……….สวัสดีครับวันนี้มาพบ Monitor คุณภาพยอดเยี่ยมจาก ASUS กันบ้างดีกว่าครับกับ ASUS ProArt Series LED Monitor PA249Q ซึ่ง Monitor รุ่นนี้ผมได้ลองสัมผ้สในงาน Computex 2013 เมื่อต้นปี่ที่ผ่านก็รู้สึกถูกใจเป็นอย่างมาก วันนี้ได้ลองเล่น ลองทดสอบเองบอกได้คำเดียวว่ามันสุดยอดมากๆครับ ใครที่ทำงานด้านการถ่ายภาพ ตกแต่งภาพ ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ กำลังมองหาจอภาพคุณภาพสูงขนาดพอเหมาะ Asus PA249Q นี้คือคำตอบครับ ก่อนอื่นไปชมรายละเอียดจากผู้ผลิตก่อนเลยดีกว่าครับ

More Information >>Click<<

ASUS ProArt Series LED Monitor PA249Q Appearance

มาดูหน้าตารายละเอียดต่างๆกันต่อเลยครับ

กล่องบรรจุเป็นสีดำพิมพ์4สีบอกรายละเอียดกันพอสมควรและหนักมากครับ

ของภายในกล่องก็มีสายไฟ Input 100–240V 50/60 Hz, สาย USB 3.0, สาย VGA, สาย DVI, Cable tie แล้วมีพวกคู่มือใบรับประกัน แผ่นไดร์เวอร์ต่างๆ

มาดูหน้าตากันต่อเลยครับ เรียบๆขรึมๆดูน่าเกรงขามดีครับ

อีกมุมครับ

ด้านหลังอีกซักนิด

ASUS ProArt Series LED Monitor PA249Q เป็นจอมอนิเตอร์ที่มีรายละเอียดดั้งนี้ครับ

Panel Size : Wide Screen 24.1″(61.13cm) 16:10

Panel Type : AH-IPS

True Resolution : 1920×1200

Pixel Pitch : 0.270mm

Brightness(Max) : 350 cd/㎡

ASUS Smart Contrast Ratio (ASCR) : 80000000:1

Viewing Angle (CR≧10) : 178°(H)/178°(V)

Response Time : 6ms (Gray to Gray)

Display Colors : 1073.7M (10bit)

ASUS PA249Q ได้ทำการคาริเบทสีมาให้จากโรงงาน มาตรฐาน Adobe RGB แม่นยำถึง 99%, sRGB 100% และ NTSC 120%

เป๊ะเลยครับแบบนี้ ใครมีปัญหานั้งแต่งภาพทั้งคืนดูในจอสวยนิ๊ง แต่พอเอาไปให้เพื่อนดูบอกภาพอมเหลือง อมฟ้า ซื้อจอ ASUS PA249Q ไปใช้ได้เลยครับเพราะนอกจากสีจะแม่นแล้วจอยังแสดงผลเม็ดสีได้ถึง 10-Bit color

และ ASUS PA249Q ยังใช้ AH-IPS Panel ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่า IPS ธรรมดา 1.5 - 2 เท่า และมี ฟังชั่น QuickFit แสดงกรอปภาพขนาดต่างๆให้ด้วย เดี๋ยวฟังชั่นนี้เราจะลองเล่นกันในช่วงท้ายครับ

มุมล่างซ้ายมีสกรีน HDMI ไว้นิดนึงครับ

แปะตรา ASUS ไว้ด้านล่างตรงกลางพิมพ์นิยม

ขอบจอทุกด้านจะมีสเกลไว้ให้ เพื่อความแม่นยำในการทำงานสำหรับคนที่ซีเรียสเรื่องขนาดต่างๆนะครับ

ด้านบนซ้ายบ่งบอกซีรีย์ ProArt จอความละเอียดสูงถึง 1920×1200 และเป็น Full HD video 1080p ด้วยครับ

ล่างขวาก็เป็นสวิทต์เปิด-ปิด ปุ่มกดเซ็ตอัพต่างๆครับ

ด้านช้างมี USB 3.0 4 ช่อง ไว้ให้้ใช้งานด้วยครับ

มาดูด้านล่างกันบ้างครับ เป็นส่วนของช่องเชื่อมต่อต่างๆ

ล่างซ้ายเป็น ช่องต่อสายไฟ Input และมีสวิทต์เปิด-ปิดให้มาด้วยครับคล้ายๆของ PSU คนละตัวกับสวิทต์เปิด-ปิดหน้าจอนะครับอันนั้นอยู่ด้านหน้า

ช่องเชื่อมต่อก็มี D-Sub, HDMI, DVI และ VGA

และก็ยังมีช่อง Audio Output และ Earphone jack มาให้ใช้งานกันอีกด้วยครับ

มาดูรายละเอียดด้านหลังกันบ้าง

ข้อต่อตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญในการหมุนจอไปในแนวตั้งแนวนอน, พับจอขึ้น-ลง และ เลื่อนขึ้น-ลง

ในการหมุนจอไปในแนวตั้งแนวนอนก็มีสเกลบอกองศาไว้ให้ด้วย ละเอียดยิบเลยทีเดียว

ข้อต่อในส่วนฐานก็จะช่วยให้หมุนจอไปซ้าย-ขวาได้โดยมี มีสเกลบอกองศาไว้อีกเช่นเคย

และก็มีพอร์ต kensington lock มาให้ด้วยครับ

มาลองเล่นการปรับหมุนหน้าจอกันดูบ้างครับ

สามารถยืดได้สูงประมาณ 20-30 ซม. ครับ

สามารถหันซ้ายขวาได้โดยที่ฐานยังคงอยู่กับที่ได้ประมาณ 60 องศา

และยังหมุนจอมาแนวตั้งได้ด้วยครับ อย่างนี้ขาพอร์ตเทรตชอบเป็นที่สุด

สามารถก้มลงได้ประมาณ 5 องศา

และเงยได้ประมาณ 15-20 องศาครับ

Manu and Setting

มาดูในส่วนของการเซ็ตค่าต่างๆกันบ้างนะครับ โดบปุ่มกดต่างๆไล่จากบนลงล่าง

1. QuickFit button เป็นปุ่มแสดงกรอปภาพขนาดต่างๆ และเป้นปุ่มเลื่อนซ้าย-ขวา-ขึ้น-ลง ในการเซ็ตค่าต่างๆด้วยครับ

2. MENU button ปุ่มเมนูสำหรับตั้งค่าต่างๆ

3. Shortcut 1 ปุ่มคีย์ลัด 1

4. Shortcut 2 ปุ่มคีย์ลัด 2

5. S/A button เป็นปุ่มเลือก Preset ในโหมดต่างๆ

6. เป็นปุ่มเลือก input source คือ VGA/DVI/HDMI/DisplayPort

7. สวิทต์เปิด-ปิดหน้าจอ และล่าง สวิทต์เปิด-ปิด เป็นไฟแสดงสถานะ

.

มาต่อกันยาวๆเลยครับผมเข้าเมนูไปดูพร้อมกันเลยครับว่ามีอะไรให้ปรับแต่งบ้าง

Splendid menu เป็นการเข้าไปเลือกตั้งค่า Preset ต่างๆ

Color menu

Image menu

PIP/PBP Setting menu อันนี้เอาไว้แสดงผลสำหรับแหล่งกำเนิดหลายแหล่งนะครับ เช่น PC 2 เครื่องต่อออกจอนี้จอเดียว สามารถแสดงผลได้พร้อมกันโดยเข้ามาเซ็ตค่าตรงนี้

มาลองเล่น PIP/PBP mode กันดูดีกว่าครับว่ามันทำงานยังไง

ตามภาพที่ได้ผมเช็ตค่าดังนี้ครับ

PIP/PBP Source ผมเลือก DisplayPort แต่ไม่ปรากฏภาพใดๆเพราะผมไม่ได้ต่อ PC เข้ามาอีกเครื่องครับคงเห็นแต่เป็นกรอบดำเล็กๆ

Size เลือกเป็น Middle

Position เลือกเป็น Left-Bottom

Switch ปิดไว้ครับ

เท่านี้ก็แสดงผลเป็น 2 จอ 2 แหล่งกำเนิดภาพแล้วครับ

ลอง Switch ภาพดู ภาพก็จะสลับกันดังที่เห็นตามภาพเลยครับ

ทดลองพอให้เห็น ภาพกันนะครับ เสียดายวันที่ทดลอง คอมพิวเตอร์ PC ของผมอีกเครื่องดันมีปัญหา ก็เลยไม่ได้ต่อให้เห็นกันจะจะ คงเห็นแต่ภาพดำๆ เอาเป็นว่าพอจะเข้าใจหลักการทำงานกันแล้วก็เอาไปประยุกต์ใช้กันตามสะดวกครับ

มาดูเมนูกันต่อเลยครับยังไม่หมด

Input Select menu

System Setup menu

เรามาลองกด Splendid demo mode เล่นดูอีกซักอันดีกว่าครับ

พอกดป๊าบเข้าไป จอก็จะแสดงผลเป็นสองด้านเทียบสีสันระหว่าง Splendid off กับ Splendid on ที่เราเซ็ตไว้ครับ

และสุดท้าย Shortcut menu อันนี้เป็นการตั้งค่าปุ่มคีย์ลัดนะครับ เมนูไหนใช้บ่อยก็เลือกตั้งค่าได้ตรงนี้เลย พอใช้งานก็กดปุ่มคีย์ลัดไม่ต้องเข้าเมนูให้เสียเวลา

.

คราวนี้มาลอง QuickFit button กันดูดีกว่าครับ QuickFit button ก็ไอ้ปุ่มบนสุดตามภาพนั้นแหละครับ การทำงานก็คือเป็นปุ่มกดวน กด 1 ครั้งก็จะแสดงผลเป็นเส้นต่างๆขึ้นมาที่จอภาพเวียนไปเรื่อยๆจนไม่มีเส้นอะไรขึ้นที่จอภาพเลยนั้นเองครับ

.

จะมีเส้นขอบเส้นอะไรบ้างเชิญชมตามภาพ ประยุกต์ใช้กันตามสะดวกครับ

ครบถ้วนทุกเส้นตารางแล้วนะครับ

มาลองเทียบแสงสีของภาพที่ได้กันบ้างดีกว่า มุมตรงไม่ต้องหาจอรั่วนะครับ ไม่มี

มุมเฉียงด้านข้างสุดๆเท่าที่พอจะถ่ายรูปได้ก็ไม่มีสีเพี้ยนแสงหม่นหมองให้เห็นครับ ขออนุญาตถ่ายมามุมเดียวก็แล้วกันครับ มุมบนมุมล่างก็ไม่มีเพี้ยนเช่นเดียวกันครับ ลองถ้ามุมข้างไม่เพี้ยนซะอย่างแล้ว

Conclusion

……….ก็มาถึงช่วงสุดท้ายกันอีกแล้วนะครับ สำหรับเจ้า ASUS ProArt Series LED Monitor PA249Q ก็ต้องบอกว่ามัยเหมาะกับมืออาชีพตามชื่อรุ่นจริงๆครับ ด้วยถาพที่ได้คมชัดสีแม่นยำ มีลูกเล่นฟังชั่นต่างๆมาช่วยในการทำงานทั้ง QuickFit หรือการหมุนจอมาแนวตั้งได้ง่ายๆ มีช่องต่อ USB3.0 มาให้ในตัว ขนาดจอ Wide Screen 24.1″ ที่ผมมองว่ากำลังพอดีไม่เล็กจนต้องเพ่งทำงาน และไม่ใหญ่จนเกินไป ใครที่ทำงานด้านการถ่ายภาพ ตกแต่งภาพ ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ หรือบุคลคลทั่วไปที่ชอบความเป็นมือโปร ASUS ProArt Series LED Monitor PA249Q น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีก 1 รุ่นครับ

.

.

ขอขอบคุณ

ASUS

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!