ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition Review
Share | Tweet |
สวัสดีครับทุกๆท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com วันนี้ผมมีรีวิวกราฟฟิการ์ดตัวแรงที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นท๊อปสุดในระดับเอ๊กตรีมในค่าย Nvidia ในแบรนด์ดังอย่าง ASUS มารีวิวให้ท่านได้ชมกันแบบเต็มอิ่มกับกราฟฟิการ์ด GeForce GTX 1080 TI ที่มาพร้อมชุดเชื่อมบล๊อกต่อระบายความร้อนด้วยน้ำหรือ Water Cooling ในชื่อรุ่นเต็มๆว่า ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition ที่มาพร้อมกับสเปคสุดแรงโอเวอร์คล๊อกมาให้พร้อมจากโรงงานและมีชุดบล๊อกน้ำ DirectCU H2O Hybrid Cooling ระบายความร้อน GPU มาให้เชื่อมต่อได้อีกด้วยครับหรือจะเลือกใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ/ลมก็ทำได้เช่นกันครับ ด้วยดีไซน์ที่ยังคงเอกลักษณ์ของ ROG Poseidon ที่สีสรรมาในแนวโทนสีเงินสลับดำมีไฟแสดงผลแบบ AURA SYNC ที่ด้านบนตัวการ์ดและด้านหลังตัวการ์ด ซึ่งสามารถใช้ซอฟแวร์ปรับแต่งกันได้อย่างเต็มที่สวยงามอลังการตามแต่ท่านต้องการถ้าใช้งานกับบรรดาเมนบอร์ดที่รองรับ ASUS AURA SYNC ก็จะแสดงผลไฟแบบ LED RGB ได้อย่างสวยงามอลังการครบเซ็ตกันเลยครับ ในส่วนของฟีเจอร์ก็จัดเต็มมาให้กับคอเกมส์มิ่งขา ROG เหมือนเช่นเคยไม่ว่าจะเป็น DirectCU H2O Hybrid Cooling , Patented Wing-Blade IP5X-Certified Fans , ASUS FanConnect II , Industry Only Auto-Extreme Technology with Super Alloy Power II , ASUS Aura Sync , VR-friendly HDMI ports , GPU Tweak II ให้กันมาอย่างครบครันทั้งฮาดแวร์และซอฟแวร์ครับ ส่วนประสิทธิภาพจะเป็นเช่นไรนั้นวันนี้ทดสอบทั้งแบบบนลมและบนน้ำเปรียบเทียบคตวามเย็นให้ท่านได้ชมถึงความเทพของ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition กันแบบเต็มอิ่มเช่นเคยครับ แต่ก่อนอื่นเราไปดูรายละเอียดคร่าวๆจากทางเว็บไซต์ผู้ผลิตก่อนจะไปชมผลทดสอบครับ
INTRODUCTION
รายละเอียดสเปคเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ คลิก
เราไปชมรูปร่างหน้าตาของตัวการ์ดกันต่อเลยครับ
.
The Card Appearance
มากันในกล่องสีแดงตามแบบสไตล์ ROG บอกชื่อรุ่น ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition ไว้ชัดเจน
หลังกล่องบอกฟีเจอร์ต่างๆครับ
อุปกรณ์ก็มี คู่มือ แผ่นไดร์เวอร์ สายไฟ 8พิน 2ชุด สายรัด และสติ๊กเกอร์
ตัวการ์ดดีไซน์ในแนว ROG Poseidon ก็ดูสวยงามกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ครับ
ขนาดของ ตัวการ์ดกินพื้นที่สองสล๊อต ขนาดของการ์ด 11.73 ” x 6.22 ” x 1.97 ” Inch 29.8 x 15.8 x5 Centimeter ครับ
ดีไซน์การออกแบบก็มาแบบ 2ใบพัดลมทำงานด้วยระบบ Patented Wing-Blade IP5X มาพร้อมกับความเงียบและเย็น
ชุดระบายความร้อนรุ่นใหม่ DirectCU H2O Hybrid Cooling ใช้งานได้ทั้งสองระบบพร้อมกัน
สเปคการทำงานมีให้เลือก 2ระบบ OC Mode - GPU Boost Clock : 1733 MHz , GPU Base Clock : 1620 MHz Gaming Mode (Default) - GPU Boost Clock : 1708 MHz , GPU Base Clock : 1594 MHz
ด้านบนตัวการ์ดมีโลโก้ Poseidon GeForce GTX สวยงามเลยครับ
ตัวการ์ดต่อไฟเลี้ยงเพิ่ม 8พิน 2ช่องครับ
ช่องใส่ฟิตติ้งมีทั้งสองด้านครับ มีสต๊อปฟิตติ้งให้สองชุดพร้อมโลโก้ ROG สวยงาม
ด้านบนก็จะมีไฟสแดงผล ROG แบบ AURA SYNC สวยงามจัดเต็มในรูปแบบ RGB ครับ
ด้านหลังแบ๊คแพลตก็มีโลโก้ ROG พร้อมไฟแสดงผล RGB
ด้านหลังเป็นแบ๊คแพลตและ PCB สีดำสนิท
อินเตอร์เฟสด้านหลังหรือช่องเชื่อมต่อด้านหลังประกอบด้วย DVI Output : Yes x 1 (Native) (DVI-D) , HDMI Output : Yes x 2 (Native) (HDMI 2.0) , Display Port : Yes x 2 (Native) (Regular DP) , HDCP Support : Yes ให้มา 5ช่องครับ
เราไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ
Test Setup
SYSTEMS | |
.CPU |
..Intel Core i7 6700K |
. | .. |
.Motherboard | . ASROCK Z170 OC FORMULA |
.Memory | ..G.Skill Trident Z DDR4 3600Mhz |
.Graphic Card | . ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition |
.Harddisk | ..Plextor M6 512GB |
.CPU Cooler | ..Water Cooling @ Ambient 32C |
.Power Supply | ..Thermaltake 1500W |
.Operation System | ..Windows 10 64-bit |
รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูยังเป็น Intel Core i7 6700K ตัวแรงครับ
ด้านบนตัวการ์ดมีไฟแสดลผล RGB ให้อย่างสวยงามสามารถใช้ซอฟแวร์ ASUS AURA SYNC ในการปรับแต่งได้ครับ
โลโก้ด้านหลังก็มีไฟแสดงผลให้อย่างสวยงาม
บรรยากาศขณะทดสอบในห้องอุณหภูมิ 28-30 องศาเซลเซียส
CPU-Z
วันนี้ทดสอบที่ความเร็ว 4.8Ghz ไฟ Vcore 1.4V NB Frequency 4700Mhz บัสแรม 4040Mhz CL 19-21-21-48-520 2T 1.38V ตลอดการทดสอบครับ
GPUZ
ความเร็วเดิมๆของ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition ครับ Baseclock Core 1595Mhz Memory 1376Mhz Boost 1709Mhz เป็นสเปกเดิมๆที่โอเวอร์คล๊อกกันมาจากโรงงานครับ แรงตั้งแต่เริ่มต้นให้เลยครับ
Overclock
ในการโอเวอร์คล๊อกก็กดกันไปที่ความเร็ว Core 1668Mhz Memory 1501Mhz Boost 1782Mhz โดยบูตสูงสุดทะลุ Core 2050Mhz กันเลยทีเดียวครับ พร้อมใช้งานได้จริงอย่างมีเสถียรภาพตลอดการทดสอบ
AIDA64
เราไปชมผลทดสอบด้านกราฟฟิกต่อเลยครับ
Furmark Test
Overclock
ผ่านกันไป กับการทดสอบความเสถียรของการ์ดจอแบบนิ่งๆใช้งานกันได้จริงครับสำหรับชุด ทดสอบ Furmark ที่กดกันแบบเต็มๆ โดยอุณหภูมิในสถานะเดิมๆฟูลโหลดอยู่ที่ 80องศาฯ ถือว่าเย็นมากๆครับ เสียงรบกวนนั้นแทบไม่มีเงียบกริบจริงๆ ในส่วนของการโอเวอร์คล๊อกเปิดพัดลมแบบ 100เปอร์เซ็น อุณหภูมิฟูลโหลดอยู่ที่ 67องศาฯเท่านั้นครับ เรียกได้ว่าเย็นเฉียบจริงๆ ส่วนเสียงรบกวนก็ไม่ได้มากมายอะไรครับ ก็สมกับเป็นระบบระบายความร้อนแบบไฮบริดจ์ DirectCU H2O Hybrid Cooling ทำได้ดีเยี่ยมมากๆ
เราไปชมผลทดสอบตัวการ์ดกันเลยครับ
3DMark11
Overclock
3DMark11 อยู่ที่ 26654คะแนนครับ แรงแบบโหดร้ายจริงๆ คะแนนออกมาน่ากลัวมากๆ
3DMark2013
Overclock
ชุดทดสอบ 3DMark 2013 Fire Strike คะแนนอยู่ที่ 22233คะแนน แรงสุดยอดมากครับ
3DMark Time Spy
Overclock
3DMArk Time Spy อยู่ที่ 9157 คะแนน แรงสุดๆครับกับการทดสอบ DX12
Unigine Heaven 4.0 Benchmark
Unigine Heaven 4.0 อยู่ที่ 150ฟรมเรต แรงเยี่ยมมากครับ
Unigine Valley 1.0 Benchmark
Unigine Valley 1.0 เฟรมเรตอยู่ที่ 148เฟรมเรตครับ แรงโหดจริงๆ
UNIGINE2 Superposition
Overclock
UNIGINE2 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดก็แรงทะลุ 5889คะแนนกันเลยทีเดียวครับ
Grand Theft Auto V
GTA V ก็แรงแบบลื่นไหลแบบปรับคอนฟิกในระดับ Very High แบบเปิด AA และคอนฟิกสูงสุดทั้งหมด รันแล้วอยู่ที่ 113 เฟรมเรตครับ แรงแบบสะกดคำว่าสะดุดไม่เป็น ลื่นไหลทะลุร้อยเฟรมเรตสบายๆครับ
Rise of the Tomb Raider
Tomb Raider ภาคใหม่ DX12 ปรับแบบ High ก็เล่นได้สบายๆครับที่ 190เฟรมเรต แรงลื่นไหลโหดมากๆครับ
DOOM 2016
DOOM ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลกันสุดๆ อยู่ที่ 160เฟรมเรตกันเลยครับ แรงจัดจริงๆ
HITMAN : Enter a World of Assassination
HITMAN ก็แรงแบบสุดๆอยู่ที่ 160เฟรมเรตกันเลยทีเดียว
Far Cry Primal
Far Cry Primal ปรับแบบ Ultra / Full HD อยู่ที่ 141เฟรมเรตครับ แรงสุดยอดมากๆ
Ashes of the Singularity
Ashes of the Singularity รันแบบ DX12 ก็แรงทะลุ 94เฟรมเรตเลยครับ แรงยอดเยี่ยมจริงๆ
SNIPER ELITE III
Sniper III ก็เล่นได้แรงๆ อยู่ที่ 142เฟรมเรตแบบปรับกันเต็มเหนี่ยว
The Witcher 3: Wild Hunt
The Witcher 3: Wild Hunt อยู่ที่ 195เฟรมเรต เกือบทะลุสองร้อยเฟรมเรต แรงสุดๆครับ
Tom Clancy’s Rainbow Six Siege
Tom Clancy’s Rainbow Six Siege ผลทดสอบอยู่ที่ 240เฟรมเรต ไร้คำบรรยายจริงๆครับ
เราไปชมผลทดสอบการเชื่อมต่อระบบน้ำส่งท้ายกันเลยครับ
WATER COOLING
ในการทดสอบส่งท้ายผมก็ได้ทำการเชื่อมต่อชุดระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดากับหม้อน้ำ 3ตอน เรามาดูกันครับว่าระบบระบายความร้อนแบบไฮบริดจ์ของ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition ที่เป็นฮีตซิงค์รุ่นใหม่อย่าง DirectCU H2O Hybrid Cooling จะสร้างประสิทธิภาพได้มากน้อยขนาดไหน เราไปชมกันเลยครับ
ผลทดสอบแบบ Idel แบบยังไม่ฟูลโหลด ทำเอาผมตกตะลึงเลยครับ อุณหภูมิอยู่แค่ 30องศาฯเท่านั้นเอง เย็นมากๆเลยครับ สุดยอดจริงๆ เราไปดูผลทดสอบแบบฟูลโหลดกันโหดๆรันการ์ดแบบ 100เปอร์เซ็นเต็มกันต่อเลยครับ
เทสด้วย Furmark กดกันแบบเต็มๆฟูลโหลด 100เปอร์เซ็นเต็ม GPU ทำงานเต็มระบบ ผลทดสอบที่ออกมาทำเอาผมตกตะลึงรอบที่สองกับผลฟูโหลดของอุณหภูมิอยุ่เพียงแค่ 46องศาฯเท่านั้นครับ นี่คือการ์ดรุ่นท๊อปสุดนะครับท่านผู้ชมแต่ความเย็นนั้นแทบไม่คิดว่าเป็นรุ่นท๊อปสุดของรุ่นเลยครับ เย็นจัดจริงๆเมื่อต่อระบบน้ำเข้าไปครับ ถ้าท่านใดต้องการหาการ์ดที่เป็นแบบไฮบริดจ์เย็นๆแล้วล่ะก็ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition คือคำตอบเลยครับ สุดยอดมากๆ
เราไปชมผลสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ
Concluions
ก็มาถึงช่วงท้ายกันครับสำหรับการทดสอบ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition ที่วันนี้ทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆครับทั้งประสิทธิภาพการใช้งานแบบเดิมๆและการโอเวอร์คล๊อกที่ทำผลคะแนนออกมาได้อย่างสูงมากๆทั้งในการทดสอบแบบ 3D และเกมส์มิ่งที่บรรดาเฟรมเรตของเกมส์ต่างๆทะลุร้อยเฟรมเรตไปได้อย่างสบายๆในคอนฟิกที่จัดกันเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ DX12 และ DX11 ด้วยสเปคที่โอเวอร์คล๊อกกันมาจากโรงงานแรงตั้งแต่ต้นแบบไม่ต้องทำอะไรมากพร้อมทั้งสามารถกำหนดโหมดการใช้งานได้ถึง 2ระดับ OC Mode , Gaming Mode ให้ได้เลือกใช้งานกัน หรือถ้าไม่พอใจก็สามารถโอเวอร์คล๊อกกันไปที่ความเร็ว Core 1668Mhz Memory 1501Mhz Boost 1782Mhz โดยบูตสูงสุดทะลุ Core 2050Mhz กันสบายๆตามที่ผมได้ทดสอบให้ท่านได้ชมกันสามารถใช้งานได้จริงอย่างมีเสถียรภาพ ในส่วนของฟีเจอร์นั้นก็จัดเต็มให้กับคอเกมส์มิ่งขาโหดแบบเต็มอิ่มทั้งซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ไม่ว่าจะเป็น DirectCU H2O Hybrid Cooling , Patented Wing-Blade IP5X-Certified Fans , ASUS FanConnect II , Industry Only Auto-Extreme Technology with Super Alloy Power II , ASUS Aura Sync , VR-friendly HDMI ports , GPU Tweak II จัดเต็มพร้อมใช้งานครับ ในส่วนของซอฟแวร์ปรับแต่งไฟนั้นท่านก็สามารถซิงค์หรือเชื่อมต่อกับบรรดาเมนบอร์ดที่รองรับ ASUS AURA SYNC ตัวการ์ดก็จะแสดงผลไฟแบบ LED RGB สามารถปรับแต่งโหมดการทำงานได้ตามความชอบครับ จุดเด่นอีกอย่างที่ต้องพูดถึงก็คือระบบระบายความร้อนขั้นเทพแบบไฮบริดจ์ที่ท่านสามารถจะเลือกใช้แบบการระบายความร้อนด้วยอากาศ(ลม)หรือจะใช้แบบทั้งคู่ทั้งอากาศและน้ำควบคู่กันก็ได้ โดยผลทดสอบที่ออกมานั้นเรียกได้ว่าเย็นจัดสมกับเป็นเทคโนโลยี DirectCU H2O Hybrid Cooling ที่เย็นจัดทั่วทั้งตัวการ์ดกันเลยทีเดียวเพราะแผ่นบล๊อกน้ำที่ท่อน้ำผ่านนั้นจะเชื่อมต่อกับแผ่นทองแดงดึงความร้อนไปอย่างทั่วถึงด้วยนั่นเองครับจึงทำให้ไม่ได้เย็นเฉพาะตัว GPU เพียงอย่างเดียว ทั้งแรมและเฟสไฟก็ได้รับการระบายความร้อนตรงจุดนี้ไปด้วยเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition เลยครับสำหรับการระบายความร้อนของตัวการ์ดจอรุ่นนี้ ถ้าจะให้สรุปสั้นๆแล้วล่ะก็ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition รุ่นนี้เป็นการ์ดที่ออกแบบมาสำหรับคอเกมส์มิ่งระดับเอ๊กตรีมที่เน้นการใช้งานแบบปรับสุดหมดทั้ง Full HD , VR และ 4K ได้อย่างสบายๆ กับตัวการ์ดที่โอเวอร์คล๊อกความแรงมาจากโรงงาน พร้อมทั้งระบบระบายความร้อนแบบขั้นเทพอย่างเย็นเฉียบแบบสุดๆ ถือเป็นกราฟฟิการ์ดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้รอบด้านจริงๆทั้งเน้นประสิทธิภาพความแรง ความสวยงาม การระบายความร้อน ถ้าใครกำลังมองหาสุดยอดการ์ดจอประสิทธิภาพรอบด้านที่แรงที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ASUS ROG Poseidon GeForce GTX 1080 TI 11GB Platinum Edition คือตัวเลือกที่จะเป็นตอบโจทย์ให้ท่านได้อย่างแน่นอนครับ สำหรับราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ประมาณที่ 3XXXXบาท สำหรับในวันนี้กระผมก็ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่เร็วๆนี้กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆจัดเต็มทุกการทดสอบที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ
…
…
…
ขอบคุณที่ติดตาม
Dodge Vmodtech
.
.
.
.
.
.
Special Thanks.
ASUS