ASUS ESSENCE STX II 7.1 Review
Share | Tweet |
INTRODUCTION
สวัสดีครับ สวัสดีสมาชิก Vmodtech ทุกท่าน พักหลังนี่ผมเองได้ทดลอง DAC/Sound Card ระดับสูงหลายตัวอยู่เหมือนกัน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นคอมโพเน้นท์ที่มาจากแบรนด์ใหญ่อย่าง ASUS ครับ มาวันนี้ ได้รับ sound card มาอีกรุ่นนึงซึ่งก็ยังเป็นของจากแบรนด์ ASUS อีกเช่นเคย มันมีชื่อแบบเป็นทางการว่า ASUS ESSENCE STX II 7.1 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการสานต่อ STX ตัวเดิมให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เรามาชมรายละเอียดทั่วไปและสเปกต่างๆจากหน้าเว็บของ ASUS กันเลย
.
ด้วยการออกแบบที่พิถีพิถันเพื่อให้ ESSENCE III นั้นเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีสจากฟีลนึงของ ASUS มันได้ถูกออกแบบให้เป็น DAC ไฮเอ็นด์ของวงการคอมพิวเตอร์ที่คาดหวังให้เสียงที่ดีที่สุด บริสุทธิ์ที่สุดครับ
รายละเอียดเชิงเทคนิคนั้นก็ตามรายละเอียดจาก ASUS ด้านบนครับ
PACKAGE APPEARANCE
กล่องบรรจุตัว ESSENCE STX II นั้นออกแบบมาได้หรูหราด้วยโทนสีและอาร์ทเวอร์คที่เนียบมาก
รายละเอียดที่อธิบายไว้ด้านหลังกล่องนั้นจะเป็นคุณสมบัติต่างๆ สเปกของอุปกรณ์ด้านอีเลคทรอนิกส์ และที่สำคัญทีสุดคือรายละเอียดการเชื่อมต่อที่สามารถทำให้เราสามารถเชื่อมต่อได้อย่างไม่สับสนแต่อย่างใด
ฝากล่องด้านหน้านั้นเปิดออกมาเพื่อชมความงามและรายละเอียดของอุปกรณ์บน PCB ได้ด้วย
คู่มือการติดตั้งแผ่น DVD Driver และ Utility ตัวการ์ดหลัก ตัวการ์ดลูก สายเชื่อมต่อระหว่างการ์ด สายแปลงจาก RCA แบบตัวผู้เป็น Mini Jack 3.5 มม และชุดอัพเกรดคิทครับ
ด้านขวามือสุดนั้นค่อนข้างน่าสนใจครับ ESSENCE STX II นั้นเปิดโอกาสให้เราเลือกเปลี่ยนตัว OP Amp ได้ด้วย
ASUS ได้เตรียม OP Amp มาให้สามตัวครับ สองตัวซ้ายคือ LME 49720 ค่ายเท็กซัส อินสตรูเม้นท์ ส่วนด้านขวานั้นจะเป็น MUSES 8820 ทั้งสามตัวนั้นเป็นเกรดกลางๆครับ
ตัว ESSENCE STX II นั้นเป็น Sound Card ที่มีอินเตอร์เฟสการเชื่อมต่อแบบ PCI Express, PCB เป็นสีดำ มองมุมนี้จะเห็น นิชิคอน โกล แค๊ป เต็มพื่นที่เลย
สวยงามมาก
ที่สันการ์ดนั้นจะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยัง front panel นะครับ
ด้านหลังโล่งครับ
จุดเชื่อมต่อที่ท้ายการ์ดนั้นจะมีพอร์ดสำหรับเชื่อมกับการ์ดลูก ด้านขวามือสุดนั้นจะเป็นช่องเสียบไฟเลี้ยงจากหัวต่อแบบโมเร็กซ์
จากซ้ายไปขวา RCA ต่อออกหน้าขวา/ซ้าย ช่องต่อ Headphone ช่องต่อ Line in และขวาสุดจะเป็น SPDIF out ซึ่งจะต่อออกแบบโคแอคหรือ fiber ก็ได้
การ์ดลูกครับ ตรงโมดูลนี้จะเป็นชุดสำหรับถอดรหัส 7.4/5.1 ครับ
บรรดาขั้วเชื่อมต่อต่างๆด้านท้ายการ์ดลูก
SETTING
ผมลองต่อกับชุดคอมพิวเตอร์หลักเพื่อยืดเส้นยืดสายการ์ดก่อนเป็นเวลานานพอควรครับ แล้วจากที่ได้ที่ซึ่งก็กินเวลาประมาณเกินหนึ่งอาทิตย์ก็ทดลองฟังกับหูฟัง RAZER KRAKEN PRO และ Desktop Speaker สบายๆไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นก็นำเอา ESSENCE STX II เข้ามาต่อกับชุดฟังเพลงอีกชุดนึงเพื่อฟังกับลำโพงบ้านบ้างเพื่อประเมินผลด้านเวทีเสียงในสเกลที่ใหญ่กว่า จริงๆแล้วผมเองส่วนตัวไม่ชอบฟังกับหูฟังซักเท่าไหร่นัก โดยชุดทดสอบชุดที่สองนี้ประกอบไปด้วย
.
- Computer: ASUS MAXIMUS V, Intel Core i7 2600K, RAM 4GB x 2
- Software: JRiver Media Center 19
- DAC: ASUS ESSENCE STX II 7.1
- Power Amp: NAD C270 120W/ch at 8 Ohm
- Speaker: ProAc Tablette 50 Signature
- Power Cable: Supra Rolad
- Interconnect: Cardas Crosslink
- Coaxial Cable: Canare L-5CFB 75 OHM
- Speaker Cable: AlphaCore MI Centerstage + CARDAS Jumper
- Sandbase, Tip-Toe Fine Ceramic
- Connector Cleaning by PROGOLD GP5
ดังที่กล่าวไปแล้วครับว่า ESSENCE STX II นั้นเปิดโอกาสให้เราสามารถปรับเปลี่ยนคาแรคเตอร์ของเสียงโดยการเปลี่ยน op amp ที่เตรียมไว้ให้ ผมเลยทดลองเปิดฝาครอบออกมาเพื่อลองดูครับ
ตรงที่ผมมาร์ค A, B, C ไว้คือบริเวณที่สามารถเปลี่ยน OP amp ได้นะครับ A กับ B นั้นเป็น convertor สำหรับ Output channel ขวาและซ้ายจะมีผลต่อทั้ง RCA Output และ Headphone output ส่วน C นั้นจะเป็น Lowpass filter ซึ่งจะมีผลเฉพาะกับ RCA Output เท่านั้น
ทดสอบเปลี่ยนดู
LISTENING
ระยะการจัดวางลำโพงประกอบการทดสอบ ESSENCE STX II นั้น ผมว่าง Tablette 50 Signature ห่างผนังหลังประมาณ 161 เซนติเมตร ระยะห่างลำโพงวัดจากทวีตเตอร์อยู่ที่ประมาณ 175 เซนติเมตร โทอินเล็กน้อย นั่งฟังห่างประมาณสามเมตร
หน้าของตัว Driver ครับ ปรับแต่ง DSP ได้นิดหน่อยด้วย
Output Headphone นั้นสามารถปรับเกนได้ด้วย
.
ผมเองไม่มีชุด Surround ที่ดีพอที่จะทดสอบความสามารถด้าน Surround ครับ เลยจะขอทำการทดลองเฉพาะ 2 channel เท่านั้น ซึ่งมันจะพอจะบอกความสามารถและโทนเสียงของมันได้แล้วละครับ เบื้องต้นเมื่อเสียบการ์ดเข้าไปแล้วนั้น แน่นอนครับว่าโทนเสียงนั้นนุ่มนวลกว่าเสียบจาก Onboard Sound อย่างแน่นอน มันลดความโฉ่งฉ่างของเสียงลงไปจนเกือบหมด ลองฟังเพลงป๊อบเบาๆหลายๆเพลง รู้สึกครับว่าเสียงนั้นมีโทนนุ่มนวล ปลายเสียงทอดยาวไปได้ประมาณนึง กับเพลงแนว percussion นั้น ตัวการ์ด ESSENCE STX II นั้นพอจะแยกแยะระนาบของเสียงได้พอควรครับแต่จะมีนิดหน่อยที่เกยๆกัน ฟังกับแทรกที่บันทึกสดๆนั้น ผมว่ามันทำผลงานได้ดีพอประมาณครับ ระดับสูงต่ำของเครื่องดนตรีนั้นเตี้ยไปนิด ระนาบที่แผ่ออกไปบริเวณรอบๆลำโพงไม่กว้างมาก มวลเสียง ณ จุดกำเนิดเสียงนั้นยังไม่เนียนและสมจริงเท่าไหร่ ตรงนี้ว่ากันไม่ได้ครับเพราะเท่าที่ได้ยินนี่ก็ถือว่าดีพอควรแล้วละ
.
กับเพลงแนวซิมโฟนี่ ออเคสตร้าวงใหญ่ๆนั้น ผมว่ามันอาจจะเกินความสามารถมันไปมากหากต้องการและคาดหวังเสียงแบบเดียวกับที่ถูกกลั่นกรองออกมาจาก ESSENCE III โดยรวมแล้วฟังได้ครับแต่อาจจะตอบสนองความอลังการได้ไม่เต็มที่นัก ทว่าเมื่อฟังกับเพลงร้องเบาๆชิ้นดนตรีน้อยๆกลับได้รับความรู้สึกที่ดีมาก บรรดาอัลบัมต่างๆที่ผมชอบก็ได้ถูกนำมาลองเปิดดู เสียงนั้นเปิดครับ เปิดตลอดย่าน รายละเอียดเสียงนั้นถือได้ว่าดีทีเดียว แหลม ทุ้ม นั้นตอบสนองได้พอควรและเพียงพอสำหรับฟังสบายๆ บรรยากาศในวงนั้นอาจจะไม่อบอวนไปด้วยไอรัก ฟรุ๊งฟริ๊ง แต่ก็เนียนแล้วละครับ
.
CONCLUSION
คงจะตำหนิอะไรไม่ได้มากครับหากจะเอาไปเทียบกับ DAC แยกชิ้นที่มีภาคจ่ายไฟที่ออกแบบมาเฉพาะและราคาแพง ตัว ESSENCE STX II นั้นถือว่ามีดีในระดับนึงเลย เสียงเนียน ลืนไหล ฟังเพลงพ๊อบ เพลงร้องเนียนครับ จุดนึงทีผมสังเกตุและรู้สึกว่ามันให้เสียงที่เร่งรีบไปนิดนึง อาจจะเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากระบบไฟที่เชื่อมโยงมาจาก PSU ของคอมซึ่งก็ไม่ได้ดีมากเพียงพอจะเอามาเป็นตัวกำหนดความดี/ไม่ดีของเสียง Sound Card ผมว่าเท่าที่ฟังอยู่นี่ถือว่า ASUS ESSENCE STX II 7.1 นั้นมีความน่าสนใจเพียงพอที่จะทำให้ผมหรือผู้ที่ชื่นชอบเสียงนักร้องเนียนๆหาซื้อมาประจำการในชุดของเราแล้วละครับ
.
.
.
ขอบคุณที่ติดตาม
เชน
.
.
ขอขอบคุณ
ASUS