราวจากคราวที่แล้วที่เวปเราได้ทำการ Review Sound Card จากค่ายนี้ให้ได้ผ่านตาไปแล้วครั้งนึง ASUS XONAR HDAV 1.3 DELUXE PREVIEW
มาคราวนี้เป็น Xonar Essence STX ครับ เดี๋ยวไปดูหน้าตากันได้เลย
ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่จะเค้าจะสื่อบนฝากล่องเท่าไหร่ครับ กำ บนฝากล่องระบุไว้เลยว่า ตัวการ์ดมันเกิดมาเพื่อคู่กับ Head Phone 555
Digital ก็คือ Digital ครับ ไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงมันจะดีหรือไม่ หูเราเท่านั้นที่จะเป็นตัวตัดสิน พร่ามมามาก ไปต่อกันเลยครับ
พอเปิดฝาด้านหน้าก็จะเจอตัวการ์ดให้เห็นกันบางส่วน Design มาแบบเดียวกับ XONAR HDAV 1.3 DELUXE ที่เวปเราเคย Review ไว้เลย เช่นเดิมครับ Spec ที่ระบุไว้ผมอ่านไม่เข้าใจ ขนาดเรียนชั้นสี่แล้วนะเนี่ย
มาดูตัวการ์ดกันบ้างครับ
หน้าตาของการ์ดสวยงามใช้ได้เลยครับ Cap ที่ใช้บนบอร์ดทั้งหมดก็เป็นเกรดดีในทุกๆจุด ตัว Interface เป็น PCI Express X1 อันนี้ต้องดูนะครับว่า MB เราสามารถใส่ได้หรือเปล่า
ด้านหลังของตัวการ์ดโล่งๆครับ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
แต่ๆ เอาอีกแล้วครับ ต้องการไฟอีกแล้ว คราวที่แล้วก็ทีนึงครับ ต้องดูให้ดีนะครับว่า PSU เราจ่ายโหลดอยู่มากหรือเปล่านะ เห็นว่าเป็น sound card แล้วชะล่าใจละก็ มีดับกลางอากาศตอนเล่นเกมส์จะเสียอารมณ์นะครับ เริ่มต้นก็น่าจะซํก 460 วัตต์เป็นอย่างต่ำก็น่าจะวางใจได้
ช่องต่อสายสัญญาณด้านหลังครับ มีมาเฉพาะเท่าที่จำเป็น เรียงจากซ้ายไปขวานะครับ RCA Output, Head Phone Out , Mic In , S/PDIF มีแค่นั้นครับ
มาดูอุปกรณ์ที่มากับตัวการ์ดกันดีกว่าครับ
สำหรับการ์ดรุ่นนี้มีมาเท่าที่เห็นครับ แผ่น Driver, หัวแปลงจาก RCA เป็น Mini Stereo ตัวเมียหนึ่งเส้น แล้วก็สมุดคู่มืออีกนิดหน่อยครับ
เอาละครับ ขึ้นเขียง
สำหรับการทดสอบครั้งนี้มีเวลาแค่ระยะสั้นๆเท่านั้น ไม่แน่ใจว่าตัวการ์ดได้ถูกเปิดใช้มานานมากน้อยเท่าไหร่ แต่เท่าที่ฟัง ดูเหมือนยังขาดนิดๆ แต่ไม่เป็นไร ฟังเอาเนื้อเสียงเล็กๆน้อยๆพอแล้วกัน เดี๋ยวไม่มีเวลาออกไปแรดนอกบ้าน
สำหรับชุดทดสอบ ยังเหมือนเดิมเป๊ะครับ นัยว่าไม่มีตังเปลี่ยน แต่ต้องขออภัยสำหรับภาพถ่าย เพราะกล้องของผมนั้น น้องคนนึงยืมไปพังครับ อิอิ กรรม ส่วนนึง ผมได้ทำการฟังกับหูฟัง SENNHEISER รุ่น HD 435 Manhattan คู่เวรคู่กรรมของผมที่อยู่กันมาสิบกว่าปี ก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีว่างั้น เอาให้สมกับความตั้งใจของการ์ด ที่บอกว่าสำหรับ Audiophile HeadPhone
ผลการรับฟัง
ต้องบอกนิดนะครับว่า ตามสไตล์ผม ผมไม่ค่อยชอบเล่นกับโหมดต่างๆของ Software มันเท่าไหร่นัก เพราะใช้ไม่เป็น 55 ไม่ครับ ผมชอบฟังเสียงเพลงที่ได้รับการริปมาอย่างดีแล้ว ส่งผ่านคอมมายังลำโพงหรือหูฟังโดยตรงเลย ถ้ามีการปรับแต่งย่านความถี่เข้าไปนี่ สำหรับผมนั้นฟังว่ามันออกพร่าเลยครับ มิติอะไรนี่หายเหมือนมันดึงระยะไมค์ที่ตอนบันทึกเค้าได้จัดวางไว้ ให้เข้ามากระจุกอยู่ที่จุดเดียว ส่วนถ้าความเห็นอื่นจากแหล่งอื่น ผมงดออกความเห็นนะครับ
เสียงแว๊ปแรกที่ได้ยินผ่านหูฟังคือ ทุ้ม แห้ง เรียกว่า digital เต็มที่เลย เสียงแหลมไม่มากนักแต่รายละเอียดใช้ได้เลย คำจำกัดความน่าจะยกทุ้ม กดเสียงกลางแล้วก็แหลมไว้ ฟังเอามันว่าอย่างนั้น รายละเอียดเสียง อย่างที่กล่าวไว้ด้านบน ใช้ได้ครับ แต่น่าจะอ่อนกว่า HDAV 1.3 ตามความเห็นผม จากที่ฟังจากชุดใหญ่นั้น วงแคบครับ เสียงไม่ดีดตัวออกจากลำโพงไปด้านข้างหรือหลังเลย ลองขยับลำโพงเข้าหากัน เลื่อน Diffuser ด้านข้างเพื่อช่วยกระจายเสียงจากผนังก็ไม่ดีขึ้น น่าจะเป็นจากคุณลักษณะจำเพาะของการ์ดเอง
ผมว่า ถ้าเราเล่นเกมส์น่าจะเหมาะกับพวก FPS มากเลยครับ เสียงปืนที่ยิงแต่ละครั้งใน Warhead นั้นแน่น เสียงใหญ่เลย ลองเล่นกับ Prototype อูว มันครับ แต่เวียนหัวครับสำหรับเกมส์มุมมองบุคคลที่สาม (อย่าบอกว่าแก่นะ ม่ายเกี่ยว อิอิ)
สรุปดีกว่าครับ สำหรับความเห็นผมนั้น ตัวการ์ดอาจจะยังไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ผมมากนัก ด้วยเสียงที่รายละเอียดดีแต่โทนเสียงโดยรวมยังด้อยอยู่ถ้าเทียบกับ XONAR HDAV 1.3 DELUXE ที่เคยได้รับฟังเมื่อคราวก่อน ตัวนั้นสดแล้วก็เปิดเผยกว่า เสียงนักร้องผู้หญิงทำได้ดีกว่า รายละเอียดเสียงแหลมก็มากกว่าครับ แต่ก็อีก ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบ แล้วก็รสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างสไตล์กัน ก่อนจบ ผมขอนำเอา Comment ที่คุณ Numz ได้ฟังไว้มาบอกกล่าวในแง่ของคนที่เล่นหลอด แล้วก็ชอบฟังเพลงจากหูฟังกัน มาวางไว้ตรงนี้ด้วยครับ
“ฟังเพลงแบบไม่ได้เปิดโหมดอะไรเลย รายละเอียดเสียงค่อนข้างดี ไม่หวานมากนัก เสียงจะออกไปทางสียงเบสแหลมจะน้อยไปซักหน่อยแต่สามารถชดเชยได้โดยการเปิดโหมด Hi-Fi ในไดร์เวอร์ เมื่อเปิดแล้วจะให้ได้ยินเสียงแหลมและเสียงกลางชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนในเรื่องของซาว์นสเตจนั้นค่อนข้างแคบ สามารถสัมผัสได้เท่ากับระยะห่างของลำโพงเท่านั้น
เมื่อนำมาทดสอบฟังด้วยเฮดโฟนพบว่าเสียงที่ได้หนักไปทางโทนเสียงต่ำเหมือนนักร้องถูกบี้จมูกใว้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่การ์ดตัวนี้ทำให้ประทับใจอย่างมาก นั่นก็คือเมื่อเปิดโหมด Dolby Headphone ทำจากเสียงนักร้องนักดนตรีที่เล่นอยู่ข้างๆหูเปลี่ยนมาเป็นมาร้องเพลงอยู่ตรงหน้าเราแทน พูดได้ว่ามิติเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว
โดยรวมๆแล้วนับว่าเป็นการ์ดเสียงที่น่าสนใจอีกตัวนึงครับ สามารถซื้อหามาใช้กันในราคาไม่แรงมากนัก แต่สำหรับ ชาว Audiophile อาจมีผิดหวังกันบ้างเล็กน้อย เพราะตัวการ์ดยังแสดงออกได้ไม่เต็มที่ อย่างที่โฆษณาใว้ แต่ถว่า มันเป็นการ์ดที่เจ๋ง อีกตัวนึงเลยครับ สำหรับ ชุด 2.0-2.1 หรือ หูฟัง ครับผม”
ย่อหน้าสุดท้ายสำหรับการบอกเล่า Sound Card Xonar Essence STX ต้องขออภัยสำหรับข้อมูลที่ไม่มากนัก เอาเป็นว่าคราวหน้า จะยืมการ์ดตัวต่อๆไปไว้นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ ขออนุญาตไปแรดนอกบ้านก่อนครับ
tpp
25 มิถุนายน 2552