ภาพบรรยากาศงานเอซุส เผยกลยุทธ์รุกตลาดปี 2556 ของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม
Share | Tweet |
…สวัสดีครับวันนี้ทางเราก็ขอนำภาพบรรยากาศงาน “เอซุส” เผยกลยุทธ์รุกตลาดปี 2556 ของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพีบีจี) มาฝากกันนะครับ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างตามไปชมกันได้เลยครับ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ต่างๆที่นำมาเปิดตัวในงานนี้นะครับ โดดเด่นด้วย ASUS NVIDIA GeForce GTX TITAN กราฟฟิคการ์ดรุ่นแรงล่าสุดครับ
กลุ่มผู้บริหารที่ให้เกียรติมางานนี้ครับ นำทีมโดย คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกั
พิธีกรสาวสวยกล่าวเปิดงานครับ
ไปชมรายละเอียดของงานแถลงข่าวที่หน้าถัดๆไปเลยครับ
สินค้าในกลุ่มโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพีบีจี) จะมีให้เลือกกันครบครันทุกระดับราคาและความต้องการตั้งแต่ตลาดระดับล่างจนถึงระดับสูงเลยนะครับ
นำทัพด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม R.O.G. ที่ทรงประสิทธิภาพ
สินค้าในกลุ่ม Mainstream ก็โดดเด่นเหนือคู่แข่งด้วย WiFi GO ที่จะเปลี่ยน PC Computer ของท่านให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงภายในบ้าน
…ในปีนี้ทางเอซุสในกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพีบีจี) ก็ได้เปิดตัว ASUS Service Center ขึ้นภายในประเทศไทย เพื่อการบริการหลังการขายที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม การเคลมก็แสนง่ายซื้อร้านไหนเคลมร้านนั้น แถมยังเป็นประกันในรูปแบบใหม่ใจถึงสุดๆด้วยนโยบาย “ไร้ขีดจำกัด” นั่นก็คือ ไม่ว่าจะมีอาการและสภาพใดๆมาดังภาพด้านบน ทางเอซุสจะรับเคลมทุกสภาพและอาการเลยครับ ขอให้สติกเกอร์ Serial Number ที่ใช้ในการเคลมที่ติดอยู่บนผลิตภัณฑ์อยู่ในสภาพดีอ่านออกก็เป็นพอครับ งานนี้สบายใจกันได้แน่นอน แถมยังมีบริการพิเศษให้กับผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Highend อย่าง R.O.G. ที่มีการบริการหลังการขายแบบ “Fast lane” กล่าวคือจะมีการรับประกันว่าท่านจะได้สินค้าที่เข้ารับบริการในเวลาไม่เกิน 7 วันทำการ งานนี้ผู้ใช้สบายใจกันได้อย่างแน่นอนครับ
SUPER ALLOY POWER เย็นทนประสิทธิภาพ อีกเอกสิทธิ์หนึ่งจากทางเอซุสครับ
ตามด้วยระบบ Direct CU ของกราฟฟิคการ์ดอันลือลั่นจากทางเอซุสในด้านความเย็นเงียบ สวยงามเหนือใคร
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม OMAP ของทางเอซุสในปีนี้ก็ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงและประหยัดไฟมากขึ้นกว่าเดิมครับ
ตามด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้ทำการเปิดตัวในต้นปีนี้ของทางเอซุสครับ
มาเธอร์บอร์ด AMD รุ่นแรกของโลก ที่จะรองรับกราฟฟิคการ์ดอินเตอร์เฟซล่าสุดอย่าง PCI-e 3.0 นั่นก็คือ SABERTOOTH990FX/GEN3 กำลังจะเปิดตัวและจัดจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆนี้แน่นอนครับ พร้อมกับการรับประกันที่ยาวนานเหนือใครถึง 5 ปี
ตามด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Industrial grade motherboard (IPC) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานในระบบอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่ทนเงียบในแบบ Fanless Design พร้อมช่องเชื่อมต่อที่รองรับงานด้านนี้ อาทิเช่น ช่องเชื่อมต่อ Com Port 2 ช่อง Mini Card Slot , SIM Card Slot และ 12V DC Power แบบแจ๊คเสียบ
และที่พลาดไม่ได้อย่างแน่นอนกับความรุนแรงระดับ Hiend สำหรับชาวเกมส์เมอร์นั่นก็คือ ASUS NVIDIA GeForce GTX TITAN
หน้าตาหล่อเหลากับตามต้นฉบับมาตรฐานจากทาง NVIDIA ครับ สำหรับกราฟฟิคการ์ดที่ใช้ GPU รุ่นนี้ที่จะออกวางตลาดในช่วงแรก
แรงแน่นอนอยู่แล้วครับ อยากรู้ว่าแรงแค่ไหน ตามไปชมกันได้ที่บทความ NVIDIA GeForce GTX TITAN 6GB GDDR5 Review กันได้เลยครับ
ปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ External Slim DVD Writer จากทางเอซุส ที่นอกจากจะสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทั่วๆไปได้แล้ว ยังสามารถทำการเชื่อมต่อได้กับ LED SmartTV และ Tablet PC ได้อีกด้วยครับ ครอบคลุมกันทั่วถึงแบบนี้น่าเล่นดีจริงๆครับ
ช่วงท้ายงานก็ถึงช่วงการจับ Lucky Draw มอบของรางวัลให้กับสื่อมวลชนที่มาเข้าร่วมงานครับ
รางวัลใหญ่ๆทั้งนั้น ASUS จัดเต็มจริงๆครับ
ปิดท้ายด้วยภาพสาวสวย ROG ในงานนี้ครับ สวยงามน่ากดไลค์ดีจริงๆ
…ก็ถึงบทสรุปงานนี้แล้วนะครับ ทางปีนี้เอซุสของจัดเต็มบุกตลาดแบบเต็มรูปแบบจริงๆครับ ทั้งบริการหลังการขายที่จะถูกปรับปรุงขึ้นในระดับสุดยอด รับเคลมกันเกือบทุกอาการ แถมบริการยังรวดเร็ว โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่ม R.O.G. ที่เคลมกันแบบ Fast Lane ใช้เวลาในการเคลมไม่เกิน 7 วัน แถมยังมีผู้จัดจำหน่ายรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งราย นั่นก็คือบริษัท SiS Distribution (Thailand) Public Company Limited ดังนั้นอุ่นใจกันได้แน่นอนครับว่าทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายในปีนี้ เอซุสจัดเต็มกันอย่างแน่นอน และสำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
.
ขอขอบคุณ
“เอซุส” เผยกลยุทธ์รุกตลาดปี 2556 ของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพีบีจี)
พร้อมพาเหรดสุดยอดนวัตกรรมไฮไลท์สินค้าใหม่ภายใต้แนวคิด “Home Solution 2.0″
ตอบสนองเทรนด์การใช้สมาร์ทดีไวซ์ที่เพิ่มขึ้นในยุค Cloud Enabled Era
เพิ่มคู่ค้าและศูนย์บริการอย่างครอบคลุมทั่วถึงทุกจังหวัด
พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ “ROG Plus” เพื่อการบริการแบบ Exclusive สำหรับสมาชิก ROG โดยเฉพาะ
กรุงเทพฯ - (21 กุมภาพันธ์ 2556) - กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม (โอพีบีจี) บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “เอซุส” ผู้ผลิตและพัฒนามาเธอร์บอร์ดชั้นนำที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก แถลงผลประกอบการปี 2555 ซึ่งปิดยอดจำหน่ายรวมได้ตามเป้าหมายที่ 1,600 ล้านบาท โดยรั้งตำแหน่งเจ้าตลาดอันดับหนึ่งของประเทศไทยในกลุ่มสินค้ามาเธอร์บอร์ด โดยรายได้รวมเติบโตขึ้น 3% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 ซึ่งนับว่าสวนกระแสอุตสาหกรรมไอทีในตลาดไทยที่มีภาพรวมอันซบเซาในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ในครึ่งปีหลังของปี 2555 กลุ่มธุรกิจโอพีบีจีของเอซุสยังสามารถเพิ่มการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์คโซลูชั่นที่มีอัตราเติบโตสูงถึง 175% พร้อมทั้งได้เริ่มเปิดตลาดเดสก์ท็อปพีซีในประเทศไทย สำหรับ กลยุทธ์ด้านการตลาดของเอซุสในปี 2556 นี้ ทางกลุ่มโอพีบีจีจะต่อยอดแนวคิดความคิดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Home Solution 2.0″ ที่มุ่งเน้นการเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลให้มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ผ่านอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านและอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์แบบพกพาที่มีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลและคอนเท้นต์ต่างๆ ผ่านระบบ Private Cloud Service ที่เป็นส่วนตัวและให้ความปลอดภัยสูงสุดอย่างไร้ขีดจำกัด โดยแนวคิดนี้จะนำเสนอรูปแบบใหม่ของการต่อเชื่อมระหว่างอุปกรณ์ที่ใครๆ ก็สามารถควบคุมได้ด้วยตนเองด้วยเทคโนโลยีที่ทาง ASUS ได้พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อมุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมุ่งเน้นบริการผ่านศูนย์บริการที่เพิ่มมากขึ้น และเปิดตัวบริการใหม่ “ROG Plus” สำหรับผลิตภัณฑ์ ROG ที่ความสะดวกรวดเร็วแก่สมาชิก ROG โดยเฉพาะ โดยทางโอพีบีจีมั่นใจภายในสิ้นปี 2556 นี้ จะสามารถเพิ่มการเติบโตด้านยอดจำหน่ายได้อีก 10% พร้อมตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท
คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับผลประกอบการรวมถึงรายได้จากกลุ่มธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีซึ่งเราได้นำมาทำตลาดในประเทศไทยเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2556 โดยเราสามารถสร้างการเติบโตด้วยส่วนแบ่งการตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีอยู่ในระดับที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของตลาดพีซีคอมเมอร์เชียล เนื่องจากมีปัจจัยด้านบวกที่ทำให้เราสามารถสร้างฐานตลาดลูกค้าองค์กรและหน่วยงานราชการต่างๆ มากมาย อาทิ การมีโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดหาอุปกรณ์พีซีตั้งโต๊ะให้กับหน่วยงานและโรงเรียนต่างๆ ในโครงการภายใต้การดูแลของสพฐ. โดยสัดส่วนของธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีระหว่างตลาดคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์จาก100 % ของเอซุสจะอยู่ที่ประมาณ 80 ต่อ 20 เปอร์เซ็นต์ จากผลประกอบการในปี 2555 ที่ผ่านมา เรายังคงมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมาเธอร์บอร์ดเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างรายได้สูงสุดกว่า 60% ตามมาด้วยวีจีเอการ์ด 25% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดคืออุปกรณ์เครือข่ายแบบไร้สายที่ประมาณ 175% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของผู้บริโภคในตลาดที่หันมาให้ความสำคัญกับการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่น่าเชื่อถือ รวมถึงนวัตกรรมอันล้ำหน้าด้านเน็ตเวิร์คกิ้งโซลูชั่นของเอซุสที่สามารถเข้ามาควบรวมการต่อเชื่อมของอุปกรณ์ต่างๆ จากศูนย์กลางเครือข่ายภายในบ้านหรือ Backbone device ซึ่งก็คือเร้าท์เตอร์ผ่านทางการควบคุมด้วยเดสก์ท็อปพีซีหรือสมาร์ทดีไวซ์ได้อย่างสะดวกสบาย”
“สำหรับในปี 2556 นี้ ทางกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีได้แบ่งหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ออกเป็น 7 กลุ่มหลักๆ ด้วยกัน ประกอบด้วย 1) กลุ่มสินค้ามาเธอร์บอร์ด 2) กลุ่มสินค้ามัลติมีเดีย 3) กลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายและอุปกรณ์ต่อพ่วง 4)กลุ่มสินค้าประกอบสำเร็จรูป (เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวัน) 5) กลุ่มจอภาพดิสเพลย์ 6) กลุ่มสินค้าอ็อพติคอลไดร้ฟว์ และสตอเรจ (OMAP) 7) กลุ่มบอร์ดเวิร์คสเตชั่นและเซฟเวอร์ ซึ่งเป็นการจัดหมวดสินค้าภายใต้ความรับผิดชอบของกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีให้มีความสะดวกและเหมาะสมกับการบริหารจัดการด้านการตลาดยิ่งขึ้น โดยเราได้วางนโยบายการตลาดผ่านแนวคิดที่เรียกว่า ‘Home Solution 2.0′ โดยต่อยอดแนวคิดด้านการตลาดในปีที่ผ่านมาในส่วนของการเชื่อมต่อของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจของโอพีบีจี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่ม DIY ที่เอซุสเป็นเจ้าตลาดอยู่ ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งภายในบ้านและอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์แบบพกพา บนระบบ Cloud Service ในรูปแบบ Private Cloud หรือระบบคลาวด์ส่วนตัวของเอซุส ที่ช่วยเอื้อประโยชน์ให้ผู้บริโภคสามารถจัดการไฟล์คอนเท้นต์ที่เก็บไว้ได้ด้วยตนเอง รวมถึงการแบ่งปันสู่บุคคลอื่นๆ ผ่านทางฟีเจอร์ ‘ASUS AiCloud’ ที่มีบนสมาร์ทดีไวซ์ชื่อดังต่างๆ โดยระบบนี้จะเปลี่ยนเร้าท์เตอร์ให้กลายเป็นศูนย์กลาง (Backbone) ของการใช้งานทางด้านอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายภายในบ้านและนอกบ้าน รวมถึงวงเครือข่ายอุปกรณ์พกพาที่ลงทะเบียนไว้ ผ่านการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ได้ในความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีบีบอัดขนาดของไฟล์และรับส่งข้อมูลใหม่ล่าสุด Wi-Fi 802.11ac นอกจากนี้ มาเธอร์บอร์ดจากเอซุสยังมีฟีเจอร์ ‘WiFi Go! และ Remote Go!’ที่สร้างการเข้าถึงคอนเท้นต์ต่างๆ บนฮาร์ดดิสก์ของเครื่องพีซี ไม่ว่าจะเรียกดูจากอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แท็บเบล็ต หรือโน้ตบุ๊ค โดยฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ ช่วยสร้างระบบอันเป็นส่วนตัวและให้ความปลอดภัยสูงสุดอย่างไร้ขีดจำกัดที่ไม่ว่าสมาชิกคนไหนในบ้านก็สามารถเป็นผู้ดูแลระบบเองได้อย่างง่ายดาย ด้วยแนวคิดใหม่นี้ เอซุสได้ปฏิวัติความสามารถในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในแบบเวอร์ชั่น 2.0 ได้อย่างแท้จริง เราจึงเชื่อว่าแนวคิดด้านการตลาดในคอนเซ็ปต์ “Home Solution 2.0″ นี้จะสามารถตอบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ผู้ใช้งานระดับโปรเฟสชันนอล ผู้ใช้งานด้านเกมมิ่ง เอ็นด์ยูสเซอร์ทั่วไป รวมไปถึงผู้ใช้งานมัลติมีเดีย เพื่อความบันเทิงต่างๆ”
คุณมนต์ธีร์ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของเรา ในปีนี้เราได้เพิ่มทีมงานที่เข้ามาดูแลในส่วนการตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากเรามีกลุ่มสินค้าภายใต้ความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น และเรายังคงสานต่อการทำตลาดที่เน้นการสร้างประสบการณ์และความประทับใจจากลูกค้าของเราด้วยนวัตกรรมและดีไซน์อันล้ำหน้า รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ในผลิตภัณฑ์ของเราที่ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตลาดขณะนั้น โดยบริษัทฯ จะไม่สร้างการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นมูลค่าเพิ่มจากความแตกต่างและฟีเจอร์พิเศษให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงผลประโยชน์ที่เหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ สำหรับผู้บริโภค และสำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายในปีนี้ เราได้เพิ่มตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและมัลติมีเดียของเรา คือบริษัทเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SIS ซึ่งจะช่วยให้ช่องทางการจัดจำหน่ายของเรามีความครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น โดยทางหน้าร้านของ SIS จะเน้นการจัดดิสเพลย์และการสาธิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเราอย่างใกล้ชิด และสามารถจดจำแบรนด์และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ของผลิตภัณฑ์จากเอซุส ก่อนตัดสินใจซื้อได้ โดยเราให้การสนับสนุนคู่ค้าของเราอย่างต่อเนื่องในการเข้าไปอบรมความรู้เกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ เทคนิคการขาย และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และผลประโยชน์จากสินค้าต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์แบบ Life Demo ที่จะช่วยให้เห็นภาพพจน์ของการทำงานและฟังก์ชั่นต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเรามีเป้าหมายให้ดีลเลอร์สามารถถ่ายทอดความรู้และคุณสมบัติต่างๆ ให้แก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ”
“เรายังได้เพิ่มจำนวนศูนย์ซ่อมผ่านทางพันธมิตรต่างๆ เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการซ่อมให้รวดเร็วขึ้น รวมถึงการเปิดบริการงานซ่อมเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้สินค้าซีรีส์พรีเมี่ยมเกมมิ่งจากแบรนด์ ROG โดยเฉพาะ ด้วยบริการ “ROG Plus” ที่จะช่วยยกระดับการบริการให้เหล่าสมาชิกรู้สึกเป็นคนพิเศษ โดยมุ่งเน้นการสร้างความสะดวกรวดเร็วในการซ่อมแซม
สินค้า ROG ผ่านช่องทางเฉพาะที่ไม่ต้องเข้าคิวรอร่วมกับสินค้าของเอซุสทั่วไป โดยบริการใหม่นี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้” คุณมนต์ธีร์ กล่าวเสริม
“ในส่วนของนวัตกรรมสินค้าที่เป็นไฮไลท์ในปี 2556 นี้ เรามีไลน์อัพผลิตภัณฑ์มากมายที่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจในงานมหกรรมแสดงสินค้าระดับโลก CES 2013 ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยสินค้าจากเอซุสในส่วนของโอพีบีจีได้กวาดรางวัลยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรมและดีไซน์อย่างมากมาย อาทิ จอแสดงภาพ ‘ASUS Designo Series MX279H’ ขนาด 27 นิ้ว ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงระหึ่มระดับสเตอริโอไฮไฟ B&O ICEPower จากความร่วมมือระหว่างทีมพัฒนาเทคโนโลยีระบบเสียงของเอซุสกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Bang & Olufsen และไลน์อัพสินค้าอันโดดเด่นที่พร้อมลงสู้ตลาดประเทศไทยในปี 2556 นี้ ประกอบด้วยสุดยอดกราฟฟิกส์การ์ดรุ่นลิมิทเต็ด เอดิชั่น ‘ROG ARES II’ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dual AMD® HD 7970 GHz Edition GPUs, เครื่องแปลงสัญาณดิจิตอลอะนาล็อก ‘ASUS Xonar Essence One MUSES Edition’ และเซ็ทหูฟังที่จะทำให้เสียงกระหึ่มเพื่อเพิ่มอรรถรส, คอมแพ็คมาเธอร์บอร์ดรุ่นจิ๋วแต่แจ๋ว ‘ASUS E2KM1I-DELUXE Mini-ITX’, ออลอินวันพีซี ‘ASUS Transformer AiO’ เครื่องแรกในโลกที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 และจอถอดได้ขนาด 18.4 นิ้ว ใช้งานเป็นแท็ปเล็ตระบบแอนดรอยด์ได้, เครื่องมีเดียสตรีมเมอร์ ‘ASUS Qube Google TV’ คุณภาพระดับไฮเดฟฟินิชั่น, จอแอลซีดีระดับโปรเฟสชันแนล “ASUS PA249Q ProArt“ และ ‘VG248QE Fast Gaming monitor’ สำหรับคอเกมขาระห่ำ รวมถึงเร้าท์เตอร์ไร้สายแบบพกพาเครื่องเล็กที่สุดในโลก ‘ASUS WL-330NUL Pocket Router’ ที่ให้การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบออนเดอะโกที่สมบูรณ์แบบแก่ผู้ใช้งานที่เดินทางบ่อยๆ”
“ด้วยความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศไทยในหมวดสินค้ามาเธอร์บอร์ด เราจะยังคงนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีหวังว่าในปี 2556 นี้ เราจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากผลิตภัณฑ์ในหมวดต่างๆ ได้มากขึ้น พร้อมสร้างการเติบโตของรายได้รวมภายในสิ้นปีประมาณ 10% และรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ มาเธอร์บอร์ดและวีจีเอการ์ดได้อย่างต่อเนื่อง” คุณมนต์ธีร์ กล่าวทิ้งท้าย
###
เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส หนึ่งในสามสุดยอดผู้นำจำหน่ายโน้ตบุ๊กระดับโลก และผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำในยุคดิจิตอลใหม่ เอซุสออกแบบและผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของครัวเรือน สำนักงานและบุคคลทั่วไปในยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัวด้วยสายผลิตภัณฑ์ มากมายไม่ ว่าจะเป็นมาเธอร์บอร์ด กราฟิกการ์ด ออฟติคอลไดรฟ์จอภาพ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป อีบ๊อกซ์ ออลอินวันพีซี โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก แท็บเล็ต เซิร์ฟเวอร์ โซลูชั่นมัลติมีเดียและโซลูชั่นไร้สาย อุปกรณ์เครือข่ายและโทรศัพท์มือถือ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและคุณภาพทำให้เอซุสคว้ารางวัลถึง 3,886 รางวัลในปี 2011 และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ด้วย Eee PCTM เอซุสมีพนักงานทั่วโลกกว่า 11,000 คน พร้อมทีมวิจัยและพัฒนาระดับโลกอันประกอบด้วยวิศวกรจำนวน 3,100 คน เอซุสมีผลประกอบการในปี 2011 กว่า 11,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เกี่ยวกับมาเธอร์บอร์ดเอซุส
ด้วยนวัตกรรมที่ต่อยอดมาจากการคิดค้นพัฒนาของบริษัทเอง ผนวกกับความทุ่มเทเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด เอซุสจึงกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในด้านความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดหลากหลายชนิด และเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมด้วยยอดขายรวมทั่วโลกสูงสุด รวมทั้งยังเป็นแบรนด์ที่มีผลตอบรับเชิงบวกจากลูกค้ามากที่สุด ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย มาเธอร์บอร์ดของเอซุสช่วยสร้างการขับเคลื่อนวงการคอมพิวเตอร์ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมอันล้ำยุค โดยมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อาทิ ระบบควบคุมไฟฟ้า DIGI+ Power Control ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์อัจฉริยะแบบคู่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมและให้การประหยัดพลังงานได้อย่างเหนือชั้น รวมถึงระบบป้องกันความร้อนทั้งยูนิตของมาเธอร์บอร์ดที่พิเศษเหนือใครจากเทคโนโลยี TUF Series Thermal Armor และ Thermal Radar นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดของแบรนด์ Republic of Gamers (ROG) จากเอซุส ซึ่งรองรับการปรับแต่งจูนนิ่งความเร็วในการโอเวอร์คล็อกได้แรงและมีประสิทธิภาพยิ่งกว่า ด้วยการครองสถิติมากมายในวงการคอมพิวเตอร์ มากไปกว่านั้น เอซุสยังนำเสนอฟีเจอร์พิเศษเฉพาะตัวที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัทฯ เช่น USB 3.0 Boost ที่สามารถรองรับการใช้งาน UASP ได้ รวมถึง USB BIOS Flashback และ UEFI BIOS ที่มาพร้อม EZ Mode ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอซุสในการผนึกความสามารถด้านการผลิตนวัตกรรมเข้ากับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและความใส่ใจต่อผู้คนที่ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
เกี่ยวกับ ASUS ROG
Republic of Gamers (ROG) โดยเอซุส ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2549 เพื่อตอบสนองความต้องการของคอเกมและผู้ใช้งานระดับฮาร์ดคอร์ที่มองหาความพิเศษที่เหนือไปกว่าสิ่งที่ฮาร์ดแวร์ทั่วไปทำได้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ROG ได้เติบโตเป็นแบรนด์อันเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพชั้นสูง รวมถึงการเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญทั้งในงานแข่งขันเกมส์ต่างๆ และงานอีเว้นต์เกี่ยวกับการโอเวอร์คล็อกในทั่วโลก รวมถึงงานใหญ่อย่าง QuakeCon, BlizzCon และ Dreamhack ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์ของ ROG ได้ทำลายสถิติการโอเวอร์คล็อกมากมายจนได้รับรางวัลและการประกาศเกียรติคุณต่างๆ รวมถึง 1,200 รายการ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ ROG ไม่ว่าจะเป็นมาเธอร์บอร์ด การ์ดจอ โน้ตบุ๊ค เดสก์ท็อป เมาส์และออดิโอโซลูชั่น ล้วนแต่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้หลักการความเป็น “ตัวเลือกของแชมเปี้ยน” (The Choice of Champions) ด้วยการดีไซน์ที่มุ่งเน้นให้เกมเมอร์และผู้ใช้งานเกิดความได้เปรียบเหนือคู่ต่อสู้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ROG ได้ที่เว็บไซต์ http://rog.asus.com
.