สวัสดีครับ เห็นชื่อหัวข้อบทความคราวนี้ ก็อย่าพึ่งเบื่อกันก่อนนะครับ ว่าเอาพี่มืดมาอัดโชว์อีกแล้วเรอะ ไม่เบื่อบ้างเรอะ จริงๆก็คือเบื่อเหมือนกันครับ แต่ช่วงนี้ไม่มีเงินซื้อของใหม่แล้ว เลยเอาของเก่าๆที่ผมมีนี่แหละครับ มาอัดโชว์ให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันอีกรอบ ซึ่งมาคราวนี้ผมก็มาพร้อมกับกลเม็ดเคล็ดลับต่างๆที่พาให้เมนบอร์ดตัวนี้ไปถึงดวงดาวแบบไม่กลัวเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆที่ใช้ชิปเซตP35เลยครับ ตามไปชมพร้อมๆกันได้ ณ บัดnowเลยครับ อิอิ

ก่อนอื่นขอพาชมเทคนิคต่างๆที่พาให้cpuผมไปได้ไกลขึ้นกว่าเดิมก่อนนะครับ ตอนแรกสุดที่เห็นฮิตๆกันตอนนี้คือการเอาcpuไปlap ซึ่งผลที่ผมเอาไปlapมาเอง ค่อนข้างน่าผิดหวังมากๆครับ คือlapแล้วผมใส่กลับเช็คอุณหภูมิดู แทบไม่เย็นขึ้นเลยครับ เมื่อใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แทบจะเหมือนเดิมเลยครับ แต่ถ้าเล่นซิงค์จะต่างกันเท่าไหร่ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ เพราะผมยังไม่ได้ลองเลยครับ อิอิ

แต่นี่ต่างหากครับ ที่ทำให้ระบบผมเย็นลงกว่าเดิมถึง6-7องศา มันคือซิลิโคนปรอทนั่นเองครับ บีบบออกมาลักษณะจะเป็นโลหะเหลว เหมือนปรอทเป๊ะๆเลยครับ ตอนเล่นกับซิงค์ยังไม่เท่าไหร่ครับ เย็นแทบไม่ต่างกับMX-1เลยครับ แต่พอมาเล่นกับน้ำนี่สิครับ เย็นกว่าใช้MX-1เห็นๆ6-7องศาเลยครับ คือที่ไฟ1.66V.จากIdleที่ประมาณ48องศากับMX-1 พอใส่ตัวนี้ปุ๊ป อุณหภูมิมันจะรูดลงมาทันทีที่41-42องศา ผมนั่งดูอุณหภูมิอยู่ยังช๊อคเลยครับ แต่ข้อเสียของมันก็มีนะครับ หนึ่งคือราคาสูงมากหลอดแค่1กรัมราคามันก็สูงถึง700กว่าบาทแล้วครับ และต้องสั่งนอกอย่างเดียว เมืองไทยไม่มีขาย และอีกข้อที่สำคัญคือมันใส่ยากครับ ถ้าใส่ไม่ดีจะไม่เย็นเลยครับ เพราะเนื้อปรอทมันจะปลิ้นลงข้างๆCPUหมด เราต้องส่แบบหยดเล็กๆกระจายทั่วๆ เวลาใส่บล็อคก็ต้องใส่แบบค่อยๆตะแคงลงทีละข้าง มันถึงจะไม่ปลิ้นและเย็นครับ พอเย็นลงเยอะขนาดนี้ปุ๊ปก็ได้เรื่องเลยครับ จากที่CPUผมเสถียรเทสต์ผ่านหมดกับบอร์ดdarkแค่3.93GHz ก็สามารถเขยิบไปที่3.99GHz ได้แบบในบทความนี้เลยครับ ไม่ได้โม้นะครับ หามาลองกันเองได้เลยครับ อิอิ

หน้าตาของระบบที่ใช้เทสต์คราวนี้ ก็ธรรมดาๆแบบที่เห็นเลยครับ

การ์ดจอใหม่ที่ผมใช้เทสต์คราวนี้ คือGalaxy8600GT 256MB 128-bit DDR3 นั่นเองครับ ราคาประมาณ4800บาท ความแรงกับBenchmarkถือว่าใช้ได้เลยครับกับราคาขนาดนี้ แถมการ์ดมีขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย ไม่กินไฟ ไม่ร้อนมาก ผมว่ามันก็ดูเหมาะกับนักโอเวอร์คลอคดีนะครับ แต่ที่ผมซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะว่าเจ้าGF7950GX2ตัวเก่งผม ดันเสียบกับบอร์ดDarkแล้วเอ๋อใช้งานไม่ได้ครับ ภาพกระพริบแปล่บๆตลอดเลยครับ ตอนแรกนึกว่าการ์ดเสีย แต่พอลองเอาไปเสียบกับเมนบอร์ดตัวอื่นก็ใช้งานได้ปรกติ  เลยพอสรุปได้ว่าการ์ดGF7950GX2 มันไม่แมตซ์กับบอร์ดDarkนะครับ ใครใช้การ์ดตัวนี้อยู่แล้วจะซื้อบอร์ดDarkมาใช้ก็ระวังด้วยนะครับ

ส่วนแรมที่ใช้คราวนี้ ก็คือCellshock PC8000 DDR1000 4-4-4-12 2.2V. ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ลากFSBไกลๆได้อย่างมีเสถียรภาพเลยครับ

ตารางรายละเอียดsystemต่างๆที่ใช้ในการทดสอบนี้นะครับ

วันนี้เราจะมาสาธิตวิธีการปรับแต่งไบออสสำหรับOverclockกันเลยนะครับ อย่างอื่นเราจะไม่สนเลยนะครับ เข้ากันไปที่เดียวเลยครับที่ “Genie BIOS Setting”

เข้าไปปุ๊ปหน้าแรกผมก็กดไปตามรูปเลยครับ บัส570กันแบบไม่กลัวบูตไม่ติด แรมก็จับวิ่งที่ค่า533 MHz หรือ1:1 นั่นเองครับ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับว่า CPUกับแรมของท่านตันที่บัสไหนด้วยนะครับ ว่าแล้วก็ตามเข้าไปดูการเซต Submenu >CPU Feature >DRAM Timing และ >Voltage Setting ตามลำดับกันต่อเลยนะครับ

ที่Submenu >CPU Feature ก็เซตกันง่ายๆตามภาพเลยนะครับ Disableให้หมด ยกเว้น “Execute Disable Bit” ให้Enable ไว้ เพื่อให้ระบบเสถียรขึ้นเมื่อOverclockไกลๆ ถ้าเราDisableไป จะทำให้ระบบเสถียรน้อยลง แต่Performance ของระบบจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ก็เลือกกันดูนะครับว่าจะต้องการแบบไหน

มาถึงSubmenu >DRAM Timing ก็เซตกันไปตามภาพเลยครับ สำหรับแรมที่ใช้ชิปD9GKX แต่ถ้าใช้แรมที่ใช้ชิปตัวอื่น ก็ให้ไล่คลายค่าTiming ต่างๆให้มากขึ้นจนกว่าระบบจะเสถียรกันนะครับ ยิ่งคลายระบบก็จะเสถียรขึ้น แต่ Performanceของระบบก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามหลักการค่าTimingRam เหมือนเมนบอร์ดทั่วๆไปเลยครับ

มาถึงSubmenuสุดท้ายที่สำคัญที่สุดครับ คือ >Voltage Setting อันนี้สำคัญและเซตยากพอสมควรที่จะหาค่าFSBที่มากที่สุดแบบเกินหน้าเกินตาชาวบ้านอย่างมีเสถียรภาพครับ ถ้าท่านจะเน้นลากFSBให้ไกลสุดๆเท่าที่CPUท่านจะทำได้ ก่อนอื่นให้ท่านกดไฟ SB 1.5V. Setting ไปที่1.80V.ก่อนเพื่อนเลยครับ แล้วตามด้วยVTT Voltage Setting ไปที่1.725V.ด้วยเช่นกัน เพราะ2ค่านี้มันจะสัมพันธ์กันคือ ถ้าไฟSB 1.5V. Setting ยังอยู่ที่1.5V.อยู่ ไฟVTT Voltage Setting จะปรับสุดไปได้แค่ที่1.425V.เท่านั้นครับ ต้องปรับSB 1.5V. Setting ให้สุดที่ค่า1.80V.ก่อน VTT Voltage Setting ถึงจะมีค่าสูงสุดที่1.725V.ออกมาให้ปรับครับ คราวนี้ไฟที่เหลือก็อยู่ที่ความอึดของท่านแล้วครับในการไล่ไฟ เพราะCPUแต่ละตัว แรมแต่ละคู่ ระบบระบายความร้อนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คงต้องไล่หากันสนุกล่ะครับงานนี้ แต่ถ้าท่านเข้าวินโดว์ได้ที่ค่าไหนแบบสุดๆแล้ว ให้ลองลดFSBมาอย่างมากก็2-5MHz แล้วลองไล่หาค่าไฟดู ถ้าเจอค่าที่ตรงแล้วรับรองว่าระบบของท่านจะเสถียรเล่นได้จริงแน่นอนครับ

 และเมื่อเซตค่าต่างๆเรียบร้อยแล้ว ก็ตามมาดูผลที่ได้กันหน้าถัดไปเลยครับ ว่ามันคุ้มค่ากับเวลาที่เราเสียไปกับมันหรือเปล่า

FSB 570.3MHz Multiple7 @ 3,992.4MHz All Benchmark Pass Results!!!

SuperPI32M Dual ,32M Single & 1M Results

ภาพขณะกำลังเทสต์SuperPI32M พร้อมกัน2Thread ครับ

ภาพขณะกำลังเทสต์SuperPI32M 1Thread ขณะที่เทสต์แบบ2Thread จบไปแล้วด้วยเวลา 15.35.891S และ 15.37.844S ตามลำดับครับ

ผลเวลาที่เห็นนี้ ไม่มีการปรับแต่งค่าต่างๆในวินโดว์ช่วยแต่อย่างใดทั้งสิ้นนะครับ ลงวินโดว์เขาตั้งให้มายังไงก็ใช้ค่าที่เขาตั้งให้เทสต์เลยครับ ผลเวลาทั้งหมดออกมาก็แรงตามรูปเลยครับ

Fritz Chess Benchmark Results

wPrime Multithreaded Benchmark Results

หน้าแรกนี้จะเน้นให้ดูBenchmarkที่ใช้โชว์ความเสถียรของระบบในระดับที่สูงระดับหนึ่งนะครับ ซึ่งทั้งหมดก็สามารถเทสต์ผ่านได้หมดโดยสวัสดิภาพครับ ส่วนORTHOSจะเทสต์ไม่ผ่านนะครับที่ความเร็วขนาดนี้ ซึ่งถ้าจะเอาให้ผ่านคงต้องใช้ระบบระบายความร้อนแบบติดลบแล้วล่ะครับสำหรับความเร็วMHzระดับสุดขอบนรกแบบนี้

CINEBENCH 9.5 Benchmark Results

CPUMark99 & ProcessorMark3 Benchmark Results

CrystalMark Benchmark Results

WinRAR Benchmark Results

ทะลุระดับ2098kb/s ไปแบบหน้าตาเฉยครับ ไม่จำเป็นต้องเอาQuadCoreมาช่วยเลยครับ สำหรับที่FSB 570MHz

Sisoft2007 XI SP1 Benchmark Results

Bandwidthแรมทะลุ10,1XXMb/s ไปแบบสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องเล่นเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซตใหม่ๆเลยครับ อิอิ

PCMark2002 Benchmark Results

PCMark04 Benchmark Results

สำหรับPCMark04 ผมใช้ทริกกวนการทำงานขณะเทสต์หัวข้อGrammar Check เพื่อแก้บั๊กหัวข้อนี้กับCPU C2Dนะครับ เลยทำให้คะแนนโดยรวมออกมาได้อย่างที่เห็นครับ

PCMark05 Benchmark Results

EVEREST Ultimate Edition 2007 Benchmark Results

ก็แรงทะลุจนแซงCPU QuadCore ในบางหัวข้อเลยครับกับBenchmarkตัวนี้

3DMark2001SE Benchmark Results

คะแนนในส่วน3DMarkทั้งหมดนี้ คงไม่ได้สูงอะไรมากมายนะครับ เพราะผมใช้แค่การ์ด8600GT ที่วิ่งที่ความเร็ว666/885MHz เท่านั้นครับ

3DMark03 Benchmark Results

เทสต์ผ่านหมดยันCPUTest ที่ว่าหินๆสำหรับCPU C2D เลยครับ โดยในส่วนของ3DMark03นี้ ถ้าแรมของท่านไม่เสถียรจริงๆจะผ่านยากมากๆ ยากยิ่งกว่าSuperPI32M Dual อีกครับ ไม่เชื่อก็ไปลองกันดูได้เลยครับ

3DMark05 Benchmark Results

สำหรับ3DMark05 ก็ยังเทสต์ผ่านหมดยันCPUTest ที่ว่าหินๆสำหรับCPU C2D เลยครับ โดยในส่วนของ3DMark05นี้ ถ้าCPUของท่านได้ไฟไม่เพียงพอหรือเย็นไม่เพียงพอ ก็จะผ่านยากมากๆเช่นกันครับ

3DMark06 Benchmark Results

3DMark06 ผ่านกันสบายๆมากๆครับ ง่ายยิ่งกว่า 3DMark03 3DMark05 อีกครับ

AquaMark3 Benchmark Results

คะแนนCPUของAquamark3 ก็ทะลุผ่านระดับ24Kไปอย่างง่ายดายครับ

FSB 571.2MHz Multiple7 @ 3,998.1MHz SuperPI&Fritz Chess Pass Results!!!

SuperPI32M Dual ,32M Single & 1M Results @ FSB 571.2MHz!!!

Fritz Chess Benchmark Results @ FSB 571.2MHz!!!

CPU-Z Database (ID : 210600)

หน้าสุดท้ายนี้ ก็ขอทิ้งเชื้อไว้ทำภาคต่ออีกหน่อย ตามสไตล์หนังสยองขวัญไม่มีวันจบของHolllywood นะครับ อิอิ

พอทำบทความนี้จบสุดท้าย ผมก็ยังหาข้อสรุปให้ตัวเองไม่ได้เลยครับ ว่าFSBของเมนบอร์ดตัวนี้ ตกลงมันจะไปสุดที่ไหนกันแน่ เพราะดูจากอาการแล้ว ที่สุดนี่น่าเป็นที่CPUของผมมากกว่านะครับ คงต้องวานให้ท่านเจ้าของเมนบอร์ดตัวนี้ทุกๆท่าน ช่วยๆกันหาจุดสิ้นสุดสุดท้ายของเมนบอร์ดตัวนี้ กันหน่อยแล้วล่ะครับ ว่าสุดท้ายมันจะไปจบลงที่ไหนกันแน่ แต่ที่แน่ๆพี่มืดของผมตัวนี้ ชนะพี่หมีกับน้องP5K Vanilla ของท่านSavoy ไปเรียบร้อยโรงเรียนVmodtechแล้วครับ อิอิ (p5K Vanilla ทำได้570.0MHz ส่วนพี่มืดผม ทำได้570.3MHz ครับ ที่เสถียรเทสต์Benchmarkผ่านหมด เอิ้กๆๆๆๆ)

ปล.จะซื้อเมนบอร์ดที่ดี อย่าดูที่ชิปเซตอย่างเดียวนะครับ ให้ดูภาคจ่ายไฟให้CPUด้วยครับ ว่าเจ๋งจริงจะพาCPUเราไปถึงดวงดาวหรือเปล่า ไม่ใช่ลากบัสไกลจริงทะลุบัส550-600MHzได้ แต่ภาคจ่ายไฟCPUไม่ดี ทำให้ต้องลดตัวคูณมาที่6 พอใช้6เต็มที่ก็ 6*600MHz = 3.60GHz ผลที่ได้ออกมาเนี่ย ความเห็นส่วนตัวผมแล้ว ผมว่ามันแรงไม่คุ้มเมนบอร์ด+แรมเหนื่อยเลยครับ

ร่วมวิจารณ์บทความนี้ คลิกที่นี่ ครับ