Conclusion

ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ AMD RYZEN 5 2400G ที่ถือเป็นซีพียูรุ่นใหญ่ HEDT ที่มาพร้อมกับ APU ตัวแรงที่เป็นการรวมเทคโนโลยี RYZEN+VEGA เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ด้วยตัวซีพียูเองที่นำเอาสถาปัตย์ RYZEN เข้ามาใช้ในสถาปัตย์ RYZEN “ZEN” ขนาด 14nm +FinFET โค๊ดเนม “Raven Ridge” กับการ์ดจอ RADEON VEGA11 ที่มีหน่วยประมาวลผล 704SP กับจำนวนคอร์ 4/8 คอร์ ความเร็ว 3.6Ghz-3.9Ghz พร้อมทั้งเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบ Precision Boost2 ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าสร้างความตกใจให้กับผมเองได้ไม่น้อยเลยครับกับประสิทธิภาพความแรงที่ทำออกมากับผลทดสอบต่างๆไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล เรนเดอร์ กราฟฟิก 3D ถอดรหัส กับผลคะแนนที่ออกมาไม่ธรรมดาจริงๆครับ โดยผลทดสอบในด้านของซีพียูนั้นแรงเท่ากับซีพียูในรุ่นเดสก์ท๊อปของซีพียู RYZEN 5 กันเลยทีเดียวครับ ในส่วนของกราฟฟิกการ์ดนั้นก็ไม่ธรรมดาทั้งผลทดสอบในด้านเกมส์มิ่งและ 3D กราฟฟิกก็ทำได้ดีกว่า APUs ในรุ่นก่อนหน้านี้ โดยสามารถที่จะเกมส์มิ่งกับบรรดาเกมส์ใหม่ๆได้ครับทั้งบรรดาเกมส์ออนไลน์ต่างๆสามารถใช้คอนฟิกในระดับปานกลางได้ในความละเอียด Full HD แต่ถ้าอยากให้ลื่นไหลดีก็ควรใช้งานในความละเอียด 1600*900 ในคอนฟิก Low หรือ Medium จะทำให้เกมส์ที่กินสเปกนั้นเล่นได้ครับ จุดเด่นจริงๆก็คือตัวซีพียูเองครับกับขุมพลังที่แสดงออกมา 4/8คอร์ ความเร็ว 3.6Ghz -3.9Ghz ที่ผมมองว่ายกความแรงจากรุ่นเดสก์ท๊อป RYZEN5 มาไว้ให้เลยแถมมี APUs แรงๆมาพร้อมให้ใช้งานอีกด้วย ถ้าพูดถึงสถานะการณ์ปัจจุบันผมมองว่าเป็นซีพียูที่คุ้มมากตัวนึงเพราะในปัจจุบันการ์ดจอนั้นหายากมากๆครับอย่างที่ทราบๆกันและท่านใดที่เน้นใช้งานซีพียูแรงๆแถมมีการ์ดจอในตัวไว้ผ่อนคลายเล่นเกมส์ ทำงานได้สบายๆแบบนี้แล้วล่ะก็ AMD RYZEN 5 2400G ผมว่าค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ตรงนี้เลยครับและยังใช้งานกับเมนบอร์ด AM4 ได้อีกด้วย อันนี้เป็นจุดเด่นของทาง AMD อีกอย่างเลยก็ว่าได้ก็คือเมนบอร์ดแพลตฟอร์ม AMD ไม่ค่อยเปลี่ยนเจนฯหรือเปลี่ยนซ๊อกเก็ตกันบ่อยๆ ในส่วนของฟีเจอร์การทำงานก็จัดพร้อมรองรับการทำงานครับไม่ว่าจะเป็น Radeon Free Sync 2 , HDR High Dynamic Range , Radeon Chill , HDMI 2.0b , H.265 Hardware encoding at 4K ในเรื่องของการโอเวอร์คล๊อกในจุดนี้หลายๆท่านก็อาจจะเป็นกังวลแต่ดังที่ท่านได้เห็นในบททดสอบแล้วครับว่าการโอเวอร์คลีอกนั้นทำได้ง่ายดายมากๆกับโปรแกรม RYZEN MASTER ที่ออกแบบมาให้ปรับแต่งได้อย่างง่ายดายทั้งความเร็วซีพียู ความเร็วการ์ดจอ APUs และระบบไฟต่างๆเซ็ตกันแบบง่ายได้เลยครับและอีกจุดที่บรรดาสาวกเป็นกังวลก็คือเรื่องของบัสแรมตามที่ท่านเห็นในบททดสอบเลยครับว่าการดันบัสไปที่ 3200Mhz นั้นทำได้ง่ายดายมากๆแถมยังใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพตลอดการทดสอบอีกด้วย ซึ่งถ้าท่านจะใช้งานบัสแรมสูงๆเหมือนในบททดสอบก็ลองเช็คแรมที่ออกแบบมาเฉพาะซีพียู RYZEN กันสักนิดนึงนะครับ โดยตอนนี้มีหลายนแบรนด์หลายยี่ห้อมากๆที่ผลิตกันออกมา เรื่องของอุณหภูมิหรือความร้อนอันนี้ไม่เป็นปัญหาครับแม้จะใช้งานกับฮีตซิงค์ธรรมดาอย่าง AMD Wraith Stealth ก็สามารถเอาอยู่ใช้งานกันได้สบายๆตลอดการทดสอบและทางเอเอ็มดียืนยันมาอีกว่าสามารถใช้งานกับฮีตซิงค์ Near Silent Thermal Solution ได้อีกด้วยเรียกได้ว่าคุ้มค่าจริงๆครับ สุดท้ายนี้ถ้าจะพูดแบบตรงๆกับความแรงของ APUs ในรุ่น VEGA11 นี้ว่าแรงเทียบเท่าบรรดาการ์ดจอแยกระดับกลางๆหรือยังก็คงยังไม่ถึงขนาดนั้นครับแต่แรงกว่าบรรดา APUs ในรุ่นที่ผ่านๆมาหรือแรงกว่า iGPU ของคู่แข่งนี่เรียกได้เต็มปากเลยครับว่าแรงกว่าแน่นอนและแรงที่สุดในโลก ณ เวลานี้เลยทีเดียว ถ้าท่านเป็นสายเกมส์มิ่งไม่เน้นเปิดสุดหมดผมว่าเล่นได้ทุกเกมส์ครับในคอนฟิก 1600*900 แบบ Low-Medium ยิ่งถ้าเป็นเกมส์ออนไลน์ที่ไม่กินสเปกมากอย่างบรรดา Overwatch , CS:GO , DOTA2 ฯลฯ นี่เล่นลื่นระดับ Full HD 1080P ปรับภาพได้ระดับกลางๆถึงสูงได้สบายๆเลยครับ รวมไปถึงพลังของซีพียู 4/8 คอร์นี่ผมมองว่าแรงเหลือๆเลยครับเน้น เรนเดอร์ ถอดรหัส ประมวลผล ทำงานกราฟฟิกต่างๆผมว่าแรงเยี่ยมเลยครับ ในส่วนตัวแบบตามความรู้สึกของผมที่รอคอย APUs จากทาง AMD ในรุ่นใหม่มานี้ในมุมมองผมพอใจครับถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้เรียกได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดไปอีกขั้นเลยก็ว่าได้ครับที่ทาง AMD แก้จุดด้อยของ APUs ในรุ่นก่อนหน้านี้ที่หลายๆคนอาจจะบอกว่าตัว iGPU (การ์ดจอแรง)แต่ตัวซีพียูนั้นไม่แรงเลย ซึ่งคำถามนี้ผมก็เคยลองถามทาง AMD ตอนที่ผมไปประเทศสิงค์โปร์ว่าทางเอเอ็มดีนั้นจะเพิ่มความแรงหรือส่วนของจำนวนคอร์หรือหัว APU เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ซึ่งก็ผ่านมาแล้วหลายปีครับและในปัจจุบันนี้ AMD ก็ได้ทำในจุดนี้ให้เห็น(เพิ่มความแรงของซีพียู)แล้วครับว่าซีพียูในแบบ APUs นั้นไม่ได้มีความแรงด้อยกว่าเดสก์ท๊อป HEDT ในรุ่นปกติเลยเพราะ AMD ยกสถาปัตย์ซีพียูตัวแรงมาควบรวมกับสถาปัตย์การ์ดจอจึงเป็นที่มาของ RYZEN+VEGA ให้เราเห็นความแรงในวันนี้แล้วนั่นเองครับ ยิ่งราคาที่เปิดออกมาอย่างเป็นทางการ 5,990บาทไทยเท่านั้น ถือว่าตรงกับที่ทางเมืองนอกเลยก็ว่าได้ครับ ในราคานี้ผมมองว่าเป็นตัวเลือกซีพียูที่คุ้มค่ามากๆกับสถานการณ์การ์ดจอที่ขาดตลาดในปัจจุบันเรียกได้ว่าซื้อซีพียูก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการ์ดจอยังสามารถใช้งานได้แบบสบายๆทั้งงานทั่วไปและเกมส์มิ่ง เราก็รอดูครับว่า AMD RYZEN 5 2400G ที่เป็นซีพียู APUs ทางฝั่ง AMD อาจจะเป็นขวัญใจชาวเกมส์มิ่งหรือผู้ที่ทำงานทั่วไปที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานแบบจบๆไม่ต้องไปกังวลหาการ์ดจอมาต่อเพิ่ม ผมขอใช้คำว่าอาจเป็น “ความหวังใหม่” ของเกมส์เมอร์หลายๆคน ณ เวลานี้ก็เป็นได้ครับ แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

..

…

…

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

.

Special Thanks.

AMD