INTEL CORE i5 12400F PROCESSOR REVIEW
Share | Tweet |
…สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้ผมก็มีรีวิวซีพียู Intel Alder Lake ในรุ่นที่12 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวกันไปได้ไม่นานมานี้ในรุ่นระดับกลางที่ราคาไม่สูงมากมาฝากทุกท่านให้ได้รับชมกันครับกับซีพียูที่ใครหลายๆ คนรอคอยที่เน้นความคุ้มค่าในรุ่น INTEL CORE i5 12400F ในรหัส Intel Alder Lake ในรุ่นที่ 12 หรือ 12th Gen Core ขนาดสถาปัตย์ 10nm ที่มีจำนวนคอร์มากถึง 6C/12T ความเร็ว 2.5Ghz - 4.4Ghz สำหรับในรหัสรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Non K รหัส F ที่ทำการตัดกราฟฟิกการ์ด iGPU ในตัวออกครับ โดยราคาก็จะต่ำกว่าตัวที่เป็นรหัสธรรมดาที่กราฟฟิกในตัวครับ ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นซีพียูที่บรรดาคอเกมส์และผู้ใช้งานทั่วไปให้ความสนใจในกรณีที่เน้นใช้การ์ดจอแยกเป็นหลักครับ ตัวซีพียู INTEL CORE i5 12400F มีอัตราบริโภคไฟที่ 65W พีคสูงสุดเคลมไว้ที่ 116W และมีฮีตซิงค์ Laminar RM1 ของซีพียู Intel Core i5 12400F ดีไซน์ใหม่สีดำดุดัน ตัวฮีตซิงค์ดูใหญ่โตมากกว่าเดิมมาให้ใช้งานกันแบบคุ้มๆ อีกด้วยครับ สำหรับหน้าร้านที่วางจำหน่ายตอนนี้ราคาอยู่ที่ราวๆ 6,8XXบาทไทยครับ ที่สำคัญเป็นซีพียูที่ทางอินเทลนั้นบอกว่าเป็นรุ่นคุ้มค่าสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ทั่วไปอีกด้วยครับกับจุดเด่นในการเล่นเกมส์ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมมากๆ เดี๋ยวในบททดสอบเราจะได้เห็นกันครับว่าดีจริงหรือไม่
…
…สำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่ทางอินเทลได้นำเสนอก็คือระบบไฮบริดจ์ที่มีคอร์ใหญ่แบบ Performance Core (P-core) และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) แต่สำหรับตัวซีพียู INTEL CORE i5 12400F จะมีเฉพาะ P-Core เท่านั้นครับจะไม่มี E-Core โดยทำงานที่ 6C/12T ที่ความเร็วสูงสุด 4.4Ghz ทุกคอร์ในการทำงานครับ โดยมาพร้อมซ๊อกเก็ตใหม่ล่าสุด LGA1700 และรองรับ LGA1800 ที่ใช้งานกับเมนบอร์ดชิปเซ็ตใหม่อย่าง Z690 / B660 / H610 รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับแรม DDR5-4800 และรองรับแรม DDR4 ได้ในเมนบอร์ดบางรุ่น รองรับ PCIe Gen 5 จำนวน x16 เลน รองรับ Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6E สำหรับรายละเอียดเชิงลึกก็ตามข้อมูลด้านล่างได้เลยครั
INTRODUCTION
ซีพียูในรหัส Alder Lake นั้นเป็นซีพียูสถาปัตย์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบบไฮบริดจ์คอร์ คอร์เล็ก+คอร์ใหญ่ ที่ใช้ระบบ Intel Thread Director ในการทำงานครับ พร้อมชุดคำสั่งใหม่อย่าง Intel® SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel® AVX2 แต่สำหรับ INTEL CORE i5 12400F นั้นจะมีเฉพาะ P-Core เท่านั้นครับ
ในรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ซ๊อกเก็ตใหม่ LGA 1700 ครับและมีรุ่น Mobile และ Ultra Mobile รวมอยู่ด้วย
เทคโนโลยีใหม่แบบไฮบริดจ์ที่มีคอร์ใหญ่แบบ Performance Core (P-core) ใช้คอร์ซีพียู Golden Cove และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) ใช้คอร์ซีพียู Gracemont ในการทำงาน ด้วยระบบ Intel Thread Director ที่เป็นเหมือนเลเยอร์ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง OS Scheduler ของซีพียูคอยทำหน้าที่แจ้งสถานะการทำงานของแต่ละคอร์ เพื่อให้ระบบ OS Schedule นั้นเลือกการใช้งานของแต่ละคอร์ตามความเหมาะสมของการใช้งานของโปรแกรมที่ทำงานนั่นเองครับ จึงทำให้ซีพียู Alder Lake นั้นจะมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้นในงานรองรับงานที่หลากหลายและที่สำคัญประหยัดในเรื่องของพลังงานไปได้มากเลยครับกับการใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องทำงานกันทุกคอร์นั่นเองครับ
ซีพียู Alder Lake มาพร้อมแรม DDR5-4800 และจะมีบางรุ่นที่รองรับแรม DDR4 ได้อีกด้วยครับ
รองรับ PCIe Gen 5 จำนวน x16 เลน และ PCIe 4.0 ได้ในเมนบอร์ดบางรุ่นครับ
รองรับ Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6E
Product Appearance
ตัวกล่องมาในกล่องสีฟ้าสดใสโดดเด่นด้วยโลโก้ Intel Core อันเป็นเอกลักษณ์ครับ ขนาดกล่องใกล้เคียงกับรุ่นเดิมครับ
ด้านหลังกล่องบอกรายละเอียดต่างๆ
ด้านข้างบอกรายละเอียดสเปกการทำงานคร่าวๆ ครับ
ด้านในมีคู่มือและสติ๊กเกอร์ Core i5 ครับ
ฮีตซิงค์ Laminar RM1 รุ่นใหม่ที่อยู่ในซีพียูระดับกลางของทางอินเทลในรุ่นที่ 12 ครับ
ตัวฮีตซิงค์ทำมาจากอลูมิเนียมทั้งหมดครับ ดูหนาและสวยงามขึ้นกว่าเดิมเลยครับ
หน้าสัมผัสก็จะเป็นทองแดงเหมือนเดิมครับ
ตัวซีพียูขนาดจะใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้านี้ครับ ด้วยซ๊อกเ็ตใหม่ LGA1700 และขนาดของ DIE ที่เพิ่มขึ้นทำให้ขนาดใหญ่ตามไปด้วยครับ ขนาดอยู่ที่ 37.5 mm x 45 mm (W x D x H) : 14.00 x 13.20 x 16.50 cm น้ำหนักอยู่ที่ 0.46 KG
หน้าสัมผัสยังเป็นแบบเดิมครับ Land grid array หรือ LGA1700 เหมือนรุ่นก่อนๆ ครับ
ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ
...
Test Setup
SYSTEMS | |
.CPU |
.INTEL CORE i5 12400F |
.Thermal Grease | .Noctua NT-H2 THERMAL PASTE |
.Motherboard | . MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI DDR4 |
.Memory | ..KINGTON FURY BEAST DDR5 5200Mhz 32GB |
.Graphic Card | . ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL |
.Harddisk | . Plextor M6PRO 256 / KINGSTON SSD 256GB |
.CPU Cooler | ..Laminar RM1 |
.Power Supply | ..MSI MAG CORELIQUID 360R |
.Operation System | ..Windows 10 64-bit |
รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น INTEL CORE i5 12400F รุ่นใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับเมนบอร์ดตัวแรง MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI DDR4 ของทาง MSI รุ่นใหม่ล่าสุดแนวเกมส์มิ่สุดคุ้มจัดเต็มร่วมกับกราฟฟิกการ์ด ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL จากทางเอซุสครับ
บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยฮีตซิงค์ Laminar RM1 รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางอินเทล
CPU-Z
ในส่วนของความเร็วที่ใช้งานจริงของซีพียู INTEL CORE i5 12400 จะอยู่ที่ความเร็ว 2.5Ghz บูตแบบ Max Turbo Frequency ที่ความเร็วสูงสุดที่ 4.4Ghz ความเร็ว All Core 4.4Ghz แคช 18 MB Intel Smart Cache บัสแรม DDR5 5200Mhz CL38-38-38-82-120 2T 1.25v ผมทดสอบตามค่า XMP ที่วิ่งกันที่บัส 5200Mhz ได้สบายๆด้วยแรม KINGTON FURY BEAST DDR5 5200Mhz 32GB ตัวแรงของเราในวันนี้ครับ ในส่วนของ Vcore นั้น Idle จะวิ่งอยู่ที่ประมาณ 0.78v ในส่วนของการทำงานเต็มที่จะวิ่งอยู่ที่ 1.02v ในแบบ Fulload ครับ อัตราบริโภคไฟอยู่ที่ 65W และอัตราบริโภคไฟสูงสุดอยู่ที่ 116 W
GPU-Z
ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรง
INTEL CORE i5 12400F Core & Threads
INTEL CORE i5 12400 จำนวนคอร์ที่แสดงการทำงานจะเป็น 6/12 เทรดครับ ทำงาน ALL Core ที่ P-Core Performance-cores ความเร็ว 4.0Ghz ทุกคอร์การทำงานครับ
รายละเอียดจาก AIDA64
เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ
SuperPI 1MB
SuperPI 32MB
HyperPI 32M 16Thread
สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 8.173วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 6นาที 33.431 วินาที HyperPI 32MB ก็ผ่านหมดแรงแบบนิ่งๆ ใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพครับ
ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ
wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark
wPrime นั้นก็ทำเวลาได้ดีครับ 109วินาที ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 18777KB/s ในส่วนของ Fritzchess Benchamrk อยู่ที่ 53.3คะแนน แรงในระดับแถวหน้าของซีพียูระดับกลางเลยครับ
X264 FHD
ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 56.78FPS แรงเยี่ยมดีมากครับประสิทธิภาพการถอดรหัสไฟล์
Corona 1.3 Benchmark
Corona เรนเดอร์ทำเวลากันได้เร็วมากๆครับ ทำงานครบทุกเทรดทั้ง 6คอร์ ที่เวลา 2นาที ทำได้ดีมากครับ
FRYRENDER X64
Fryrender ก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพครับ เวลาอยู่ที่ 2นาที 7วินาที เรนเดอร์ได้เร็วครับ
V-RAY Benchmark
V-Ray Benchmark ทำการเรนเดอร์ซีพียูอยู่ที่ 13610คะแนน แรงดีครับ
Google Chrome : JetStream2
Google Chrome : JetStream2 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 221คะแนนครับ แรงเยี่ยมเลยครับ
Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1
Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 512คะแนนครับ แรงเยี่ยมอีกแล้วครับ
AIDA64 Cache & MemoryBenchmark
ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 73798 MB/s , 73694MB/ 71371 MB/s กับบัสแรม 5200Mhz ซึ่งประสิทธิภาพอ่าน/เขียนทะลุ 73K ทั้งคู่ครับ แรงเยี่ยมมากครับ
Video Render Test
Blender Render 2.82
ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดีครับกับการเรนเดอร์กราฟฟิกแอนนิเมชั่นที่ทำเวลาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวอยู่ที่ 3นาที 15วินาทีเท่านั้นครับในไฟล์ไม่ใหญ่มาก และไฟล์ใหญ่ๆอยู่ที่ 21นาที 31วินาทีเท่านั้นเอง ประสิทธิภาพงานเรนเดอร์ถือว่าแรงขึ้นกว่าเดิมมากเลยครับ
Cinebench 20
Cinebench 23
โปรแกรม Cinebench 23 เวอร์ชั่นล่าสุดเรนเดอร์ไปที่คะแนน 12406คะแนน แรงเยี่ยมทั้งคู่เลยครับ งานเรนเดอร์ก็ทำได้ดีเยี่ยมกับขุมพลัง 6C/12T ครับ
เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ
PCMark10
PCMark10 อยู่ที่ 7552คะแนนครับ แรงเลยทีเดียว
3DMark11
3Dmark11 รวมอยู่ที่ 33141คะแนนแรงเยี่ยมไปเลย
3DMark 2013
Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 26933คะแนน แรงมากครับด้านกราฟฟิก
3DMark Time Spy คะแนนรวมอยู่ที่ 12679คะแนน แรงเยี่ยมจริงๆ
Unigine2
Unigine2 อยู่ที่คะแนน 7826คะแนน แรงมากๆ ครับ
เราไปชมผลทดสอบเกมส์มิ่งกันต่อเลยครับ
Gaming Test
เรามาชมผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันครับ ซึ่งซีพียู Intel 12th Gen นั้นทาง Intel ได้โปรโมทว่าคือซีพียูที่ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมส์ที่โดดเด่นในปีนี้กันเลยทีเดียวและยิ่งเป็นรุ่น Core i5 12400F ที่มีราคาไม่สูงมากก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ครับกับประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ที่ในรุ่นก่อนหน้านั้นทำออกมาได้ดีไม่แพ้ตัวท็อป เราไปชมกันเลยครับว่าINTEL CORE i5 12400F นั้นจะทำผลงานด้านเกมส์มิ่งได้ดีมากน้อยขนาดไหน เราไปชมกันเลยครับ
DIRT 5
เกมส์ DIRT5 ปรับสุดหมดอยู่ที่ 86เฟรมเรทครับ แรงลื่นไหลสุดๆ ครับ
Horizon Zero Dawn
Horizon Zero Dawn อยู่ที่ 119เฟรมเรทแรงมากๆ เลยครับ นำระดับหัวแถว
Grand Theft Auto V
GTA V เกมส์ยอดนิยมในตำนาน ปรับสุดหมด Full HD ระดับ Ultra อยู่ที่ 105เฟรมเรตเลยครับ แรงระดับหัวแถว
Metro Exodus
Metro Exodus เปิดเต็ม Ultra Full HD อยู่ที่ 102เฟรมเรตครับ แรงลื่นไหลจริงๆ นำทุกรุ่นซีพียูครับ
Ashes of the Singularity
Ashes of the Singularity เกมส์ที่ซัพพอต DX12 เกมส์แรกๆที่กินสเปคพอสมควรอยู่ที่ 127เฟรมเรตครับ แรงลื่นไหลกันสุดๆ
Shadow of the Tomb Raider
Tomb Raider เล่นได้แรงๆเปิดสุดหมดที่ 173เฟรมเรตครับ แรงสุดๆครับ
Red Dead Redemption 2
FARCRY5 อยู่ที่ 90เฟรมเรตแบบคอนฟิกเปิดสุดหมดครับ แรงอย่างลื่นไหลสุดๆ เลยครับ
FINAL FANTASY XV
FINAL FANTASY XV เกมส์ออนไลน์ชื่อดังกราฟฟิกสุดอลังการอยู่ที่ 11213คะแนน แรงลื่นไหลครับ
เราไปชมผลทดสอบอุณหภูมิและอัตราบริโภคไฟกันต่อเลยครับ
Temperature & Power Consumption
อุณหภูมิในการทำงานของซีพีย INTEL CORE i5 12400F กับชุดฮีตซิงค์ Laminar RM1ทดสอบด้วยโปรแกรม Prime95 สุดโหดรันกันยาวๆ 10นาทีเต็ม Idle อยู่ที่ 33-36องศาฯครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์อยู่ที่ 97-100องศาฯ ถ้าใช้งานทั่วไปความร้อนก็อยู่แถวๆ 70-80องศาฯ เท่านั้นเองครับ
อัตราการบริโภคไฟนั้นเมื่อใช้งานเต็มระบบ Idle จะอยู่ที่ 78W TDP ครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์ 6C/12T จะอยู่ที่ 166W TDP ครับ นี่คืออัตราการบริโภคไฟของซีพียู INTEL CORE i5 12400F ที่ทำงานอย่างเต็มระบบในการใช้งานจริงครับ ก็ถือว่ากินไฟไม่มากครับกับซีพียูในระดับกลางที่แรงขนาดนี้ ถือว่าคุ้มเลยครับ
เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆ ส่งท้ายกันเลยครับ
Maximum Overclock
CPU-Z
โดยในการทดสอบผมโอเวอร์คล๊อกกับซีพียู INTEL CORE i5 12400F ในรหัสรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Non K รหัส F ที่ทำการตัดกราฟฟิกการ์ด iGPU ในตัวออกและจะไม่สามารถปรับตัวคูณได้อย่างอิสระจะตันที่ความเร็ว 4.4Ghz ครับ แต่สำหรับบัสแรมนั้นท่านสามารถปรับใช้งานหรือโอเวอร์คล๊อกกันได้อย่างอิสระครับ ก็ถือเป็นการรีดประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดีอีกทางเลยครับสำหรับคนชอบเล่นบัสแรมสูงๆ โดยผลได้โอเวอรืคล๊อกไปที่บัส 5600Mhz ได้อย่างสบายๆ ครับ
สามารถโอเวอร์คล๊อกบัสแรมได้อย่างอิสระครับสำหรับซีพียู INTEL CORE i5 12400F ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดและประสิทธิภาพของชิปแรมในแต่ละรุ่นของท่านที่ใช้งานกันด้วยนะครับ
เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ
Conclusion
…ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ INTEL CORE i5 12400F ที่ถือเป็นซีพียูระดับ Mainstream ในระดับกลางในรุ่น Core i5 ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากครับกับความคุ้มค่าและประสิทธิภาพการทำงานที่ทำออกมาในวันนี้ โดยตัวซีพียู INTEL CORE i5 12400F ในรหัสรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Non K รหัส F ที่ทำการตัดกราฟฟิกการ์ด iGPU ในตัวออกครับจะไม่สามารถโอเวอร์คล๊อกตัวคูณได้อย่างอิสระแต่จะสามารถโอเวอร์คล๊อกบัสแรมได้อย่างอิสระแทนครับ ในส่วนของการใช้งานทั่วไปต้องบอกเลยครับว่าขุมพลัง 6C/12T ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี 10nm ในรหัส Alder Lake ที่ใช้ Performance Core (P-core) เป็นหลักนั้นทำผลงานได้เป็นอย่างดีเลยครับ ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมส์ที่ท่านได้เห็นกันไปว่าประสิทธิภาพนั้นเทียบเท่าซีพียูตัวท็อปของรุ่นอย่าง Core i9 12900K ได้อย่างสบายๆ ครับกับผลทดสอบที่สามารถรีดพลังเฟรมเรทและกราฟฟิกออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกการทดสอบทั้งเกมส์ใหม่ DX11 / DX12 สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลดีเยี่ยมกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครจะเน้นเกมส์มิ่งนั้นรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ในจุดนี้เองก้ถือเป็นจุดเด่นของทางอินเทลตั้งแต่เจนเนอรเรชั่นที่แล้วครับและในรุ่น Core i5 ในรุ่นก่อนก็ทำได้ดีมาตลอดและเป็นตัวเลือกของบรรดาเกมส์เมอร์ที่งบประมาณจำกัดครับ
.
…ในเรื่องของอุณหภูมิถ้าท่านใช้งานกับฮีตซิงค์ Laminar RM1 รุ่นใหม่นั้นก็สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัวสวยงามดีและประหยัดไม่ต้องหาซื้อฮีตซิงค์เพิ่มครับ ถ้าใช้งานทั่วไปความร้อนก็อยู่แถวๆ 70-80องศาฯเท่านั้นเองครับ สำหรับในการทดสอบก็ต้องบอกก่อนครับเป็นการทดสอบแบบ Street Test กันยาวๆ ซึ่งความร้อนสะสมก็จะมากพอสมควรแต่ถ้าใช้งานจริงซีพียูก็ไม่ได้รันเต็ม 100% ตลอดในการใช้งานทั่วไปครับ ในเรื่องของอัตราการบริโภคไฟก็คงยังทำได้ดีครับในมาตรฐาน Core i5 เหมือนรุ่นที่ผ่านๆ มาก็ยังกินไฟในเรทที่ต่ำอยู่แม้ตัวซีพียูจะขนาดใหญ่ขึ้น DIE ใหญ่ขึ้น แต่การบริโภคไฟหรือพลังงานนั้นก็ไม่ได้สูงตามครับรวมไปถึงความร้อนสะสมด้วยในจุดนี้ผมมองว่าประสิทธิภาพความแรงที่ออกมากับอัตราการบริโภคไฟนั้นทำได้ดีเลยครับสำหรับ INTEL CORE i5 12400F ที่แรงขึ้นกินไฟไม่มาก
.
…ถ้าให้สรุปซีพียู INTEL CORE i5 12400F รุ่นนี้คือรุ่นประหยัดของ Core i5 ในรุ่น Non K รหัส F ที่ตัดกราฟฟิก iGPU ในตัวออกทำให้มีราคาที่ต่ำสุดในซีรี่ย์ ข้อสังเกตุอาจจะไม่มีกราฟฟิกในตัวมาให้ใช้งาน เป็นรุ่น Non K ทำให้โอเวอร์คล๊อกความเร็วซีพียูไม่ได้นี่คือข้อสังเกตุที่ผมให้ แต่ในด้านดีต้องบอกเลยครับนี่คือซีพียูในระดับกลางที่ผมมองว่าคุ้มค่าอีกรุ่นเลยทีเดียวในปี 2021 นี้ ทั้งประสิทธิภาพการทำงานที่ออกมาทั้งการใช้งานทั่วไป เรนเดอร์ ประมวลผล มันตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่ามากๆ กับขุมพลัง 6C/12T ซึ่งแม้จะไม่มีระบบคอร์ใหญ่+คอร์เล็กเหมือนกับรุ่นใหญ่ตัวท็อป Core i7 หรือ Core i9 แต่คุณภาพและประสิทธิภาพต้องบอกว่าทำออกมาได้แรงกว่ารุ่นเดิม (Gen 11th) ยิ่งในเรื่องความโดดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมส์ที่ทำให้ซีพียู INTEL CORE i5 12400F ฉายแสงออกมาให้เห็นความโดดเด่นจริงๆ ครับ กับประสิทธิภาพที่ขับพลังกราฟฟิกในการเล่นเกมส์สร้างเฟรมเรทได้เหนือคู่แข่งตัวท็อปหรือแม้กระทั่งสูสีกับรุ่นพี่ใหญ่ Core i9 ได้สบายๆ อีกด้วย ถือเป็นซีพียูคุณภาพที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าในราคาที่ไม่สูงมากเหมาะสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ที่กำลังมองหาซีพียูเอาไว้เล่นเกมส์และทำงานทั่วไปได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ยิ่งเล่นคู่กับบรรดาเมนบอร์ด B660 หรือ H610 ในชิปเซ็ตระดับกลางๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ประหยัดเกินคุ้มสามารถนำเงินไปลงการ์ดจอแรงๆ หรืออุปกรณ์อื่นเสริมได้ครบถ้วนสมบรูณ์แบบเลยครับ ผมมองว่า INTEL CORE i5 12400F นั้นเป็นซีพียูระดับกลางที่โดดเด่นด้านเกมส์มิ่งที่มาพร้อมขุมพลังประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในด้านเกมส์มิ่งอย่างแท้จริงในปี 2021 นี้ครับ
…
…โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 6,8XXบาท ท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ
…
ราคา 6,8XXบาท Price $209USD
..
…
…
ขอบคุณที่ติดตาม
Dodge Vmodtech
.
.
Special Thanks.
INTEL