BenQ Flicker-free Monitors EW2440 Review
Share | Tweet |
……….สวัสดีครับ วันนี้มาพบ Monitor จาก BenQ กันครับกับ BenQ Flicker-free Monitors EW2440 ซึ่งมอนิเตอร์รุ่นนี้เป็น Flicker-free Series ที่ทาง BenQ กำลังทำตลาดอยู่ในขณะนี้นะครับ จอมอนิเตอร์ทั่วไปจะกระพริบเป็นลักษณะคล้ายๆคลื่นความถี่ ทำให้เราแสบตา เคืองตา ตาแห้ง เวลาจ้องมองหน้าจอนานๆ แต่มอนิเตอร์แบบ Flicker-free เนี่ยจะเป็นจอภาพที่ไม่กระพริบ เพราะว่า BenQ เขาใส่เทคโนโลยี Flicker-free backlights ลงไป ช่วยถนอมสายตาเวลาที่นั้งทำงานหน้าจอเป็นเวลานานๆ BenQ Flicker-free Monitors EW2440 จะมีความโดดเด่นทางด้านไหนอีกเราไปขมพร้อมๆกันครับ แต่ก่อนอื่นไปชมรายละเอียดจากผู้ผลิตกันก่อนครับ
More Information >>Click<<
BenQ Flicker-free Monitors EW2440 Appearance
หน้าตารายละเอียดต่างกันต่อเลยครับ
กล่องบรรจุ เป็นกล่องลูกฟูกสีน้ำตาลบอกรายละเอียดสินค้าตามภาพครับ
แกะกล่องออกมาก็พบ ฐานและขาตั้ง 1 ชุด, MHL Cable 1 เส้น, VGA Cable 1 เส้น, AC/DC Adaptor พร้อมกับ Power Cable 1 ชุด, คู่มือ และ แผ่นไดร์เวอร์ ครับ
ติดตั้งฐาน แล้วมาดูหน้าตากันต่อเลยครับ
ขนาดโดยรวม 421.6 x 545.66 x 191.32mm
น้ำหนัก 3.74 kg
ผิวด้านหน้าจะเป็นผิวด้าน แต่ด้านหลังจะเป็นเงางามครับ
BenQ Flicker-free Monitors EW2440 เป็นจอมอนิเตอร์ที่มีรายละเอียดดั้งนี้ครับ
Type : 24″ Wide
Aspect Ratio : 16:9
Resolution (max.) : 1920 x 1080
Panel Type : VA
Pixel Pitch (mm) : 0.276
Brightness ( typ.) : 250 cd/m²
Native Contrast ( typ. ) : 3000:1
DCR (Dynamic Contrast Ratio) (typ.) : 20M:1
Viewing Angle (L/R;U/D) (CR>=10) : 178°/178°
Response Time(Tr+Tf) typ. : 12ms, 4ms (GTG)
Display Colors : 16.7million
Color Gamut : 72% NTSC
BenQ EW2440 จะแถมสาย MHL มาให้ซึ่งเหมาะสำหรับท่านที่มีไลฟ์ไสตร์แบบเพลินเพลินไปกับสมาร์ทโฟนหรือแทปเล็ตในชีวิตประจำวัน พอตกเย็นเข้าบ้านก็เชื่อมต่อ สมาร์ทโฟน เข้ากับ BenQ EW2440 ดูหนัง ฟังเพลง กันได้สบายๆจอใหญ่ๆครับ เหมาะกับยุคสมัยจริงๆ
และ BenQ EW2440 ยังเป็นจอ LED ที่ใช้เทคโนยี Senseye 3 ให้ภาพสวยสดใสครับ
มุมล่างกลางแบบนี้ก็ต้องแป๊บตรา BENQ เอาไว้ตัวใหญ่ๆครับ
มุมขวาล่าง เป็นชื่อรุ่น EW2440
ที่เห็นข้างๆเรียงกันเป็นปุ่มการตั้งค่าต่างๆครับ ทำซะเนียนเลย มองตอนแรกผมยังมองไม่เห็น ต้องหากันดีๆจึงจะเจอครับ
ซูมมาดูชัดๆดีกว่า
ขอบจอบางเบาแบบมีปีกครับ แบบนี้ จัด 3 ตัวทำ Surround Monitor ฟินแน่นอน
ด้านหลังครับ อย่างที่บอก เงางามมาก สะท้อนเงาใช้แทนกระจกได้เลยครับ อิอิกำ
ภาพนี้ต้องขออภัยครับด้านหลังจอเป็นลักษณะโค้ง แผ่นกันสะท้อนผมเล็กเกินไปไม่สามารถกันได้หมด ก็สะท้อนขากล้องขาไฟไม่ว่ากันนะครับ
ด้านหลังก็มีตรา BenQ ตัวเป้งๆแบบนี้ละครับ
พอร์ตเชื่อมต่อก็มี VGA 1 ช่อง, HDMI 2 ช่อง, Audio In, Audio Out, ช่องต่อสายไฟ Input แต่แหมม น่ามี DVI ซักช่องนะครับ อิอิกำ
มีลำโพงในตัว อยู่ด้านหลังครับ
รุ่นนี้ก็มี พอร์ต kensington lock ด้วยครับ
มาดูด้านข้างกันครับ หน้าจอสามารถปรับลงได้ 5 องศา โดยประมาณ
และแหงนขึ้นได้ 15 องศาโดยประมาณครับ
ฐานของจอมอนิเตอร์รุ่นนี้มีอะไรพิเศษๆ อยู่เหมือนกันครับ
โดยสามารถเปิดขึ้นมาเป็นลักษณะของขาตั้งได้
ไว้สำหรับตั้ง สมาร์ทโฟนนี้เองครับรองรับ MHL กันเต็มรูปแบบเลยครับงานนี้
Menu Setting
มาดูการตั้งค่าต่างๆกันบ้างดีกว่าครับ
ปุ่มทั้ง 6 ปุ่ม โดยที่ ปุ่มขวาสุดจะเป็นปุ่มเปิด-ปิดจอ
และปุ่มอื่นๆอีก 5 ปุ่มเมื่อเรากดปุ่มใดๆก็ตามจะขึ้นไอคอนต่างๆตามภาพครับ มาไล่ดูดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
อันที่ 1 รูปหลอดไฟ จะเป็นการตั้งค่าแสงสว่างของจอ
อันที่ 2 จะเป็นการเลือก Input source
อันที่ 3 เป็นส่วนของเสียง
อันที่ 4 เป็นเมนูการตั้งค่าต่างๆ
อันที่ 5 เป็นการออกจากเมนูคำสั่ง
.
มาดูรายละเอียดกันเลยครับ
อันแรกสุดรูปหลอดไฟ เมื่อเราเข้ามาก็จะเป็นการตั้งค่าแสงสว่างของจอเพื่อความเหมาะสมในการใช้งานด้านต่างๆครับ
อันที่สอง จะเป็นการเลือก Input source ครับ ในที่นี้ผมติดตั้งโดยใช้สาย HDMI ครับ
อันที่ 3 เป็นการเพิ่มลดหรือปิดเสียงครับ
อันที่ 4 เป็นเมนูการตั้งค่าต่างๆโดยละเอียดครับ
มาดูอันที่ 4 กันยาวๆเลยครับ
เมนูแรกเป็น Display การเลือก Input source สามารถเข้ามาเลือกตรงนี้ได้อีกเช่นกัน
เมนู Picture ปรับค่าแสงสีความคมชัดกันตามใจชอบครับ
เมนู Picture Advanced สามารถปรับค่าต่างๆได้ตามภาพครับ แต่เดี๋ยวเราจะมาดู Picture Mode กันแบบละเอียดๆกันอีกครั้งครับ
เมนู Audio
และเมนูสุดท้าย เป็นการตั้งค่าและแสดงสถานะของจอมอนิเตอร์ครับ
Picture Styles
ในส่วนของ Picture Styles หรือ Picture Mode ก็มีให้เลือกตั้งค่ากันมากมายครับ มาดูกันดีกว่าว่าสีสันจะเป็นยังไง
Standard Mode
Low Blue Light Mode
Low Blue Light Mode Multimedia 30%
Low Blue Light Mode Web Surfing 50%
Low Blue Light Mode Office 60%
Low Blue Light Mode Reading 70%
Cinema Mode
Game Mode
Photo Mode
sRGB Mode
Eco Mode
M-book Mode
User Mode
Picture : Viewing Angles
มาชมภาพในมุมมองต่างๆกันบ้างครับ สำหรับ Panel VA จะสวยแจ่มแค่ไหน ผมตั้งค่า Picture Styles เป็นแบบ Standard Mode นะครับ
มุมตรงนี้ทำได้ดีแบบไม่มีข้อสงสัยครับ
มุมข้างนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปว่า Panel IPS เลยครับ
สำหรับมุมบนนั้นดูจืดๆไปซักหน่อย
สำหรับท่านที่กำลังเลือกหาซื้อจอมอนิเตอร์อยู่สีสันแนะนำให้ไปดูเปรียบเทียบด้วยตาของท่านเองที่ร้านอีกทีนะครับบางทีรูปที่ถ่ายออกมาอาจมีผิดเพี้ยนไปจากสายตาจริงบ้าง แต่ผมก็ได้พยายามถ่ายภาพออกมาให้เหมือนกับที่เห็นด้วยตาเปล่าแล้วครับ
.
BenQ Flicker-free Monitors Testing
มาลอง ทดสอบกันบ้างดีกว่าครับ โดยผมจะถ่ายวีดีโอเปรียบเทียบระหว่างจอ BenQ Flicker-free Monitors และจออื่นๆที่ไม่ Flicker-free นะครับ การตั้งค่าจอก็ใช่ดีฟลอจากโรงงานทั้ง 2 จอเลย คลิ๊กเข้าไปชมกันเลยครับ
.
.
BenQ Flicker-free Monitors นี้ไม่เห็นการกระพริบของจอเลย ส่วนจอมอนิเตอร์อีก 1 ตัวที่ผมใช้อยู่ประจำ มากันเป็นคลื่นเลยครับ เทคโนโลยี Flicker-free backlights ของเขาแน่นอนจริงๆ
(สำหรับวีดีโอชุดนี้ผมทำมาจากมอนิเตอร์ BenQ Flicker-free ในรุ่นอื่นนะครับ ซึ่งลักษณะของภาพที่ได้เหมือนกัน ผมขออนุญาตยกมาให้ชมกันอีกครั้งครับ)
.
Power Consumption
การใช้พลังงานก็ใช้เพียง 29 watt เท่านั้นเองครับ
Conclusion
……….มาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วครับสำหรับ BenQ Flicker-free Monitors EW2440 ด้วย Flicker-free backlights ที่ถนอมสายตาลดการกระพริบของหน้าจอ (นี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านที่ใช้งานคอมพิวเตอร์นานๆ ต้องนั้งจ้องหน้าจอกันทั้งวัน), เทคโนโลยี Senseye 3 ให้ภาพที่ดูสดใสสวยงาม, Panel VA ที่ให้ภาพสด คอนทราสจัด, MHL และ ฐานจอสำหรับวางสมาร์ทโฟน BenQ Flicker-free Monitors EW2440 จึงเป็นมอนิเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการทำงานและ entertainment รองรับ lifestyle ในยุค cloud computing อย่างแท้จริง ท่านใดที่มองหา มอนิเตอร์ในแบบ work and play นั้น BenQ Flicker-free Monitors EW2440 คือคำตอบครับ สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ