HD3850 ขุนพลระดับกลางของ ATI

/ บทความโดย: admin , 06/12/2007 19:32, 976 views / view in EnglishEN
«»
Share

หลังจากที่ ATI เงียบไปพักใหญ่  พอออกการ์ด HD2900XT ก็เริ่มออกเป็นชุด
จนเหล่าสาวกชักงง ๆ ว่าจะเล่นรุ่นไหนดี  เช่นกันผมนาย Gigolo ก็คิดมาพักใหญ่
ด้วยกำลังบ้า Hi-Def ทำให้มองการ์ดทางฝั่ง ATI เป็นหลัก เพราะมันมี UVD นั่นเอง
เมื่อ HD3850/3870 การ์ดซีรีย์ HD3000 ออกมา ผมจึงไม่รอช้าที่จะควักกระเป๋าซื้อ HD3850 มาใช้
ครับวันนี้เราจะมาเทสดูว่าพลังของการ์ดราคา 6 พันกว่าบาทมันจะเป็นยังไง

เมื่อได้การ์ดมาอย่างแรกที่คนเห่อของใหม่อย่างผมทำก็คือ อ่านมันทุกอย่างที่อยู่บนกล่อง เอาให้คุ้มกับเงินที่เสียไป
(อารมณ์เดียวกับอ่านถุงใส่กล้วยทอดเลยครับ) ดูจากกล่องแล้วพอจะสรุปได้ว่า ทำกล่องได้สมกับเงินที่จ่ายไป เอิ้กๆ




แกะกล่องเข้ามาก็เจอกับตัวการ์ดอยู่ในถุงพลาสติกอย่างดี  อิอิ ใจร้อนฉีกถุงเอาการ์ดมาดูเลยดีกว่าครับ (คนมันเห่อครับ)



แดงได้ใจจริง ๆ ครับ อุปกรณ์บนการ์ดใช้คาปาแบบโซลิด  มีซิงค์อลูมิเนียมครอบด้วยพลาสติกดักลมสีแดงขนาดพอ ๆ กับตัวการ์ด
ความหนาของตัวการ์ดใช้เนื้อที่ในการติดตั้ง 1 สล็อต ด้วยซิงค์ที่บางทำให้มีคำถามว่าจะเอาความร้อนของการ์ดอยู่หรือไม่ เดี๋ยวเราไปดูกันครับ
ครับทุกยี่ห้อที่ทำการ์ดซีรีย์ HD3850/3870 ต่างก็ใช้ Reference Card ด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจึงเหมือนกันหมด
จะแตกต่างกันก็แค่สติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนซิงค์เท่านั้นเอง ผมไม่สนใจยี่ห้ออยู่แล้ว สนใจแต่ว่ามันจะแรงคุ้มราคาหรือเปล่า เอิ้กๆ



ด้านหลังได้ความรู้สึกแบบการ์ดรุ่นใหญ่ทีเดียวครับ เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ที่เห็นเด่นชัดก็คานเหล็กยึดซิงค์ครับ











เอามาโชว์ในเกือบทุกมุมมองครับ ในส่วนของภาคจ่ายไฟก็ได้อานิสงค์จากซิงค์ด้วยเช่นกัน  โดยทำพินในรูปแบบแท่งกลม สวยงามดีครับ
พอร์ทของการ์ดรุ่นนี้จะเป็น DVI 2 พอร์ท พร้อมช่องต่อ S-Video ตามสมัยนิยม  ส่วนชิบ GPU ก็ RV670 Pro ใช้การผลิตแบบ 55 nm
ชมกันให้ทั่ว ๆ ก่อนครับ ก่อนจะไปทราบรายละเอียดของการ HD3850 ว่ามีอะไรกันบ้าง  อย่าพึ่งเบื่อซะก่อนนะครับ



เมื่อถอดเอาซิงค์ออกก็จะเห็นเม็ดแรม 8 เม็ด รวมความจุแล้ว 256 MB แบนด์วิชท์ 256 Bit เป็นแรมGDDR3 ของ Samsung BJ-11
ทางด้านปลายการ์ดก็จะเป็นส่วนของภาคจ่ายไฟ และที่เสียบไฟเลี้ยงแบบ 6 Pin ที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบ ได้กลิ่นอายของการ์ดรุ่นใหญ่ดีจริง ๆ
ดูกันแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว ไปดูถึงรายละเอียดต่างของ HD3850 กันดีกว่าครับ


รายละเอียดฮาร์ดแวร์ HD3850














































































VPU
VPU RV670Pro
Transistor Count 666 Millions
VPU Core-Clock 668 Mhz
Bus Type Pci-e 2.0 x 16
Fabrication 55 nm
Stream Processing Unit 320
Maximum Fill Rate 10700 MTexels/s
Memory
Graphic Memory 256 MB
Graphic Memory Speed 1656 Mhz
Graphic Memory Type GDDR3
Graphic Memory Bit 256
Memory Bandwidth 53 GB/s
Connectors
S-Video Yes
DVI Yes ( 2 Port)
HDMI Yes (by DVI to HDMI Adapter)
D-Sub Yes (by DVI to D-sub Adapter)
Technology
AVIVO HD Yes
Crossfire X Yes
UVD Support Yes
Direct X 10.1
Shader mode 4.1
PowerPlay Yes


จะเห็นได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นกับการ์ดในซีรีย์นี้ เริ่มจากเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตจาก 80nm มาเป็น 55 nm
ซึ่งทำให้มีความร้อนน้อยลง ใช้พลังงานน้อยลง ต่อมาก็ระบบการเชื่อมต่อที่เปลี่ยนมาเป็น PCI-E 2.0 โดยทางทฤษฎีบอกว่า
จะมีความเร็วในการเชื่อมต่อมากกว่า PCI-E เวอร์ชั่นเดิมถึง 2 เท่า  ต่อมาก็เป็นเทคโนโลยี Crossfire X จากเดิมที่
การเชื่อมต่อการ์ดวีจีเอเข้าด้วยกันนั้นจะทำได้แค่ 2 ตัว แต่ด้วย Crossfire X ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 4 ตัวด้วยกัน (อ่าจะต่อไปทำไมหว่า เยอะขนาดนั้น อิอิ)
อีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ ATI ใส่เข้ามาคือฟังก์ชั่น Powerplay ซึ่งทำงานคล้ายฟังก์ชั่น Speedstep ของซีพียูนั่นเอง
ครับเอาคร่าว ๆ ก็พอครับ ไปดูพลังของมันกันดีกว่าครับ  ผมจะเทสใน 2 ระบบปฏิบัติการนะครับคือ Windows Vista Ultimate และ Windows XP Professional

————————————————–

TEST Setup






















CPU E6300 @ 3.0 Ghz
Mainboard Gigabyte GA-P31-DS3L
Memory Kingston Hynix FP-Y5 1 x 2 GB 5-5-5-15 430 Mhz
VGA  Powercolor HD3850
PSU Enermax FMA 350 Watt
Software
Windows Vista Ultimate
Windows XP Professional SP2
ATI Catalyst 7.11


การทดสอบครั้งนี้ผมทำการทดสอบด้วยความเร็วปกติของการ์ดก่อน แล้วจึงทำการโอเวอร์คล็อกขึ้นไปที่ 744/1034
โดยใช้ฟังก์ชั่น Overdrive ในไดร์เวอร์ของการ์ดนั่นเอง  แต่เพื่อความมั่นใจผมจึงใช้ Rivatuner ในการควบคุมพัดลม
ให้ปรับความเร็วตามอุณหภูมิของการ์ด ทั้งนี้ทั้งนั้นตลอดการทดสอบนี้ใช้ซิงค์ที่ติดมากับการ์ดตลอดการทดสอบ


Start…















Default


OC 744/1034 in Vista


OC 744/1034 in XP


3DMark01


เริ่มที่ 3DMark01 ทำคะแนนออกมาใกล้เคียงกันทั้งความเร็วปกติ และโอเวอร์คล็อก ส่วนคะแนนใน XP จะออกมาดีกว่าในวิสต้า พอสมควรเลยทีเดียวครับ















Default


OC 744/1034 in Vista


OC 744/1034 in XP


3DMark03


คะแนนใน XP และวิสต้าต่างกันนิดเดียว แต่การโอเวอร์คล็อกทำให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นมา 3พันคะแนน ไม่น้อยทีเดียว















Default


OC 744/1034 in Vista


OC 744/1034 in XP


3DMark05


คะแนน 05 แทบไม่ต่างกันเลยทั้ง 3 การทดสอบ  โดยเฉพาะ xp ทำคะแนนได้น้อยกว่าวิสต้าซะอีก  ซึ่งไม่รู้ว่าผมเซ็ทอะไร
ผิดพลาดไป ผมงมกับ xp ครึ่งวันด้วยความสงสัยว่าทำไมคะแนนมันน้อยกว่าวิสต้า แต่เทสยังไงก็ออกมาแบบที่เห็นครับ















Default


OC 744/1034 in Vista


OC 744/1034 in XP


3DMark06



มาถึง 06 ก็ตามตารางเลยครับ คะแนนออกมาคุ้มกับราคาค่าตัว แต่ด้วยซีพียูผมอ่อนไปนิดจึงทำให้คะแนนมาได้แค่นี้















Default


OC 744/1034 in Vista


OC 744/1034 in XP


Aquamark 3


กับโปรแกรมที่ค่อนไปทางโบร่ำโราณ อิอิ แต่เราก็เอามาเทสครับ ATI ไม่เก่งเลยกับตู้ปลา แต่ทำคะแนนทั้ง 3 การทดสอบอยู่ที่ 140k+
กับซีพียู 3 กิ๊ก และก็มีข้อสงสัยเหมือนตอนเทส 05 คือเทสในวิสต้าคะแนนมากกว่า XP


ถ้าหากผมไม่ได้ทำอะไรพลาด ซึ่งผมก็ลองลงวินโดวส์ XP ใหม่ 3-4 รอบแล้ว ทำให้ผมคิดว่าการเทสใน Vista กับ XP นั้นไม่แตกต่างกัน
หรือต่างกันก็ไม่มากนัก ซึ่งถ้าหากเป็นแบบที่ผมเข้าใจ น่าจะเกิดจากไดร์เวอร์ของ ATI อาจจะออฟติไมซ์มาดีในวิสต้าแล้วก็ได้

————————————————–

มาเทสกันต่อเลยครับ ผมเลือกเกมมา 3 เกม นั่นคือ CRYSIS,  Need For Speed ProStreet และ Call Of Duty 4: Modern Warfare
การเทสเกมนั้นผมจะเทสในวิสต้าเท่านั้นนะครับ  เนื่องจากมีความไม่สะดวกนิดหน่อย เอิ้ก ๆ เพราะเครื่องที่ใช้ในการทดสอบเป็นเครื่องที่ผมใช้ทำงานด้วยน่ะครับ
อีกอย่างที่ต้องขอโทษท่านผู้อ่านด้วยคือ มีแต่ตัวเลขเท่านั้นนะครับ ไม่ได้จับภาพมาให้ชมด้วย  แต่ทุกเกมเซ็ทที่ความละเอียด 1280*1024 เปิดสุดทุกอย่างเท่าที่จะเปิดได้













Default


OC 744/1034


Crysis


Call of Duty 4



Need For Speed Pro Street



สำหรับเกมผมว่าเล่นได้สบาย ๆ ทุกเกม ยกเว้น Crysis ที่อาจจะต้องปิดเอฟเฟคบางอย่างเพื่อให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล

จากที่ได้จับการ์ด HD3850 มา 2-3 วัน ก็รู้สึกได้ว่าในราคาขนาดนี้มันเป็นการ์ดที่คุ้มค่าตัวนึงทีเดียวครับ
และหากจะโอเวอร์คล็อก ก็สามารถลากได้อย่างง่ายดายในไดร์เวอร์ของการ์ดนั่นเอง
แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของความร้อนพอสมควร เนื่องมาจากซิงค์ที่ติดมากับตัวการ์ดนั้นค่อนข้างบาง
รวมไปถึงตัวไดร์เวอร์ก็ควบคุมรอบของพัดลมซิงค์ไว้ เมื่อโอเวอร์คล็อกขึ้นไปแล้ว
อยากให้ท่านผู้อ่านหายูทิลิตี้ เช่น ATITool หรือ RivaTuner มาจัดการควบคุมพัดลมให้หมุนที่ 100%
ทำให้ตลอดการทดสอบของผม อุณหภูมิฟูลโหลดไม่เกิน 70 องศา
แต่ก็ต้องแลกกับเสียงที่ค่อนข้างดังทีเดียวครับ และถ้าอยากลากให้มากกว่าเดิมคงต้องหาไบออสโมมาลองแฟลชดูครับ
หาได้จาก
ที่นี่ ซึ่งผมเองได้ลองแฟลชใช้ดู
ก็สามารถพา GPU ของการ์ดผมทะลุเกิน 750 MHz ไปได้อย่างง่าย ๆ เลยล่ะครับ แต่ผมก็ไม่สามารถลากคอร์ไปถึง 800 MHz ได้
อ้อ เกือบลืมตลอดการทดสอบผมใช้ PSU Enermax FMA 350 วัตต์นะครับ อิอิ
สุดท้ายที้ ผมว่า HD3850 คุ้มค่ากับราคาค่าตัวของมัน แต่ถ้าหากอยากแรงกว่านี้คงต้องมองไปที่รุ่นอื่นครับผม  มีอะไรติชมได้นะครับ ส่วนผมนาย Gigolo ไว้จะหาอะไรมานำเสนอท่านผู้อ่านกันอีกครับ  สวัสดี


 


ร่วมแสดงความคิดเห็น  คลิกที่นี่

«ก่อนหน้า 1 2 3 แสดงทั้งหมด ถัดไป»

Bookmark บทความ : Zickr Kudd Duocore Techkr aJigg Oncake Lefthit Meetgamer Siamcollective TagToKnow Dunweb Digza
«»