Corsair Vengeance 2000 Wireless 7.1 Gaming Headset Review
Share | Tweet |
สวัสดีครับ พบกับผลิตภัณฑ์จาก Corsair กันอีกเช่นเคย ยังมีอีหลายชิ้นที่ทาง Corsair ฝากมาทำการทดสอบที่ Vmodtech ครับ วันนี้หยิบเอาหูฟังไร้สายแบบ 7.1 Channel มารีวิวให้ได้ชมกันก่อน Vengeance 2000 Wireless 7.1 Gaming Headset เป็นชื่อรุ่นเต็มๆของมันครับ โดยเจ้า Vengeance 2000 นั้นเป็นหูฟังไรสายที่สามารถจำลองเสียงรอบทิศทาง 7.1 ช่องเสียง และออกแบบมารองรับเกมส์เมอร์ด้วย มาชมรายละเอียดทั่วไปกันครับ
.
.
Vengeance 2000 นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเล่นเกมส์อย่างเต็มรูปแบบและสะดวกสะบายไม่ต้องมีสายมารบกวน ตัวหูฟังนั้นสามารถจำลองเสียงรอบทิศทางแบบ 5.1 และ 7.1 Channel ได้ภายในตัวทำให้เสียงต่างๆภายในเกมส์นั้นสมจริงมากกว่า และทำให้คุณสามารถรู้แหล่งที่มาของศัตรูได้อย่างทันท่วงที ตัวหูฟังนั้นสามารถใช้งานยาวนานต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง และแม้ว่าแบตเตอรี่ในตัวจะหมด มันก็ยังสามารถเสียบสายและใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานขึ้นแบบไม่จำกัด
.
ตัว Driver นั้นมีขนาด 50 มิลลิเมตร ตอบสนองความถี่เต็มย่านตั้งแต่ 20 - 20,000 Hz ที่ความต้านทาน 32 โอห์ม ระยะทำการของหูฟังกับตัวรับนั้นสามารถห่างกันได้กว่า 12 เมตร รองรับการทำงานบน Windows XP, Vista, 7, และ Windows 8 อย่างสมบูรณ์
.
.
Package Appearance
.
หน้าตากล่องของ Vengeance 2000 นั้นออกแบบมาได้น่าสวยงาม น้ำหนักชั่งด้วยมือแล้วทั้งกล่องค่อนข้างเบาครับ
ด้านหลังมีคำอธิบายไว้หลายภาษา
เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับโครงกระดาษขึ้นรูปพอดีตัวหูฟังเลย
ของที่แถมมากับกล่องทั้งหมดครับ ซ้ายมือสุดจะเป็นสายด๊อกเกิ้ลความยาว 1.5 เมตร เอาไว้ต่อความยาวจากตัวรับ USB ถ้าเคสอยู่ในพื้นที่ที่อับคลื่น ถัดมาจะเป็นสาย USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในตัวหูฟังรวมถึงสามารถแปลงหูฟังจากแบบไร้สายเป็นแบบมีสายได้ทันที ขวาสุดเป็นคู่มือ
ตัวรับสัญญาณแบบ USB
หูฟังตัวเต็มๆพร้อมกับตัวรับสัญญาณแบบไร้สาย
ตัว Driver หูฟังขนาด 50 มม ครับ ใหญ่เอาเรื่องแบบนี้น่าจะปั๊มเสียงความถี่ต่ำได้ดี บริเวณรอบๆของหูฟังนั้นบุมาด้วยกำมะยี่นุ่มมากๆ
ด้านขวามือของรูปจะเป็นช่องเสียบสาย USB สำหรับชาร์จและที่เป็นเป็นแท่งกลมๆยาวๆนั้นจะเป็น Volume ครับ
ปุ่มเปิด/ปิดจะอยู่บริเวณด้านหลังหูฟังครับ
ดันบนของหูฟังจะเป็นยางนุ่มๆ มีรูระบายอากาศเยอะครับ
บริเวณข้อต่อหูฟังนั้นจะสามารถหมุนได้รอบทิศครับ แบบนี้จะกระชับกับองศาของรูปหน้าแต่ละคนได้เป็นอย่างดี โดยตรงนี้สามารถยืดออกได้ด้วยครับ
ยางบริเวณที่สัมผัสกับศรีษะนุ่มมากครับ
.
.
Software Customizing
.
ลองมาดูหน้าตาของ Software ควบคุมตัวหูฟังกันครับ ตรงเลข 1 นั้นจะเป็นตัวแสดงสถานะของความดัง/ค่อยของหูฟังกับไมค์ ตรงสวนที่สองจะเป็นไดอะแกรมแสดงจำนวนทิศทางที่เลือกจำลองเสียง ตรงเลข 3 นั้นใน Software ระบุว่าเป็นจำนวน Channel ของแหล่งกำเนิดเสียง แต่ที่ผมลองเล่นดูนั้นจะเป็นการเลือกปล่อย Output จำลองเสียงนะครับ เดี๋ยวดูอีกทีในรูปด้านล่าง ส่วนหัวข้อ 4 นั้นจะเป็น EQ ที่เราเลือกปรับได้เองได้ หรือว่าจะเลือกจาก Profile ที่ทาง Corsair ได้ตั้งค่าไว้ให้เล่นก็ได้ด้วย
อย่างที่ผมเกริ่นไปบนรูปด้านบน ตรงบริเวณ Source type นั้นเป็นการเลือกปล่อย output ว่าจะจำลองเสียงมีช่อง ในตัวอย่างผมเลือกปล่อย 2.0 แบบสเตริโอ สัญลักษณ์ลำโพงสองข้างก็แสดงออกมารวมถึงเสียงก็จะออกมาแบบสองช่องเสียงด้วย
.
.
Testing & Conclusion
ภาพขณะทำการทดสอบครับ
ผมลองดูหนังแล้วเลือกไปที่ 7.1 Channel ดูแต่ว่าตัวหนังที่มีนั้นคงได้แค่ 5.1 Channel เท่านั้น ว่ากันไปครับ เสียงที่ได้ยินนั้นถูกจำลองให้กว้างออกไป และลอยออกไปเป็นบริเวณกว้างรอบๆศรีษะแบบรู้สึกได้เลยครับ เสียงกลางต่ำ และเสียงความถี่ต่ำน่าจะเป็นจุดเด่นของ Vengeance 2000 แรงปะทะของเสียงระเบิดและแรงอัดนั้นให้ความรุนแรงและหนักหน่วงเอาเรื่อง จะมีเสียงหึ่งๆไปกวนเสียงกลางบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่เสียอรรถรสแต่อย่างใด จุดสังเกตุจุดนึงคือ รอยต่อระหว่างเสียงต่ำกับเสียงกลางนั้นอาจจะไม่กลมกลืนซักเท่าไหร่นัก ตัว Driver นั้นอาาจะถูกจูนมาแบบนั้นซึ่งจะไปกระทบความลื่นไหลและต่อเนื่องของย่านความถี่ขณะฟังเพลงบ้าง แต่น่าจะเป็นเพราะว่า Corsair ไม่ต้องการให้เสียงต่ำมากๆนั้นขึ้นไปรบกวนเสียงในย่านกลางขึ้นไปมากนัก ทำให้เวลาที่ฟังเพลงประเภทอคูสติกจะไม่รู้สึกว่าเอะอะอะไรก็มีเสียงเบสหึ่งอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
.
เสียงแหลมนั้นจัดพอควร กลางแหลมเปิดมาก รายละเอียดเสียงแหลมนั้นอาจจะไม่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับหูฟังที่ออกแบบมาเฉพาะทางฟังเพลงโดยเฉพาะ เสียงกลางฟังลื่นๆดีครับแต่อาจจะไม่เปิดและพุ่งมากนักและติดจะอวบอ้วนไปบ้างเนื่องจากมีความถี่ต่ำขึ้นมารวมๆอยู่ด้วย แต่ตรงนี้ลองเปลี่ยน Profile ไปใช้ให้เหมาะกับโอกาสน่าจะช่วยให้ฟังเพราะขึ้นครับ ผมว่าจุดเด่นที่สำคัญที่สุดสำหรับ Vengeance 2000 นั่นคือมันเป็นหูฟังแบบไร้สายครับ น้ำหนักนั้นถือว่าไม่หนักอย่างที่คิดเลย ผมลองใส่หูฟังนี้ดูหนังจนจบเรื่องก็ไม่รู้สึกว่าเมื่อยคอแต่อย่างใด การส่งสัญญาณระหว่างหูฟังถึงตัวรับก็ถือว่าดีครับ ไม่มีสะดุดระหว่างใช้งานเลย คือมันเหมือนกับเป็นหูฟังที่มีสายปกติแบบนั้น ลองไปพิสูจน์ดูว่ามันเหมาะกับคุณหรือเปล่าได้ที่ร้านอุปกรณ์เกมส์ชั้นนำ หรือจะไปที่ Scanner ก็ได้ครับ ผมว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว..
.
.
CHANE
.
อุปกรณ์ที่ใช้ฟังเปรียบเทียบ ASUS Xonar Essence One MUSES Edition <คลิ๊กเพื่อเข้าชมรีวิว> และ Sennheiser HD465
.
.
.
ขอขอบคุณ
Scanner
.