สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้เรามาชมรีวิวซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง AMD ในรุ่นที่ใครหลายๆคนรอคอยกับซีพียูในรุ่นที่ 2 ในรุ่น AMD RYZEN 2nd Gen โดยรุ่นที่จะนำมารีวิวให้ท่านได้ชมก็คือ AMD RYZEN 7 2700X นั่นเองครับ ที่วันนี้ทางเว็บไซต์ Vmodtech ของเราได้มีโอกาสเปิดตัวให้ท่านชมทั้งหมดด้วยกันทั้ง 3รุ่นก็ํคือ AMD RYZEN 7 2700X , AMD RYZEN 7 2700 และ AMD RYZEN 5 2600X โดยเป็นซีพียูในซีรี่ย์ AMD Ryzen 2000 Series ครับมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ZEN+ สถาปัตย์ขนาด 12nm FinFET ในรหัสโค๊ดเนม Pinnacle Ridge พร้อมเมนบอร์ดในรุ่นใหม่ล่าสุดในชิบเซ็ต X470 ซ๊อกเก็ตเป็น AM4 โดยสเปกของ AMD RYZEN 7 2700X ที่ผมจะนำมารีวิวให้ท่านได้ชมกันถือเป็นรุ่นท๊อป mainstream-desktop (MSDT) ของรุ่น ณ เวลานี้เลยครับ โดยมีจำนวนคอร์อยู่ที่ 8Core 16Threads ความเร็วอยู่ที่ Base Clock 3.7GHz Max Boost Clock 4.3GHz Total L2 Cache:4MB Total L3 Cache:16MB แรม DDR4 2933Mhz อัตราการบริโภคไฟอยู่ที่ 105W TDP ใช้ฮีตซิงค์ระบายความร้อน Wraith Prism with RGB LED รุ่นใหม่ล่าสุด โดยเทคโนโลยีที่ให้มานั้นก็จัดเต็มด้วย AMD StoreMI Technology , AMD SenseMI Technology , AMD Ryzen Master Utility พร้อมใช้งานกันเลยครับ ในส่วนของซีพียู AMD RYZEN 2nd Gen นั้นเป็นการพัฒนาต่อเนื่องจาก RYZEN รุ่นที่ 1 สเปกหลักที่เพิ่มเข้ามาก็คือจำนวนแคสรวมทั้งหมด 20MB จากเดิมในรุ่นแรกมีแค่ 16MB และสเปกความเร็วเมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่นแล้ว Ryzen รุ่นที่2 นั้นจะมีความเร็วที่สูงกว่าเดิมครับ รวมทั้งการพัฒนาของระบบ AMD SenseMI technology ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพของตัวซีพียูนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ โดยทาง AMD ได้ทำการวางจำหน่ายซีพียู AMD RYZEN 2nd Gen ทั้งหมด 4รุ่นด้วยกันครับ ได้แก่ AMD RYZEN 7 2700X , AMD RYZEN 7 2700, AMD RYZEN 5 2600X , AMD RYZEN 5 2600 ในส่วนของเมนบอร์ดนั้นก็ยังใช้ซ๊อกเก็ตเดิมก็คือ AM4 อยู่เช่นเดิมครับ ในการทดสอบวันนี้ทางเราได้ซีพียูมาทั้งหมด 3รุ่นจาก 4รุ่น ทำการทดสอบแแบบจัดเต็มอย่างละเอียดให้ท่านได้ชมกันเหมือนเช่นเคยครับ จะแรงขนาดไหนก่อนอื่นเราไปชมรายละเอียดแบบเชิงลึกต่อในข้อมูลด้านล่างกันเลยครับ

INTRODUCTION

วันนี้เป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกซีพียู AMD RYZEN 7 2700X , AMD RYZEN 7 2700 และ AMD RYZEN 5 2600X รุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็น RYZEN ในรุ่นที่ 2 เปิดตัวในปี 2018 นี้นั่นเองครับ

ในการเปิดตัวนั้นทางเอเอ็มดีส่งซีพียูออกมาพร้อมกันทั้งหมด 4รุ่นครับ นั่นก็คือ AMD RYZEN 7 2700X และ AMD RYZEN 5 2600X ที่เป็นรุ่น X และ AMD RYZEN 7 2700 และ AMD RYZEN 5 2600 ที่เป็นรุ่น NON X ออกมาสู่ตลาด โดยราคาวางจำหน่ายในรุ่นท๊อปสุดอย่าง RYZEN 7 2700X อยู่ที่ 329ดอลล่าสหรัฐฯครับ และรุ่นต่ำสุดก็คือ RYZEN 2600 อยู่ที่ 199ดอลล่าสหรัฐฯเท่านั้นเองครับ

ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ZEN+ สถาปัตย์ขนาด 12nm FinFET ในรหัสโค๊ดเนม Pinnacle Ridge ที่ีมาพร้อมกับเทคโนโลยี AMD SenseMI Technology ช่วยให้ซีพียูทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เมนบอร์ดในรุ่นใหม่ชิบเซ็ต X470 ที่ใช้งานรองรับเป็นแพลตฟอร์ม AM4 ครับ ใช้กันแบบยาวๆคุ้มค่าเลยครับ AM4 ซึ่งดูแล้วน่าจะรองรับซีพียูในรุ่นเก่าๆได้สบายๆครับ

มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ZEN+ สถาปัตย์ขนาด 12nm กับเมนบอร์ด X470 และบรรรดาเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง AMD StoreMI Technology ครับ

ในส่วนของฟีเจอร์เทคโนโลยีการทำงานโดยมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง AMD StoreMI Technologyที่ช่วยให้หน่วยเก็บข้อมูลอย่างบรรดา Storage ต่างๆนั้นทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับซอฟแวร์ที่ใช้งานง่ายในการควบคุมการทำงานครับ

ระบบเทคโนโลยีต่างๆก็มีมาให้ทั้ง AMD StoreMI Technology , AMD SenseMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility พร้อมรองรับและใช้งานได้อย่างสมบรูณ์ครับ

AMD Ryzen 7 2700X นั้นแถมฮีตซิงค์ที่ใช้งานเป็น Wraith Prism with RGB LED รุ่นใหม่ล่าสุดครับ สีสรรสวยงามถูกใจสาวก AMD แน่นอน

สเปกข้อมูลของบรรดาซีพียู RYZEN ในรุ่นที่ 2 ครับ

ตัวกล่องนั้นใหญ่โตเมื่อแกะออกมาแล้วก็จะมีซีพียู 2ชุด AMD RYZEN 7 2700X และ AMD RYZEN 5 2600X เมนบอร์ด ASRock X470 Taichi Ultimate , GIGABYTE X470 AORUS GAMING 7 WIFI แรม G.SKILL SNIPER X 1ชุดครับ

เมื่อเปิดออกมาก็จะมีบรรดากล่องซีพียู 2กล่อง RYZEN 7 2700X และ AMD RYZEN 5 2600X พร้อมคู่มือต่างๆครับ

เราไปชมรูปร่างหน้าตาของซีพียู RYZEN 7 2700X กันต่อเลยครับ

AMD RYZEN 7 2700X

กล่องก็จะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้านี้ครับ บอกชื่อรุ่น RYZEN 7 ด้านหน้ากล่องชัดเจน

เรามาดูสเปกของ AMD RYZEN 7 2700X กันครับ จำนวนคอร์ 8คอร์ 16เทรด ความเร็ว 3.7Ghz Max Boost 4.3Ghz จำนวนแคสรวมทั้งหมด Smart Prefetch Cache 20MB อัตราการบริโภคไฟ 105W  มาพร้อมชุดพัดลมระบายความร้อนแบบ Wraith Prism (LED) ที่มีไฟแสดงผลสวยงามเลยทีเดียวครับ

ซ๊อกเก็ตนั้นเป็นแบบขาเหมือนเดิมครับ ใช้งานแบบ AM4 นั่นเองครับ

คู่มือชุดพัดลม Wraith Prism (LED) จะมีเฉพาะรุ่น AMD RYZEN 7 2700X และ AMD RYZEN 7 2700 เท่านั้นครับ

พัดลมระบายความร้อนในรุ่น Wraith Prism (LED) มีสายไฟ USB สองสายในการเชื่อมต่อเข้าเมนบอร์ดครับ

ตัวฮีตวิงค์นั้นก็ดูใหญ่พอสมควรครับ ดูแล้วไม่แตกต่างจากบรรดาซิงค์แต่งเท่าใดนัก

ตัวใบพัดเป็นสีใสครับ ด้านในมีไฟ LED RGB แสดงผล

ตัวฮีตซิงค์นั้นเป็นอลูมิเนียมคลีบบางขนาดนั้นใหญ่พอสมควรเลยครับ

เงาวับด้วยอลูมิเนียมแบบบางเคลือบเงา

หน้าสัมผัสเป็นแบบทองแดงเชื่อมต่อฮีไปป์ฝั่งละสองท่อโดยตรงครับ

สายพิน 4รูเชื่อมต่อกับ CPU FAN

GIGABYTE X470 AORUS GAMING 7 WIFI

เมนบอร์ด GIGABYTE X470 AORUS GAMING 7 WIFI รุ่นใหม่ล่าสุดในซีรี่ย์ AORUS GAMING ครับ

อุปกรณ์ที่ให้มานั้นเยอะมากๆ เดี๋ยวผมลงรายละเอียดในรีวิวฉบับเต็มกันอีกรอบนะครับ แต่ดูกันคร่าวๆคือจัดเต็มสำหรับคอเกมส์มิ่งแน่นอนครับ

ตัวเมนบอร์ดนั้นเน้นโทนสีดำสลับฮีตซิงค์สีส้มสลับขาว การออกแบบนั้นใหม่ทั้งหมดครับไม่เหมือนเดิมเลย สวยงามจริงๆ

ดูการวางรายละเอียดของช่องเชื่อมต่อต่างๆทำได้อย่างลงตัวสวยงามมากๆครับ ทั้งฮีตซิงค์ดูสวยงามใหญ่โต เฟสไฟที่ดูอลังการ สล๊อตแรมที่มีไฟ RGB พร้อมด้านหน้า สล๊อต PCIe ทุกช่องเป็นโลหะทั้งหมดเน้นความทนทาน และช่อง M.2 มีฮีตซิงค์ให้อีกด้วยครับ จัดเต็มจริงๆ

ด้านบนเฟสไฟมีโลโก้ AORUS อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ยครับ

ชิบเซ็ต X470 มีฮีตซิงค์ที่มีโลโก้ AORUS สวยงามโดดเด่นมากๆครับ

อินเตอร์เฟสช่องเชื่อมต่อด้านหลังก็จัดเต็มครับ ให้กันมาแบบครบๆเลยครับ

ด้านหลังเป็น PCB สีดำพร้อมมีแบล๊คเพทด้านหลังสำหรับระบายความร้อนชุดเฟสไฟและป้องกันอันตรายให้อีกด้วยครับ จัดเต็มสุดยอดจริงๆ

เราไปชมแรม G.Skill Sniper X ตัวแรงที่ใช้งานกับ RYZEN 2nd Gen กันต่อเลยครับ

G.Skill Sniper X

มาถึงอุปกรณ์ในชิ้นสุดท้ายครับ นั่นก็คือแรมจะฝั่งแบรนด์ G.Skill ที่ออกแบบมาให้พร้อมใช้งานและรองรับการทำงานซีพียู AMD RYZEN 2nd Gen อย่างสมบรูณ์ครับ ในชื่อรุ่น G.Skill Sniper X ครับ

ดีไซน์การออกแบบมาในแนวลายพรางทหารครับ

มีโลโก้ SNIPER X อยู่ด้านบนดูโดดเด่นเลยครับ

สเปกการทำงาน DDR4 3400Mhz CL16 ไฟเลี้ยง 1.35V ครับ

ด้านบนเป็นลายพรางสีเทาสลับดำและขาว มีโลโก้ G.Skill ที่ด้านบน สวยงามครับ

ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ

...

Test Setup

SYSTEMS
.CPU	..AMD RYZEN 7 2700X
.Thermal Grease
.Motherboard	. GIGABYTE X470 GAMING7 WIFI
.Memory	..G.Skill SNIPER X DDR4 3400Mhz 16GB
.Graphic Card	. GTX 1060
.Harddisk	. Plextor M6PRO 256
.CPU Cooler	..Water Cooling
.Power Supply	..Leadtek Super Flower 1200W Platinum
.Operation System	..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ เมนบอร์ดตัวแรง GIGABYTE X470 GAMING7 WIFI รุ่นใหม่ล่าสุด ซีพียูเป็น .AMD RYZEN 7 2700X ตัวใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มแบบเดิมๆและทดสอบแบบโอเวอร์คล๊อกกันเต็มๆในช่วงท้ายให้ชมอีกด้วยครับ

บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ

CPU-Z

ในการทดสอบซีพียู AMD RYZEN 7 2700X จำนวนคอร์ 8/16Core ความเร็วซีพียูอยู่ที่ Base Clocks 3.7Ghz ความเร็วซีพียูสุงสุดอยู่ที่ 4.3Ghz  บัสแรม DDR4 2933Mhz ซึ่งบัสแรมนั้นจะรองรับในสเปกก็คือ 2933Mhz และยังสามารถโอเวอร์คล๊อกต่อไปกันได้อีกแบบสบายๆ เดี๋ยวมีการทดสอบแบบจัดเต็มให้ท่านได้ชมกันอีกเหมือนเดิมครับ

Overclock

ในผลทดสอบการโอเวอร์คล๊อกในเบื้องต้นที่สามารถใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพ ทำได้ที่ความเร็ว 4.3Ghz บัสแรม DDR4 3466Mhz CL16-18-18-45-81 1T 1.35v ใช้งานได้จริงตลอดการทดสอบครับแรงไม่ธรรมดาเลยครับ เล่นกันที่ 4.3Ghz ได้อย่างสบายๆ

ในส่วนของสเปกการทำงานนั้นตัว AMD RYZEN 7 2700X นั้นเมื่อทำงานแบบเต็มทุกคอร์แล้วซีพียูจะวิ่งที่ความเร็ว 4.05Ghz ตลอดการทดสอบครับ ถือว่าความเร็วสูงสุดนี่ไม่ธรรมดาเลยครับ

GPU-Z

กราฟฟิกการ์ดเป็น GTX 1060 รุ่นเกมส์เมอร์ยอดนิยมครับ

รายละเอียดของซีพียู AMD RYZEN 7 2700X

อัตราการบริโภคไฟของ RYZEN 7 2700X อยู่ที่ 105W ครับ

รายละเอียดจาก AIDA64

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1MB

Overclock

SuperPI 32MB

Overclock

HyperPI 32M 4Thread

Overclock

สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 9.641วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 8นาที 45.151วินาที HyperPI 32MB ก็ผ่านหมดแรงแบบนิ่งๆใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพครับ เฉลี่ยราว 19นาทีทั้ง 16เทรด ทำได้ดีเยี่ยมครับกับการทดสอบความมีเสถียรภาพของระบบในเบื้องต้น ท้งแบบเดิมๆและโอเวอร์คล๊อกครับ เรียกได้ว่าความเร็ว SuperPI เห็นเลขหลักเดียวแล้วครับสำหรับ AMD แรงจริงๆ

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 & Fritz Chess Benchmark

Overclock

Fritz Chess อยู่ที่ 51.97 และ Winrar อยู่ที่ 13083KB/s ครับ แรงสุดๆจริงๆ

CORONA 1.3 BENCHMARK

Overclock

X264 FHD

Overclock

ผลทดสอบ โดยรวม X264 กดกันไป53.52FPS แรงนำหัวแถวเลยครับ โหดจริงๆ

FRYRENDER X64

Overclock

Fryrender ก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพครับ เวลาอยู่ที่ 2.24นาที เร็วแรงเยี่ยมครับ

PerformanceTest 9.0

Overclock

Performacetest 9.0 ก็แรงลื่นไหลครับ คะแนนรวมอยู่ที่ 5413คะแนนกันเลยครับ แรงมากๆ

AIDA64

Overclock

ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียนเลยครับ อยู่ที่ 43639MB/s , 41886MB/s ประสิทธิภาพก็เท่าๆกับบรรดาซีพียูตระกูล RYZEN เลยครับ แรงจริงๆ

เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ

Cinebench 10

Overclock

Cinebench 11.5

Overclock

Cinebench 15

Overclock

Cinebench นี่เรนเดอร์กันได้แรงระดับหัวแถวเลยครับ สุดยอดจริงๆ สาวก AMD มีปลื้มแน่นอนครับ

เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ

PCMark10

Overclock

PCMark10 อยู่ที่ 5725คะแนน แรงจริงๆครับ

3DMark Vantage

Overclock

3Dmark Vantage อยู่ที่ 49574คะแนน แรงเยี่ยมมากครับ

3DMark11

Overclock

3Dmark11 อยู่ที่ 17051คะแนน แรงสุดๆเลยครับอยู่หัวแถวกันอีกแล้ว สุดยอดมากๆ

3DMark 2013

Overclock

3DMark แรงทุกการทดสอบครับ Fire Strike กดไปทะลุ 12106คะแนนแรงสุดๆ อยู่หัวแถวอีกเหมือนเดิมกับคะแนนกราฟฟิก ที่เมื่อก่อนต้องบอกว่า AMD นั้นเป็นรองมากๆในการปั่นคะแนนกราฟฟิก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วครับคะแนน 3D ต่างๆแรงระดับหัวแถวกันเลยทีเดียว

VRMark

Overclock

UNIGINE2

Overclock

Unigine2 คะแนนอยู่ที่ 2349คแนนครับ แรงจัดจริงๆ

เราไปชมผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันต่อเลยครับ

Gaming DX11 , DX12 Test Result

GTA V

GTA V Video Bechmark Preview

GTA V นั้นปรับสุดหมดแบบ Ultra Full HD ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลครับ ซีพียุทำงานครบทุกหัวช่วยกันประมวลผลตามที่ท่านได้เห็นในคลิปครับ เฟรมเรตอยู่ที่ 79-83เฟรมเรตเลยครับ แรงลื่นไหลสุดๆ

Rise of the Tomb Raider

Tomb Raider Video Bechmark Preview

Tomb Raider ก้เล่นได้แรงๆในเกมส์แบบ DX12 คอนฟิกปรับ Very high Full HD เฟรมเรตอยู่ที่ 70เฟรมเรตกันเลยครับ ในคลิปวีดีโอนี่ซีพียูก็จะช่วยกันประมวลผลทุกคอร์ครับทำให้เกมส์นั้นทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Ashes of the Singularity

Ashes of the Singularity ทดสอบแบบ DX12 คอนฟิก Extreme Full HD อยู่ที่ 53เฟรมเรตครับ ลื่นไหลดีครับ

เราไปชมผลทดสอบของฮีตซิงค์กันต่อเลยครับ

AMD Wraith Prism with RGB LED

เรามาชมผลทดสอบเมื่อใช้งานกับฮีตซิงค์ Wraith Prism with RGB LED ซึ่งสีสรรนั้นจะเป็นไฟแสดงผลแบบ RGB ทั้งหมดเลยครับสวยงามมากๆ ในส่วนของการทดสอบนั้นเรามาดูกันครับว่าความร้อนหรืออุณหภูมินั้นจะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อใช้งานแบบเต็มที่ทุกคอร์จะเย็นมากน้อยขนาดไหน เราไปชมกันเลยครับ

Wraith Prism with RGB LED Video Preview

เมื่อรันโปรแกรม Prime95 สุดโหดก็สามารถใช้งานกันได้สบายๆครับ อุณหภูมิสุงสุดอยู่ที่ 80องศาฯเท่านั้นเองครับ สุดยอดมากๆไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียวแต่เอาซีพียูรุ่นใหญ่อย่าง RYZEN 7 2700X ได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียวครับ

HYPERPI 32MB

HyperPi32 ก็รันได้สบายๆอย่างมีเสถียรภาพใช้งานกันได้จริงครับ อุณภูมิอยู่ที่ 79องศาฯครับ เย็นดีมากๆครับ

เราไปชมผลทดสอบอื่นๆกันต่อเลยครับ

Memory Ability Overclock

DDR4 3600Mhz CL16 1.35v

เรามาชมผลทดสอบประสิทธิภาพแรม ซึ่งหลายๆท่านก็น่าจะคาดหวังเอาไว้พอสมควรครับกับการที่เราจะได้เห็นซีพียู AMD นั้นดอเวอร์คล๊อกแรมได้ไกลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในรุ่นที่สองนี้ก็แสดงให้เห็นครับประสิทธิภาพแรมนั้นทำได้ไกลมากกว่าเดิม โดยในบททดสอบสามารถทำได้ไกลถึงบัสแรม DDR4 3600Mhz กันเลยครับ

AIDA64 MEMORY TEST

DDR4 3600Mhz CL16 1.35v

ซึ่งแรงทั้งการอ่าน/เขียนเลยครับ อยู่ที่ 52898MB/s , 49477MB/s กันเลยทีเดียวครับ

Max Overclock

DDR4 3700Mhz CL20 1.38v

ลองอัดกันแบบสุดๆก็พุ่งทะลุบัสแรม DDR4 3700Mhz ได้อีกครับ ถือได้ว่ามาไกลกันจริงๆสำหรับ AMD รุ่นนี้ ก็ไม่แน่ครับถ้าในอนาคตมีไบออสที่สมบรูณ์มากกว่านี้เราอาจเห็นบัส 4000Mhz ก็เป็นได้ครับ

AIDA64 MEMORY TEST

DDR 3700Mhz CL20 1.38v

โดยผลการอ่าน/เขียนเลยครับ อยู่ที่ 52833MB/s , 49456MB/s กันเลยทีเดียวครับ

เราไปชมผลทดสอบการโอเวอร์คล๊อกซีพียูความเร็วสูงๆกันต่อเลยครับ

Overclock 4.4Ghz

ในการโอเวอร์คล๊อกแบบจัดกันหนักๆก็สามารถโอเวอร์คล๊อกได้ที่ความเร็ว 4.4Ghz ได้แบบเต็มๆครับ ถือได้ว่าอัดกันได้ไกลกว่า RYZEN รุ่นแรกพอสมควรเลยครับ

Cinebench R15

ในความเร็ว 4.4Ghz ลองกด Cinebench R15 ดู คะแนนเรนเดอร์นี่ทะลุ 2005คะแนนเลยครับ แรงมากๆ ในความเร็วนี้ก็ไม่ค่อยสเถียรกันดีสักเท่าใดนักนะครับ ถ้าให้ใช้งานกันได้ดีอย่างลื่นไหลก็ที่ความเร็ว 4.3Ghz จะเหมาะสมและโอเวอร์คล๊อกกันได้อย่างนิ่งๆครับ

เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันแบบโหดๆส่งท้ายกันเลยครับ

Maximum Overclock

ในการทดสอบส่งท้ายจัดหนักเอาใจขาโหดของทาง AMD กันแบบเช่นเคย โดยโอเวอร์คล๊อกกันไปที่ความเร็ว 4.57Ghz กันแบบเต็มๆครับ แรงสะใจจริงๆโดยในรุ่นก่อนหน้านี้หรือ RYZEN รุ่นแรกก็จะอยู่ที่ 4.3Ghz กว่าๆเท่านั้นครับ ในระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา ซึ่งถือได้ว่า RYZEN ในรุ่นที่สองนั้นประสิทะิภาพในการโอเวอร์คล๊อกนั้นทำได้ดีกว่า RYZEN รุ่นแรกมากๆครับ

SuperPI 1MB

ทดสอบ SuperPi 1MB กดกันไปที่ 8.564วินาทีได้สำเร็จครับ เห็นเลข 8กันแล้วครับสำหรับสาวก AMD โดยไม่ต้องใช้ Ln2 เข้าช่วย เรียกได้ว่าแรงขึ้นทุกอย่างครับสำหรับ AMD RYZEN 7 2700X เป็นการปรับปรุงที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ

X370 Chipset MB Test

หลายๆท่านคงสงสัยกันนะครับว่าซีพียู AMD RYZEN 2nd GEN นั้นใช้งานกับเมนบอร์ดในรุ่นเดิมอย่าง X370 ได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบนะครับก็คือสามารถใช้งานได้ แต่ท่านต้องอัพเดทไบออสและเช็คก่อนนะครับว่าเมนบอร์ดในรุ่นดังกล่าวนั้นรองรับการทำงานหรือไม่ เราไปชมผลทดสอบกันสักเล็กน้อยครับ

CPU-Z

ใช้งานกันได้อย่างสมบรูณ์ครับแถมระบบเทอร์โบบูตก็ยังทำงานอีกด้วย ในภาพท่านจะเห็นระบบประหยัดพลังงานและเทอร์โบบูตวิ่งที่ความเร็วสูงสุดที่ 4.14Ghz ของซีพียูนะครับ โดยซีพียูที่ใช้งานทดสอบเป็น AMD RYZEN 5 2600X นะครับ

เทส HyperPI32MB ผ่านแบบเสถียรๆเลยครับ นิ่งๆใช้งานกันได้จริง

Cinebech ก็เรนเดอร์กันได้แรงๆคะแนนก็ใกล้เคียงกับ X470 ครับ

กราฟฟิก 3D อย่าง Time Spy ก็รันกันได้แรงๆไม่มีปัญหาอะไรครับ

Overclock

ในส่วนของการโอเวอร์คล๊อกหลายๆท่านกังวลว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ เรามีคำตอบครับก็คือสามารถทำได้อย่างไม่เป็นปัญหาครับ โอเวอร์คล๊อกได้ทั้งซีพียูและบัสแรมได้แบบเต็มๆครับ โดยเบื้องต้นผมโอเวอร์คล๊อกไปที่ความเร็ว 4.02Ghz บัสแรม DDR4 3200Mhz CL14 เป็นตัวอย่างให้ท่านได้ชมกันก่อนครับ

โอเวอร์คลีอกบัสแรมก็สามารถเล่นกันแรงๆได้ครับ คุ้มค่าจริงๆ เดี๋ยวบทความเต็มผมจะทำแยกอีกครั้งนึงนะครับ ท่านสามารถติดตามได้เร็วๆนี้

เราไปชมบทสรุปกันเลยครับ

Conclusion

ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ AMD RYZEN 7 2700X ที่ถือเป็นซีพียูรุ่นใหญ่ Mainstream-desktop (MSDT) ที่หลายๆท่านต่างรอคอยในปี 2018 ด้วยสถาปัตย์แบบใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ZEN+ สถาปัตย์ขนาด 12nm FinFET ในรหัสโค๊ดเนม Pinnacle Ridge ทำให้ RYZEN 2nd GEN นั้นสร้างประสิทธิภาพได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียวครับ ทั้งในการทดสอบการประมวลผลต่างๆ การถอดรหัส เข้ารหัส งานเรนเดอร์ กราฟฟิก 3D หรือเกมส์มิ่งนั้นทำประสิทธิภาพได้ออกมาเป็นอย่างดีเลยครับ โดยเกือบทุกๆการทดสอบนั้นทำคะแนนอยู่ในระดับหัวแถวกันเลยทีเดียวครับ ด้วยพลังและประสิทธิภาพการทำงานที่ทำได้ดีขึ้นกว่า RYZEN รุ่นแรกไม่ว่าจะเป็นความเร็วซีพียูที่สูงขึ้นการรองรับแรมที่มีความเร็วสูงมากยิ่งขึ้นและการโอเวอร์คล๊อกทั้งซีพียูและแรมทีี่ทำได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในจุดนี้ผมมองว่าทาง AMD ได้แก้ไขปัญหาในจุดนี้มาได้ดีมากเลยครับและที่สำคัญในเรื่องของการระบายความร้อนที่ต้องบอกเลยครับว่าใช้ฮีตซิงค์ที่แถมมาให้อย่าง Wraith Prism with RGB LED รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นใช้งานกันได้อย่างๆสบายและความสวยงามนี่ต้องบอกเลยว่าอลังการจริงๆทั้งไฟ LED RGB ที่แสดงผลสวยงามอลังการอย่างมากแบบฮีตซิงค์แต่งทั่วไปยังต้องอายครับ เรียกได้ว่าซื้อ AMD RYZEN 7 2700X นั้นจบครับไม่ต้องคิดเรื่องหาชุดระบายความร้อนมาเพิ่มเติมให้เปลืองตังค์ ในส่วนของเรื่องเทคโนโลยีฟีเจอร์ต่างๆนั้นทาง AMD ก็มีมาให้อาทิ AMD StoreMI Technology , AMD SenseMI Technology , AMD Ryzen Master Utility พร้อมใช้งานกันเลยครับ ในส่วนของฟีเจอร์เทคโนโลยีการทำงานโดยมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง AMD StoreMI Technology ที่จะมีในเมนบอร์ด AMD 400-series chipset ที่ช่วยให้หน่วยเก็บข้อมูลอย่างบรรดา Storage ต่างๆที่เป็น HDD ทั่วไปนั้นทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับซอฟแวร์ที่ใช้งานง่ายในการควบคุมการทำงานครับ ในจุดเด่นอีกจุดนึงที่ผมสังเกตุนอกเหนือจากประสิทธิภาพความแรงของตัวซีพียูในการประมวลผลโปรแกรมต่างๆแล้วนั้นก็คือการรีดพลังกราฟฟิก 3D นั่นเองครับ ซึ่งการทดสอบในเรื่องกราฟฟิกนั้นทาง AMD นั้นจะเป็นรองคู่แข่งมาโดยตลอด แต่ใน RYZEN 2nd GEN นั้นสร้างความแตกต่างให้เห็นแบบชัดเจนครับกับการประมวลผลกราฟฟิกออกมาเรียกได้ว่าคะแนนแซงคู่แข่งไปได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้นซีพียู AMD จะไม่ถนัดเรื่องการปั่นคะแนนกราฟฟิกสักเท่าใดนักแต่ในรุ่น RYZEN 2nd GEN หรือ AMD RYZEN 7 2700X นั้นไม่ใช่แล้วครับสามารถสร้างคะแนนกราฟฟิกได้สูงขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ในจุดนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทีมพัฒนาเอเอ็มดีครับที่แก้ไขจุดด้อยในเรื่องของการปั่นคะแนนกราฟฟิกออกมาได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการทดสอบเกมส์มิ่งที่ท่านได้ชมในบทความและวีดีโอจะเห็นได้ว่าตัวซีพียูเองทุกคอร์และเทรดมีส่วนร่วมในการประมวลผลทุกคอร์เลยครับ ในจุดนี้เองที่จะทำให้การทำงานนั้นลื่นไหลและสร้างเฟรมเรตเฟรมทามได้เป็นอย่างดีเลยครับดังที่ท่านได้เห็นในบททดสอบว่าประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์นั้นลื่นไหลดีมากๆ และสำหรับหลายๆท่านที่สงสัยว่า RYZEN 2nd GEN นั้นสามารถใช้งานกับเมนบอร์ด X370 ได้หรือไม่ในบทความก็เฉลยให้แล้วนะครับว่าได้แต่ท่านต้องอัพเดทไบออสกันสักนิดก่อนจะใช้งานและต้องเช็คดูดีๆนะครับว่าเมนบอร์ดของท่านรองรับหรือไม่ สำหรับการทดสอบ AMD RYZEN 7 2700X ในวันนี้หลายๆท่านก็น่าจะพอใจหรือเป็นการประกอบการตัดสินใจของท่านผู้ชมนะครับว่า AMD RYZEN 7 2700X นั้นคุ้มค่าไหม? ในส่วนตัวแล้วผมมองว่าคุ้มมากๆครับ เพราะว่าราคาวางจำหน่ายเพียง 329ดอลล่าสหรัฐเท่านั้นเองหรือตีเป็นเงินไทย 11XXXบาทเท่านั้น แต่อันนี้มาไทยจะราคานี้หรือไม่ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดแต่ถ้าราคาเปิดจริงๆอยู่ที่ 12XXX-13XXXX ผมก็ยังมองว่าคุ้มอยู่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่งเพราะว่าแรงกว่าทุกการทดสอบทั้งงานเรนเดอร์ ถอดรหัส กราฟฟิก อื่นๆ ที่สำคัญแถมฮีตซิงค์สุดสวยอย่าง Wraith Prism with RGB LED มาให้ใช้งานแบบคุ้มๆอีกด้วย เรียกได้ว่า AMD RYZEN 7 2700X ในรุ่นที่สองนี้พกพาทั้งความแรงรวมทั้งแก้ไขปัญหาเรื่องความร้อน การโอเวอร์คล๊อกที่ทำได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งความเร็วซีพียูที่สูง แรงขึ้นกว่าเดิมและที่สำคัญมันดันแรงแซงคู่แข่งอีกด้วยถ้าเปิดราคามา 329ดอลล่าสหรัฐฯจริงและบวกลบไม่เกิน 11XXX-13XXXบาทแล้วล่ะก็ผมเชื่อว่า AMD RYZEN 7 2700X เป็นซีพียูในระดับ Mainstream-desktop (MSDT) ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากในเวลานี้เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับบทความในวันนี้ผมหวังว่าทั้งสาวก AMD และคนที่กำลังมองหาซีพียูแรงๆไว้ใช้งานจะเป็นบทความที่มีประโยชน์ในประกอบการตัดสินใจของท่านในการพิจารณาเลือกซีพียูนะครับ สุดท้ายแล้วต้องบอกว่า AMD แก้ลำและเดินมาถูกทางทำให้คู่แข่งสะเทือนอีกครั้งนึง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญในวงการซีพียู Mainstream-desktop ในปี 2018 นี้เลยทีเดียวครับ แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

..

…

…

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

.

Special Thanks.

AMD

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!