อิอิ…สวัสดีครับมาเจอกันอีกรอบ วันนี้ผมได้เล่นBE 2350 ถึงแม้ผมได้ได้เล่นตัวนี้ช้าไปหน่อยแต่ก้โอเคครับเทสมาให้ชมก่อน Phenom จะมา

รายละเอียดเกี่ยวกับตัว BE 2350 นะครับ

AMD Technology	yes
Simultaneous 32- & 64-bit computing	yes
L1 Cache (Instruction + Data) per core	128KB (64KB + 64KB)
L2 Cache (total dedicated)	1MB
HyperTransport™ Technology	One 16×16 link @ 2000 MHz bidirectional
HyperTransport Technology I/O Bandwidth	One 16×16 link @ 2000 MHz bidirectional
Integrated DDR Memory Controller	8 GB/s
Memory Controller Width	Yes
Type of Memory Supported	128-bit
Memory Bandwidth	PC2 6400(DDR2-800), PC2 5300(DDR2-667), PC2 4200(DDR2-533), and PC2 3200(DDR2-400) unbuffered memory (socket AM2)
Total Processor-to-system Bandwidth (HyperTransport plus memory bandwidth)	up to 20.8 GB/s
Process Technology	65 nanometer, SOI (silicon-on-insulator) Technology
Packaging	socket AM2 (940-pin) organic micro PGA
Thermal Design Power	45W
Die Size	65nm: 118mm2
Number of Transistors	65nm: 221 million
Manufacturing Sites	Fab 30 and Fab 36 in Dresden , Germany

ดูจากตารางของ AMD ที่จัดกลุ่มของ BE-2350  ให้อยู่ในกลุ่ม CPU ที่ใช่พลังงานต่ำ เนื่องด้วยที่รับประทานไฟเพียง 45 W ประหยัดจริงๆ
ซึ่งจะเห็นได้ว่าความเร็วเดิมจากโรงงานที่ได้มานั้นคือ 2.1 G แล้วตามด้วยสายพานการผลิตที่เป็นแบบ 65 nm รับประทานไฟแค่ 45 w ซึ่งก้คิดว่านะจะพอแล้วกับการใช้งานทั่วไปแถมประหยัดไฟอีกต่าหากแต่สำหรับผมไม่ใช่ ต้องรีดเค้นพลังออกมาให้มากที่สุดและก็ใช้งานได้จริงด้วยนะครับ
เอาละไม่พูดกันมาหลายๆคนคงพอคุ้นกับ CPU ตัวนี้มาพอควรผมเริ่มเลยดีกว่า

CPU : AMD Athlon X2 BE-2350
 Mainboard : DFI Infinity UltraII-M2
 Memory : Gill ddr2  800     512mb*2
 Graphic Card : Galaxy GeForce8600GT  DDR3@ 750/888MHz 
 Harddisk : Maxter 80GB IDE
 PSU : DCC  350 W
 CPU Cooler : Swiftech  H2O 
 VGA Cooler : Stock Cooler

งานนี้ไม่มี default นะครับเริ่มกันที่ ไปเล่นกันที่ 3.1G กันเลยมาดูผลการทดสอบกันครับว่าเจ้าBE-2350 ตัวนี้จะมีพลังขนาดใหน

หน้าตาของเจ้า BE-2350 ครับ

บรรยากาศขณะทดสอบครับผมอิอิ ผ่านมาได้ด้วยดีโดยไม่มีไรแต๊ป อิอิ

ผลชุดแรกครับดูกันเลยคงไม่ต้องบรรยายไรมากครับต้องยอมรับกันตรงนี้เลยว่าคะแนนSuper pi ไม่ถูกใจผมเลยครับจะว่าไปแล้วถ้าคอซองไม่กลับบ้านไปก่อนคะแนนคงดีกว่านี้ อิอิ แต่แน้น o/c จริงใช้งานจริงดีกว่าเอาของที่มีทำให้แรง อิอิ

มาดูCinebench กันบ้างเทสทั้ง 2 เวอร์ชั่นกันไปเลยให้รู้ว่าหนู BE-2350 เอาไหวนะจ๊ะ

ต่อกันเลยครับกับ Sisoft  มากันทั้งชุด อิอิ

เป็นที่น่าพอใจมากๆกับผลที่อกมา อิอิ

Everest กันต่อเลยครับเพิ่งโหลดกันมาใหม่ๆสดๆ

เอิ๊กๆ ในส่วนของmainboard นั้นท่านๆจะเห็นว่าเป็น chipset nfarce4-sli ได้งัยก็บอร์ดตัวนี้ไม่ได้ sliนิ  อิอิคำตอบคือผมได้ทำการโมเรียบร้อยแล้วครับ

เอาละครับมาดูว่า BE-2350 ที่ 3.1 จะดึงพลังจากการ์ด 8600GT@750/888 ออกมาได้มากน้อยเท่าไหร ไปดูกันเลยครับ อิอิ

เริ้มที่ตู้ปลาก่อนเน้อ

เป็นงัยครับคะแนนสุดหรูอิอิจะเห็นคะแนนทะลุแสนขนาดนี้เมื่อก่อนต้องเป็น 8800 กับ CPU AMD แต่ BE-2350 กับ 8600gt ทำได้ครับ อิอิ

3Dmark Group

ผลคะแนนที่ออกมาแต่ละตัวไม่ธรรมดาเลยใช่ปล่าวครับสำหรับ 3Dmarkถูกใจผมจริงๆ

เอาละครับจบซะทีสำหรับการทดสอบ BE-2350 ตัวนี้โดยมุมมองแล้วผมว่า ความสามารถในการดึงพลังงานเกี่ยวกับ 3D ทำได้ดีทีเดียวครับแต่ในส่วนที่เกี่ยวกับการคำนวณไม่ต่างกับตัว บริสเบน3600+ เท่าไหร่ครับน่าจะเป็นเพราะว่าเป็นแพล็ตฟอร์มเดียวกันความเร็วที่ใกล้เคียงกันจึงไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่มีเรื่องหน้าแปลกอยู่อย่างนึงคือเรื่องความร้อนถ้าผมไม่ลงไดร์เวอร์ AMD CPU Cool&Quite ของ Mainboard DFI ความร้อนจะพุ่งขึ้นสูงมากจนน่ากลัว ด้วยความเอะใจเลยลองลงดูปรากฏว่าได้ผลครับ ลด ฮวบๆเลยจากตอนแรก idle อยู่ที่ ประมาณ 44-50 องศาแต่พอลงไปแล้ว กลับมาอยู่ที่ 25-27 เท่านั้นครับ และย้ำว่าอุณภูมินี้คือใช้ชุดน้ำนะครับ

สุดท้ายนี้ที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือลองเล่นน้ำแข็งความเย็นไม่ได้ช่วยให้ลากเพิ่มได้เท่าไหร่เลยครับ แต่ผมจะพยายามต่อไป อิอิ ขอบคุณครับ

ขอบคุณ AMD Far East Ltd.. 

ร่วมวิจารณ์บทความ  คลิกที่นี่