เอาละครับ เรามาเริ่มทำการทดสอบแบบเป็นกลุ่มกันเลยนะครับ

เริ่มกันด้วยการเอาเครื่องพิมพ์ออกจากกล่องมาประกอบกันเลย มีแค่ไม่กี่ชิ้นสามารถประกอบได้อย่างง่ายดาย แทบไม่ต้องดูคู่มือกันเลย

มาดูวิธีติดตั้งขวดหมึกเติมกันเลยครับว่าง่ายดายขนาดไหน เริ่มจากการดึงฝาชีลด์ออกแบบง่ายดายด้วยเดือยหลาสติกตรงกลางตามรูปครับ

ดึงออกเสร็จก็เอาฝาพลาสติกที่มาพร้อมกับตัวหมึก หมุนปิดฝาเข้าไปตามรูปเลยครับ

โดยฝานี้จะมีระบบป้องกันหมึกหกออกมาเมื่อไม่ได้เสียบเติมเข้ากับเครื่องพิมพ์นะครับ แบบนี้ไม่มีหกเลอะเทอะอย่างแน่นอน

เสียบเติมกันง่ายๆตามรูปเลยครับ พอเต็มก็ดึงออกโดยไม่มีหกเลอะเทอะแม้แต่หยดเดียวเลย ออกแบบมาดีจริงๆครับสำหรับตรงจุดนี้

ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการใส่หัวพิมพ์นะครับ โดยหัวพิมพ์จะถูกแบ่งออกเป็นสองชุดคือขาวดำกับสีนั่นเอง

การติดตั้งก็แสนง่ายดายครับ เพียงเปิดฝาเครื่องด้านหน้าออก และเปิดจุกยางที่หัวพิมพ์ออก แล้วก็เสียบเข้าไปแบบง่ายๆเลยครับ

เมื่อเสียบเข้าไปเรียบร้อยตามรูป แล้วเราก็ปิดฝาหน้าเครื่องก็พร้อมใช้งานได้แล้วครับ แสนจะง่ายจริงๆในจุดนี้

วันนี้ทางเราก็จะทดสอบกันแบบง่ายๆด้วยการใช้ SmartPhone สั่งงานพิมพ์รูปสวยๆออกมากันเลย ด้วยแอปฯ HP ePrint ที่มีให้เลือกใช้ทั้ง Android OS และ iOS เลยนะครับ

ภาพที่ออกมาขอบอกว่าสวยงามละเอียดยิบใกล้เคียงกับ Photo Printer ในระดับราคาหลักหลายหมื่นกันเลยครับ ไม่น่าเชื่อจริงๆครับว่าปรินเตอร์ All-in-One ในระดับราคาขนาดนี้ จะสามารถพิมพ์ภาพออกมาได้สวยงามขนาดนี้เลย

ถึงแม้จะพิมพ์ใส่กระดาษเอกสารธรรมดา รูปที่ได้ออกมาก็ยังมีสีสันสวยงามใช้ได้เลยครับ แต่ก็แพ้การพิมพ์ใส่กระดาษโฟโต้อยู่พอสมควร ควรเลือกกระดาษในการพิมพ์กันด้วยนะครับ

ก็มาถึงบทสรุปของการทดสอบ HP DeskJet GT Series รุ่นนี้กันแล้วนะครับ ขอบอกว่างานนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทดสอบในงานนี้กันพอสมควรเลยครับ เพราะเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่ All-in-One Printer ราคา 5-6พัน ที่เน้นความสะดวกสบาย ใช้งานง่ายๆได้หลากหลาย แถมยังเติมหมึกพิมพ์เองได้อย่างง่ายดายนี้ จะสามารถให้งานพิมพ์ที่ออกมาสวยงามใกล้เคียงกับ Photo Printer รุ่นใหญ่ๆราคาหลายๆหมื่นกันเลยทีเดียว แถมราคาหมึกก็สุดแสนประหยัดที่ขวดละ 220 บาทเพียงเท่านั้น งานนี้พิมพ์กันมันส์คุ้มค่าสุดๆอย่างแน่นอนครับ และสำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ