…สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้ผมมีซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวกันในวันนี้จากฝั่ง AMD มารีวิวให้ท่านได้ชมกันครับกับซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ซึ่งเป็นซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์รุ่นใหม่ล่าสุดในสถาปัตย์ ZEN3 ในรหัส Vermeer กับซีพียูรุ่นกลางที่น่าจับตามองอีกรุ่นครับที่มีราคาวางจำหน่ายอยู่ 449ดอลล่าสหรัฐหรือในไทยประมาณ 15,XXXบาทไทย ซึ่งทาง AMD ได้ออกมาให้ข้อมูลในช่วงเปิดตัวว่าเป็นซีพียูเกมส์มิ่งตัวคุ้มที่ทาง AMD นำเสนอให้กับบรรดาเกมส์เมอร์กันเลยทีเดียวรวมไปถึงการใช้งานได้อย่างหลากหลายประสิทธิภาพรอบด้านอีกด้วย โดยวันนี้ทาง AMD ได้ทำการเปิดตัวทั้งหมด 4รุ่นด้วยกันก็คือ AMD RYZEN 9 5950X , RYZEN 9 5900X , RYZEN 7 5800X และ RYZEN 5 5600X ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้สถาปัตย์ ZEN 3 ใหม่ล่าสุดขนาด 7nm พร้อมนำเสนอประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ที่เป็นซีพียูที่แรงที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว ในส่วนของการใช้งานนั้นซีพียู AMD RYZEN 7 5800X นั้นสามารถใช้งานกับเมนบอร์ด 500ซีรี่ย์และ 400ซีรี่ย์ได้ครับ แต่ในรุ่น 400ซีรี่ย์ต้องรอไบออสอัพเดทช่วงประมาณต้นปี 2021ครับ

…

…สำหรับซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ที่ผมนำมาทดสอบให้ท่านได้ชมกันในวันนี้นั้นจะเป็นซีพียูรุ่นกลางจากทาง AMD ที่เป็นซีพียูที่ใครหลายๆคนต่างจับตามองครับเพราะเป็นรุ่นที่มีราคาไม่สูงมากนักราคาอยู่ที่ 449ดอลล่าสหรัฐฯหรือประมาณ 14,XXXบาทไทยโดยประมาณ โดยมากันในรุ่น AMD RYZEN 7 5800X ในสถาปัตย์ ZEN3 ขนาด 7nm TSMC ในรหัส Vermeer สเปกการทำงานมีจำนวนคอร์ 8C/16T ความเร็ว 3.8Ghz - 4.7Ghz แคช L2 4MB L3 32MB สถาปัตย์นั้นยังเป็น ZEN3 ขนาด 7nm FinFET ใช้ซ็อกเก็ต AM4 การใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดนั้นก็สามารถใช้งานได้ทั้งเมนบอร์ด X570 และ B550 ครับ ส่วนพอตการเชื่อมต่อนั้นรองรับ PCIe 4.0 รองรับแรม DDR4 3200Mhz อัตราบริโภคไฟ 105W TDP พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD StoreMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility , AMD Ryzen™ VR-Ready Premium ซึ่งเมื่อเทียบกับสเปกของซีพียูรุ่นที่ผ่านมาอย่าง AMD RYZEN 7 3800X หรือ ZEN2 ก็ถือว่ามีจำนวนคอร์ที่เท่ากันครับคือ 8C/16T กับแคชที่เท่ากันแต่จะแตกต่างกันที่ความเร็วเพียงเล็กน้อย แต่ว่าข้อแตกต่างก็คือสถาปัตย์การทำงานนั้นจะถูกปรับเปลี่ยนใหม่หมดครับในสถาปัตย์ ZEN3 ซึ่งผมจะได้อธิบายในรายละเอียดเชิงลึกที่ด้านล่างครับ

INTRODUCTION

โปรเซสเซอร์ตระกูล AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ในสถาปัตย์ ZEN3 ที่ทำการเปิดตัวในวันนี้มีด้วกัน 4รุ่นด้วยกันครับก็คือ AMD RYZEN 9 5950X , AMD RYZEN 9 5900X , AMD RYZEN 7 5800X และ AMD RYZEN 5 5600X ซึ่งสเปกและราคาก็จะแตกต่างกันออกไป

ซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์นั้น สถาปัตย์ที่ใช้านนั้นเป็นสถาปัตย์ใหม่ล่าสุดที่เป็นรุ่นต่อจาก ZEN2 เป็นสถาปัตย์ ZEN3 ขนาด 7nm ครับ โดยมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับสถาปัตย์ ZEN3 ที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งโครงสร้างและชุดคำสั่งต่างๆที่รวดเร็วขึ้นทั้งการปรับแต่ง Core to Core และ Core To Cache ให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมส์ในความละเอียด 1080P ที่ดีมากขึ้นถึง 26% กันเลยทีเดียว รวมไปถึงประสิทธิภาพ CCX ที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมในการรับส่งข้อมูลทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังที่ท่านเห็นได้ตามตารางสถาปัตย์ SOC ที่แคชนั้นจะรวมการทำงานเข้าด้วยกัน 32MB L3 ต่อ 8คอร์ซีพียูในหนึ่ง CCX แบบ 2ชุดการทำงาน ซึ่งถ้าเป็น RYZEN 7 5800X และ RYZEN 5 5600X จะรวมเป็น 32MB ในหนึ่ง CCX เดียวครับ

ซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ สถาปัตยกรรม “Zen 3” เป็นตัวช่วยผลักดันความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการเล่นเกม และการสร้างคอนเทนต์ให้สามารถยกระดับไปอีกขั้น ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 19% ในกระบวนการแบบ IPC4 เมื่อนำไปเทียบกับรุ่นก่อน ช่วยลดระยะเวลาในการรับส่งข้อมูลจากการเร่งความเร็วของคอร์ประมวลผล และการเชื่อมต่อแคช เพิ่มการเข้าถึงแคช L3 ต่อคอร์ประมวลผลสูงขึ้นสองเท่า ในขณะเดียวกัน ประสิทธิภาพต่อวัตต์ก็ดีกว่าคู่แข่งถึง 2.8 เท่ากันเลยทีเดียว

ซีพียู AMD Ryzen 5000 Series มีจุดเด่นในเรื่องการจัดการเวิร์คโหลดได้อย่างดีเยี่ยมผ่านเธรดจำนวนมาก และการประหยัดพลังงาน ในขณะที่โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 5900X สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการเล่นเกมขึ้นถึง 26% พร้อมการพัฒนาที่ครอบคลุมส่วนคอร์ประมวลผล ที่ประกอบไปด้วย ชุดคอร์ประมวลผล 8 คอร์แบบครบวงจร พร้อมการเข้าถึงแคช L3 ขนาด 32MB โดยตรง ทำให้ สถาปัตยกรรมใหม่ “Zen 3” ของ AMD สามารถส่งมอบจำนวนคำสั่งต่อหนึ่งไซเคิลเพิ่มขึ้นถึง 19% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแนะนำโปรเซสเซอร์สถาปัตยกรรม “Zen” ในปี 2560

ประสิทธิภาพของซีพียู ZEN3 นั้นมีประสิทธิภาพ IPC ดีขึ้นมากกว่าเดิม 19% กันเลยทีเดียวครับ รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานด้านอื่นๆก็เพิ่มขึ้นด้วย

ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ในแบบ 1คอร์ ในโปรแกรม Cinebench 20 ก็แรงขึ้นกว่าคู่แข่งทุกการทำงานครับ ถือว่าเป็นก้าวกระโดดสำคัญของประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่ได้แรงเฉพาะแบบหลายหัวเหมือนเช่นเคยแล้ว

ประสิทธิภาพในงาน Workstation นั้นก็แรงขึ้นอย่างชัดเจนครับเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ซีพียู AMD Ryzen 9 5900X พร้อมคอร์ประมวลผล 12 คอร์ ส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดด้วย:

-         ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p โดยเฉลี่ยเร็วขึ้น 7% เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

-         ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p โดยเฉลี่ยเร็วขึ้น 26% ในแต่ละเกม

ที่สำคัญก็คือประสิทธิภาพของเกมส์มิ่งที่เป็นครั้งแรกที่ทาง AMD นั้นสร้างประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดขึ้นมาทำประสิทธิภาพได้สูสีกับคู่แข่งอย่าง Core I9 10900K เมื่อเทียบกับรุ่น AMD RYZEN 9 5900X และถ้าเมื่อเทียบกับ AMD RYZEN 7 5800X แล้วนั้นแซงคู่แข่งที่เป็นเจ้าของเกมส์มิ่งอย่าง Core i7 10700K และ Core i9 10900K ลงไปได้กันเลยทีเดียวครับ ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ทาง AMD มีประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ดีกว่าทางอินเทลในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมานี้

ประสิทธิภาพด้านครีเอเตอร์ในการใช้งานทั่วไปของโปรแกรมระดับมืออาชีพ AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

ประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกแรมนั้นทาง AMD ได้ปรับแต่งระบบที่มีความอิสระมากขึ้นกว่าเดิมและมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นไปจนถึงนักโอเวอร์คล๊อกเล่นกันได้แบบเต็มที่กันเลยทีเดียว

ในเรื่องของอุณหภูมิซีพียูทาง AMD ได้ทำการปรับแต่งการทำงานของซีพียูให้เย็นลงสามารถใช้งานกับฮีตซิงค์ได้ทุกระดับตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงฮีตซิงค์ลมชุดใหญ่และชุดน้ำสำเร็จทั่วไป

อัตราการบริโภคไฟก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทาง AMD ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ ซึ่งการทำงานนั้นจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานะการใช้งานของการโหลดทำงานของซีพียู ซึ่งแปรผันไปตามพลังงานที่ใช้โดยเน้นประหยัดพลังงานที่ใช้โดยไม่เกินความจำเป็น

เมนบอร์ดที่ใช้งานนั้นสามารถใช้งานกับเมนบอร์ด AMD 500ซีรี่ย์ทั้ง X570 , B550 , A520 ได้ครับ และในอนาคตยังสามารถใช้งานกับเมนบอร์ด AMD 400ซีรี่ย์ได้อีกด้วย

ตัวเลือกของ AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ในแต่ละรุ่นออกแบบมาตอบโจทย์กับผู้ใช้งานทุกกลุ่มกันเลยทีเดียว

เราไปชมรูปร่างหน้าตาของ AMD RYZEN 7 5800X กันต่อเลยครับ

AMD RYZEN 7 5800X Appearance

ตัวกล่อง AMD RYZEN 7 5800X มาในกล่องสีส้มเทาสวยงามตามแบบฉบับ AMD RYZEN ครับ

ด้านข้างก็จะเห็นตัวซีพียู AMD RYZEN 7 5800X อย่างชัดเจน

หลังกล่องบอกรายละเอียดการใช้งานต่างๆ

ด้านบนบอกรหัสพร้อมชื่อรุ่นเอาไว้อย่างชัดเจนครับ

แกะกล่องออกมาก็จะมีคู่มือ ตัวซีพียูและสติ๊กเกอร์ให้ครับ

AMD RYZEN 7 5800X ในรหัส Vermeer นั้นมีจำนวนคอร์ 8C/16T ความเร็ว 3.8Ghz - 4.7Ghz แคช L2 4MB L3 32MB สถาปัตย์นั้นยังเป็น ZEN3 ขนาด 7nm FinFET ใช้ซ็อกเก็ต AM4 การใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดนั้นก็สามารถใช้งานได้ทั้งเมนบอร์ด X570 และ B550 ครับ ส่วนพอตการเชื่อมต่อนั้นรองรับ PCIe 4.0 รองรับแรม DDR4 3200Mhz อัตราบริโภคไฟ 105W TDP พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD StoreMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility , AMD Ryzen™ VR-Ready Premium

ซ๊อกเก็ตแบบ AM4 เช่นเดิมครับ ใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด X570 และ B550 ได้

ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ

...

Test Setup

SYSTEMS
.CPU	.AMD RYZEN 7 5800X
.Thermal Grease	.Noctua NT-H2 THERMAL PASTE
.Motherboard	. MSI MEG X570 GODLIKE
.Memory	..G.SKILL TRIDENTZ DDR4 3600Mhz
.Graphic Card	. ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL
.Harddisk	. Plextor M6PRO 256 / KINGSTON SSD 256GB
.CPU Cooler	..Water Cooling
.Power Supply	..ANTEC 1300W Platinum
.Operation System	..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น AMD RYZEN 7 5800X รุ่นใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับเมนบอร์ดตัวแรง MSI MEG X570 GODLIKE รุ่นใหม่ล่าสุดชิบเซ็ต X570 ที่สามารถใช้งานกับซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกันเลยทีเดียว กราฟฟิกการ์ดเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL จากทางเอซุสครับ

บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา

CPU-Z

AMD RYZEN 7 5800X ในรหัส Vermeer นั้นมีจำนวนคอร์ 8C/16T ความเร็ว 3.8Ghz - 4.7Ghz แคช L2 4MB L3 32MB สถาปัตย์นั้นยังเป็น ZEN3 ขนาด 7nm FinFET ใช้ซ็อกเก็ต AM4 การใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดนั้นก็สามารถใช้งานได้ทั้งเมนบอร์ด X570 และ B550 ครับ ส่วนพอตการเชื่อมต่อนั้นรองรับ PCIe 4.0 รองรับแรม DDR4 3200Mhz อัตราบริโภคไฟ 105W TDP พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD StoreMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility , AMD Ryzen™ VR-Ready Premium

ในส่วนของความเร็วที่ใช้งานจริงของซีพียู AMD RYZEN 7 5800X นั้นค่า Base Clock จะอยู่ที่ 3.8Ghz ส่วนใช้งานแบบ ALL Core ทำงานแบบทุกคอร์ในโหลดเต็มที่นั้นจะอยู่ที่ความเร็ว 4.65Ghz ครับ ซึ่งถ้าเทียบประสิทธิภาพความเร็ว IPC ที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อเทียบกับซีพียู ZEN2 แล้วนั้นถือว่าแรงขึ้นมาเยอะเลยทีเดียวครับ ในส่วนของบูตสูงสุดที่เคลมกันเอาไว้ก็คือความเร็วสูงสุด 4.7Ghz กันเลยทีเดียว

GPU-Z

ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรงเลยครับ

AMD RYZEN 7 5800X Specifications

AMD RYZEN 7 5800X Core & Threads

จำนวนคอร์ที่แสดงการทำงานจะเป็น 8C/16T ครับ ทำงานแบบ ALL Core ความเร็ว 4.65Ghz เต็มที่ทุกคอร์ครับ

AIDA64

AMD Ryzen Master Utility

โปรแกรม AMD Ryzen Master Utility ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับโอเวอร์คล๊อกและปรับแต่งการทำงานของซีพียูตระกูล RYZEN ก็สามารถใช้งานกับซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ได้อย่างสมบรูณ์แบบครับ โดยตัวโปรแกรมมีเมนูปรับแต่งการทำงานให้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน มีอะไรกันบ้างเราไปชมกันเลยครับ

หน้าแรกก็จะเป็นการแสดงสถานะการทำงานของตัวซีพียูครับถึงความเร็ว จำนวนคอร์ที่ทำงาน แรงดันไฟ อุณหภูมิและรายละเอียดต่างๆของตัวซีพียู

เมนูที่สองเป็นโหมดครีเอเตอร์ครับ โดยเราสามรถเลือกใช้งานตามความเหมาะสมโดยให้ตัวโปรแกรม AMD Ryzen Master Utility ปรับแต่งการทำงานให้แบบอัตโนมัติได้เลย

เมนูต่อมาคือ Game Mode ก็คือโหมดสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ที่สามารถปรับแต่งแบบออโต้หรือสามารถปรับจูนได้เองครับทั้งในค่าของ Precision Boost ต่างๆอีกด้วย

โหมดแบบปรับโอเวอร์คล๊อกแบบออโต้ให้ตัวดปรแกรม AMD Ryzen Master Utility จูนให้แบบอัตโนมัตินั่นเองครับ

และค่าสุดท้ายคือการโอเวอร์คล๊อกแบบ Manual ที่สามารถปรับความเร็วต่างๆของแต่ละคอร์ได้ กำหนดแรงดันไฟ บัสแรม ได้อย่างละเอียดกันเลยทีเดียวครับ

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1MB

SuperPI 32MB

HyperPI32MB

สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 8.298วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 6นาที 20.277 วินาที เวลานั้นเร็วมากครับ HyperPi 32MB ก็ผ่านหมดทุกการทำสอบอย่างมีเสถียรภาพ

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark

ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 47224KB/s บีดอัดข้อมูลได้แรงเยี่ยมเลยครับแต่สำหรับ Fritzchess นั้นอยู่ที่ 84.58คะแนนครับเรียกได้ว่าสูงในระดับหัวแถวแรงสุดยอดมากๆ และ wPrime อยู่ที่เวลา 85.79วินาที แรงเร็วจริงๆ

X264 FHD

ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 68.17FPS แรงแบบมาเต็มเลยครับ

Corona 1.3 Benchmark

Corona เรนเดอร์ที่เวลา 1.24วินาที เรนเดอร์ได้แรงเยี่ยมเลยครับ

FRYRENDER X64

Fryrender เวลาอยู่ที่ 1.29นาที เรนเดอร์แรงกันสุดๆครับ

V-RAY Benchmark

V-Ray Benchmark ทำการเรนเดอร์ซีพียูอยู่ที่ 17705คะะแนน แรงดีมากครับ

Google Chrome : JetStream2

Google Chrome : JetStream2 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 185คะแนนครับ เร็วสุดยอดครับ

Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1

Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 613คะแนนครับ เร็วมากครับ

Greekbench 5

Greekbench 5 อยู่ที่ 9947คะะแนน แรงเยี่ยมมากๆครับ

AIDA64 Cache & Memory Benchmark

ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 50721 MB/s , 28777 / 45753MB/s กับบัสแรม 3600Mhz ซึ่งประสิทธิภาพอ่าน/เขียนแรงดีทั้งคู่ครับ ทั้งอ่าน/เขียนเลยครับ

เราไปชมผลทดสอบวีดีโอเรนเดอร์กันต่อเลยครับ

Video Render Test

Blender Render 2.82

ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 กับการเรนเดอร์กราฟฟิกแอนนิเมชั่นที่ทำเวลาอยู่ที่ 15นาที 32วินาที แรงเร็วเลยครับงานเรนเดอร์กราฟฟิก

Adobe Premiere Pro 2020

Adobe Premiere Pro 2020 โปรแกรมตัดต่อวีดีโอยอดนิยมในการเรนเดอร์ใช้งานจริงอยู่ที่เวลา 5นาที 59วินาทีครับ เรนเดอร์ได้เร็วมากครับ

Sony Vegas Pro13

Sony Vegas อยู่ที่เวลา 4.5นาทีครับ สายครีเอเตอร์หรือตัดต่อวีดีโอนี่ถูกใจอย่างแน่นอนครับประสิทธิภาพออกมาแรงทุกการทดสอบแบบนี้

เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ

Cinebench 11.5

Cinebench 15

Cinebench 20

โปรแกรม Cinebench ทุกเวอร์ชั่นประสิทธิภาพ Single Core ที่แรงไล่เรี่ยกับ RYZEN 9 5900X อยู่ในระดับหัวแถวกันเลยทีเดียว เห็นได้ชัดครับว่าประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์นั้น AMD RYZEN 7 5800X ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ ในส่วนของ Multi Core นั้นก็แรงไล่จี้คู่แข่งอย่างสบายๆเลยครับ

เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ

PCMark10

PCMark10 อยู่ที่ 7766คะแนน แรงในระดับหัวแถวกันเลยครับ

3DMark Vantage

3DMark Vantage คะแนนอยู่ที่ 95265คะแนน แรงสุดยอดมากครับกับประสิทธิภาพด้านกราฟฟิกที่แรงทะลุหัวแถวกันเลยทีเดียว

3DMark11

3Dmark11 รวมอยู่ที่ 34942คะแนน แรงสุดยอดจริงๆพลังกราฟฟิก 3D

3DMark 2013

Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 29135คะแนน แรงยืนในระดับหัวแถวกันเลยครับ

3DMark Time Spy คะแนนรวมอยู่ที่ 13505คะแนน แรงยอดเยี่ยมมากๆครับ เรียกได้ว่าเป็นซีพียูที่ออกแบบมาทำงานด้านกราฟฟิก 3D ในเรื่องของเกมส์มิ่งกันเลยทีเดียวครับแบบนี้

Gaming Test

เรามาดูผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันครับว่าซีพียู AMD RYZEN 7 5800X นั้นจะมีประสิทธิภาพตามที่ทาง AMD ได้เคลมกันเอาไว้หรือไม่กับสุดยอดซีพียูเกมส์มิ่งอีกรุ่นแห่งปี 2020 เราไปชมกันเลยครับ

Horizon Zero Dawn

Horizon Zero Dawn เกมส์ใหม่กราฟฟิกสวยงามปรับคอนฟิกในระดับ Ultimate ความละเอียด Full HD ก็สามารถสร้างเฟรมเรทได้ทะลุ 110เฟรมเรทกันเลยทีเดียวครับ ยืนอยู่หัวแถวแรงจัดจริงๆ

Ghost Recon Breakpoint

Ghost Recon Breakpoint คอนฟิก Ultra ความละเอียด Full HD อยู่ที่ 93เฟรมเรท เรียกได้ลื่นไหลเยี่ยมมากๆครับ

Assassin’s Creed Origins

Assassin’s Creed Origins อยู่ที่ 101เฟรมเรทคอนฟิกระดับ Ultra ความละเอียด Full HD แบบจัดเต็ม

Ashes of the Singularity

Ashes of the Singularity อยู่ที่ 117ฟรมเรตครับ แรงลื่นไหลดีเลยครับ

Metro Exodus

Metro Exodus เปิดเต็ม Ultra Full HD อยู่ที่ 90เฟรมเรตครับ แรงเยี่ยมมากๆครับ

Shadow of the Tomb Raider

Shadow of the Tomb Raider ปรับแบบ High DX12 อยู่ที่ 168เฟรมเรตครับ แรงเยี่ยมระดับหัวแถวครับ

FARCRY5

FARCRY5 ปรับแบบสุดหมด 1920X1080 Config High อยู่ที่ 154เฟรมเรตกันเลยครับ แรงเยี่ยมจริงๆ

GTA 5

GTA V อยู่ที่ 98เฟรมเรตแบบคอฟฟิก Ultra ระดับ High Full HD เล่นได้อย่างลื่นไหลเลยครับ

FINAL FANTASY XV

FINAL FANTASY XV อยู่ที่ 11834คะแนนครับ แรงจริงๆ

เราไปชมผลทดสอบอุณหภูมิและอัตราบริโภคไฟกันต่อเลยครับ

Temperature & Power Consumption

Temperature

อุณหภูมิในการทำงานของซีพีย AMD RYZEN 7 5800X ซึ่งใช้ชุดระบายความร้อนด้วยน้ำในการทดสอบ โดย Idle อยู่ที่ 36องศาฯ เท่านั้นครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์อยู่ที่ 71องศาฯครับ ก็ถือว่าค่อนข้างเย็นมากเลยครับกับซีพียู 8C/16T ระดับกลางแบบนี้

Power Consumption

ในส่วนของอัตราการบริโภคไฟแบบใช้งานจริงอย่างเต็มระบบซีพียู AMD RYZEN 7 5800X เมื่อใช้งานเต็มระบบ Idle จะอยู่ที่ 140W TDP ครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์ 8C/16T จะอยู่ที่ 266W TDP ครับ ซึ่งถ้าดูแล้วก็ใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง Ryzen 9 5800X ครับ แต่การใช้งานนั้นทดสอบจริงแบบเต็มระบบทั้งชุดพัดลม 8ตัว การ์ดจอ RTX 2080Ti รวมทั้ง SSD , HDD 3ตัวเลยครับ เน้นใช้งานจริง ซึ่งค่าพลังงานที่ออกมาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆครับ สามารถใช้ PSU ขนาด 650W - 700W+ ได้สบายๆครับ

Overclock

CPU-Z

เรามาชมประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกกันต่อเลยครับซึ่งซีพียู AMD RYZEN 7 5800X นั้นทาง AMD ได้เคลมเอาไว้ว่าซีพียูบรรดา RYZEN 5000ซีรี่ย์นั้นมี IPC ที่ดีขึ้นกว่าเดิม 17% และนักโอเวอร์คล๊อกหลายๆคนต่างก็หวังเอาไว้ครับว่าประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกต้องทำได้ดีมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน ซึ่งในรุ่นก่อนหน้าอย่าง ZEN รุ่นแรกและ ZEN2 นั้นก็ต่างขยับประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกอยู่ที่ประมาณ 4.0Ghz - 4.3Ghz ในแบบใช้งานจริง แต่ในวันนี้ซีพียู AMD RYZEN 7 5800X สถาปัตย์ ZEN3 นั้นสามารถทำประสิทธิาพที่สูงกว่าเดิมได้ดีเลยทีเดียวครับ โดยผมสามารถโอเวอร์คล๊อกไปที่ความเร็ว 4.75Ghz ไฟเลี้ยง 1.35v แบบใช้งานจริงได้อย่างมีเสถียรภาพตลอดการทดสอบกันเลยครับ ซึ่งเรียกได้ว่าแรงแบบ ALL Core ทำงานกันได้แบบเต็มๆตลอดการทดสอบเลยทีเดียว ถือได้ว่าประสิทธิภาพในการดอเวอร์คล๊อกซีพียู ZEN3 นั้นทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ผ่านมา

SuperPI 1MB

SuperPI 1MB อยู่ที่เวลา 9.047วินาที เร็วแรงมากๆครับ ส่วน 32MB อยู่ที่เวลา 7นาที 23.249วินาที และ HyperPI32MB ทดสอบผ่านหมดแบบเสถียรๆใช้งานได้จริงทุกคอร์ครับ

Blender Render

Blender Render อยู่ที่เวลา 2.28นาที เร็วแรงเยี่ยมจริงๆครับ

X264 FHD

X264 อยู่ที่ 71.26FPS กันเลยครับ แรงสุดยอดจริงๆ

AIDA64 Memory & Benchmark

AIDA64 ประสิทธิภาพ Memory ก็แรงในระดับ 49K / 28Kทั้งการอ่านเขียนครับ แรงจริงๆ

Cinebench15

Cinebench20

Cinebench 20 เรนเดอร์แบบทุกคอร์ทะลุ 6304คะแนนแรงมาเต็มทุกคอร์เลยครับ

3DMark Fire Strike

Fire Strike อยู่ที่คะแนน 29900คะแนน แรงเยี่ยมมากครับ

Time Spy DX12

ด้านกราฟฟิก Time Spy DX12 อยู่ที่คะแนน 13358คะแนน แรงเยี่ยมมากครับ

เราไปชมผลทดสอบแบบอัดกันเต็มๆส่งท้ายกันเลยครับ

Maximum Overclock

ในการทดสอบแบบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆเอาใจสาวก AMD เหมือนอย่างเช่นเคยครับกับซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ที่นำมาทดสอบให้ท่านได้ชมกันในวันนี้ด้วยชุดระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา โดยลองจับกดไปเต็มๆ สามารถไปได้ที่ความเร็ว 5.12Ghz ไฟเลี้ยง 1.44v กันเลยทีเดียวครับกับบัสแรม 4400Mhzซึ่งสามารถมาแตะความเร็วระดับ 5Ghz+ ได้อย่างสบายๆกันเลยครับสำหรับซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ในสถาปัตย์ ZEN3 เรียกได้ว่าแรงดันสุดๆจริงหลังจากที่ไม่ได้เห็นซีพียู AMD แตะที่ความเร็ว 5Ghz เป็นเวลาค่อนข้างนานแล้วครับตั้งแต่สมัย FX กันเลย เรียกได้ว่าซีพียู AMD RYZEN 7 5800X นั้นถูกออกแบบมาให้ถูกใจนักโอเวอร์คล๊อกสาย AMD ไม่มากก็น้อยล่ะครับงานนี้

SuperPi 1MB

SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 6.969วินาที เร็วแรงในระดับ 6วินาทีเป็นที่เรียบร้อยครับสำหรับซีพียู AMD ในรุ่น AMD RYZEN 7 5800X สุดจัดจริงๆครับ

SuperPi 32MB

ผลทดสอบ SuperPi 32MB อยู่ที่เวลา 5นาที 55.362วินาทีครับ เร็วแรงกันเลยมากๆทีเดียวครับ

เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ

Conclusion

…ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ AMD RYZEN 7 5800X ในรหัส Vermeer สถาปัตย์ ZEN3 ขนาด 7nm ที่ถือเป็นซีพียูรุ่นกลางของซีพียู AMD Ryzen 5000ซีรี่ย์ที่นำมารีวิวให้ท่านได้ชมกันในวันนี้กับประสิทธิภาพที่ท่านได้เห็นแล้วครับว่ามีประสิทธิภาพและพลังที่คุ้มค่ามากน้อยขนาดไหนกับผลทดสอบที่ออกมาต้องบอกว่าน่าประทับใจจริงๆครับกับขุมพลัง 8C/16T ที่มีค่าความเร็วที่สูงขึ้นกว่าเดิมรวมไปถึงสถาปัตย์การทำงานที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ให้มีความคล่องตัวรวดเร็วมากกว่าเดิมด้วยประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์ที่แรงมากขึ้นทั้งแบบ Single Core และ Multi-Core ตามที่ท่านได้เห็นในบททดสอบครับ แม้ว่าซีพียู AMD RYZEN 7 5800Xจะเป็นซีพียูในรุ่นกลางแต่พลังในด้านต่างๆที่ทดสอบออกมานั้นแรงกว่ารุ่นเดิมหรือ ZEN2 อย่างมากครับรวมไปถึงบรรดาซีพียูคู่แข่งในระดับเดียวกันอีกด้วยและยังสามารถไล่จี้ซีพียูคู่แข่งที่เป็นตัวท็อปได้อย่างสบายๆเลยครับ ทั้งในการทดสอบการประมวลผลทั่วไป เรนเดอร์ ถอดรหัส เข้ารหัส กราฟฟิก 3D และเกมส์มิ่งที่ซีพียู AMD RYZEN 7 5800X สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของซีพียูตระกูล RYZEN ลงได้อย่างสวยงามครับ

…

…มาดูในเรื่องของอุณหภูมิและอัตราการบริโภคไฟครับ ซึ่งตัวอุณหภูมินั้นก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีครับใช้งานกันได้ยาวๆและตัวซีพียูเองก็ระบายความร้อนได้ค่อนข้างดีมากครับกับฟูลโหลดที่โหลดเต็มๆยาวๆแค่ 70องศาฯเท่านั้น Idle ก็อยู่ที่ 26องศาฯกับชุดน้ำธรรมดาทั่วไป ผมมองว่าฮีตซิงค์ในระดับกลางไปหาสูงเอาอยู่สบายๆครับ รวมทั้งชุดน้ำสำเร็จรุ่นเล็กนี่ก็เอาอยู่แน่นอนครับสำหรับซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ในส่วนของอัตราการบริโภคไฟนั้นก็ถือว่าใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง RYZEN 9 5900X ครับที่ไม่ต่างกันมากนักแต่อัตราบริโภคไฟแบบฟูลโหลดก็อยู่ที่ 260W TDP แบบจัดเต็มทั้งระบบการทำงานใช้งานจริง ผมมองว่า PSU ขนาด 650W - 700W ก็น่าจะเอาอยู่สบายๆครับ

…

…ประสิทธิภาพ IPC ดีขึ้นกว่าเดิมและตัวซีพียูแรงขึ้นกว่าเดิมแม้สเปกจะใกล้เคียงกับ ZEN2  อันนี้ต้องยอมรับว่าทาง AMD ทำการปรับเปลี่ยนสถาปัตย์การทำงานออกมาได้ดีมากเลยครับกับการแก้ไขจุดด้อยของซีพียูตระกูล ZEN ลงได้อย่างหมดจดในซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ ในสถาปัตย์ ZEN3 ถือได้ว่าเป็นซีพียูขนาด 7nm ที่ได้รับการพัฒนาที่แทบจะเรียกได้ว่ามีความสมบรูณ์มากที่สุดในรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ครับ ทั้งประสิทธิภาพของคอร์ต่อคอร์ที่แรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนรวมไปถึงการทำงานแบบ Multi-Core ที่ยังแรงขึ้นรวมไปถึงการออกแบบสถาปัตย์ใหม่ที่นำเอาชุดคอร์ประมวลผล 8 คอร์แบบครบวงจร พร้อมการเข้าถึงแคช L3 ขนาด 32MB ได้โดยตรง ทำให้สถาปัตยกรรมใหม่ “Zen 3” ของ AMD นั้นสามารถส่งมอบจำนวนคำสั่งต่อหนึ่งไซเคิลเพิ่มมากขึ้นถึง 19% กันเลยทีเดียวครับ อันนี้ต้องยกให้การออกแบบสถาปัตย์ ZEN3 ที่แก้ไขในจุดนี้ออกมาอย่างได้ผลดีเลยทีเดียวครับ เราจะเห็นได้ชัดเลยครับว่าในารทดสอบประมวลผล คำนวน ถอดรหัส เข้ารหัส เรนเดอร์ กราฟฟิกและเกมส์มิ่งนั้นประสิทธิภาพนั้นออกมาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนแตกต่างจากรุ่น ZEN2 เป็นอย่างมากเลยครับ ในจุดนี้เองที่ทาง AMD พัฒนาก้าวข้ามไปได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว

…

…ถ้าให้สรุปกับการทำสอบซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ในมุมมองผมมันคือซีพียูระดับกลางตัวคุ้มอีกรุ่นแห่งปี 2020 เลยก็ว่าได้ครับกับประสิทธิภาพการทำงานที่ท่านได้เห็นแล้วครับว่าทำได้ดีเกินความคาดหมายจริงๆ ทั้งประมวลผลด้านต่างๆเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ครีเอเตอร์ กราฟฟิก หรือแม้กระทั่งเกมส์มิ่งที่ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีเหนือคู่แข่งกันเลยทีเดียว ในจุดนี้เองที่ AMD แก้ไขจุดด้อยของการเล่นเกมส์ลงได้ในซีพียู ZEN3 กับซีพียู AMD RYZEN 7 5800X ที่ถูกออกแบบมาให้เล่นเกมส์ได้แรงลื่นไหลจริงๆ ผมเชื่อว่าซีพียู AMD RYZEN 7 5800X นั้นจะเป็นซีพียูตัวธงอีกรุ่นของบรรดาเกมส์มเมอร์ที่ต้องพิจารณากันเลยครับ ที่ไม่ได้แรงเฉพาะเล่นเกมส์เพียงอย่างเดียวแต่การทำงานด้านอื่นๆต้องบอกเลยว่าแรงไม่แพ้กันเลยทีเดียว ถือเป็นซีพียูระดับกลางที่ครบเครื่องตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกประเภทกันจริงๆครับสำหรับ AMD RYZEN 7 5800X รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ในส่วนของการรองรับเมนบอร์ดก็สามารถใช้งานกับเมนบอร์ด 500ซีรี่ยืได้เลยครับ ส่วน 400ซีรี่ย์รอไบออสอัพเดทกันสักพักกันนะครับ

..

…โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 15,XXXบาท โดยท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายได้เลยครับ  แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

…

ราคา 15,XXXบาท Price 160USD

..

…

…

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

.

Special Thanks.

AMD

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!