.…สวัสดีครับ สำหรับวันนี้ผมก็จะขอพามาชมบทความของผลิตภัณฑ์ในตระกูล Krypton จาก GIGABYTE ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับแผ่นรองเมาส์ในบทความ GIGABYTE Krypton Two-sided Gaming Mouse Pad ในคราวที่แล้ว และแน่นอนครับเมื่อมีแผ่นรองเมาส์แล้วก็ต้องมีเมาส์มาใช้คู่กันเป็นเซตอย่างแน่นอน ซึ่งเมาส์ที่จะขอนำเสนอในคราวนี้จะมีชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการว่า Aivia Krypton Dual-chassis Gaming Mouse ซึ่งหลายๆท่านดูชื่อรุ่นแล้วอาจจะงงๆว่ามันจะมีสองเคสอย่างไร และมีไปเพื่ออะไร บทความนี้มีคำตอบให้ท่านอย่างแน่นอนครับ และก็เช่นเคยก่อนอื่นเราก็ไปชมรายละเอียดต่างๆโดยรวมของผลิตภัณฑ์รุ่นนี้กันก่อนนะครับ

Key Features

Specification

ฟีเจอร์และสเป็คอลังการจัดเต็มมากๆเลยครับ สำหรับ GIGABYTE Aivia Krypton Dual-chassis Gaming Mouse

More Information >>Click<<

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมหน้าตาของเมาส์งามๆรุ่นนี้กันต่อเลยนะครับ

Product Appearance

ไปชมหน้าตากล่องบรรจุภัณฑ์กันก่อนครับ สวยงามดุดันดีครับด้วยกล่องโทนสีดำด้านทั้งกล่อง

แกะออกดูกล่องชั้นในก็ยังดำด้านดูหรูหราดุดัน

พอเปิดฝาดูก็จะพบกับตัวเมาส์กันเลยครับ

อุปกรณ์และคู่มือที่ Bundle มาให้ ก็จะมีเท่าที่เห็นกันตามภาพนะครับ มีขาเมาส์เทฟลอนสำรองมาให้อีกหนึ่งชุดด้วย แจ่มเลย

ที่เห็นนี่คือกล่องใส่ตุ้มเหล็กสำหรับถ่วงน้ำหนักภายในเมาส์นะครับ

…โดยมีน้ำหนักให้เลือกใส่สองขนาดคือ 1.8 กรัมสีเงิน และ 5.3 กรัมสีดำ ให้เลือกใส่เข้าไปในเมาส์ให้ได้น้ำหนักที่เหมาะมือ สำหรับความถนัดและการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนครับ

…นี่เลยครับ ที่มาของคำว่า Dual-chassis ก็คือสามารถเปลี่ยนฐานเมาส์ทั้งแผงได้ว่าจะเอาความเร็วหรือการควบคุมที่แม่นยำ ซึ่งฐานเมาส์อันที่เห็นนี้จะเป็นแบบเน้นความเร็ว สังเกตได้จากขาเมาส์ที่เป็นโลหะมันวาวเงาแว๊บ สปีดสูงลื่นปรี๊ดสะใจขา FPS แน่นอนครับแบบนี้

ตัวฐานเมาส์จะมีให้เลือกสองแบบนะครับ โดยในแบบ Control จะถูกติดตั้งมาที่ตัวเมาส์เลยนะครับ

…มาดูที่ตัวเมาส์กันต่อเลยนะครับ สีสันโดยรวมก็มากันในโทนดำด้านทั้งตัวดูเข้มดุดัน และไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายๆแบบพวกพื้นผิวมันวาวแน่นอนครับ

รูปทรงของเมาส์รุ่นนี้จะเป็นแบบ Symmetrical นะครับ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ได้ทั้งมือขวาและซ้ายตามที่ผู้ใช้ถนัดเลยครับ

หน้าตาชัดๆของ Wheel Scroll และสวิทซ์ปรับ dpi ขึ้นลงได้สูงสุดถึง 8,200 dpi พร้อมไฟบอกสถานะความเร็วสีน้ำเงิน

บริเวณฐานเมาส์แบบคอนโทรล ก็จะมีขาเมาส์เป็นพลาสติกเทฟลอนแบบที่เห็นโดยทั่วไปครับ

สามารถสไลด์ฐานเมาส์ออกได้ง่ายๆตรงจุดนี้ครับ

เมื่อสไลด์ออกแล้วยังสามารถใส่ตุ้มเหล็กจิ๋วที่แถมมาในการเพิ่มน้ำหนักได้อีกด้วย

สามารถถ่วงน้ำหนักกันได้หลายรูปแบบดังภาพด้านบนเลยครับ

หัวเชื่อต่อ USB 2.0 ชุบทองเคอย่างดี ขาดไม่ได้อย่างแน่นอนครับ สำหรับเมาส์ดีๆในปัจจุบันนี้

Test Report

เมื่อเสียบใช้งานโดยไม่ลงโปรแกรม Ghost ตัวเมาส์ Default จะเป็นแบบใช้ด้วยมือขวาดังเช่นปรกติทั่วไปครับ

ตรงปุ่มที่มีไฟ LED เรืองแสง สามารถกดเพื่อเปลี่ยน Profiles ของตัวเมาส์ที่เราสามารถตั้งเองได้ 5 รูปแบบในโปรแกรม Ghost

โดยปุ่มนี้ก็จะมีอีกด้านเช่นกัน สำหรับการใช้งานด้วยมือซ้ายครับ

มาดูการเซตค่าต่างๆในโปรแกรม Ghost ที่มีไว้ควบคุมฟังค์ชันต่างๆในตัวเมาส์กันต่อครับ

หน้าแรกก็จะเป็นลิงค์เข้าสู่เว็บไซต์ที่ Supported เมาส์รุ่นนี้ของทาง GIGABYTE ครับ

หน้า Profiles ก็จะเป็นการตั้งค่าการใช้งานปุ่มต่างๆกันได้อย่างละเอียดยิบเลยครับ

จะตั้งกันแบบเบสิคๆทั่วไปก็ได้

หรือตั้งกันแบบ MACRO ก็มีกันให้เซฟได้ถึง 9 ชุดคำสั่ง

หน้าสุดท้ายก็จะเป็นการเซตค่าต่างๆของตัวเมาส์ครับ

สามารถปรับเปลี่ยนสีไฟปุ่ม Profles ได้ตามใจชอบจากหน้านี้ด้วย สุดยอดครับ

ปรับค่า dpi ได้ทั้งแกน X แกน Y แล้วเซฟเข้ากับค่าไฟ LED บนตัวเมาส์ได้เลยครับ

ปรับรอบการหมุนของ Wheel Scroll และยังปรับเพิ่มลดความสว่างของไฟที่ Wheel ได้อีกด้วยครับ

แถมยังปรับค่า Report Rate ได้สูงสุดถึง 500Hz อีกต่างหาก สุดยอด

…ถ้าปรับไปปรับมาจนมั่ว เราก็สามารถสั่งลบ สั่งแบ๊คอัพค่าที่เราชอบลง PC หรือ Restore ค่าเดิมจากโรงงานได้ง่ายๆเพียงแค่คลิกครับ งานนี้ไม่ต้องกลัวพลาดกันอย่างแน่นอน

Conclusion

…ก็มาถึงบทสรุปของการทดสอบเมาส์ GIGABYTE Aivia Krypton Dual-chassis Gaming Mouse รุ่นนี้กันแล้วนะครับ หลังจากการทดลองใช้งานทั่วไปและเล่นเกมส์อยู่สักพัก เรื่องความแม่นยำในการควบคุมใช้งานก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ จะมีปัญหาอยู่บ้างก็ที่ตัวผมเองที่เจอความเร็วระดับ 8,200 dpi ตอนแรกเข้าไป ก็หวือหวากันจนคุมแทบไม่อยู่เลยทีเดียวในการเล่นเกมส์ และทีเด็ดของเมาส์นี้ที่ผมชอบมากคือฐานรองเมาส์แบบสปีดขาโลหะ ที่ให้ความรู้สึกลื่นไหลสุดๆแบบที่ไม่เคยพบมาก่อนกับเมาส์ตัวไหนๆที่เคยได้ทดสอบมา ขอบอกว่าใครที่ชอบความเร็วลื่นไหลแบบที่ไม่เคยพบเคยสัมผัสมาก่อน ไม่ควรพลาดในการได้สัมผัสกับเมาส์รุ่นนี้นะครับ ส่วนฟีเจอร์ต่างๆสำหรับการปรับแต่ง ก็ขอบอกว่าเขามากันแบบละเอียดยิบสุดๆกันจริงๆ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬา E-Sports ที่ต้องการความเหนือชั้นในการปรับแต่งใช้งานกันแบบสุดๆเลยนะครับ และสำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ สวัสดีครับ

.

.

ขอขอบคุณ

GIGABYTE

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!