.…สวัสดีครับ จากคราวที่แล้วในบทความ ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA Trilogy Review Part 1 : Expert Performance และ ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA Trilogy Review Part 2 : Ferocious Base Clock Speed สำหรับวันนี้ผมก็ขอกลับมานำเสนอความแรงของมาเธอร์บอร์ด ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA กันอีกครั้งในภาคจบภาคที่ 3 นะครับ โดยในภาคนี้ก็จะมากล่าวถึงพลังเทพท่ายากในการลากความถี่สัญญาณนาฬิกาของหน่วยความจำให้ไกลๆอย่างมีเสถียรภาพ ทดสอบผ่านหัวข้อ Benchmark ต่างๆรวมทั้ง 3D Benchmark ที่นิยมกันได้หมด โดยที่ยังคงประสิทธิภาพในระดับที่ยอมรับได้ไว้ด้วย เดี๋ยวเราไปชมกันได้เลยครับว่ามาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้จะทำได้ดีขนาดไหนกัน และก็เช่นเคยก่อนอื่นเราก็ไปชมรายละเอียดต่างๆโดยรวมของมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้กันก่อนเลยนะครับ

Overview

Specifications

สเป็คจัดเต็มดีจริงๆเลยครับ สำหรับ ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA

More Information >>Click<<

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมหน้าตามาเธอร์บอร์ดงามๆกันต่อเลยนะครับ

ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA Appearance

Package & Bundle

ไปชมหน้าตาของกล่องบรรจุภัณฑ์กันก่อนครับ มากันแบบโทนสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์แห่ง ROG ครับ

ฝากล่องสองชั้นก็บรรยายสรรพคุณกันเพียบเรียบร้อยงดงาม

ด้านหลังกล่องก็ยังบรรยายสรรพคุณกันอีกเพียบบบ

…หน้าตาของอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งคู่มือ ที่ Bundle มากับมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้ครับ โดดเด่นอยู่หลายๆส่วนเหมือนกัน ไปชมกันทีละส่วนเลยครับ

mPCIe Combo II ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อเนตเวิร์คแบบไร้สายและเป็นจุดเชื่อมต่อ mSATA SSD ได้ในตัวเดียวกันครับ

เสา Wi-Fi คู่ในตัวเดียวกัน ที่มาด้วยดีไซน์สุดชิค

Motherboard Appearance

หน้าตาของมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้ จะออกแนวเข้มขรึมดำคาดแดงดุดัน ตามคอนเซปต์ของบอร์ดในตระกูล ROG ครับ

โดดเด่นด้วยชุดเกราะอันสวยงามทุกมุมมองครับ

ด้านหลังบอร์ดก็ยังคงมีชุดเกราะอันงดงามครับ

ภาคจ่ายไฟขนาดรวม 8 เฟสครับ สำหรับมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้

…ชุดระบายความร้อนให้ภาคจ่ายไฟจะเปนแบบ Hybrid เล่นน้ำได้โดยเปิดโอกาสให้ใส่ฟิตติ้งเลือกขนาดของสายยางเองตามชอบใจครับ

งดงามทุกมุมมองจริงๆครับ สำหรับบริเวณรอบๆซีพียู

จะมีไฟสีแดงสว่างวาบเป็นจังหวะช้าๆบริเวณกลางบอร์ดด้วยครับ สวยงามเลยทีเดียว

…Memory Slot แบบ Dual Channel ที่มากัน 4 Slots ได้ขนาดความจุรวมทั้งหมดสูงสุดที่ 32GB ครับ และยังมีสวิทซ์ START & RESET และไฟ DEBUG Display อยู่บริเวณนี้ด้วยครับ

หน้าตาชุดระบายความร้อนให้กับตัวชิปเซต Z87 ที่สวยงามกลมกลืนกับตัวมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้เป็นอย่างดี

ตามด้วยช่อง SATA3 6.0GB/s มากถึง 10ช่องทาง จัดเต็มครับ

ลวดลายบอกชื่อรุ่นบนชุดเกราะอันงดงามครับ

…PCI-E 3.0/2.0 X16 Slot ที่มาพร้อมกัน 3 ช่องทาง ที่สนับสนุนการทำงานทั้งในรูปแบบ 2-Ways SLI & CrossFireX ตามด้วย PCI-E 2.0 X1 Slot อีก 3 ช่องทางครับ

มีช่องเสียบไฟเลี้ยงเพิ่มเติมให้กราฟฟิคการ์ดแบบ 4พินด้วยครับ ส่วนชุดต่อ Front Panel ก็มากันอย่างครบเซต

SupremeFX Sound ขาดไม่ได้แน่นอนครับ สำหรับบอร์ดตระกูล ROG

Back Panel ด้านหลังก็มากันแบบครบเครื่อง ไม่มีขาดตกบกพร่องส่วนที่สำคัญใดๆไปครับ

SYSTEMS
.CPU	..4th Generation Intel® Core™ i7-4770K
.Motherboard	..ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA
.Memory	..Team Xtreem LV 2666CL11 8 GB kits
.Graphic Card	..GIGABYTE WINFORCE 3X OC GTX 780 3GB GDDR5 @ Default
.Harddisk	..SSD OCZ Vertex 4 256GB
.CPU Cooler	..Water Cooling @ Ambient 25C
.Power Supply	..antec 1200w
.Operation System	..Windows 8 Pro 64-bit

รายละเอียดของ systems ที่ใช้ในการทดสอบคราวนี้ครับ

ทดสอบกันง่ายๆที่ห้องอุณหภูมิประมาณ 25 องศา บนระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา และไม่มีการงัดกระดองซีพียู

Overclocked Settings

4th Generation Intel® Core™ i7-4770K @ 4,811MHz Bclk 133.65MHz

NB Freq. 4,811MHz DDR3 3,208MHz 12-15-15-35-2T @ 1.94V

Validation link >>Click<<

…i7-4770K @ 4,811MHz BClk 133.65MHz Uncore Clk 4,811MHz DDR3 3,208MHz 12-15-15-35-2T @ 1.94V ก็คือค่าความเร็วโดยรวมของระบบที่เราจะทดสอบกันในคราวนี้แบบยาวๆนะครับ หลายๆท่านเห็นค่าไฟเลี้ยงหน่วยความจำที่ผมใช้น่าจะร้องไปตามๆกันว่ากล้าใส่ไปได้อย่างไร ก็ขอบอกเลยนะครับ สำหรับ CPU ในตระกูล HASWELL ไม่มีการแนะนำไฟเลี้ยงว่าไม่ควรเกิน 1.65V กันอีกต่อไปแล้วครับ ถ้าระบบระบายความร้อนของหน่วยความจำท่านดีพอก็ใส่เข้าไปได้เลยครับ ถ้าไฟเยอะเกินไประบบมันก็จะไม่เสถียรทดสอบไม่ผ่านไปเอง โดยในการทดสอบที่ไฟ 1.94V นี้ ผมก็ใช้เพียงพัดลมขนาด 120mm @ 3,000RPM เป่าอยู่ตัวเดียวตลอดการทดสอบนี้ก็เพียงเท่านั้นครับ ซึ่งก็ผ่านการทดสอบไปได้ด้วยดี โดยไม่มีอุปกรณ์ในส่วนใดๆที่เสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้ต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับซิงค์แรมของ Team ที่ผมเลือกใช้นะครับว่าเอาไฟสูงๆถึงระดับ 1.94V ได้อยู่หมัดดีจริงๆ ซึ่งก็ขอบอกตรงนี้นิดนึงนะครับว่า ถึงแม้ว่าหน่วยความจำ Team Xtreem LV 2666CL11 8 GB kits ราคาประมาณสี่พันกว่าบาทคู่นี้ที่ผมเลือกใช้ จะใช้ชิปแรมที่ลากได้ไกลที่สุดในโลกตอนนี้อย่าง Hynix MFR ที่ถูกไปใช้ในหน่วยความจำความเร็วสูงคัดเกรดด้วยมือจากโรงงานความเร็ว 3,000MHz  แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าค่าความเร็วที่ถูกกำหนดมาของหน่วยความจำที่ผมใช้ในการทดสอบนี้นั้นมีเพียงแค่ 2,666MHz CL11 เท่านั้น ซึ่งก็คงไม่ได้เป็นหน่วยความจำพรสวรรค์ไฟต่ำคัดเกรดด้วยมือให้วิ่งถึง 3,000MHz ที่ไฟ 1.65V แต่ราคาแพงระยับระดับเกือบสองหมื่นบาทอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้พรสวรรค์จะไม่มีแต่พรแสวงยังมีอยู่ ถ้าอยากแรงที่ความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงๆอันดับแรกก็ต้องกดค่า Timing ต่างๆที่สำคัญของหน่วยความจำให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็อัดไฟไปเท่าที่หน่วยความจำและระบบระบายความร้อนแบบทั่วๆไปด้วยลมที่มีจะรับไหว และสุดท้ายก็ต้องหามาเธอร์บอร์ดที่ดีอย่าง ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA ที่ลาก BClk กันได้นิ่งๆอย่างอิสระด้วยพลังของ External Clockgen อย่างในบทความนี้ที่ BClk 133.65MHz ที่ทำให้ BClk ของ PCI-E วิ่งไปสูงถึง 106.92MHz ถ้าเป็นบอร์ดแบรนด์อื่นยากมากๆครับที่จะเทสต์ 3D ผ่านที่ค่านี้ และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็จะทำให้ได้ค่าออกมาอย่างที่เห็นเลยนะครับ

…หน่วยความจำผมคู่นี้ได้มีการใช้โปรแกรมเข้าไปแก้ไขค่า SPD ให้รองรับการเล่น DDR3 2,800-3,000MHz ด้วยนะครับ ซึ่งหลังจากลองแก้ไขดูแล้ว ก็ปรากฏว่าสามารถทำให้กดค่า Sub Timing ได้ดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ จากค่าที่เคยกดแล้วไม่ติดก็ติดใช้งานได้ขึ้นมาซะงั้น ค่อนข้างจะไสยศาสตร์นะครับตรงจุดนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง แต่แก้ไขก็ไม่ได้ช่วยให้ลากไกลขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใดนะครับ แค่ดูเหมือนว่าจะกด Sub Timing ได้ง่ายขึ้นแต่เพียงเท่านั้น

GIGABYTE WINFORCE 3X OC GTX 780 3GB GDDR5 @ Default กันต่อเหมือนการทดสอบทุกๆครั้งครับ

System Properties in AIDA64 Extreme Edition

ดูรายละเอียดต่างๆกันครบถ้วนแล้ว ก็ไปลุยทดสอบกันต่อยาวๆที่หน้าถัดๆไปเลยครับ

SuperPI 1M 1Thread, 32M 1Thread & 32M 8Threads

(Click ScreenShot to Enlarge)

…เวลาเฉลี่ย 8 หัว 11 นาที 11 วินาที ก็ถือว่าแรงพอใช้ได้เลยนะครับสำหรับการจับหน่วยความจำวิ่งไกลๆแต่ Timing หลวมๆแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วการเล่นท่ายากแบบนี้ เขาทำกันให้ดูเพื่อที่จะรู้ว่ามาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้ “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้” เพียงเท่านั้น ส่วนความแรงที่ได้เพิ่มขึ้นมานั้นก็ถือว่าเป็นของแถมซะมากกว่า ซึ่งของแถมที่ได้มานั้นก็แรงกันใช้ได้เลยครับสำหรับการทดสอบในคราวนี้ ขอบอกเลยครับว่า ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA เขาแรงไม่ธรรมดาแม้ท่ายากจริงๆ!!

WinRAR 5 Beta 6 ,wPrime2.09 , CPUMark99 & Fritz Chess Benchmark

เร็วแรงใช้ได้ทุกการทดสอบ ถึงแม้ว่าจะเล่นท่ายากจริงๆเลยครับ

X264 FHD Benchmark

X264 FHD Benchmark ก็ยังคงเร็วแรงเยี่ยมระดับแนวหน้าที่ 31.8 FPS

CINEBENCH R9.5

CINEBENCH R10

CINEBENCH R11.5

Cinebench Series ก็แรงใช้ได้เลยครับ สมกับความเร็วซีพียูที่ 4.811GHz เป็นอย่างดี

PCMark 7

แรงกันสุดยอดเช่นกันครับ สำหรับ PCMark 7

AIDA64 Extreme Edition

AIDA64 Cache & Memory Benchmark

ถึงแม้จะเล่นท่ายากสุดขีดจน Timing ค่อนข้างหลวมมาก แต่ Memory Bandwidth ก็ยังแรงเอาเรื่องกันเลยครับ

CPU Queen

CPU PhotoWorxx

CPU ZLib

CPU AES

CPU Hash

FPU VP8

FPU Julia

FPU Mandel

FPU SinJulia

ประสิทธิภาพก็ยังคงยอดเยี่ยมในระดับหัวแถวอยู่เช่นเดิมครับ

3DMark 03

3DMark 05

3DMark 06

3DMark Vantage

3DMark 11

3DMark

Validation link >>Click<<

ผลการทดสอบของตระกูล 3DMark ก็แรงกันไปกับพลังของ GIGABYTE WINFORCE 3X OC GTX 780 3GB GDDR5

Unigine Heaven DX11 Benchmark 4.0

SETTINGS

เซตกันไปแบบสุดๆเลยครับ

Unigine Heaven DX11 Benchmark 4.0

เปิดสุดหมดที่ 1920 X 1200 ก็ยังแรงกันถึง 50.7 FPS

AquaMark3 HWBOT edition

…ตู้ปลาก็กลับมาทดสอบกันอีกครั้ง หลังจากได้รับการแก้ไขให้แรงบน Windows 7 และ Windows 8 แล้วนะครับ ในขณะที่ทำการทดสอบแรงกันจนมองตามไม่ทันเลยทีเดียว

Crysis 3

Settings

ใส่กันสุดๆตามภาพเลยครับที่ 1920 X 1200 ผมทดสอบโดยใช้ Frap จับเฟรม 2 นาที ไปดูผลทดสอบกันครับ

…จากผลการทดสอบ 3D Gaming โดยรวมก็พอสรุปได้ว่าถึงแม้ว่าหน่วยความจำจะใช้ Timing ที่หลวมๆเพื่อให้วิ่งได้ไกลๆ แต่ความสามารถทางด้านนี้ ก็ไม่ได้ตกลงจนเป็นนัยสำคัญแต่อย่างใดครับ

Conclusion

…ก็มาถึงบทสรุปของการทดสอบไตรภาคของมาเธอร์บอร์ด ASUS ROG MAXIMUS VI FORMULA ตัวนี้กันแล้วนะครับ ก็นับว่าเป็นมาเธอร์บอร์ดอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหามาเธอร์บอร์ดที่ใช้ Intel® Z87 Express Chipset ที่มีความต้องการ Features และความรุนแรงในการโอเวอร์คล็อคในระดับสุดยอดเหนือสุดยอด เล่นกันได้ทุกท่าลากกันได้ทุกทางแบบอิสระเสรีอย่างมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ของเขาทำมาดีแรงไม่ธรรมดาจริงๆครับ และปิดท้ายทางด้านรูปร่างหน้าตาและเนื้องานก็สวยงามหรูหราดุดันเกราะสวยงามกันทุกมุมมอง ใครที่ต้องการความสมบูรณ์แบบที่มากันในราคาประมาณ 13,XXXบาท ก็ไม่ควรพลาดมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้เป็นอันขาดนะครับ และสำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ สวัสดีครับ

.

.

ขอขอบคุณ

ASUS

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!