ASUS PRIME X299 Edition 30 Review
Share | Tweet |
สวัสดีครับ วันนี้เรานำเอามาเธอร์บอร์ดที่ใช้ชิพเซต X299 บนซ๊อกเก็ต LGA 2066 ตัวแรงรุ่นใหม่ล่าสุดที่เราได้เคยได้เห็นในงาน Computex 2019 กันไปแล้วนะครับจากแบรนด์ ASUS โดยวันนี้จะเป็นบอร์ดที่มีชื่อว่า ASUS Prime X299 Edition 30 คุณสมบัติหลักๆของบอร์ดรุ่นนี้ก็จะเป็นบอร์ดที่ออกแบบต่อยอดขึ้นมาจาก Prime X299 ที่ด้วยตัวมันเองแล้วก็ถือเป็นเมนบอร์ดที่ให้คุณสมบัติพิเศษมาอย่างมากมาย โดยสิ่งแรงที่เตรียมพร้อมมากับรุ่นนี้ก็คือ พร้อมรองรับ Intel® Core™ i9 10000 X-Series CPU ครับ รวมถึงได้ยกระดับ WiFi ให้เป็น AX200 ด้วย มีจอ OLED ที่ทำงานร่วมกับ Smart Control Console ที่จะช่วยให้เราสามารถมอนิเตอร์ระบบ นอกเหนือจากดูได้จากเหนือฮีทซิ้งกลางบอร์ดแล้ว ก็สามารถมาดูที่จอ OLED นี้ได้ด้วย ในตัวนั้นก็ยังมี IR webcam ที่มีความละเอียดกล้องที่ 720p ครับ สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย รายละเอียดมากมายครับค่อยๆศึกษาไป ยังมีการแสดงผล RGB มาให้ด้วย แน่นอนว่าสามารถทำงานให้สอดคล้องกับไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิกการ์ด เคส หรือจะเป็นสาย LCD ต่อเชื่อมภายนอกด้วย นั่นคือคร่าวๆของมาเธอร์บอร์ดนี้ครับ เรามาดูรายละเอียดของเจ้า ASUS Prime X299 Edition 30 กันเลย
.
.
.
Motherboard Appearance
กล่องบรรจุ ASUS Prime X299 Edition 30 นั้นจะมีขนาดค่อนไปทางใหญ่ตามขนาดมาเธอร์บอร์ด สีสรรออกแบบให้เป็นไปตามธีมของ Prime Series ด้วยสีขาวตัดกับตัวหนังสือสีทอง รายละเอียดคุณสมบัติต่างๆนั้นก็ได้นำมาแสดงให้ชมกันที่ด้านหลังกล่องครับ
เปิดกล่องมาก็จะพบกับตัวบอร์ดหน้าตาดูดีสุดๆ
บรรดาสาย และอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงคู่มือ แผ่น Driver ที่แถมมาให้ในกล่อง
และนี่เป็น Smart control console ที่ต้องการการเชื่อมต่อด้วยสาย USB จำนวนสองเส้นครับ
หน้าตาบอร์ด ROG Strix X299-E Gaming II แบบเต็มๆครับด้วยขนาด ATX ปกติ เลย์เอาท์บนบอร์ดนั้นมาแบบเรียบหรูดูดี สีสรรที่เลือกใช้นั้นก็สวยงามด้วยพื้นดำตัดกับสีบนอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างลงตัว
พอร์ทเชื่อมต่อแบบ PCIe 3.0 x16 ที่มีมาให้
48-Lane CPU-
3 x PCIe 3.0/2.0 x16 (x16, x16/x16, x16/x16/x8)
2 x PCIe 3.0/2.0 x1 *1
44-Lane CPU-
3 x PCIe 3.0/2.0 x16 (x16, x16/x16, x16/x16/x8)
2 x PCIe 3.0/2.0 x1 *1
28-Lane CPU-
2 x PCIe 3.0/2.0 x16 (x16, x16/x8) *2
2 x PCIe 3.0/2.0 x1 *1
และจากรูปนี้ก็จะเห็นปุ่ม Reset Power และไฟแสดงผล debug code ครับ
พอร์ทการเชื่อมต่อแบบ SATA III นั้นจะมีมาให้แปดช่องครับ สำหรับ M.2 นั้นจะมีมาให้สามช่อง ซึ่งสองช่องแรกจะวิ่งเข้าชิพเซตซึ่งรองรับเฉพาะกับ M.2 PCIE 3.0 x4 ส่วนอีกช่องจะรองรับทั้ง M.2 SATA และ M.2 PCIE ครับ สำหรับอีกช่องนึงนั้นจะวิ่งไป CPU จะรองรับ PCIe 3.0 x4 ครับ
บริเวณโซนกลางซึ่งเป็นโซนของซ๊อกเกตซีพียูและช่องเสียบแรม จะมี LiveDash OLED ที่จะคอยแสดงสถานะการบู๊ตและเมื่อเข้ามายังวินโดว์แล้วก็จะเปลี่ยนมาแสดงความร้อน CPU แรมนั้นรองรับการทำงานตามรายละเอียด้านล่างนี้ครับ
(Intel® Core™ i9 10000 X-Series CPU)
8 x DIMM, Max. 256GB, DDR4 4266(O.C.)/4133(O.C.)/4000(O.C.)/3866(O.C.)/3800(O.C.)/3600(O.C.)/3400(O.C.)/3333(O.C.)/3200(O.C.)/3000(O.C.)/2933/2800/2666/2400/2133 MHz Non-ECC, Un-buffered Memory
(Intel® Core™ i9 9000/7000 and i7 9000 X-Series CPU)
8 x DIMM, Max. 256GB, DDR4 4266(O.C.)/4133(O.C.)/4000(O.C.)/3866(O.C.)/3800(O.C.)/3600(O.C.)/3400(O.C.)/3333(O.C.)/3200(O.C.)/3000(O.C.)/2933(O.C.)/2800(O.C.)/2666/2400/2133 MHz Non-ECC, Un-buffered Memory
บอร์ดนี้ต้องการไฟเลี้ยง CPU แบบ PCIe แบบ 8 พินจำนวนสองหัว รวมถึงในรูปจะเห็นชุดระบายความร้อนของ VRM ซึ่งภายในนั้นจะมีพัดลมขนาด 40 มม ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่ออุณหภูมินั้นสูงขึ้นเกิน 60 องศาเซลเซียส
ที่ฝาครอบชุด I/O ด้านหลังจะมีโลโก้ Prime ที่สามารถเรืองแสงได้ด้วยนะครับซึ่งจะสามารถสั่งเปลี่ยนสีเปลี่ยนเอฟเฟกการเรืองแสงได้ด้วย
ด้านหลังของบอร์ดก็จะไม่มีฝาครอบมาให้นะ จะมีก็ตรงตรงบริเวณมอสเฟตช่วยบาลานซ์ความร้อนและป้องกันการแอ่นงอด้วย
พอร์ทเชื่อมต่อด้านหลังครับ
- 2 x Thunderbolt 3 ports TypeC™
- 2 x DisplayPort IN ports for Thunderbolt™ 3
- 1 x LAN (RJ45) port(s)
- 4 x USB 3.2 Gen 1
- 2 x USB 2.0 (one port can be switched to USB BIOS FlashBack™)
- 1 x Optical S/PDIF out
- 5 x Audio jack(s)
- 1 x ASUS Wi-Fi Module
- 1 x AQC-111C 5G LAN port
.
Test Setup
SYSTEMS | |
.CPU | ..Intel Core i7 9800X |
.Motherboard | ..ASUS PRIME X299 Edition 30 |
.Memory | ..GSkill F4-4133C19-8 GTZA 8GB x 2 |
.Graphic Card | ..ASUS GeForce RTX 2080 Super |
.Harddisk | ..Plextor M9PEG 512GB <Review> |
.CPU Cooler | ..Custom Water Cooling………………………………….. |
.Power Supply | ..Corsair RM850X 850 Watt |
.Operating System. | ..Windows 10 Pro 64-bit |
.รายละเอียดของ systems ที่ใช้ในการทดสอบในวันนี้
เมื่อประกอบเสร็จเปิดขึ้นมาก็จะพบกับความสวยงามแบบเรียบหรูดูดีครับ
หน้าจอ LiveDash OLED ขนาดสองนิ้วที่คอยรายงานรายละเอียดของระบบ
ไฟสีสรรสวยงามบริเวณฮ๊ทซิ้งค์ chipset ครับ
หน้าตาของ Smart Control console ที่เป็นทั้ง livedash และ webcam รวมถึงสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วยครับ
.
CPUZ Details
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าวันนี้เรานำเอา CPU Intel Core i7-9800X นั้นเป็น CPU ที่มี 8 คอร์ ทำงานทั้งหมด 16 Thread บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมขนาด 14nm โดยวันนี้บนบอร์ดนี้ ผมสามารถปรับแต่งได้ที่ ตัวคูณ 48, BCLK 100 ได้ความเร็วที่ 4.8 GHz ไฟ 1.35 โวลท์
มาเธอร์บอร์ดวันนี้ผมได้ใช้ Bios เวอร์ชั่น 0224 ซึ่งเป็นตัวล่าสุด
แรมเซตที่ DDR4 3,200 MHz นะครับ และ Uncore ที่ 3.2 GHz
.
GPU เป็น ASUS GeForce RTX 2080 Super ครับ
.
BIOS
หน้าตาของไบออสครับ ปรับแต่งง่ายๆ สามารถเลือกได้ทั้งโหมดง่ายและแอดแวนซ์
.
.
.
SuperPI Suites
ผ่านไปทั้งซีรีย์อย่างราบรื่น ความร้อนสูงสุดที่ 91 องศาเซลเซียส
.
FHD X264 Benchmark
ผลคะแนนที่ได้นั้นอยู่ที่ 61 fps ความร้อนจะสูงสุดที่ 92 องศาครับ ก็ถือว่าไม่ร้อนทะลุนักด้วยหม้อน้ำสี่ตอนและห้องแอร์ 27 องศาเซลเซียส
.
WinRAR Benchmark
..
AIDA Cache and Memory Benchmark
.
CPUZ Benchmark
.
.
.Cinebench R11.5 Benchmark
.
.Cinebench R15 Benchmark
.
.Cinebench R20 Benchmark
.
Corona 1.3 Benchmark
เรนเดอร์ใช้เวลาประมาณ 1 นาที 38 วินาทีครับ
.
.
3DMark 11
.
3DMark Fire Strike Benchmark
.
Time Spy
ขับดันพลังกราฟฟิกการ์ดได้เหลือเฟือจริงๆครับ
Metro Exodus Benchmark
.
Result
Metro Exodus นั้นเล่นได้ที่ 42 เฟรมต่อวินาทีบนความละเอียด Ultra ครับ
..
Conclusion
ทั้งหมดนี้คือความสามารถในการใช้งาน Motherboard ASUS Prime X299 Edition 30 เมื่อจับคู่กับ CPU Core i7 9800 และกราฟฟิกการ์ด ASUS GeForce RTX 2080 Super ครับ มาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้แม้จะไม่ใช่รุ่นสำหรับโอเวอร์คล๊อกแบบสุดๆแต่ก็สามารถโอเวอร์คล๊อกได้อย่างง่ายดายและไม่เค้นมาก ซึ่งก็ให้ผลที่ดีมากบน Benchmark ต่างๆที่ผ่านไปได้ด้วยดีและแน่นอนว่ามีเสถียรภาพในการทำงานด้วย และหากต้องการดันขึ้นไปอีกก็สามารถทำได้ครับแต่ต้องพิจารณาชุดระบายความร้อนให้ดีด้วย
.
พอร์ทการเชื่อมต่อนั้นมีมาให้มากมายครับถือเป็นอีกบอร์ดรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีอัดแน่นมาให้ สามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายด้วยความเร็วสูงมากไม่ว่าจะเป็น WiFi 6 (802.11ax), LAN 5 Gbps, USB 3.2 Gen 2, Thunderbolt และยังมี M.2 มาให้ถึงสามช่องด้วย ด้านแสงสีนั้นก็แน่นอนว่าตามสมัยนิยมเลย สามารถเลือกปรับแต่งสีสรรและเอฟเฟกบนโลโก้ที่ฝาครอบ I/O ด้านหลังได้ผ่านทาง AURA Sync รวมถึงสามารถสั่งให้อุปกรณ์ต่างๆที่เสียบบนบอร์ดเช่นกราฟฟิกการ์ด สาย RGB นอกทำงานสอดคล้องกันทั้งระบบก็ได้ด้วย รวมถึงความน่าสนใจของ Smart Control console ที่สามารถแสดงผลรายละเอียดของระบบเช่นความเร็ว CPU ความร้อน ไม่ต่างไปจาก LiveDash กลางบอร์ดเลย ถือเป็นมาเธอร์บอร์ดที่มีความน่าสนใจอีกรุ่นนึงที่มีรูปลักษณ์ออกไปทางเรียบหรูดูดีมากๆ
.
สำหรับราคานั้นผมยังไม่มีข้อมูลนะครับ
.
.
.
..
CHANE
.
.
.
Special Thanks.
ASUS
.