…สวัสดีครับ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าไปร่วมฟังการบรรยายแนะนำผลิตภัณฑ์ Hybrid ใหม่ๆจากทาง Acer ที่จัดขึ้นสำหรับสื่อออนไลน์โดยเฉพาะ โดยในงานนั้นก็ได้มีการแนะนำผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ยุคใหม่ที่เรียกว่าเป็น "Hybrid" ซึ่งน่าจะให้นิยามมันง่ายๆคือการรวมเอาคุณสมบัติของ Notebook ผสมเข้ากับ Tablet ทำให้มีความสามารถในการใช้งานทั้งด้านการใช้งานเชิงดู และเล่น และความสามารถในแง่ productivity

…ผมจะขอแบ่งบทความแนะนำเป็นสองส่วน สำหรับส่วนแรกก็จะเป็นบทความแนะนำ Acer Aspire R7 ซึ่้งเป็น Hybrid Notebook ขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมกับพรีวิวเครื่องจริง และ Acer Aspire S7, V5, V7 ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมามันคือ "Hybrid Notebook" กล่าวคือ เป็นโน๊ตบุ๊กที่รวมเอาความสามารถของแท็บเล็ตเข้ามาไว้ในเครื่องเดียวกัน

…และสำหรับบทความอีกส่วนก็จะเป็นบทความที่ผมจะเขียนแนะนำ Aspire P3 และ W3 ซึ่งถือได้ว่าเป็น "Hybrid Tablet" กล่าวคือมันเป็นแท็บเล็ต ที่รวมเอาความสามารถแบบโน๊ตบุ๊กเข้ามาไว้ในตัว ฟังดูอาจจะสลับๆกันไปสลับกันมา แต่ถ้าหากค่อยๆทำความเข้าใจ ก็จะเห็นภาพครับว่า อะไรเป็นฟีเจอร์หลักและรอง

ภายในงานนั้นก็จะดำเนินรายการโดยมีคุณไซมอน มาให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆทั้งในสไลด์ และมีเครือ่งจริงมาให้ได้ลองเล่นกันด้วยครับ

…Aspire R7 ซึ่งถือได้ว่าเป็น Hybrid notebook ขนาด 15 นิ้ว ที่เอเซอร์วางตำแหน่งของมันไว้ให้เป็นโน๊ตบุ๊กที่เน้นใช้งานในด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ และเกมมิง กล่าวคือโน๊ตบุ๊กขนาด 15 นิ้ว ก็จะเป็นลักษณะการใช้งานแบบ Desktop Replacement อยู่แล้ว ตัว R7 นั้นจะมาในลักษณะของ Hybrid คือเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด 15 นิ้วที่สามารถพับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ หน้าจอ Full HD พร้อมระบบทัช 10 จุด และนอกจากนี้ยังใช้ซีพียู Core i7 และกราฟฟิคการ์ด NVIDIA GT750 พร้อม VRAM 2GB อีกด้วยครับ

…มาดูรูปร่างตัวจริง R7 นั้นดูเผินๆก็เหมือนๆกับโน๊ตบุ๊กขนาด 15 นิ้วดีไซน์หรูหราทั่วไปครับ วัสดุที่ใช้นั้นเรียกได้ว่า พลิกภาพลักษณ์เก่าๆของเอเซอร์ไปได้หมด ด้วยวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ แซมกับอะลูมินัม ในหลายๆจุด ทำให้มันดูหนักแน่น และให้สัมผัสที่ดูเป็น Premium มากๆ

…ตัวคีย์บอร์ดนั้น เป็นคีย์บอร์ดปุ่มแยก (ชิคเคล็ต) ซึ่งสัมผัสที่ได้นั้น ความแน่นหนาอาจจะไม่ค่อยรู้สึกได้เท่าไร  น้ำหนักค่อนข้างเบา แต่จังหวะความรู้สึกในการกด (tactile feeling) นั้นดีมากเลยทีเดียว ผมสามารถพิมพ์สัมผัสได้อย่างลื่นไหลในคีย์บอร์ดตัวนี้ครับ

ทีเด็ดของเจ้า R7 นั้นอยู่ที่ฟีเจอร์ที่เอเซอร์เรียกมันว่า Eazel Hinge คือเป็นบานพับที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ อย่างในภาพนี้ก็จะเป็นโหมดที่จะทำให้คู่สนทนาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเรา สามารถดูจอได้โดยไม่ต้องจับตัวเครื่องยกกันเลยทีเดียว

…ตัวบานพับเท่าที่สัมผัส ก็รู้สึกว่าแข็งแรงทนทาน และมีีความหนืดอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกได้ว่าแข็งแรงมากครับ  ทัชแพดนั้นก็มีการวางไว้บริเวณเหนือคีย์บอร์ด คุณไซมอนได้บอกกับผมว่า ทุกวันนี้เมื่อเรามีจอทัช ทัชแพด มันก็จะลดความสำคัญของมันลงไปเรื่อยๆตามยุคสมัย แต่ทัชแพดใน R7 บอกได้เลยว่า ให้สัมผัสความแม่นยำ และความเป็นลิเนียร์ที่ดีมากๆเลยทีเดียว ตลอดจนสามารถใช้งานมัลติทัชได้อย่างคล่องมือเลยทีเดียว และขนาดก็มีความเหมาะสมดีครับ แต่การวางทัชแพดไว้ตำแหน่งนี้ ก็มีข้อเสียเหมือนกันว่า อาจจะรู้สึกขัดๆเวลาใช้งานบน windows desktop ทั่วไป

เหตุผลที่ต้องวางทัชแพดไว้ตรงนั้น ก็เนื่องมาจากโหมดใช้งานใน closer mode แบบนี้ หากไม่ย้ายทัชแพดไปวางด้านบน ก็จะทำให้ตัวจอบังคีย์บอร์ดได้ครับ

หรือจะเป็นโหมดที่ทำให้หน้าจอ float ขึ้นมาก็ใช้การได้

พับลงไปเหมือนแท็บเล็ต

หรือจะ float ให้สูงกว่าเดิม ก็ทำได้

ทดสอบความแข็งแรงของบานพับ ใช้ได้เลยทีเดียวครับ !!

ขนาดนั้นก็เรียกได้ว่าค่อนข้างใหญ่ครับ ด้วยความที่มันเป็นโน๊ตบุ๊กที่ทำมาให้เป็น Desktop Replacement ขนาด 15 นิ้ว การถือใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ต อาจจะดูไม่เหมาะสมนัก

พอร์ตเชื่อมต่อ มีมาให้ครบครัน ทั้ง HDMI USB 3.0 และหูฟัง สังเกตว่าไม่มี Optical Drive ติดมาให้แล้วครับ

ด้านนี้มี USB 2.0, SD และปุ่มเพาเวอร์ และปุ่มปรับโวลุม ที่มีไว้ใช้งานคล้ายแท็บเล็ตเลยทีเดียว คนที่มาใช้งานครั้งแรกหากกางออกมาเป็นแบบโน๊ตบุ๊ก ก็อาจจะงงๆหาปุ่มเพาเวอร์ไม่เจอครับ

ด้านใต้นั้นก็เป็นผิวโล่งๆ จะเห็นว่ามีลำโพงอีก 2 ตัวด้วย ทั้งเครือ่งนั้นมีลำโพง 4 ชุด ซึ่งระบบสเตอริโอในเครื่องนี้นั้น เป็น Dolby 4.0 และสามารถจับได้ว่า ผู้ใช้กำลังหันหน้าจอไปทางไหน ตัวลำโพงจะมีการกลับชาแนลซ้ายขวาให้โดยอัตโนมัติ

…มาดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของรุ่น minorchange ของอัลตราบุครุ่นไฮเอนด์อย่าง S7 กันบ้างครับ โดยใน S7 ตัวใหม่นี้จะมีอายุแบตที่ใช้งานได้นานขึ้น ตรงนี้ก็มีเสียงกระซิบบอกมาว่า เพราะขนาดแบตนั้นเท่าเดิม แต่ด้วยสถาปัตยกรรม Haswell ทำให้ใช้งานได้นานขึ้น และนอกจากนี้ก็ยังมีความลึกของปุ่มคีย์บอร์ดที่ปรับปรุงจากรุ่นเดิมให้มีความลึกมากยิ่งขึ้น ดังที่ผมได้เคยคอมเมนท์ไปในบทความรีวิว S7 ในครั้งก่อน ตลอดจนมีทัชแพดที่แม่นยำขึ้น และมีการเปลี่ยนย้ายบริเวณของพอร์ตเชื่อมต่อบางอย่างเล็กน้อย

ทีเด็ดนอกจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ และสถาปัตยกรรม Haswell ก็คงจะเป็นเรื่องของออฟชั่นจอขนาด 13.3" WQHD 2560×1440 พิกเซล !! ครับ

และในส่วนของ Aspire V5 และ V7 ตัว 14 นิ้ว ก็จะได้รับการปรับปรุง โดยจะได้รับ พาแนลจอแบบ IPS ความละเอียดระดับ Full HD (1080P) และกราฟฟิค GT740 2GB DDR3 แบตเตอร์รี่อัพไซส์ใหม่  ความบางที่บางกว่าเดิมประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ออพชั่น Hybrid SSD และพอร์ต RJ45 ที่เดิมต้องต่อสายแยกออกมา ก็มีติดตั้งมาให้ในเครื่องเสร็จสรรพแล้วครับ

แต่สิ่งที่จะหายไป ที่ไม่ได้บอกไว้ในสไลด์คือ "Optical Drive" ครับ !! ซึ่งเดิมตัว 14 และ 15 นิ้วจะมี แต่ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ก็จะถูกตัดออกไปครับ

ส่วนรุ่น 15 นิ้วก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายๆกันครับ

ส่วนในรุ่น V7 นั้นก็จะมีรายละเอียดภาพรวมเหมือนๆกับตัว V5 แต่จะเป็น Ultrabook คือจะมีการใช้งานร่วมกับฮาร์ดไดร์ฟที่เป็น Hybrid SSD และซีพียูที่เป็นตัวประหยัดพลังงานที่ทำมาสำหรับ Ultrabook โดยเฉพาะ

ส่วนในรุ่น 11.6 นิ้ว ก็จะมาพร้อมกับซีพียู AMD A4 และ A6 เท่านั้นครับ ไม่มีรุ่นที่เป็นอินเทลขาย สำหรับบ้านเรา

.

.

…เรียกได้ว่างานนี้ก็ได้รับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน generation ถัดไปของ Acer ภายหลังจากการเปิดตัวสถาปัตยกรรม Haswell กันอย่างเต็มที่ ตลอดจนยังมีรายละเอียดที่ผมยังค้างไว้ไว้นำเสนอในวันถัดไปกับเรื่องของ Hybrid Tablet ทั้ง W3 แท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ขนาด 8 นิ้วที่เป็นซีพียู Intel ตัวแรกของโลก และ P3 ที่เป็นลูกผสม Tablet ultrabook ขนาดประมาณ 10 นิ้ว ที่สามารถพกพาได้เหมือนแท็บเล็ต แต่มีสมรรถนะเหมือนอัลตราบุคครับ