ระเบิดพลังIntel® Core™ i7 920 REV. D0 ไปกับ Asus P6T Deluxe V2
Share | Tweet |
สวัสดีครับ วันนี้กลับมาพบกับผมอีกครั้ง พร้อมกับความแรงสุดขีดคลั่งแบบที่มาพร้อมกับเสถียรภาพที่พิสูจน์ได้ด้วยผลการทดสอบ กับCPUที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงกลางปี ค.ศ.2009นี้ ซึ่งจะเป็นCPUตัวไหนไปไม่ได้นอกจาก Intel Core™ i7 Revisionใหม่ D0 ที่คราวนี้ผมจะขับเคลื่อนเจ้าCPUตัวนี้ด้วยมาเธอร์บอร์ดระดับกลาง-สูง จากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่างASUS นั่นก็คือมาเธอร์บอร์ดรุ่น ASUS P6T Deluxe V2 นั่นเอง ก่อนอื่นไปชม Specifications กันก่อนครับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ต่อมาเราไปชมหน้าตาทั้งหมดของตัวมาเธอร์บอร์ดกันนะครับ เริ่มกันที่หน้าตาของตัวกล่องซึ่งโดยรวมก็ยังคงคล้ายกับรุ่นแรกครับ จะแตกต่างกันที่ชื่อรุ่นที่มี V2 เติมท้ายมา และคุณสมบัติต่างๆบนตัวกล่องที่จะน้อยกว่ารุ่นแรกครับ
หน้าตาของตัวมาเธอร์บอร์ดก็แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นแรกแต่อย่างใด
ภาคจ่ายไฟยังคงเป็นแบบ16 Phases เช่นเดิม โดยแบ่งเป็นด้านบนของSocket 7 Phases และด้านข้างของSocket 9 Phases ส่วนCapacitors ทั้งหมดก็ยังคงเป็นแบบSolid 100% Japan-made ที่เคลมอายุการใช้งานไว้ยาวนานถึง57ปี ที่อุณหภูมิที่สูงถึง65C เช่นเดิม
Slot PCI-E 16X ก็ยังคงมี 3 Slots และวางตำแหน่งเช่นเดียวกับรุ่นแรกครับ
ในส่วนของสล๊อตแรมก็ยังคงเป็นแบบTriple Channel 6สล๊อตเช่นเดิม ถ้าใส่แค่ 3สล๊อต ก็ต้องใส่ที่สีส้มนะครับ ถ้าใส่เฉพาะช่องสีดำอย่างเดียวจะเปิดไม่ติด เช่นเดียวกันกับบอร์ดที่ใช้ชิปเซต X58 ทั่วๆไปครับ
.
.
.
.
(Click to enlarge)
.
ตอนนี้มาดูในส่วนที่หายไปจากรุ่นแรกบ้างนะครับ ที่เห็นหายไปคือSAS on board ที่เอาไว้ใส่ Harddisk ที่เป็น SCSI SATA II ครับ ซึ่งที่ส่วนนี้ถูกตัดออกไป ก็คงเนื่องจากไม่เป็นที่นิยมใช้กันเท่าไหร่ จึงได้มีการเอาออกไป เพื่อประหยัดต้นทุน และทำให้ลดราคาลงไปได้ต่ำกว่ารุ่นแรกนั่นเอง
.
.
.
(Click to enlarge)
.
ในส่วนของ Back Panel I/O Ports ด้านหลัง ก็ยังครบครันเช่นเดียวกับรุ่นแรกครับ มีพิเศษก็คือช่องE-SATA ที่กำลังเริ่มได้รับความนิยมใช้ขึ้นเรื่อยๆครับ แถมพกด้วยหัวต่อแลนอีก2หัว Dual Gigabit LAN ตามสมัยนิยม
.
.
.
.
(Click to enlarge)
.
ในส่วนของสวิตซ์ปิด-เปิดและresetก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิมเหมือนกับรุ่นแรกนะครับ ส่วนจัมเปอร์เคลียร์ไบออสจะเป็นตัวล่างสุดของที่เป็น2แถวเรียงกันนะครับ ผมตอนแรกนั่งหาตั้งนานครับกว่าจะเจอ
.
.
.
.
(Click to enlarge)
.
ในส่วนซิงค์MCHหน้าตาก็จะเป็นแบบเดิมนะครับ แต่ที่หายไปคือพัดลมระบายความร้อนที่ให้เราติดเพิ่มได้ แต่จะเปลี่ยนเป็นให้พัดลมโบว์เวอร์ ที่เสียบบริเวณซิงค์ด้านข้างซ๊อคเกตซีพียูมาแทนครับ
.
.
.
.
(Click to enlarge)
.
ด้านหลังตัวมาเธอร์บอร์ด ก็ยังคงมี Stack Cool 2 ที่ช่วยกระจายความร้อนไปให้ทั่วตัวมาเธอร์บอร์ด เพื่อลดการสะสมความร้อนที่จุดใดจุดหนึ่งเช่นเดิมครับ
.
.
.
.
(Click to enlarge)
.
ของแถมที่Bundleมาในกล่อง ที่เด่นสุดก็คือ Bridge SLi ครับ
SYSTEMS | |
CPU | Intel® Core™ i7 920 Rev. D0 |
Mainboard | Asus P6T Deluxe V2 |
Memory | G.Skill HK 1GB*3 Triple Channel |
Graphic Card | INNO3D GTX295 @ 729/1,566/1,242MHz |
Harddisk | Seagate Barracuda 7200.11 500GB |
CPU Cooler | Water Cooling (EK Supreme ,Swiftech MCP655 ,Swiftech MCR320) |
Power Supply | Thermaltake Toughpower 1200W |
Operation System | Windows XP 32-bit & Windows Vista 64-bit |
ภาพขณะทำการทดสอบ
ดูกันอีกมุมนะครับ ว่าเป็นระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดาจริงๆ เพียงแต่เล่นในห้องปรับอากาศ อุณหภูมิประมาณ22-23องศาเท่านั้น ก่อนอื่นเราไปหากันก่อนเลยครับ ว่าระบบที่ทดสอบนั้น สามารถOverclockได้สูงสุดแบบมีเสถียรภาพสูงสุดควบคู่กันไป จะทำได้ที่ความเร็วสักเท่าไหร่กัน
Stabilities Test @ 4,533MHz (Turbo Mode) !!!
Prime95 Blend Mode 1024K ,8K ,10K ,896K & 768K pass in 1 round (~1hour 22minutes)
(Click to enlarge)
(Click to enlarge)
(Click to enlarge)
OCCT 3.1.0 CPU Test 1hour -Mode : Medium Data Set - Priority : NORMAL - 8 threads
LinX 0.5.9 20 rounds (Default Test)
HyperPI 32M - 8 threads
(Click to enlarge)
จัดกันไปครับโปรแกรมทดสอบความเสถียรของเครื่องที่ทั่วโลกยอมรับว่าโหดสุดๆ 4ชุด 4ขนานใหญ่ ผ่านฉลุยกันแบบม้วนเดียวจบที่ความเร็วของสัญญาณนาฬิกาที่สูงถึง 4,533 MHz ในโหมด Turbo mode ตัวคูณ21 และเหลือ4,317MHz ตัวคูณ20เมื่อเกิดการฟูลโหลดพร้อมๆกัน 8Threads ซึ่ง Prime95 OCCT และ LinX จะโหดมากทำให้วิ่งอยู่ที่ 4,317 MHz เกือบตลอดเวลา แต่ HyperPI 8Threads จะไม่ค่อยโหดเท่าไหร่ ก็จะเห็นวิ่งที่ความเร็ว4,533 MHz สลับกับ 4,317 MHz ในจังหวะพอๆกัน ซึ่งมาเธอร์บอร์ด ASUS P6T Deluxe V2 นี้ จริงๆเท่าที่ผมลองสามารถล๊อคตัวคูณให้อยู่ที่21ตลอดเวลาแม้ขณะ FullLoad ได้ตลอดนะครับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้ไฟ Vcore น้อยๆ ประมาณ1.3V. ต้นๆเท่านั้น พอเพิ่มมากกว่านี้ที่ความเร็วสูงขึ้นก็จะล๊อคไม่อยู่ ตกลงเหลือ20 เมื่อเกิดการโหลดหนักๆ ซึ่งที่ผมเทสต์ก็ปิด C1E ,Speed Step ไว้หมดในไบออสนะครับ แต่ก็ล๊อคไม่อยู่ตอนFullLoad อยู่ดี แต่ถึงจะล๊อคไว้ไม่อยู่แต่ความแรงPerformanceที่ได้ ก็จะแรงมากกว่าเราตั้งตัวคูณล๊อคอยู่ที่20ตลอดอยู่ดี เดี๋ยวเราลองไปดูความแรง ในหน้าถัดๆไปเลยนะครับ
SuperPI 1M & 32M 1Threads
เร็วแน่แท้ต้องดูที่SuperPIครับ ปรับแค่ large system cache อย่างเดียว ก็แรงอย่างที่เห็นแล้วครับ
Cinebench2003
Cinebench95
Cinebench10
Cinebench จัดไปตั้งแต่ต้นตระกูล แรงไล่เรียงกันมาเลยครับ คะแนนอย่าเอาไปเทียบกับซีพียูตัวอื่นๆเบอร์อื่นๆในโลกนะครับ เดี๋ยวเขาจะหมอง
PCMark2002
PCMark2002 เห็นคะแนนซีพียูกับแรมแล้ว บอกได้คำเดียวว่าหนาวเลยครับ
PCMark05
PCMark05 ก็แรงกันแบบเนื้อแท้ ไม่มีการปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้คะแนน Graphics Score มากผิดปรกติแบบถังขยะเปียกแน่นอนครับ
Winrar ,CPUMark99 ,ProcessorMark3 ,Fritz Chess ,wPrime1.55 & CrystalMark 2004R3
Winrarเกือบทะลุ6,000KB/s แล้ว ส่วนอย่างอื่นก็แรงแบบไม่ตะขิดตะขวงใจ
Sisoft Sandra 2009
คะแนนทะลุตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอยตามคาด สำหรับ Sisoft Sandra 2009
Everest Ultimate Edition
คะแนนของEverestก็กระจายตามคาดเช่นกัน แต่คะแนน Memory Bandwidth ในWindows Vista จะดีกว่า ซึ่งจะมีให้ดูตอนท้ายบทความนะครับ
3DMark2001SE
ในที่สุดคะแนน3DMark2001SE ก็ทะลุหลัก90,000ไปจนได้ครับ สำหรับCore i7
3DMark03
สำหรับ3DMark03 ก็ทะลุแสนไปจนได้เช่นกันครับ ปลื้ม
3DMark05
3DMark05 ก็ยังแรงขึ้นอีก
3DMark06
3DMark06 ก็เริ่มเข้าใกล้หลัก30,000เข้าไปทุกที กับการ์ดGTX295 ซิงค์เดิมตัวเดียว
AquaMark3
Aquamark 3 ก็ทะลุไปเลย333,000ไปจนได้ครับ
Devil may cry 4
Devil may cry 4 ลื่นกันหัวร้างข้างแตก
3DMark Vantage PhysX Disable
ปิดPhysX เพื่อรอ ATI เขาหน่อยครับ
3DMark Vantage PhysX Enable
เปิดPhysX เพื่อโชว์พลังของที่nvidia เขาแถมมาฟรีครับ
Everest Ultimate Edition Cache&Memory Benchmark in Windows Vista 64-bit
Cinebench9.5 in Windows Vista 64-bit
Cinebench10 in Windows Vista 64-bit
ทั้งหมดนี้ คือคะแนนที่เล่นบน Windows Vista 64-bit แล้วแรงกว่าWindows XP นะครับ ก็เลยเอามาให้ชมกัน
BIOS Configuration
มาถึงในส่วนของการปรับแต่งBIOS ก็ขออธิบายหลักการนะครับว่า เอาไว้เพื่อดูเป็นแนวทางในการปรับแต่งเท่านั้น ไม่ต้องไปเหมือนกับที่ผมปรับทั้งหมดก็ได้นะครับ เช่น ถ้าซีพียูกับแรมท่านกินไฟน้อยกว่านี้ก็ให้ปรับลงให้น้อยกว่าผม หรือจะปรับไฟเท่าผม แต่ให้ไปไกลขึ้นกว่านี้ก็ได้ครับ หรือถ้าแรมท่านดีกว่าตัวที่ผมใช้อยู่ก็ลองปรับไปเล่นCL6 ดูก็ได้นะครับ ก็จะได้ความแรงเพิ่มขึ้นอีก ส่วนระบบระบายความร้อนถ้าท่านเล่นในเคสซิงค์ลมธรรมดา ก็อย่าปรับไฟสูงๆตามผมเด็ดขาดนะครับ ไม่เสถียรแน่นอน ควรปรับลดลงมาให้น้อยกว่าที่ผมเล่นอยู่นะครับ แล้วถ้าจะถามผมว่าทำไมไม่เล่นปรับแบบธรรมดา เล่นเองเล่นซะสูงเลย แต่พอคนอื่นบอกให้เล่นน้อยๆ ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะว่าจะได้เอาที่ผมปรับไว้เป็นตัวอย่างว่า ไม่ควรเกินจากนี้แล้วนะครับ เพราะถ้าเกินนี้ระบบก็จะไม่เสถียรแล้ว บางท่านอาจจะไปเห็นคำแนะนำจากเกรียนทำบทความบางที่ ให้เล่น Uncore Clock สูงๆ อัดไฟQPIเยอะๆไป1.5-1.7V.แล้วแรง ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า มันเป็นเส้นทางแห่งหายนะ ได้ไม่คุ้มเสียนะครับ เพราะนอกจากจะแรงแค่แถวMemory Bandwidth ขึ้นมาแค่เล็กน้อยเท่านั้นแล้ว ยังทำให้ระบบโดยรวมไร้ซึ่งความเสถียรอย่างแท้จริง แถมยังบั่นทอนอายุการใช้งานของระบบด้วย อย่าลืมนะครับว่าถ้าอัดไฟมากจนมาเธอร์บอร์ดไหม้ขึ้นมา ก็ต้องทิ้งหรือเอาไปหาร้านซ่อมเอาเองนะครับ เพราะว่าการไหม้ไม่อยู่ในการรับประกัน ของมาเธอร์บอร์ดทุกแบรนด์อยู่แล้ว
วันนี้ก็ขอสรุปทิ้งท้ายว่า มาเธอร์บอร์ด ASUS P6T Deluxe V2 ตัวที่ทดสอบนี้ ก็มีความแรงในระดับที่ดีทีเดียวครับ ถึงจะตัดOptionไปหลายอย่างจากรุ่นแรกก็จริง แต่ความแรงที่ได้ก็มิได้ลดน้อยถอยลงเลย แถมถ้าได้จับคู่กับ Core i7 ล๊อตใหม่ ที่เป็นRevision D0 นี่ ก็แรงหลุดโลกกันไปเลยครับ กับราคาที่ประมาณ11,000กว่าบาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่ง สำหรับผู้ที่มีงบประมาณสำหรับมาเธอร์บอร์ดในระดับนี้เลยครับ วันนี้ดูบทความนี้อาจจะเหนื่อยหน่อยนะครับ เพราะว่ายาวมากเลย แต่ของมันแรง คนทำก็เลยสนุกมือไปหน่อย ขออภัยในความยาวด้วยนะครับ และสำหรับวันนี้ ผมขอจบบทความนี้เพียงเท่านี้ไปก่อนนะครับ พบกันใหม่กับบทความใหม่ที่นี่ ที่ดูแล้วได้สาระความรู้ ไม่ดูแล้วหมกเม็ดน่าอดสูแน่นอนครับ สวัสดีครับ
ขอขอบคุณ
Hardware House International Co., Ltd.
.
.
Special Thanks
คุณจิ๊บ ร้านAnfieldTech ชั้น1 พันธุ์ทิพย์พลาซ่า เอื้อเฟื้อถ่ายภาพ