ASUS Essence One USB DAC and Headphone Amplifier MUSES Edition
Share | Tweet |
สวัสดีครับ พบกับผมและบทความรีวิวอุปกรณ์ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์อีกครั้งบนหน้าเว็บ VMODTECH.com วันนี้อาจจะแปลกตาซักนิดครับเนื่องจากอุปกรณ์ที่จะมารีวิวให้ได้ชมกันในวันนี้นั้นเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับเรื่องเสียงนั่นเอง และมันก็เป็นอุปกรณ์ที่ผมรับมาแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมากพอควรครับเพราะว่าเรื่องดนตรีนั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งและเป็นงานอดิเรกที่พวกเราทีมงานนั้นชื่นชอบกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ครับวันนี้ผมได้รับ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition ซึ่งเป็น DAC และ Headphone Amplifier รุ่นท๊อปของ ASUS ในขณะนี้ครับ ก่อนจะไปชมรายละเอียดของตัว ASUS Xonar Essence One MUSES Edition จากผม เราไปชมรายละเอียดต่างๆจากหน้าเว็บของ ASUS กันก่อน
.
สำหรับ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition นั้น เป็น USB DAC และ headphone amplifier สองชาแนลรุ่นเรือธงในสายการผลิต field นี้ของ ASUS ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือการนำเอา Op-Amp ที่เป็นที่รู้จักในบรรดานักเล่นเครื่องเสียงมากมายอย่าง MUSES 01 มาเป็นตัวกำหนดแนวเสียงของ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition ครับ นอกจากนั้นวงจร Upsampling ก็เป็นอีกจุดนึงที่ได้รับการพัฒนาในวงจรด้วย ในส่วนของภาคอินพุตและเอาพุตนั้นก็จัดมาให้เต็มอัตราให้พร้อมรับการนำไปเชื่อมต่อเพื่อทำให้เป็นคอมพิวเตอร์ออดิโดระดับไฮเอนด์
.
Package Appearance
กล่องบรรจุ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition นั้นสวยงาม หรูหรามากมาย เห็นเด่นมาแต่ไกลด้วยคอนเส็บ The Essence of Sound
รายละเอียดด้านหลังกล่องก็จะเป็นการให้รายละเอียดของภาพรวมของวงจรและส่วนประกอบหลักๆครับ
พอเปิดกล่องออกมาก็จะหน้าตาแบบนี้
อุปกรณ์ที่มาในกล่องครับ ไม่ได้มากมายอะไรนัก ก็จะมีสาย USB ที่เอาไว้ทำการเชื่อมต่อจากคอมหรือว่า laptop ไปยัง ASUS Xonar Essence One MUSES Edition หนึ่งเส้น สายไฟที่มีหัวต่างกันสองเส้น หัวแปลงขนาดเป็นมินิแจ๊คอีกหนึ่งหัวครับ
นี่เป็นกล่องใส่สายไฟนะครับ แหม๋ ใส่ใจทุกรายละเอียดดีจริงๆ
มาแล้วครับหน้าตาของ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition สวยงามมาก น้ำหนักตัวก็ใช่ว่าจะเบานะครับยกออกมาจากกล่องนี่ตึงมือทีเดียว
ฝั่งซ้ายของแผงหน้าจะเป็นปุ่มเปิด/ปิดไฟเข้าตัวเครื่อง ปุ่ม Upsampling ปุ่มเลือกอินพุต ที่สามารถเสียบที่ด้านหลังของ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition แล้วมาเลื่อกที่ปุ่มนี้ครับ ซึ่งจะมีให้เลือกสามแบบการเชื่อมต่อก็คือ การเชื่อมต่อแบบ USB การเชื่อมต่อด้วย toslink และ coaxial อย่างละช่อง ส่วนปุ่มเล็กๆถัดไปจะเป็นปุ่มลดเสียงชั่วคราวครับ
มาถึงฝั่งขากันบ้างครับ ซ้ายสุดจะเป็น Volume สำหรับควบคุมความดังเมื่อต่อเอาท์พุตออกไปทางช่องต่อบาลานซ์หรืออันบาลานซ์ครับ ถัดไปจะเป็นกลุ่ม LED ซึ่งจะเป็นตัวแสดงผลของ Sampling Rate ซึ่งตรงนี้น่าจะต้องใช้ร่วมกับ ASIO นะครับ ถัดมาด้านขวาจะเห็น Volume ที่เอาไว้ควบคุมระดับเสียงของ amplifier หูฟังซึ่งช่องเสียบหูฟังก็จะอยู่ด้านขวาสุด การเชื่อมต่อก็จะเป็นเจ๊คขนาด 6.3 มม. แต่ถ้าหูฟังใครไม่ได้เป็นแบบนี้ ก็จะมีหัวแปลงเป็นมินิแจ๊คมาให้ด้วยครับ
ด้านหลังของ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition จากซ้ายไปขวาในรูปนะครับ จะเป็นเอาท์พุทแบบอันบาลานซ์หรือที่เรียกง่ายๆว่า RCA output นั่นเอง ถัดมาจะเป็นเอาท์พุตแบบบาลานซ์ ตรงนี้ก็ใช้ตามแอมป์ที่เรามีก็แล้วกัน ถัดไปจะเป็นอินพุตครับเริ่มจาก Coxial, Toslink, และ USB ส่วนโซนขวามือจะเป็นช่องเสียบไฟเข้าเครื่องครับ ซึ่งตรงนี้คงต้องเลือกตรง Voltage Selector ด้วยนะครับถ้าหากนำไปใช้กับประเทศอื่นที่ไม่ได้ใช้ไฟ 220 โวลท์
.
.
วันนี้ขอเปิดฝากเครื่องกันซักนิดนะครับ
สำหรับรายละเอียดของอุปกรณ์หลักๆนั้นทาง ASUS แจ้งไว้ดังนี้
Components:
● S/PDFI Receiver: AKM 4113
● DSP: ADI ADSP-21261
● D-A Converter for Analog Inputs: TI PCM1795
Operational amplifier:
● Balanced/ Un-balanced I/V:4 x MUSES 01
● Balanced/ Un-balanced LFP: 2 x MUSES 01
● Balanced/ Un-balanced Buffer: 3 x LM4562NA
● Headphone: 2 x LME49600
ไม่ถนัดเรื่องพวกนี้เลยครับ ขอผ่านแล้วกัน
.
Testing
เรื่องวงจรที่ไม่ถนัดผ่านไปก็มาถึงในภาคการทดลองเสียงครับ ตรงนี้ผมชอบมาก หน้าตาของ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition นั้นหล่อมากครับ เมื่อเสียบไฟเข้าเครื่องแล้วจะสวยงามแบบนี้เลย วันนี้ผมคงขอทำการทดลองฟังแบบง่ายๆ ฟังเอาแบบได้อารมณ์สบายๆด้วยเพลงเบาๆซึ่งผมเองไม่ได้หยิบแผ่นพวกนี้มาฟังค่อนข้างนานครับ โดยวันนี้ผมได้ทดลองฟังกับอุปกรณ์สามชุดนะครับคือ ทดลองฟังกับลำโพงคอมธรรมดาๆ ฟังกับหูฟัง แล้วก็นำไปทดลองกับชุดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเพื่อจะพิจารณารายละเอียดลีกๆที่ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition นั้นจะให้ได้ครับ
.
input ก็มีให้เลือกต้นทางได้สองทางครับคือ ทางแรกต่อมาจากช่อง USB ของคอม หรือจะเป็น digital output (toslink หรือ coaxial) จากคอมหรือ CD transport แล้ว Xonar ทำการถอดรหัสออกชุดหูฟัง หรือจะออก Output อีกชุดไปเข้าชุดเครื่องเสียงใหญ่ก็ได้
ผมลองฟังกับหูฟังกราโด SR60 ซึ่งเป็นรุ่นเล็กๆ โดยให้ Output จากช่อง USB ของคอมพิวเตอร์มาเข้าที่ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition เสียงที่ได้นั้นฟังออกได้เลยครับว่า ความมัวๆและคลุมเครือในย่านเสียงกลางนั้นแตกต่างจากที่ได้รับฟังจากออนบอร์ดหรือว่า USB DAC รุ่นอื่นๆที่ผมมีใช้งานเป็นการส่วนตัวอยู่ กับหูฟังรุ่นนี้นั้นผมรู้สึกว่ารายละเอียดและเสียงในโทนกลางแหลมขึ้นไปนั้นโด่งมากพอสมควรครับ จริงๆแล้วไม่ได้เป็นเสียงที่น่ารำคาญแต่อย่างใด คือมันเป็นเสียงกลางแหลมที่มีรายละเอียดมากขึ้นแบบที่ใครฟังก็น่าจะชอบครับ เสียงเพลงร้องสบายๆที่ผมริบเก็บไว้ในคอมนั้นก็ส่งผ่านมายัง ASUS Xonar Essence One MUSES Edition ได้น่าฟัง ไม่หวาน แต่ไม่ได้แห้งแล้งจนเกินไป
.
ลองเสียงเข้ากับลำโพงคอมธรรมดาๆอย่าง Altec Lansing VS 2421 นั้น ชัดเจนครับว่ารายละเอียดได้ถูกยกระดับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เสียงทุ้มที่โฟกัสไม่สู้จะดีนักจาก VS 2421 นั้น กระชับและให้หัวเสียงที่ชัดเจนขึ้น แรงปะทะดีขึ้น รายละเอียดเสียงกลางเปิดเผยมาก เสียงย่านกลางแหลมไปยังแหลมนั้น มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาก
.
หลังจากลองฟังสบายๆกับหูฟังและลำโพงคอมตัวเล็กๆไปแล้ว ผมเปลี่ยนจากการฟังด้วยหูฟังเป็นปล่อย output ไปที่ปรีแอมป์แทน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Preamp: Creek 4330 Passive Pre
Poweramp: NAD C 270 + สายไฟ Supra LoRad + สายสัญญาณ Supra
CD transport: NAD C 540 + สายไฟ Cardas Cross + สายสัญญาณ Supra
Receptacle: FIM
Speaker: ProAc Tablette 50 Signature + สายลำโพง Alpha Core MI 1 Center Stage
เริ่มต้นนั้นผมยังฟังเพลงจากคอมผ่านสาย USB เหมือนชุดแรกครับ เสียงที่ผมคุ้นเคยว่า อืม เสียงเพลงจากคอมพิวเตอร์ยังงัยมันก็แย่ แต่วันนี้ไม่ครับ เสียงเพลงเดิมๆนั้นได้ถูกยกระดับจนคิดว่าทุกคนน่าจะฟังออกอย่างแน่นอน แรกเลยก็คือ เวทีเสียงด้านกว้างนั้นฉีกออกไปจนผมต้องหันไปมองเลยครับ รายละเอียดจากเสียงเพอร์คัสชั่นต่างๆก็สบายหูมากมาย ฮาร์โมนิคจากเสียงของเครื่องดนตรีประเภททองเหลืองนั้นดีมาก ผมลองเลือกเพลง Why can’t we live together ที่ร้องและเล่นกีตาร์โดย Antonio Forcione และ Sabina Sciubba นั้น โดยปกติฟังจากลำโพงคอมนั้นไม่ได้มีเสน่ห์เหมือนอย่างฟังจากเครื่องเสียงเฉพาะเลย เสียงกีตาร์คลาสสิกของ Forcione ที่ผ่านจาก ASUS Xonar Essence One MUSES Edition ไปยังลำโพงนั้น ฮาร์โมนิคชัดเจน เสียงกำทอนของกีตาร์สาย เสียงตบสาย เสียงกระพือ ชัดเจน มาครบถ้วน
.
ลองอีกครับ ผมทดลองต่อสัญญาณ DIGITAL ผ่านทางสาย Coaxial ด้วยสาย Canare 75 OHM แท้ๆทั้งเส้นจากเครื่องเล่น CD ไปยัง ASUS Xonar Essence One MUSES Edition ซึ่งกรณีนี้จะใช้แค่ transport ของ CD เท่านั้น ผมฟังเพลงบรรเลงจีนจากค่าย FIM ที่ชื่อว่า River Of Sorrow ที่บันทึกมาแบบ Live direct to two track DSD เครื่องดนตรีจีนอย่างซออู้ และกู่เจิ้งนั้นให้อารมณ์เศร้าได้ดีเป็นอย่างยิ่ง นี่ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition มันสามารถยกระดับเสียงของ CD Player รุ่นโบราณของผมได้ดีมาก รายละเอียดที่เพิ่มขึ้นแต่บรรยากาศของเสียงนั้นคงเดิม ลองฟัง Jazz at the Pawnshop และ Benny Waters “Live at the Pawnshop” เล่นที่เดียวกันแต่บรรยากาศของการแสดงต่างกัน เจ้า ASUS Xonar Essence One MUSES Edition นั้นก็แสดงความต่างของเสียงได้สวยงามครับ Jazz at the Pawnshop นั้นพื้นเสียงออกใสๆ แต่ที่เบนนี่เล่นนั้น โทนเสียงจะอุ่นๆติดดาร์ค ความกว้างของวงนั้นหลุดตู้ แผ่ละอองเสียงออกไปได้สมบูรณ์แบบครับ
.
นี่เป็นอีกคืนนึงที่ผมต้องไปค้นแผ่นซีดีเก่าๆมาฟังครับ ผมเจอแผ่นโปรดและเพลงโปรดเพลงนึง You don’t know me ที่เป็นการฟีดเจอริ่งของ Ray Charles กับ Diana Krall เสียงอุ่นๆ รายละเอียดครบถ้วน อารมณ์เพลงได้ ลื่นไหล ยังคงความหวานนิดๆจากชุดของผมได้อย่างครบถ้วน รายละเอียดของเสียงในทุกย่านได้ถูกยกระดับขึ้นมาแบบที่น่าเสียตังมาก จริงๆผมเองก็เคยผ่านหูกับ DAC ที่อัพแซมปลิ้งได้มาหลายรุ่นนะครับ ผมว่า ASUS Xonar Essence One MUSES Edition นั้นมันไม่ได้ไปเบี่ยงเบนเสียงจากชุดหลักเลยครับ มิติและเวทีเสียงนั้นชัดเจนและขยายออกข้างไปอย่างน่าสนใจทีเดียว แนะนำว่าหากท่านใดใช้งาน Diffuser ร่องกลางอยู่น่าจะต้องขยับกันนิดหน่อยละครับ ผมว่ามันโอบได้อีกเยอะเลยนะ
.
แล้วถ้ากดปุ่ม Upsampling ล่ะ เสียงนิ่งมาก ไอ้ที่ได้ยินว่าฟุ้งๆนั้นกลับกลายเป็นชัดเจน ไดนามิกส์จากแผ่นที่ใครๆก็รู้จักอย่าง Rythm Basket นั้นไล่เรียงขนาดของกลองได้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์แบบ เสียงสากๆดิบๆริฟโหดๆจากปิ๊กอัพเซมัว ดันแคน เจบีบน ESP ของวิลนั้น ชัดเจนและรุนแรงมากกว่าไม่ได้อัพแซมปลิ่งอย่างชัดเจน แต่ๆๆๆ ผมว่าบรรยากาศมันเสียไปครับ สำหรับผม ผมว่ามันชัดไป มันอาจจะเพราะว่าความชอบเสียงแบบละมุนๆฮาร์โมนิคของเสียงเยอะๆ ตรงนี้อาจจะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนจริงๆฮะ ใครชอบฮิปฮ๊อป หรืออาจจะไปถึงพวกดูมเมททอลที่จูนเสียงกีตาร์แบบต่ำทะลุนรกเนี่ย ผมว่ามันช่วยให้น้ำหนักเสียงและแรงกระแทกของตัวโน๊ตต่ำๆแรงขึ้นนะ
.
จะเช้าแล้ว ผมฟังไปพิมพ์ไปครับ เป็นอีกครั้งนึงหลังจากที่ผมไม่ได้นั่งฟังเพลงยาวๆตั้งแต่หกโมงเย็นจนตีสามแบบนี้มานานมากแล้ว ยุคดิจิตอลมันเปลี่ยนไปเยอะมาก DAC สมัยก่อนนั้นสู้สมัยนี้ไม่ได้เลย อันนี้คงต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีมันไปไวมาก เสียงแบบนี้ รายละเอียดแบบนี้ ผมว่าไม่ถูกแน่ๆ ผมไม่รู้ราคานะว่าเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเสียงดีกว่า DAC หมื่นปลายๆเมื่อสี่ห้าปีก่อนเยอะมากครับ แล้วใครที่เหมาะกับเจ้า ASUS Xonar Essence One MUSES Edition ล่ะ ผมว่าต้องเป็นคนที่ซีเรียสกับเสียงมากพอตัวครับ ราคาคงไม่ใช่ถูกแน่ๆอย่างที่บอก แล้วมันจะยิ่งเปล่งประสิทธิภาพได้เต็มที่หากลำโพงและ Source ที่ใช้งานมีประสิทธิภาพสูง มีพื้นที่ให้ลำโพงได้แสดงซาวน์สเตจอย่างเต็มที่ ถ้ากำลังมองๆ Headphone amplifier ที่มี DAC ประสิทธิภาพสูงอยู่ เงินพร้อมแต่ยังลังเลอยู่เนี่ย แนะนำว่าอย่าไปฟังครับ เพราะคุณเสียตังแน่ๆ…
.
Chane
. .
.
.
ขอขอบคุณ
ASUS