ASUS ProArt Display PA32UCX-P 4K HDR 32 Inch Review
Share | Tweet |
Introduction
สวัสดีครับ สำหรับวันนี้เรามีจอระดับสูงจากแบรนด์ ASUS มารีวิวให้ได้ชมกันอีกรุ่นนึงครับครับ ASUS ProArt PA32UCX-P นั้นเป็นจอมอนิเนอร์ที่ได้ถูกปรับแต่งภายในให้มีความต่างจากรุ่นเดิมคือ ASUS ProArt PA32UCX แต่เท่าที่ดูเปรียบเทียบสเปกต่างๆแล้วดูเหมือนจะไม่ต่างเลยนะครับ ไม่เป็นไรในเมื่อมันมี -P ต่อท้ายมาเราก็มาชมกันครับว่าความสวยงามและรายละเอียดต่างๆจะเป็นอย่างไร
.
ASUS ProArt PA32UCX-P นั้นเป็นจอมอนิเนอร์ที่มีความละเอียด 3840 x 2160 หรือ UHD (4K) รีเฟรชเรทที่60 Hz อัตราส่วน 16:9 ขนาด 32 นิ้ว เรสป้อนไทม์ 5s แบบ Gray to grey ครับ ตัวจอนั้นเป็นแบบ IPS แบบด้านหรือ Non-glare ที่มี Mini LED Backlight ทั้งหมด 1152 จุด ที่จะช่วยให้ความสว่างนั้นเสมอกันตลอดทั้งพื้นที่ของจอเลยครับ นอกจากนั้นแล้วตัวจอยังรองรับ HDR 10/Dolby Vision และมีการการันตีความเพี้ยนสีจากมาตรฐานหรือเดลต้า อี ที่น้อยกว่า 1 ด้วยครับ เรามาชมรายละเอียดของ ASUS ProArt PA32UCX
..
.
.
PACKAGE APPEARANCE
ตัวกล่องบรรจุของ ASUS ProArt PA32UCX-P นั้นจะมีขนาดใหญ่ มีรายละเอียดและเทคโนโลยีที่อัดแน่นอยู่ในตัวจอมอนิเตอร์นำเสนอครบถ้วน
ภายในกล่องนั้นจะมีบรรดาสายต่างๆมาให้ครับ Thunderbolt™ 3 Cable, Power cord, DisplayPort cable, USB-C cable, USB-C to A cable, Quick start guide, HDMI cable, Warranty Card, Color pre-calibration report Monitor hood
ในกล่องนั้นจะแถมตัวคาริเบรทจอ x-rite i1 Display Pro มาให้ด้วยครับ
ขาตั้งที่มากับจอนั้นจะมีดีไซน์สวยงามครับ จากที่ได้ทดลองใช้ค่อนข้างแข็งแรงทีเดียวเลย
ASUS ProArt PA32UCX-P นั้นเป็นจอมอนิเนอร์ที่มีความละเอียด 3840 x 2160 หรือ UHD (4K) รีเฟรชเรทที่60 Hz อัตราส่วน 16:9 ขนาด 32 นิ้ว เรสป้อนไทม์ 5s แบบ Gray to grey ครับ ตัวจอนั้นเป็นแบบ IPS แบบด้านหรือ Non-glare ที่มี Mini LED Backlight ทั้งหมด 1152 จุด ตัวจอนั้นสามารถหมุนเพื่อแสดงผลแบบตั้งหรือ Pivot ได้ ก้มเงยได้ ปรับสูงต่ำได้ รวมถึงหันซ้ายขวาได้สะดวกสบายมาก
ด้านหลังของจอก็สวยงามครับ สามารถปรับความสูงต่ำ ปรับเป็นแนวตั้ง และดูแข็งแรงดี
ด้านข้างครับ ความหนานั้นค่อนข้างมากกว่าปกติเพราะนำเอาชุดแปลงไฟเข้าไปไว้ในจอเลย
สวิทซ์ปรับแต่งค่าต่างๆของจอจะอยู่ด้านหลังของพาแนลด้านขวามือครับ กดง่ายๆ สะดวกมาก
พอร์ทเชื่อมต่อครับ ช่องเสียบสัญญาณภาพเข้าจอนั้นจะมี
Signal Input : Thunderbolt™ 3 USB-C™ x2 (In x1, Out x1) และ Power Delivery ให้พลังงานสูงสุด 60W ไปยังอุปกรณ์ภายนอก, HDMI(v2.0b) x3, DisplayPort 1.2
Earphone jack : 3.5mm Mini-Jack
USB Port(s) : 3 x Type A port
ฐานของจอนั้นสวยงามและแข็งแรงทีเดียวเลย
Power-on
ขนาดจอที่เต็มอิ่ม
.
Menu ASUS ProArt PA32UCX-P
เมนูในการปรับแต่งก็หลากหลาย เข้าใจง่ายครับ
.
ASUS Color Calibration Software
เราสามารถใช้งาน software ASUS Color Calibration เพื่อทำการคาริเบรทได้ครับ
ในเมนูนั้นสามารถปรับแต่งและกำหนดเวลาในการรีคาริเบรท เพื่อที่จะคงความเที่ยงตรงของสีอยู่ตลอดเวลาได้ด้วย
วิธีการเชื่อมต่อสามารถทำตามที่ software แสดงที่หน้าจอได้เลย
เราสามารถเลือกที่จะเช็คความสม่ำเสมอของพาแนลได้นะครับ
หลังจากนี้ก็วางตัว i1 Pro ที่หน้าจอเลย
เมื่อทำการคาริเบรทเสร็จแล้ว ก็จะมีรีพอร์ทให้เราหน้าตาแบบนี้ครับ
.
สำหรับวันนี้เรายังคงทำการคาริเบรทด้วย DispalGUI เหมือนเดิมครับเพื่อคงมาตรฐานการทดสอบของเรา
ตรวจสอบผลการวัดแล้วจะเห็นได้ครับว่า เดลต้าอีนั้นต่ำครับอยู่ที่ 0.83 เท่านั้น ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
.
Conclusion
การทดสอบวันนี้เสียบจอเข้ากับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2080 Super ครับ สามารถผลักดันกราฟฟิกสวยงาม ที่มุมมองด้านข้างนั้นก็พอจะแสดงทั้งแสงสีและคอนทราสได้ดีทีเดียว
กับเกมส์ในยุคปัจจุบันนี้นั้นรองรับเรสโซลูชั่นที่ 32:9 ได้อย่างสมบูรณ์แบบทำให้ช่วยยกระดับการเล่นเกมส์ได้อย่างเต็มอิ่มเลย
ASUS ProArt PA32UCX-P นั้นก็ยังคงทำผลงานได้ดีที่สุดหนึ่งในสามจอที่เราได้ทำการทดสอบบนเว็บไซด์ Vmodtech.com ของเราครับ ด้วยค่า delta E ที่ 0.83 นั้นแสดงให้เห็นเลยครับว่าจอนี้สามารถตอบสนองความกว้างของสีได้ยอดเยี่ยม และผลลัพธ์ก็คือ ความสวยงามในการแสดงผลบนหน้าจอที่ให้สีสรรสดใสมากกว่าจออื่นๆพอสมควรครับ นอกเหนือจากการใช้งานด้านการแต่งรูปหรือวีดีโอแล้ว เราได้ทดสอบเล่นเกมส์ต่างๆนั้น มันก็ให้อรรถรสในการเล่นที่ดีมากโดยในขณะทำการทดสอบนั้นได้เสียบเชื่อมต่อกับกราฟฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 2080 SUPER ที่สามารถเค้นพลังด้านกราฟฟิกในเกมส์ BattleField V, Control ออกมาได้อย่างหมดจดบนความละเอียด 3840 x 2160 หรือ UHD (4K) และการตั้งค่าที่ Max Fidelity การเคลื่อนที่ของตัวละครในเกมส์นั้นราบลื่นเพียงพอด้วยรีเฟรชเรท 60 Hz บนจอมีขนาด 32 นิ้ว เต็มอิ่มเต็มตาเลย แต่กับเกมส์ใหม่ๆเช่น Cyberpunk 2077 นั้นก็อาจจะต้องพิจารณากราฟฟิกการ์ดรุ่นใหญ่กว่านี้เพื่อความลื่นไหลในการเล่น ส่วนการทำงานด้านกราฟฟิก หรือจะตัดต่อนั้นสบายมากครับ และหากใครที่ทำงานในบริเวณที่แสงเยอะ Asus ก็ได้เตรียม Monitor Hood มาให้ด้วย จะช่วยลดอาการสีเพี้ยนได้ดีเลย ค่าตัวนั้นผมเห็นราคาที่เว็บนอกจะอยู่ที่ 3,990 USD ซึ่งก็ถือว่าแพงเอาเรื่องครับ แต่ถ้าหากมองย้อนกลับไปถึงความสามารถ ความเที่ยงตรงของสี และขนาดของจอนั้น มันไม่เป็นเป็นสองรองใครแน่นอนในชั่วโมงนี้
.
ราคานั้นผมดูจากร้านค้าออนไลน์จะอยู่ที่ประมาณ 106,000 บาทครับ
.
.
.
..
CHANE . .
.
Special Thanks.
ASUS