สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้เรามาชมรีวิวซีพียูที่เปิดตัวกันในวันนี้พร้อมกันทั่วโลกกับ AMD RYZEN ที่บรรดาสาวก AMD รอคอยเป็นเวลานานมากๆตั้งแต่เปิดตัว AMD FX ซีรี่ย์นั้นก็ล่วงเลยเวลามาเป็นเวลานานหลายปีเลยทีเดียวครับ และแล้วเวลาที่บรรดาสาวก AMD ก็มาถึงกับการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อแบบเต็มๆว่า AMD RYZEN ที่วันนี้ผมจะมารีวิวให้ท่านได้ชมกันในชื่อรุ่นเต็มๆว่า AMD RYZEN 7 1700X มากันใหม่หมดทั้งสถาปัตย์ใหม่ขนาด 14nm FinFET ในชื่อ “Summit Ridge” ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้น 40% ด้วยความเร็ว 3.4Ghz - 3.8Ghz ในรุ่น AMD RYZEN 7 1700X ด้วยจำนวนคอร์ทั้งหมด 8 คอร์ 16 เทรด และ แคชทั้งหมดรวมกัน L2+L3 ถึง 20 MB อัตราการบริโภคไฟอยู่ที่ 95W รองรับการทำงานของแรม DDR4 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ SenseMI Technology ในหน่วยประมวลผลของซีพียู AMD Ryzen ทุกรุ่น โดยรุ่นที่ผมนำมารีวิวในรุ่น AMD R7 1700X นั้นจะมีความเร็วอยู่ที่ 3.4Ghz ซึ่งจะใช้ซ๊อกเก็ต AM4 ทั้งหมด โดยชิบเซ็ตของเมนบอร์ดที่จะใช้งานนั้นจะมีด้วยกัน 5รุ่นด้วยกันก็คือ X370 , B350 , A320 , X300 , A300 ลดหลั่นกันลงไป แต่ขนาดของตัวซีพียูนั้นก็ใกล้เคียงหรือจะเรียกว่าเท่ากับรุ่นก่อนหน้าอย่างบรรดา AM3 ก็ว่าได้ครับ แต่จำนวนขานั้นจะมีขนาดที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ถ้าดูในโปรแกรม CPU-Z จะขึ้นโชว์ที่จำนวน 1331ขาครับ โดยทาง AMD RYZEN นั้นการันตีความแรงที่เพิ่มขึ้นจากเดิม (Streamroller และ Excavator) ถึง 40เปอร์เซ็นกันเลยทีเดียว ในช่วงแรกที่ทำการเปิดตัวรุ่นกันออกมาจะเห็นว่าทาง AMD ได้ใช้ชื่อเรียกว่า “Zen” สั้นๆก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น RYZEN ในภายหลัง โดยซีพียู AMD RYZEN ที่ออกมาจำหน่ายนั้นมีด้วยกัน 3รุ่น ก่อนในช่วงเปิดตัวก็คือ AMD R7 1800X , AMD R7 1700X , AMD R7 1700 ในส่วนรุ่นเล็กก็จะออกตามมาในไม่ช้าครับ และสำหรับชุดระบายความร้อนก็ใช้ชุดใหม่ทั้งหมดที่เป็น Wraith รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีด้วยกัน 3รุ่น ได้แก่ Stealth , Spire , Max โดยในรุ่นท๊อปและรองท๊อปจะมีไฟ RGB แสดงผลอย่างสวยงามให้อีกด้วย นี่คือข้อมูลคร่าวๆสำหรับบทความในวันนี้ครับ ส่วนรายละเอียดแบบเชิงลึกเราไปชมต่อในด้านล่างแบบละเอียดกันเลยครับ

INTRODUCTION

ในช่วงเปิดเผยข้อมูลในช่วงแรก AMD ได้ใช้ชื่อซีพียูรุ่นใหม่ว่า Zen ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น RYZEN ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยความแรงที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 40เปอร์เซ็นและการใช้พลังงานที่ลดลงอีกด้วย

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง SenseMI Technology ที่อยู่ใน AMD RYZEN โดยแบ่งการทำงานเป็น 5อย่างใน SenseMI ครับ

Pure Power - เป็นระบบที่ทำการตรวจสอบการใช้พลังงานในแต่ละส่วนของซีพียูซึ่งจะมีเซนเซอร์อยู่ด้วยการหลายจุดกว่า 100ตัวครับและจะทำหน้าที่ส่งข้อมูลต่อไปยัง Precision Boost

Precision Boost - เป็นระบบคำนวณผลของการใช้พลังงานของซีพียูว่าจะเพิ่มหรือลดความเร็วสัญญาณนาฬิกา โดยจะเพิ่มขึ้นทีละ 25MHz จนถึงลิมิตสูงสุดตามที่ระบบจะคำนวณในเรื่องของพลังงานและความร้อนที่ใช้งาน

Extended Frequency Range (XFR) - ฟีเจอร์นี้ก็จะเหมือนกับพวกเทอร์โบบูตนั่นเองครับ ซึ่งซีพียูที่ลงท้ายด้วย X ของ AMD RYZEN นั้นจะมีฟีเจอร์นี้อยู่ก็คือระบบจะปรับความเร็วให้เลยเพดานสูงสุดยกตัวอย่าง Base Clock เริ่มที่ 3.4Ghz -3.8Ghz ถ้าระบบระบายความร้อนดีและระบบตรวจสอบแล้วว่าทำงานได้ XFR ก็จะปรับความเร็วไปเกินที่ 3.8Ghz ตามการระบายความร้อนของตัวซีพียูหรืออธิบายง่ายๆก็คือยิ่งทำให้ซีพียูเย็นมากเท่าไหร่ระบบ XFR ก็จะปรับความเร็วให้สูงขึ้นมากให้แบบอัตโนมัตินั่นเองครับ

Neural Net Prediction - เป็นระบบอัจฉริยะที่เป็นการคำนวณแอพพลิเคชั่นในอดีตเพื่อปรับใช้กับแอพพลิเคชั่นในอนาคตให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นครับ

Smart Prefetch - เป็นระบบที่ทำงานคู่กับ Neural Net Prediction โดยเป็นการเตรียมข้อมูลให้พร้อมใช้งานจากการคำนวณที่ผ่านมาของ Neural Net Prediction นั่นเองครับ

การทำงานของ XFR ที่ความเร็วจากเดิม 3.5Ghz เพิ่มเป็น 4.1Ghz จากการคำนวณของระบบต่างๆ

ความหมายของตัวย่อ X ในด้านท้ายของรุ่นก็คือ Performace ที่มีทั้งค่า Base Clocks ที่สูง Boost Clocks ที่สูงรองรับการทำงานของระบบ XFR และใช้งานกับเมนบอร์ดในรุ่น X370 จะได้ประสิทธิภาพเต็มที่นั่นเองครับ

สถาปัตย์ในการออกแบบคือเน้นความเร็วแบรนด์วิธที่สูงในจำนวนคอร์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งต่างจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพนั้นแรงกว่าคู่แข่งในการทดสอบการเรนเดอร์ครับ

แน่นอนครับว่า AMD RYZEN นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะทาง แต่มันสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นงานเรนเดอร์ 3D , VR , การทำงานที่หลากหลาย , ตัดต่อวีดีโอ ,  เกมส์มิ่ง , การจำลองต่างๆ , และการพัฒนากราฟฟิก API เรียกได้ว่าใช้งานได้ครบถ้วนสมบรูณ์จริงๆครับ

การเรนเดอร์ด้วยโปรแกรม Cinebench นั้น ด้วยการทำงานเพียง 1คอร์ก็สามารถสร้างประสิทธิภาพได้เทียบเท่าซีพียูคู่แข่งที่มีราคาสูงกว่า

แต่ถ้าเรนเดอร์พร้อมกันทั้ง 8คอร์แล้วนั้น AMD RYZEN ทิ้งคู่แข่งค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ

ในด้านเกมส์มิ่งความละเอียด 4K นั้น AMD RYZEN ก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกันครับ สร้างเฟรมเรตได้สูงใกล้เคียงคู่แข่งเลยทีเดียว

เมื่อเทียบราคาวางจำหน่ายแล้วนั้น AMD RYZEN ทั้ง 3รุ่น ราคาถูกกว่ามากและประสิทธิภาพดีกว่าครับ

AMD RYZEN กับการอธิบายที่ไปที่มาของชื่อรุ่นกับความเป็นมาของรหัสการทำงานต่างๆครับ X ต่อท้ายก็คือ XFR ตัวเลขก็คือเจนเนอร์เรชั่น รุ่นบอกถึงความแรง

เมนบอร์ดที่รองรับการทำงานของ AMD RYZEN ก็เป็นเมนบอร์ดที่เป็นซ๊อกเก็ตใหม่ล่าสุด AM4 ที่ใช้แรม DDR4 , PCie Gen3 , NVMe / USB 3.1 Gen2 /SATAe , และรองรับซีพียู Athlon Gen 7th APU อีกด้วยครับ ไม่ธรรมดาจริงๆ

ชิบเซ็ตของเมนบอร์ดในแต่ละรุ่นมีตั้งแต่  X370 , B350 , A320 , X300 , A300 ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม

ซีพียู AMD RYZEN นั้นเป็นแบบ Unlocked ก็คือตัวคูรอิสระนั่นเองครับ เหมาะกับนักโอเวอร์คล๊อกไม่ว่าจะรุ่นต่ำสุดหรือรุ่นท๊อปสามารถปรับตัวคูณได้อิสระแต่เมนบอร์ดที่สามารถปลดล๊อกตัวคูณหรือเหมาะกับการโอเวอร์คล๊อกก็จะเป็นชิบเซ็ต X370 , X300 , B350 ครับ ซึ่งจะแตกต่างจากคู่แข่งที่ต้องเป็นรุ่น K เท่านั้น

ฟีเจอร์ของบรรดาเมนบอร์ดในชิบเซ็ตต่างๆ ในรุ่นกลางไปหาใหญ่สุดฟีเจอร์ก็จะเยอะครับลดหลั่นกันลงไป

ความแรงในการทดสอบบรรดาความแรง Storage ต่างๆนั้นแรงสูสีคู่แข่งเลยครับทั้ง NVMe (PCIe) และ SATA 6Gbps

สำหรับนักโอเวอร์คล๊อก AMD มีฟีเจอร์โอเวอร์คล๊อกใหม่ล่าสุดออกแบบมาเพื่อ AMD RYZEN โดยเฉพาะครับ ในชื่อ AMD RYZEN Master Utility

ในส่วนของ Memory นั้น AMD RYZEN ก็ได้ใช้แรมแบบ DDR4 ซึ่งรองรับการทำงานสูงถึง 4000Mhz กันเลยทีเดียวครับ ถ้าแรมไปถึง

ชุดระบายความร้อนแบบใหม่ AMD WRAITH รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีด้วยกัน 3รุ่น ได้แก่ Stealth , Spire , Max , มีไฟ RGB สวยงามให้อีกด้วยครับ

โดยในแต่ละรุ่นก็จะมีประสิทะิภาพแตกต่างกันตามความแรงของซีพียู โดยเสียงรบกวนนั้นอยู่ประมาณ 28 , 32 , 38dBA เท่านั้นเองครับ

สีสรร RGB ที่สวยงามของ AMD WRAITH รุ่นใหม่ล่าสุด สามารถที่จะใช้ตกแต่งได้เลยครับ

การใช้งานกับบรรดางาน Workstation นั้นก็ทำได้ดีเยี่ยมครับ

การใช้งานกับบรรดาเกมส์มิ่งต่างๆทั้ง DX11 /DX12 ก็ลื่นไหลสมบรูณ์แรงทุกเกมส์ครับ

การใช้งานกับ VR ก็แรงลื่นไหลเช่นกันครับ

ในช่วงเปิดตัวจะเปิดวางจำหน่ายด้วยกันทั้ง 3รุ่นก่อนครับ AMD RYZEN 7 1800X , AMD RYZEN 7 1700X , AMD RYZEN 7 1700 ครับผม

ราคา รุ่น และสเปคการทำงานต่างๆของ AMD RYZEN ที่พร้อมวางจำหน่ายในไทย

เราไปชมรูปร่างหน้าตาของ AMD RYZEN 7 1700X และ ASRock Fatal1ty X370 Professional Gaming กันต่อเลยครับ

AMD RYZEN 7 1700X Appearance

ด้านบนกระดองก็ไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ครับ ถ้าไม่สังเกตุจริงๆนี้ดูไม่ออกครับแต่สถาปัตย์ด้านในนั้นมีขนาดที่เล็กลงเป็นแบบใหม่ทั้งหมด โดยสถาปัตย์ใหม่มีขนาด 14nm FinFET ในชื่อ “Summit Ridge” ในรุ่น AMD RYZEN 7 1700X ความเร็ว 3.4Ghz - 3.8Ghz XFR ด้วยจำนวนคอร์ทั้งหมด 8 คอร์ 16 เทรด และ แคชทั้งหมดรวมกัน L2+L3 ถึง 20 MB อัตราการบริโภคไฟอยู่ที่ 95W รองรับการทำงานของแรม DDR4 ครับ

จำนวนของขาซ๊อกเก็ตนั้นอยู่ที่ 1331ขาครับ ขนาดของขานั้นจะเล็กลง

เมื่อเปรียบเทียบกับ AM3+ จำนวนพื้นที่ของช่องขานั้นจะดูลดลง แต่ถ้าสังเกตุดีๆขนาดของขานั้นเล็กลงกว่าเดิม แต่ขนาดของซีพียูนั้นเท่ากับ AM3+ เลยครับ

.

ASRock Fatal1ty X370 Professional Gaming Appearance

เมนบอร์ดที่นำมาทดสอบร่วมวันนี้ก็คือ ASRock Fatal1ty X370 Professional Gaming ครับ

มาในแนวเกมส์มิ่งสีดำสลับแดง สวยงามมากๆครับ

ขนาดของเมนบอร์ดอยู่ที่ ATX Form Factor: 12.0-in x 9.6-in, 30.5 cm x 24.4 cm

เฟสไฟเป็นแบบ 16 Power Phase design ด้วยภาคจ่ายไฟแบบ IR Digital PWM รองรับการทำงาน 300W EX OC , ASRock Hyper BCLK Engine II และใช้งานได้กับซีพียู AMD AM4 Socket Ryzen Series CPUs (Summit Ridge) ทั้งหมดครับ

ฮีตซิงค์เป็นสีแดงสวยงาม มีโลโก้ X370 เด่นเลยครับ

รองรับแรม DDR4 2667/2400/2133 ECC & non-ECC, un-buffered memory ความจุสูงสุดอยู่ที่ 64GB และสล๊อตแรมทุกช่องเป็นแบบ 15μ Gold Contact in DIMM Slots ชุบทอง 15เค ให้แบบเต็มๆเลยครับ

ชิบเซ็ตเป็น AMD Promontory X370 ประกอบด้วยฮีตซิงค์สีแดงสดใสด้วยโลโก้ Fatal1ty ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง ASRock

สวิตช์ปุ่มต่างๆก็มีมาให้ครบครันครับทั้งปุ่ม Power , Reset , Debug Code

ช่อง SATA ประกอบด้วย  8 x SATA3 6.0 Gb/s Connectors , 2 x SATA3 6.0 Gb/s Connectors by ASMedia ASM1061 , 1 x Ultra M.2 Socket (M2_1), supports M Key type 2242/2260/2280 M.2 SATA3 6.0 Gb/s module and M.2 PCI Express module up to Gen3 x4 (32 Gb/s) , 1 x M.2 Socket (M2_2), supports M Key type 2230/2242/2260/2280 M.2 PCI Express module up to Gen2 x4 (20 Gb/s)ให้มาเพียบเลยครับ

สล๊อตต่างๆ มี ให้กันมาใช้ได้ครับประกอบด้วย  2 x PCI Express 3.0 x16 Slots , 1 x PCI Express 2.0 x16 Slot ,  2 x PCI Express 2.0 x1 Slots , 1 x Vertical M.2 Socket (Key E) with the bundled WiFi-802.11ac module (on the rear I/O) ครับ และสล๊อต PCIE2 นั้นชุบทอง 15μ Gold มาให้ด้วยครับ สล๊อต PCIe นั้นเป็น PCI-E STEEL SLOTS เป็นโลหะป้องกันอย่างดีครับ ทนทานต่อการใช้งานในการติดตั้งการ์ดจอและป้องกันอันตรายต่อการใช้งานต่างๆหัก งอ ฯลฯ

M.2 สล๊อตมีมาให้สองช่องครับเป็นแบบ Dual M.2 For SSD PCIe Gen3 x4 Ultra M.2

ชุดซาวด์ประกอบด้วย Creative Sound Blaster™ Cinema 3 จัดเต็มสำหรับเกมส์เมอร์

มาดูพาแนลด้านหลังกันบ้างครับประกอบด้ว 2 x Antenna Ports , 1 x PS/2 Mouse/Keyboard Port , 1 x Optical SPDIF Out Port , 1 x USB 3.1 Type-A Port (10 Gb/s) (Supports ESD Protection) , 1 x USB 3.1 Type-C Port (10 Gb/s) (Supports ESD Protection)* , 6 x USB 3.0 Ports (Supports ESD Protection)** , 2 x RJ-45 LAN Ports with LED (ACT/LINK LED and SPEED LED) , 1 x Clear CMOS Switch ,  HD Audio Jacksย  ให้มาแบบเต็มพิกัดเลยครับ

PCB ด้านหลังสีดำสนิทครับ

ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ

...

Test Setup

SYSTEMS
.CPU	..AMD RYZEN 7 1700X
.Thermal Grease
.Motherboard	. ASRock Fatal1ty X370 Professional Gaming
.Memory	..G.Skill Trident Z DDR4 3600Mhz
.Graphic Card	. HIS RX480
.Harddisk	. Plextor M6 512GB
.CPU Cooler	..Air Cooling
.Power Supply	..Thermaltake 1500W
.Operation System	..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น AMD RYZEN 7 1700X ตัวใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับกราฟฟิกการ์ดตัวแรงอย่าง AMD RX480 ตัวแรงครับ

บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ

CPU-Z

ในการทดสอบซีพียู AMD RYZEN 7 1700X ความเร็วซีพียูอยู่ที่ Base Clocks 3.4Ghz - 3.8Ghz NB Fre 1066Mhz บัสแรม DDR4 2133Mhz CL15-15-15-36-51 2T เป็นสเปคเดิมๆมาจากโรงงานกันเลยครับ ซึ่งไบออสนั้นยังเป็นเบต้าอยู่ใช้สำหรับทดสอบเท่านั้นหรือพูดง่ายก็คือมันยังไม่สมบรูณ์เท่าที่ควรนั่นเองครับ โดยผมจะทดสอบแบบทั้งเดิมๆและผลโอเวอร์คล๊อกในช่วงท้ายให้ท่านชมแบบละเอียดยิบกันไปเลยครับสำหรับวันนี้ ส่วนการ์ดจอนั้นเป็น AMD RX480 ตัวแรงที่ใช้ทดสอบร่วมในวันนี้ครับ

รายละเอียดจาก AIDA64

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1MB

SuperPI 32MB

HyperPI 32M 4Thread

สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 11.158วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 10นาที 4.411วินาที  HyperPI 32MB ก็ผ่านหมดแรงแบบนิ่งๆใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพครับ เฉลี่ยราวๆ 22 นาทีต้นๆ ทั้ง 8เทรด ทำได้ดีเยี่ยมครับกับการทดสอบความมีเสถียรภาพของระบบในเบื้องต้น จะเห็นได้ชัดครับว่าความเร็วของโปรแกรม SuperPI ซีรี่ย์ทั้งหมดเร็วขึ้นมาอย่างน่าตกใจเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับ AMD ในรุ่นที่ผ่านๆมาที่จะช้ากันเป็น 20วินาทีหรือโอเวอร์คล๊อกแล้วก็อยู่เพียง 10ปลายๆหรือกลางๆเท่านั้นเองครับ เรียกได้ว่า AMD RYZEN นั้นปรับดฉมความแรงใหม่หมดจากเดิมเลยทีเดียว

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.09 , CPUMark99 WINRAR 5.0 & Fritz Chess Benchmark

X264 FHD

ผลทดสอบ โดยรวม X264 กดกันไป 44.01FPS ส่วน Fritz Chess อยู่ที่ 36.95 และ Winrar อยู่ที่ 8831KB/s แรงมากจนน่าตกใจครับ โดยเฉพาะคะแนน X264

Corona 1.3 Benchmark

AIDA64 Extreme

AIDA64 Cache & Memory Benchmark

AIDA64 MEM ค่า Memory Read, Write ก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยมเลยครับอยู่ที่ Read 32382MB/s และ Write 332076MB/s แรงดีทั้งอ่าน/เขียนเลยครับ สมกับเป็นแรม DDR4 แต่ค่า latency ยังสุงอยู่อาจเป็นเพราะโปรแกรมยังไม่ซัพพอตการทำงานดีเท่าที่ควร ถ้าเป็นเวอร์ชั่นใหม่อาจเห็นคะแนนที่ดีกว่านี้ก็เป็นได้ครับ

เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ

Cinebench 10

Cinebench 11.5

Cinebench 15

Cinebench นี้ทำเอาผมตกใจอย่างมากครับเรนเดอร์กันได้เร็วมากๆ สมกับที่ทาง AMD การันตีไว้เลยครับว่าแซงคู่แข่งได้สบายๆกับประสิทธิภาพการเรนเดอร์ แต่คะแนน 1หัวนั้นก็อาจจะสูสีหรือน้อยกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง แต่ถ้าหัวรวมนี่แรงสะใจจริงๆครับ

เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ

PCMark7

PCMark7 อยู่ที่ 7898คะแนน

PCMark8

PCMark8 อยู่ที่ 4463คะแนน แรงมากครับ

3DMark05

3DMark05 โปรแกรมเก่าก้รันได้แรงเช่นกันครับ 34597คะแนนกันเลย

3DMark06

3DMark06 ก็แรงเช่นกันครับ 29861คะแนน

3DMark Vantage

3DMark Vantage คะแนนอยู่ที่ 38676คะแนน แรงมากๆครับ

3DMark11

3Dmark11 อยู่ที่ 15107ะแนน แรงเยี่ยมเลยครับ

3DMark 2013

3DMark แรงทุกการทดสอบครับ Fire Strike กดไปทะลุ 10508คะแนนแรงสุดๆ เช่นกันครับ

Heaven 4.0 ก็รันได้ลื่นไหลครับ 50เฟรมเรตสบายๆ

เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คลีอกกันต่อเลยครับ

เรามาชมผลทดสอบการดอเวอร์คล๊อกกันเลยครับกับ AMD RYZEN 7 1700X ซึ่งวันนี้ผมก็ทำเท่าที่ทำได้กับการดอเวอร์คล๊อกความแรงที่อาจจะไม่สมบรูณ์นักในเรื่องของไบออสเมนบอร์ดที่ยังเป็นตัว Beta อยู่รวมไปถึงซอฟแวร์ต่างๆด้วยนั่นเองครับ ซึ่งความเร็วที่ทำได้นั้นอยู่ที่ 3.9Ghz แบบใช้งานได้จริงอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งผลความแรงที่ออกมานั้นก็น่าประทับใจอย่างมากครับเมื่อเทียบกันกับผลทดสอบเดิมๆกับคะแนนที่เพิ่มขึ้นมา เราไปชมกันเลยครับกับผลทดสอบโอเวอร์คล๊อก AMD RYZEN 7 1700X

Overclock

ผลการทดสอบก็สามารถที่จะโอเวอร์คล๊อกกันที่ความเร็ว 3.9Ghz แบบเต็มๆ ส่วนบัสแรมและบัสซีพียูนั้นยังเล่นไม่ได้ครับเนื่องจากไบออสยังไม่สมบรูณ์นั่นเอง แต่ในความเร็ว 3.9Ghz นั้นความแรงจะเพิ่มขึ้นมากน้อยขนาดไหนเราไปชมกันเลยครับ

HyperPI 32M 4Thread

สำหรับชุด HyperPI 32MB ก็ผ่านหมดแรงแบบนิ่งๆใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพครับ เฉลี่ยราวๆ 21 นาทีต้นๆ ทั้ง 8เทรด ทำได้ดีเยี่ยมครับกับการทดสอบความมีเสถียรภาพของระบบในความเร็ว 3.9Ghz

X264 FHD

ผล ทดสอบ โดยรวม X264 กดกันไป 49.19FPS แรงขึ้นมากมายเลยครับ สุดยอดจริงๆ

Cinebench 15

Cinebench ก็ทำได้ดีครับกับการเรนเดอร์ซีพียูทั้ง 1หัวและ 4หัว เรนเดอร์กันได้ดีแรงมากๆครับ อยู่ที่ 1682คะแนนกันเลยครับ สุดๆจริงกับคะแนนที่เพิ่มขึ้นมา

PCMark 8

ผลทดสอบด้านกราฟฟิกก็แรงมากเช่นกันครับ ทำได้ดีเลยทีเดียว

เราไปชมผลทดสอบแบบอัดกันสุดๆส่งท้ายดูครับว่า AMD RYZEN 7 1700X จะไปได้ไกลมากน้อยขนาดไหน

ในการทดสอบส่งท้าย เรามาดูการรีดพลังของ AMD RYZEN 7 1700X ในการโอเวอร์คล๊อกกันครับว่าจะทำได้ไกลมากน้อยขนาดไหนกับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา ซึ่งเมนบอร์ดที่เราใช้ไบออสค่อนข้างจะสมบรูณกว่านั่นก็คือ ASUS ROG CROSSHAIR VI HERO เราไปชมกันเลยครับว่าจะแรงเพิ่มมากน้อยขนาดไหน

Maximum Overclock

กดกันด้วย ASUS ROG CROSSHAIR VI HERO ความเร็วที่ได้ 4.14Ghz แบบสบายๆครับและยังเล่นบัสได้อย่างง่ายๆอีกด้วย บัสแรมทะลุ 3100Mhz สบายๆครับ ซึ่งถ้าได้แรมและไบออสที่แมตกันกับ AMD RYZEN ผมเชื่อว่าลากกระจายกว่านี้แน่นอน

SuperPi 1MB กดทะลุ 10.297วินาทีได้สบายๆเลยครับ เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

SuperPi 32MB อยู่ที่ 8นาที 50.564วินาที เร็วสุดๆเลยครับ

ลองกดโอเวอร์คล๊อกกันแบบสุดๆกับระบบน้ำธรรมดา จัดไปที่ความเร็ว 4.21Ghz ครับ 145×29 บัสแรม 3100Mhz แบบเต็มๆครับ

SuperPI 1MB ลงไปที่เวลา 9.969วินาทีแล้วครับ ซึ่ง AMD สามารถลงเลขตัวเดียวได้แล้วครับกับการโอเวอร์คล๊อกแบบธรรมดาในการทดสอบ SuperPI 1MB เห็นแล้วน้ำตาจะไหลจริงๆไม่น่าเชื่อว่า AMD จะทำได้ครับ แรงเร็วใครจะมาบอกว่า AMD เทส SuperPi ช้านี่ต้องพูดใหม่แล้วครับสำหรับ AMD RYZEN

เรามาชมผลทดสอบของแรมกันบ้างครับในการอ่านและเขียน ซึ่งตัวผมเองก็ตกใจมากๆกับผลคะแนนที่ออกมากับบัสแค่ 3100Mhz ที่ค่าการอ่าน/เขียนอยู่ที่ 49323MB/s , 46972MB/s ซึ่งผลคะแนนความเร็วขนาดนี้ Intel ต้องลากกันไปที่บัส 4000Mhz+ ถึงจะได้คะแนนราวๆนี้ แต่ AMD RYZEN กดไปแค่ 3100Mhz ก็ได้ผลความแรงเทียบเท่ากับคู่แข่ง(บัสสูงๆ3900-4000Mhz+) ซึ่งต้องบอกว่าแรงจนน่าตกใจมากๆครับ ผมก็หวังว่าตัวโปรแกรมนั้นไม่ผิดพลาดนะครับ ลองคิดเล่นๆดูครับว่าถ้าอัดกันไปบัส 4000Mhz+ แล้วนั้นคะแนนจะไปอยู่ที่ใด ซึ่งผมเช็คดูในเมนบอร์ดมีครับฟังชั่นอัดไป 4000Mhz+ แต่แรมผมดันไม่ไปเอง เดี๋ยวไว้หาแรมดีๆเข้ากับ RYZEN ได้ ไม่พลาดแน่นอนครับ

เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ

Conclusion

ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ AMD RYZEN 7 1700X ที่วันนี้บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยที่ทาง AMD ได้ใช้เวลาพัฒนาอย่างยาวนานถึง 3ปีเต็มๆ กับ AMD RYZEN นี้ กับผลทดสอบที่ออกมาทำให้ท่านเห็นแล้วว่าดีกว่าบรรดาคู่แข่งจริงๆครับเมื่อเทียบกันแบบรุ่นต่อรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบการเรนเดอร์ต่างๆ การถอดรหัสไฟล์ ประมวลผลต่างๆ โดยรวมส่วนใหญ่แล้วนำคู่แข่งอยู่มากครับ ซึ่งตัวผมเองก็เล่น AMD มาตั้งแต่สมัย AMD K6 จะเห็นได้ว่า AMD นั้นแทบจะตามคู่แข่งอย่างอินเทลมาตลอดในช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาในการผูกขาดในเรื่องความแรงของซีพียู แต่มา ณ ปีนี้ 2017 AMD แสดงให้เห็นแล้วครับว่าจะกลับมาสู้ในเรื่องของประสิทธิภาพความแรงกับอินเทลในแบบซึ่งๆหน้า ซึ่งที่ผ่านมา AMD จะยกจุดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่า ความประหยัด ฟีเจอร์การทำงาน และราคามาต่อกรกับคู่แข่งเป็นหลัก แต่ตอนนี้ AMD นั้นเปิดสู้แบบทุกกระบวนท่าทั้งความแรง ราคาที่ถูกกว่า ฟีเจอร์ การซัพพอตของเมนบอร์ดที่มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญซีพียูทุกรุ่นของ AMD RYZEN นั้นปลดล๊อกตัวคูณอย่างอิสระทุกตัวนั่นก็หมายความว่าโอเวอร์คล๊อกกันได้ทุกตัวนั่นเองครับ มาดูในส่วนของฟีเจอร์ที่สำคัญอย่าง SenseMI Technology ที่มีอยู่ในหน่วยประมวลผลของซีพียู AMD Ryzen ทุกรุ่นทั้งรุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่กับฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่าง XFR ที่คำนวณผลการทำงานในตัวและเพิ่มความแรงให้แบบอัตโนมัติถือเป็นจุดเด่นหลักของ AMD RYZEN เลยก็ว่าได้ครับถือได้ว่า AMD ทำการบ้านมาได้ดีมากครับสำหรับบรรดาฟีเจอร์ใหม่ๆ กล่าวคือทดลองกับซีพียูในรุ่นที่ผ่านๆมาแล้วจึงออกมาเป็น SenseMI ที่อยู่ใน RYZEN ในปัจจุบันซึ่งผมได้อธิบายไว้อย่างละเอียดแล้วในขั้นต้น รวมไปถึงชุดระบายความร้อนใหม่อย่าง Wraith ที่ติดตั้งไฟ RGB อย่างสวยงามเอาไว้ให้ใช้งานอย่างดี ดูแล้วก็น่าจะเป็นซีพียูซีรี่ย์แรกเลยก็ว่าได้ครับที่แถมซิงค์แบบ RGB มาให้ ในส่วนเรื่องของความแรงนั้นจะมีบททดสอบให้ท่านได้ชมแน่ๆครับเนื่องจากของทดสอบยังไม่มาถึง หลายๆท่านอาจจะสงสัยในเรื่องของซ๊อกเก็ต AM4 ว่าสามารถจะใช้ร่วมกับ AM3+ ได้หรือไม่อันนี้ต้องแนะนำเลยนะครับว่าบางรุ่นอาจจะไม่ได้หรือเรียกว่าไม่ได้เลยก็ได้เพราะขนาดของรู AM4 จะยาวกว่า AM3+ อยู่เล็กน้อยครับ แต่ก็มีเมนบอร์ดบางรุ่นของ AM4 ที่ทำช่องสำหรับใส่ AM3+ ไว้ให้ด้วยท่านก็เช็คดูกันอีกรอบนึง ส่วนของการเชื่อมต่อสล๊อต PCIe นั้นเป็นแบบ Gen3 นะครับ ซึ่งก็อัพเกรดจาก AM3+ ที่เป็น Gen2 เพิ่ม NVMe / USB 3.1 Gen2 /SATAe , และรองรับซีพียู Athlon Gen 7th APU อีกด้วย ถ้ามองแล้วในอนาคต AMD ออกซีพียู APU ออกมาจะสามารถใช้กับเมนบอร์ดซ๊อกเก็ต AM4 ได้เลยหรือไม่ แต่เท่าที่ผมดูแล้วอาจจะใช้ APU ในตัวได้ด้วยครับเพราะเมนบอร์ดในบางรุ่นมีพอตต่อออกไปยังจอพวก HDMI อยู่ด้วย ดูแล้วก็น่าจะมีลุ้นใช้งานร่วมกับ APU ได้อีกด้วยครับ ส่วนพวกซีพียูตระกูล Athlon Gen 7th APU ที่ไม่มี IGPU อยู่นั้นก็น่าจะใช้ซีพียูทำงานแล้วใส่การ์ดจอเพิ่มเข้าไปนั่นเองครับ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ส่วนตัวของผมเองจากที่เห็นการรองรับ Athlon Gen 7th APU ที่มีตามข้อมูลออกมา ถ้าเป็นไปตามที่ผมคาดเอาไว้ AMD ก็จะยังคงความคุ้มค่าแบบสุดๆเมนบอร์ดหรือซีพียูเดียวสามารถใช้ร่วมกันได้หมดอย่างหลากหลายคุ้มค่าเอามากๆเลยครับ มาดูในส่วนของการโอเวอร์คล๊อกซึ่งท่านก็ได้เห็นแล้วครับว่าประสิทธิภาพความแรงนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเลยครับเมื่อเทียบสัดส่วนกับความเร็วที่โอเวอร์คล๊อกเพิ่มเข้าไปหรือพูดง่ายๆลากนิดเดียวแต่คะแนนนั้นพุ่งกระฉูดเลยครับ โดยในจุดนี้ผมมองว่าซีพียูอาจจะตันเล่นได้นิ่งๆเท่านี้ด้วยไบออสที่ยังไม่สมบรูณ์หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตามกับผลคะแนนที่ออกมาผมมองว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่งครับ ในส่วนของการใช้แรมนั้นถ้าดูตามสเปคเมนบอร์ดที่บอกเอาก็คงใช่ละครับกับการใช้แรม ECC ร่วมได้ถือเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากครับสำหรับท่านที่จะไปทำบรรดาเครื่องเซิพเวอร์ต่างๆหรือในงาน Workstation เรียกได้ว่าใช้งานได้ครบวงจรรองรับทั้งเกมส์มิ่งและ Workstation ตามที่ได้บอกกันเอาในสไลด์ครับ สำหรับในวันนี้โดยส่วนตัวที่ผมใช้งานซิสเต็ม AMD มาเป็นเวลานานก็คือเครื่องใช้งานหรือเครื่องทดสอบก็เป็น AMD มาตลอด ต้องบอกได้คำเดียวครับว่า AMR RYZEN นั้นไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพความแรง ฟีเจอร์ต่างๆ และที่ที่สำคัญในเรื่องของราคาที่ในตอนแรกคาดกันเอาไว้สูงแต่พอเปิดตัวจริงๆราคาก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดกันเอาไว้ในตอนแรกครับ โดยราคาอยู่ในไทยในรุ่นท๊อปสุดอย่าง RYZEN 7 1800X อยู่ที่ 189XXบาท ส่วน RYZEN 7 1700X อยู่ที่ 149XXบาท และ RYZEN 7 1700 อยู่ที่ 129XXบาท และก็ยังจะมีรุ่น RYZEN 5 , RYZEN 3 ทยอยกันออกมาอีกในภายหลัง สำหรับเมนบอร์ดก็เป็นอีกประเด็นซึ่งในยุคของ AM3+ นั้นเมนบอร์ดของทางฝั่ง AMD ออกมาน้อยครับเรียกได้ว่าทางฝั่ง FM2+ นั้นยังเยอะและตัวเลือกมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ในยุคของ RYZEN ต้องบอกเลยครับว่าออกมากันเยอะมากจริงๆ จัดเต็มด้วยกัน 5รุ่นด้วยกันก็คือ X370 , B350 , A320 , X300 , A300 ทั้งในรุ่นท๊อปที่เน้นฟีเจอร์แบบจัดเต็มแบบสุดๆ แน่นอนครับว่าทาง Vmodtech.com ของเราก็จะทยอยรีวิวให้ท่านได้ชมกันเรื่อยๆครับ ในส่วนของเกมส์มิ่งรีวิวนี้ผมไม่ได้เทสเอาไว้เลยก็ต้องขออภัยเนื่องจากกรอบเวลาที่จำกัดจะต้องรีบส่งของกลับคืน เดี๋ยวชุดคิทของทาง AMD ส่งมาอย่างเป็นทางการผมจะทดสอบในส่วนของเกมส์มิ่งแบบละเอียดให้ทุกๆท่านได้ชมกันอีกบทความนะครับ แต่ถ้าเราดูในสไลด์ของทาง AMD ที่ส่งมาแล้วนั้นประสิทธิภาพของเกมส์มิ่งทั้ง DX11 , DX12 ก็แรงสูสีไม่แพ้คู่แข่งครับหรืออาจะแซงในบางผลทดสอบก็ต้องรอดูครับว่าในอนาคตถ้าซอฟแวร์ต่างๆเข้าที่แล้วเราอาจเห็นการปลดปล่อยพลังที่มากกว่านี้ก็เป็นได้สำหรับ AMD RYZEN สำหรับการทดสอบซีพียู AMD RYZEN ในวันนี้ก็คงต้องบอกเลยครับว่าคุ้มค่าสำหรับการรอคอยครับ AMD นั้นไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ กับผลทดสอบและคะแนนต่างๆที่ออกมานั้นแรงทุกด้านจริงๆ ซึ่งนับต่อจากนี้ไปการแข่งขันทางด้านความแรงซีพียูคงดุเดือดขึ้นมาอีกครั้งนึงครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามองแล้วจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรามากครับ ในเรื่องของราคาที่ทั้ง AMD และ INTEL ที่น่าจะมาสู้กันอีกครั้งในเรื่องของราคาที่น่าจะลดต่ำลงมาสู้กันอีกรอบ โดยทางอินเทลก็ประกาศลดราคาซีพียูของตนเองลงมาแล้วในช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นผลดีต่อบรรดาสาวกทั้งสองค่ายล่ะครับและยังเป็นตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นในการใช้งานอีกด้วย สุดท้ายนี้ผลทดสอบที่ออกมาก็น่าจะทำให้บรรดาสาวก AMD นั้นถูกใจไม่มากก็น้อยล่ะครับกับพลังความแรงของ RYZEN ที่ได้แสดงออกมาได้อย่างน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นก้าวสำคัญของทาง AMD ที่พัฒนาซีพียูได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งต่อไปผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆ จะมีตัวเลือกซีพียูที่ทรงพลังและประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้นและหนึ่งในตัวเลือกนั้นต้องมี AMD RYZEN ในการพิจารณาอยู่ด้วยแน่นอนครับ แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

..

…

…

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

.

Special Thanks.

AMD ,

ASRock

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!