Combo Review Accessories สำหรับ PC เครื่องใหม่จาก Genius ภาคสอง
Share | Tweet |
…สวัสดีครับสำหรับช่วงนี้ก็คงจะมีอุปกรณ์ gadget และ pc accessories น่าสนใจๆออกมารีวิวกันให้ชมมากเสียหน่อยเหมือนเป็นฤดูกาลครับหลังจากที่ภารกิจหลักของผมได้เบาบาง จางลงไปบ้างแล้ว สำหรับวันนี้ก็จะเป็นบทความรีวิวของอุปกรณ์มากถึง 4 ชิ้นในคราเดียวกันเลยครับ นั้นก็คือเจ้าตัวชุดปากกาพร้อม Tablet อย่าง Easypen i405 คีย์บอร์ดแบบมาตรฐาน Luxemate i220 เมาส์ไร้สาย Microtraveller 900LS และ Headset HS-04SU ทั้งหมดเป็นของจากทาง Genius ที่ใจดีกระหน่ำส่งเข้ามาให้ผมได้ทดลองใช้งานของดีดีพวกนี้ ซึ่งวันนี้เดี้ยวผมก็จะมาเล่าให้ฟังกันครับว่า ทั้งสี่อย่างในงวดนี้ที่ทาง Genius ได้ส่งมาให้ผมได้ทดลองใช้นั้น คุณลักษณะ และการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง
Genius Easypen i405
…เริ่มกันที่ Easypen i405 ซึ่งน่าจะคุ้นๆหน้ากันพอสมควรเพราะเมื่อก่อนหน้านี้ผมก็ได้ทำการรีวิวอุปกรณ์ Graphic Tablet ทำนองนี้ไปแล้วถึงสองตัวด้วยกันครับ ซึ่งก็คือ Mousepen และ GPen ซึ่งทั้งสองตัวนั้นก็จะมีลูกเล่นเฉพาะตัวเฉพาะรุ่นที่แตกต่างกันออกไป ส่วน Easypen i405 ตัวนี้ก็จะเป็น Graphic Tablet ที่มีราคาอยู่ในระดับเริ่มต้น กับลูกเล่นที่มีไม่มากนักนั้นเอง
ที่ว่าลูกเล่นไม่มากก็คือ i405 จะหมายถึงขนาด 4×5 นิ้ว และซีรียส์ Easypen นั้นก็จะแทบไม่มีลูกเล่นอย่างอื่นนอกจากพื้น Tablet กับปากกา ชุดหนึ่งนั้นเองครับ
จะเห็นได้ว่า ไม่มี hot key หรือปุ่มอื่นๆมาให้ใช้งานเลย ขนาดก็เล็กกระทัดรัด และวัสดุก็เป็นพลาสติกคุณภาพค่อนข้างดีเหมือนกับรุ่นอื่นๆที่ขายๆกันอยู่ครับ
ตรงนี้จะเป็นที่เหน็บปากกา เป็นคล้ายๆซองยาง แน่นหนาพอสมควรเลยทีเดียว
ถ่าน กับชุดแม่เหล็กสำหรับเปลี่ยนในปากกา คล้ายๆไส้ปากกานั้นแหละครับ แล้วก็ซีดีรอมไดร์เวอร์สำหรับตัว Tablet
ตัวปากกานั้นดีไซน์ก็จะเหมือนกับรุ่นอื่นๆ คือเป็นพลาสติก มีปุ่มกดได้สองปุ่ม คลิกซ้าย หรือ Drag and drop ก็สามารถทำได้โดยง่าย
ตัวปากกานั้นใช้แบตเตอร์รี่ขนาด AAA หนึ่งก้อนเท่านั้นครับ
อันนี้ผมลองวาดภาพแบบเด็กอนุบาลให้ดูกันครับว่าเจ้า Easypen นั้นจริงๆแล้วความแม่นยำ และน้ำหนักในการใช้งาน ไม่ได้ต่างอะไรไปจากรุ่นที่แพงๆกว่าตัวมันเองเลยแม้แต่น้อยครับ สามารถเล่นสนุกกับตัว Tablet และน้ำหนักปากกาได้เช่นเดิม
…ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว หากมีลูกมีหลานที่ยังอยู่ในวัยเตาะแตะ หรือต้องทำงานที่เกี่ยวกับการออกแบบดีไซน์ หรือใช้ Filter ที่ต้องการน้ำหนักเบาหนักใน Photoshop หรือโปรแกรมอื่นๆ Easypen i405 ก็น่าจะตอบสนองการใช้งานพื้นฐานเท่าที่ตัว Tablet จะสามารถทำได้ได้ค่อนข้างดีเลยล่ะครับ และจากที่ผมได้เคยไปดูงานที่ไต้หวันมาและได้ถามไถ่จากเจ้าหน้าที่ของทาง Genius ก็คือเจ้ารุ่นนี้ ก็น่าจะเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดในตระกูล Graphic tablet ของ Genius แล้วครับ
Genius MicroTraveller 900LS
ต่อมาก็จะเป็น MicroTraveller 900LS ซึ่งเป็นเมาส์ไร้สายขนาดเล็กสำหรับการพกพา พร้อมด้วยภาครับส่งสัญญาณความถี่ freebabd 2.4GHz ขนาดเล็กเสียบเข้ากับพอร์ต USB มาให้ด้วยครับ
ตัวถังโดยภาพรวมเป็นพลาสติกเงากำลังดี พอสวยงาม ตัวพลาสติกนั้นก็ไม่ได้แน่นหนาอะไรมากนัก แต่ถ้าหากดูกันด้วยตาเปล่า ก็จะดูดีมีราคามากเลยทีเดียว
ปุ่มกดนั้นกดได้สะดวกในระดับหนึ่งครับ แต่ยังไม่ค่อนมั่นคงเท่าไร การจับถือนั้นถึงตัวเมาส์จะเล็ก แต่สามารถถือใช้งานกับโน๊ตบุ๊กได้อย่างไม่มีปัญหา แต่หากต้องใช้นานๆ ก็น่าจะเมื่อยมือกว่าเมาส์ขนาดใหญ่ๆอยู่เหมือนกัน
ผมว่าการออกแบบส่วนโค้งนั้นทำออกมาได้ลงตัวดีครับ ดีกว่าเมาส์จีนแดงตัวเล็กๆแน่ อันนี้ขอยืนยันจากการเอาไปใช้งานจริงสักระยะหนึ่งก็รู้สึกได้แล้ว ซึ่งลำพังคนมือเล็ก(มากๆ) ก็คงจะไม่เมื่อยถ้าใช้เมาส์ตัวนี้ แต่ถ้าคนมือใหญ่ก็อาจจะเมื่อยเมื่อใช้ไปนานๆครับ
ภายในแพคเกจนั้นก็มาแบบเรียบง่าย มีตัวภาครับส่งสัญญาณ ถ่านขนาด AAA และตัวเมาส์ขนาดกำมือมาให้
ตัวรับส่งสัญญาณแบบ USB นั้นสามารถเสียบติดเข้ากับตัวเมาส์ด้านใต้นี้ได้เลย บริเวณด้านใต้นั้นก็จะเป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์แบบเลเซอร์ ความละเอียดสูงถึง 1600DPI และสวิชเปิดปิด รวมไปถึงปุ่ม Connect ซึ่งต้องกดเองทุกครั้งที่เริ่มใช้งานเมาส์ครับ
ถอดออกมาแล้วหน้าตาก็จะโบ๋ๆแบบนี้ แต่ก็ใช้งานได้ลื่นไหลดี
ตัวฝานั้นค่อนข้างจะบอบบางไปสักหน่อยครับ และกว่าจะงัดฝาจากด้านใต้ได้ ก็ต้องใช้ความสามารถ บรรจง งัดมันขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะตัวเมาส์นั้นมีขนาดค่อนข้างเล็กครับ ภายในบรรจุถ่าน AAA หนึ่งก้อนเท่านั้นสำหรับแหล่งพลังงานของเจ้า MicroTraveller ตัวนี้
.
.
…MicroTraveller 900LS นั้นก็เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งาน Notebook ที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ หรือต้องออกไปใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก เช่นการพรีเซนต์งาน เมาส์ หรือคีย์บอร์ดไร้สายพวกนี้แหละครับ จะเสริมสร้างบุคลิกให้กับผู้บรรยาย/นำเสนอ ให้ดูดียิ่งขึ้น ไม่ต้องมีสายระเกะระกะ และสามารถเดินไป กดสไลด์ไปได้เลย
…ตัวรับสัญญาณนั้นก็ทำหน้าที่ของมันไปได้ในระดับหนึ่งครับ ภายในห้องห้องหนึ่ง ถ้าเกิดเป็นห้องขนาดใหญ่ประมาณห้องประชุม หากเดินไปไกลมากๆจนเห็นคอมพิวเตอร์ไม่ถนัดแล้ว ก็อาจจะมีอาการสัญญาณขาดหายๆได้บ้างเล็กน้อย
…แต่เรื่องที่น่าชื่นชมก็คงจะเป็นเรื่องของความละเอียด และความคล่องตัวในการใช้งานครับ 1600DPI ตรงนี้ยอมรับได้ครับว่าเหลือเฟือสำหรับงานออฟฟิศ หรือจะเอาไปใช้งานกราฟฟิคก็ยังได้สบายๆ หายห่วง…
Genius Luxemate i220 Multimedia Keyboard
มาถึงตัวคีย์บอร์ด USB มาตรฐานอย่าง Luxemate i220 กันบ้างครับ
เริ่มต้นด้วยตรงนี้ก่อนเลย คือ Luxemate i220 นั้นก็เป็นคีย์บอร์ด USB ที่มีลุกเล่นเหมือนธรรมดาทั่วไป แต่การออกแบบนั้น ถ้าจะดูจากเจตนาผู้ผลิตแล้ว ก็คงจะเน้นดีไซน์ที่บางสวยงาม จังหวะการกดปุ่มที่เงียบ และมั่นคงนั้นเอง
มาดูตัวคีย์บอร์ดครับ ตัวที่ผมได้มานั้นไม่มีคีย์ภาษาไทย ซึ่งก็ไม่ต้องถามหานะครับ เพราะว่าถ้าเป็นเวอร์ชั่นขายในประเทศไทย ก็จะมีแบบสกรีนภาษาไทยมาให้อยู่แล้ว แต่ตัวผมเองกลับชอบสีสะอาดๆของคีย์บอร์ดอังกฤษล้วนแบบนี้นะครับ ผมว่ามันสวยดี ก็ว่ากันไป ฮ่า
ปุ่มนูนออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมลบมุม แต่ก็ไม่หนามากนัก เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของคีย์บอร์ดตัวนี้
การเรียงปุ่มก็อาจจะแตกต่างจากคีย์บอร์ดมาตรฐานไปบ้าง เล็กน้อยครับ จังหวะการกดปุ่ม จังหวะที่ปุ่ม rebound ออกมา ก็พบว่าตอบสนองได้ดี สไตล์คีย์บอร์ดปุ่มเตี้ย ให้อารมณ์ความรู้สึก ใกล้เคียงกับตัวคีย์บอร์ดโนตบุกดีๆ เลยทีเดียว และที่สำคัญคือเสียงรบกวนระหว่างการพิมพ์นั้น มีน้อยมากๆ สมคำโฆษนาหน้ากล่องจริงๆ ซึ่งตรงนี้บอกตามตรงว่า จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่คนชอบครับ เพราะอย่างผมเองจะชอบคีย์บอร์ดที่มีจังหวะกดลึกๆ มากกว่านะ ก็ว่ากันไปอีก …
ขาตั้งคีย์บอร์ด ก็เป็นแบบพื้นๆธรรมดาๆครับ
อินเตอร์เฟส USB 2.0
.
.
..จะให้สรุปยังไงผมก็นึกไม่ออก เอาเป็นว่ามันก็เป็นคีย์บอร์ดที่ดีในสไตล์ของมันก็แล้วกันครับ ด้วยชื่อชั้นการันตีอย่าง Genius ก็ไม่น่าจะทำให้ทุกคนผิดหวังอยู่แล้ว การใช้งานก็คือสามารถใช้งานได้ดีเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เสียงปุ่มกดก็มีน้อยมากๆ คีย์บอร์ดเป็นแบบปุ่มเตี้ย กดแล้วเด้งเร็ว เหมาะสำหรับคนพิมพ์เร็วๆรัวๆ ดีไซน์ก็บางเฉียบ จะเอาไว้พกพาไปใช้งานกับโน๊ตบุ๊กก็ทำได้ เพราะเป็นแบบ USB2.0 นั้นเองครับ
————————————————–
Genius HS-04U Stereo Headphones
…HS-04SU นั้นเป็นชุดเฮดโฟนมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน รองรับการใช้งานได้หลากหลายทั้งระบบ VOIP ผ่านโปรแกรมจำพวก SKYPE หรือจะเอาไว้ตอบสนองความต้องการของคอเกมออนไลน์กับโปรแกรมแบบ Teamspeak ก็ได้เช่นกันครับ
ดีไซน์โดยภาพรวมนั้นก็ออกจะเป็นแนว retro ไปสักเล็กน้อย
ขณะสวมใส่ บนศีรษะเราก็จะรู้สึกนุ่มสบายดี ถึงแม้โครงจะเป็นอะลูมิเนียม แต่ก็มีผ้าติดมาให้กันกระแทกหัวหรือยังไงไม่ทราบ รู้แต่ว่าก็นุ่มดีครับ
ตัวครอบหูนั้นเมื่อใส่ไปนานๆแล้วก็อาจจะรู้สึกร้อนหูบ้าง เป็นธรรมดาของหูฟังแบบนี้ แต่โดยภาพรวมนั้นก็สามารถสวมใส่ได้สบายดีไม่มีปัญหาครับ ช่วงนี้ผมใส่แว่นเล่นคอม ก็ไม่รู้สึกว่ารบกวนแว่นตาผมสักเท่าไหร่เหมือนกัน
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือชุดควบคุมหุฟังและไมโครโฟนในกำมือ และสังเกตดีดีนะครับ สายแทนที่จะเป็นสายหุ้มยาง กลับเป็นสายถัก ซึ่งทนทานและมีสัมผัสที่น่าใช้มากเลยทีเดียว
ตัวไมโครโฟนนั้นมีขายื่นออกมาค่อนข้างยาว และสามารถปรับได้ง่ายมากๆครับ ไมโครโฟนก็เป็นแบบ Noise calceling ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนโดยรอบ และเสียงหายใจของผู้ใช้ได้ด้วย ผมได้ทดลองใช้งานกับ Teamspeak และ Skype ดู ก็พบว่าตอบสนองการใช้งานได้ค่อนข้างดี เสียงใสกว่าไมค์อันละ 99 ที่ผมใช้อยู่ประจำเลยทีเดียวล่ะครับ
.
.
.
…สรุปแล้ว HS-04U นั้นก็เป็นชุดหูฟังแบรนด์เนมที่มีราคาไม่แพงที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งเลยครับ มาพร้อมกันทั้งไมค์โครโฟนคุณภาพดี พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน สามารถใช้งานกับแอพพลิเคชั่นได้หลายรูปแบบ เนื้องานประกอบเนี้ยบ สวยงาม สายถักยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อใช้ไปนานๆ ตัวสายนั้นจะไม่เกิดอาการขั้วสายพังเสียหายได้ สำหรับวันนี้ก็คงต้องลาไปก่อน สวัสดี…
.
.
ขอขอบคุณ Genius, KYE Systems Corp.