INTEL CORE i7 14700K PROCESSOR REVIEW
Share | Tweet |
…สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้ผมก็มีรีวิวซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดจากทางอินเทลที่ทำการเปิดตัวกันใหม่ล่าสุดมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับกับซีพียู Intel 14th Gen รุ่นใหม่ล่าสุดรุ่นที่ 14 ที่อาจจะมาช้านิดแต่รับรองว่ารายละเอียดและการทดสอบจัดเต็มเอาใจสาวกอินเทลกันเหมือนเช่นเคยครับ โดยซีพียู INTEL CORE 14th Gen นั้นเป็นรุ่นที่ 14 มากันในรหัส Raptor Lake Refresh รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวกันช่วงเดือนตุลาคมหรือปลายปี 2023 นี้ โดยซีพียูที่ผมนำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันก็คือซีพียูในรุ่น INTEL CORE i7 14700K รุ่นใหญ่ระดับ Hi End ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันครับกับรหัส Core i7 ที่เป็นซีพียูรุ่นรองท็อปตัวแรงที่วางจำหน่ายมานานหลายปี โดยในวันนี้ทางอินเทลจะเปิดตัวซีพียูทั้งหมด 6รุ่นครับ ได้แก่ Intel Core i9-14900K/KF , Intel Core i7-14700K/KF , Intel Core i5-14600K/KF ซึ่งในรุ่นอื่นๆ ก็จะทยอยเปิดตัวตามมาอีกเช่นเคยครับ สำหรับรายละเอียดของซีพียู INTEL CORE i7 14700K นั้นมีความแรงอะไรเพิ่มเข้ามาบ้างเราไปชมกันครับ
.
สเปก : เรามาดูรายละเอียดซีพียู INTEL CORE i7 14700K ที่ผมนำมาทดสอบให้ท่านได้ชมกันในวันนี้กันครับ INTEL CORE i7 14700K นั้นมีจำนวนคอร์ 20คอร์ P-Core 8 / E-Core 12 , 28เธรด ความเร็ว Base Clock E-core 2.50 GHz / P-core 3.40Ghz ความเร็วเทอร์โบสูงสุดของ E-core 4.30 GHz , P-core 5.50 GHz , ควาเร็วเทอร์โบสูงสุดของ P-core 5.60 GHz แคช 28 MB Intel Smart Cache แคช L2 ทั้งหมด 33 MB อัตราการบริโภคไฟปกติที่ 125W ในโหมดทำงานสูงสุดอยู่ที่ 253W ครับ รองรับแรมความจุ 128 GB ทั้ง DDR5 5600 MT/s และ DDR4 3200 MT/s กราฟฟิกในตัวในรุ่น UHD Intel 770 จำนวนคอร์ 32 ความเร็วอยู่ที่ 300 MHz ความเร็วบูตสูงสุด 1.60 GHz อินเตอร์เฟส eDP 1.4b, DP 1.4a, HDMI 2.1 ซีอกเก็ตที่ใช้งาน FCLGA1700 เหมือนกับรุ่นเดิมก่อนหน้านี้ครับ ชิปเซ็ต Intel 700 Series เมนบอร์ดใช้ Z790 เป็นรุ่นท็อปสุดและจะมีรุ่นอื่นๆ ตามมาเหมือนเช่นเคย ในส่วนของชุดคำสั่งที่รองรับ Intel® SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel® AVX2
.
สถาปัตย์ : INTEL CORE i7 14700K ใช้กระบวนการผลิต Intel 7 ซึ่งมีจำนวนคอร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 25% สามารถช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์เพลิดเพลินไปกับการสร้างสรรค์และเต็มที่กับการออกแบบด้วยประสิทธิภาพมัลติเธรดได้ และยังสามารถใช้งานร่วมกับมาเธอร์บอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต Intel® ซีรี่ส์ 600 และ 700 ที่มีอยู่เดิมได้ เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 จะมอบพลังการประมวลผลและสมรรถนะการใช้งานอย่างที่ผู้หลงใหลในประสิทธิภาพต้องการ สถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง (Performance hybrid architecture) ของอินเทลยังคงตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพการประมวลผลในทุกช่วงความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น
แพลตฟอร์มการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม: โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 ขับเคลื่อนประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำอย่างเหนือชั้น ด้วยประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้นมากถึง 23% เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ระดับแถวหน้าของคู่แข่ง และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น Intel® Application Optimization (APO) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแอปพลิเคชัน ควบคู่ไปกับการกำหนดเวลาเธรดในการใช้งาน Intel® Thread Director
สมรรถนะการโอเวอร์คล็อกที่ยังครองความเป็นผู้นำ: โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 แบบปลดล็อคยังคงมอบประสบการณ์การโอเวอร์คล็อกที่เหนือชั้นสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ใช้มือใหม่ โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปแบบปลดล็อครุ่นล่าสุดยังได้รวมฟีเจอร์ Intel® XTU AI Assist ใหม่สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่ได้รับคำแนะนำโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และรองรับความเร็ว DDR5 XMP ที่มากกว่า 8,000 เมกะทรานสเฟอร์/วินาที (MT/S)
การเชื่อมต่อเครือข่ายที่เหนือกว่า: ตระกูลโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปรุ่นล่าสุดจากอินเทล มาพร้อมกับ Wi-Fi 6/6E และ Bluetooth® 5.3 ในตัว อีกทั้งยังสามารถรองรับเทคโนโลยีไร้สาย อย่าง Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 อีกด้วย นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel® Core™ รุ่นที่ 14 ยังรองรับ Thunderbolt™ 4 และ Thunderbolt 5 ที่กำลังจะมาในอนาคต ซึ่งจะรองรับประสิทธิภาพสูงสุดถึง 80 Gbps สำหรับแบนด์วิดท์แบบสองทิศทาง (bi-directional bandwidth)
การรองรับของชิปเซ็ตเดสก์ท็อป Intel® ซีรีส์ 600 และ 700: เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 ยังคงสามารถใช้งานร่วมกับชิปเซ็ต Intel® ซีรีส์ 600 และ 700 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถอัพเกรดระบบเดิมได้อย่างง่ายดายและปลดล็อคประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ ให้เกมเมอร์เพลิดเพลินกับการเล่นเกม และช่วยให้คอนเทนครีเอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับรายละเอียดเชิงลึกก็ตามข้อมูลด้านล่างได้เลยครับ
INTRODUCTION
ซีพีย Intel 13th Gen รุ่นที่ 14 ในรหัส Raptor Lake Refresh เทคโนโลยี Intel 7 และสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง x86 ที่พร้อมเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 นี้
ซีพียูที่ทำการเปิดตัวพร้อมกันในวันนี้มีอยู่ด้วยกัน 6รุ่นครับ ได้แก่ Intel Core i9-14900K/KF , Intel Core i7-14700K/KF , Intel Core i5-14600K/KF ซึ่งถือเป็นซีพียูตัวท็อปรุ่นยอดนิยมของ Core i9 / i7 /i5 นั่นเองครับ
ตระกูลโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปรุ่นล่าสุดจากอินเทล มาพร้อมกับ Wi-Fi 6/6E และ Bluetooth® 5.3 ในตัว อีกทั้งยังสามารถรองรับเทคโนโลยีไร้สาย อย่าง Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 อีกด้วย นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel® Core™ รุ่นที่ 14 ยังรองรับ Thunderbolt™ 4 และ Thunderbolt 5 ที่กำลังจะมาในอนาคต ซึ่งจะรองรับประสิทธิภาพสูงสุดถึง 80 Gbps สำหรับแบนด์วิดท์แบบสองทิศทาง (bi-directional bandwidth)
ซีพียู Intel 14h Gen รุ่นที่ 14 มีประสิทธิภาพความเร็วที่สูงที่สุดในปัจจุบันระดับ 6Ghz โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 แบบปลดล็อคยังคงมอบประสบการณ์การโอเวอร์คล็อกที่เหนือชั้นสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ใช้มือใหม่ โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปแบบปลดล็อครุ่นล่าสุดยังได้รวมฟีเจอร์ Intel® XTU AI Assist ใหม่สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่ได้รับคำแนะนำโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และรองรับความเร็ว DDR5 XMP ที่มากกว่า 8,000 เมกะทรานสเฟอร์/วินาที (MT/S)
โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 ขับเคลื่อนประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำอย่างเหนือชั้น ด้วยประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้นมากถึง 23% เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ระดับแถวหน้าของคู่แข่ง และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น Intel® Application Optimization (APO) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแอปพลิเคชัน ควบคู่ไปกับการกำหนดเวลาเธรดในการใช้งาน Intel® Thread Director
จุดเด่นของประสิทธิภาพคอร์ Intel 13th Gen รุ่นที่ 13 ที่เพิ่มขเา้มาก็คือการเพิ่มจำนวน E-Core ขึ้นไปอีกครับเป็น 2เท่าครับ ยกตัวอย่าง Core i5-12600K รุ่นเดิมมี E-Core อยู่ที่ 4คอร์ แต่ในรุ่น Core i5-13600K รุ่นปัจจุบันล่าสุดมีจำนวนคอร์ E-Core อยู่ที่ 8คอร์ คือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าครับ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นดีขึ้นอย่างแน่นอน
โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปแบบปลดล็อครุ่นล่าสุดยังได้รวมฟีเจอร์ Intel® XTU AI Assist ใหม่สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่ได้รับคำแนะนำโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และรองรับความเร็ว DDR5 XMP ที่มากกว่า 8,000 เมกะทรานสเฟอร์/วินาที (MT/S)
ทางอินเทลยังได้มีการนำ ฟีเจอร์ AI Assist เข้ามาใช้ในการโอเวอร์คล็อก CPU ด้วยการใช้ Intel® Extreme Tuning Utility อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานได้อย่างง่ายดายในคลิกเดียว เพียงเท่านี้ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การโอเวอร์คล็อกของโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 ยังคงสามารถใช้งานร่วมกับชิปเซ็ต Intel® ซีรีส์ 600 และ 700 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถอัพเกรดระบบเดิมได้อย่างง่ายดายและปลดล็อคประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ ให้เกมเมอร์เพลิดเพลินกับการเล่นเกม และช่วยให้คอนเทนครีเอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพการใช้งานครีเอเตอร์ก็อยู่ในระดับหัวแถวพร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกระดับ
เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ ‘K’ และ ‘KF’ ของ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 มีวางจำหน่ายในไทยแล้ววันนี้ที่ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นที่ 12,790 บาท โดยโปรเซสเซอร์รุ่นเรือธง Intel® Core™ i9-14900K วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 25,390 บาท
เราไปชมรูปภาพตัวซีพียู INTEL CORE i7 14700K กันต่อเลยครับ
Product Appearance
ตัวกล่องเป็นสีฟ้าตามสไตล์อินเทลครับตัวกล่องดูไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปมากนักบอกชื่อรุ่นซีพียู INTEL CORE i7 14700K โชว์ที่หน้ากล่องชัดเจนครับ
ด้านหลังบอกรายละเอียดสำคัญต่างๆ ของซีพียู
ตัวกล่องก็จะกันกระแทกมีตัวซีพียูแพ๊คมาอย่างดี คู่มือ และสติ๊กเกอร์
ตัวซีพียู INTEL CORE i7 14700K ตัวกระดองนั้นจะเป็นดีไซน์ก็เหมือนกันกับรุ่นก่อนหน้า Alder Lake หรือ Raptor Lake ครับขนาดเท่ากันหมด มีจำนวนคอร์ 20คอร์ P-Core 8 / E-Core 12 , 28เธรด ความเร็ว Base Clock E-core 2.50 GHz / P-core 3.40Ghz ความเร็วเทอร์โบสูงสุดของ E-core 4.30 GHz , P-core 5.50 GHz , ควาเร็วเทอร์โบสูงสุดของ P-core 5.60 GHz แคช 28 MB Intel Smart Cache แคช L2 ทั้งหมด 33 MB อัตราการบริโภคไฟปกติที่ 125W ในโหมดทำงานสูงสุดอยู่ที่ 253W ครับ รองรับแรมความจุ 128 GB ทั้ง DDR5 5600 MT/s และ DDR4 3200 MT/s กราฟฟิกในตัวในรุ่น UHD Intel 770 จำนวนคอร์ 32 ความเร็วอยู่ที่ 300 MHz ความเร็วบูตสูงสุด 1.60 GHz อินเตอร์เฟส eDP 1.4b, DP 1.4a, HDMI 2.1 ซีอกเก็ตที่ใช้งาน FCLGA1700 เหมือนกับรุ่นเดิมก่อนหน้านี้ครับ ชิปเซ็ต Intel 700 Series เมนบอร์ดใช้ Z790 เป็นรุ่นท็อปสุดและจะมีรุ่นอื่นๆ ตามมาเหมือนเช่นเคย ในส่วนของชุดคำสั่งที่รองรับ Intel® SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel® AVX2 ใช้เมนบอร์ด LGA 1700 ได้ทุกรุ่นครับ
ด้านหลังซีพียูหน้าสัมผัส LGA 1700 เหมือนเดิมครับใช้งานร่วมกันกับเมนบอร์ดรุ่นใหม่ Intel 700ซีรี่ย์ครับและในอนาคตคาดว่าจะสามารถใช้งานกับเมนบอร์ดรุ่นเก่าในซีรี่ย์ Intel 600ซีรี่ย์ได้ครับ
ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ
...
Test Setup
SYSTEMS | |
.CPU |
.INTEL CORE i7 14700K |
.Thermal Grease | .Noctua NT-H2 THERMAL PASTE |
.Motherboard | . ASUS ROG STRIX Z790-A GAMING WIFI II |
.Memory | ..Patriot Viper DDR5 7200Mhz |
.Graphic Card | . ASUS TUF GeForce RTX 3080 / ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL |
.Harddisk | . KINGSTON SSD 256GB |
.CPU Cooler | ..Water Cooling |
.Power Supply | ..ANTEC 1300W Platinum |
.Operation System | ..Windows 11 64-bit |
รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น INTEL CORE i7 14700K รุ่นใหม่ล่าสุดจัดเต็มร่วมกับเมนบอร์ด ASUS ROG STRIX Z790-A GAMING WIFI II รุ่นใหม่ล่าสุดและกราฟฟิกการ์ด ASUS TUF GeForce RTX 3080 / ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรงจากทางเอซุสครับ
บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ
CPU-Z
ในส่วนของความเร็วที่ใช้งานจริงของซีพียู INTEL CORE i7 14700K จะอยู่ที่ความเร็ว 3.4Ghz และความเร็วสูงสุดที่ 5.5Ghz โดยความเร็ว All Core ทำงานที่ 5.2-5.3Ghz ครับผมทั้งจำนวนคอร์ 20C/28T กันเลยครับ แคช 33 MB Intel Smart Cache แคช L2 ทั้งหมด 28 MB อัตราบริโภคไฟ 125W พีคโหลดสูงสุด 256W
GPU-Z
ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรง
INTEL CORE i7 14700K Core & Threads
INTEL CORE i7 14700K จำนวนคอร์ที่แสดงการทำงานจะเป็น 20คอร์ /28 เธรดครับ ทำงาน ALL Core ที่ ความเร็ว 5.2-5.3Ghz ทุกคอร์การทำงานครับ เรียกได้ว่าบูตกันมาเต็มด้วยเทคโนโลยี Intel® Adaptive Boost Technology และ Thermal Velocity Boost ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากเลยทีเดียวครับ
รายละเอียดจาก AIDA64
เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ
SuperPI 1MB
SuperPI 32MB
HyperPI 32M 16Thread
สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 5.958วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 45นาที 59.123วินาที HyperPI 32MB ผ่านหมดทุกการทดสอบเฉลี่ย 10นาทีครับ เร็วแรงเยี่ยมทุกการทดสอบเลยครับในระดับ 5วินาทีปลายๆ แรงเร็วระดับ 5วินาทีได้เลยครับ แรงกว่าเดิมมากๆ
ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ
wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark
ในส่วนของ Fritzchess Benchamrk อยู่ที่ 90คะแนน แรงเยี่ยมสุดยอดเลยครับ
ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 48101KB/s แรงเยี่ยมมากๆ เลยครับ
wPrime นั้นก็ทำเวลาได้ดีครับอยู่ที่ 105วินาที เหมือนตัวโปรแกรมนั้นไม่ซัพพอตครับคะแนนความเร็วดูช้ากว่าปกติ
X264 FHD
ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 130PS แรงเยี่ยมระดับหัวแถวเลยครับ สุดยอดมาก
HandBrake
HandBrake ทดสอบประสิทธิภาพการถอดรหัสไฟล์ความละเอียด 8K ความยาว 4.04นาที ใช้เวลาเพียง 5.40นาทีเท่านั้นครับ แรงกว่าเดิมมากๆ ครับ
Corona 1.3 Benchmark
Corona เรนเดอร์ที่เวลา 40วินาที แรงดีเยี่ยมเลยครับ
FRYRENDER X64
Fryrender ก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพครับ เวลาอยู่ที่ 43วินาที เรนเดอร์ได้เร็วแรงมากๆ ครับ
V-RAY Benchmark
V-Ray Benchmark ทำการเรนเดอร์ซีพียูอยู่ที่ 35911คะแนน แรงมากๆ ครับ
Google Chrome : JetStream2
Google Chrome : JetStream2 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 384คะแนนครับ แรงเยี่ยมระดับหัวแถวประสิทธิภาพเว็บบราวเซอร์ยอดเยี่ยมสุดๆ ครับ
Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1
Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 329ms เร็วสุดยอดครับกับประสิทธิภาพเว็บบราวเซอร์
AIDA64 Cache & MemoryBenchmark
ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 109762 MB/s , 94791MB/98133 MB/s กับบัสแรม 7200Mhz แรงเยี่ยมทุกการทดสอบครับ
Video Render Test
Blender Render 2.82
ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดีครับกับการเรนเดอร์กราฟฟิกแอนนิเมชั่นที่ทำเวลาได้ดีเลยทีเดียวอยู่ที่ 1นาที 09วินาทีเท่านั้นครับในไฟล์ไม่ใหญ่มาก และไฟล์ใหญ่ๆอยู่ที่ 8นาที 14วินาที ประสิทธิภาพงานเรนเดอร์แรงมากๆ กว่าเดิมมากเลยครับกับซีพียูในรุ่นรองท็อปใหม่ล่าสุดจากทางอินเทล 14700K
Cinebench 20
โปรแกรม Cinebench 20 อยู่ที่ 13471คะแนน ใน Mult-Thread แรงยอกเยี่ยมครับ ส่วน Single Core อยู่ที่ 815คะแนน ประสิทธิภาพการเรนเดอร์นั้นแรงในระดับหัวแถวกันเลยทีเดียวครับ
Cinebench 23
Cinebench 2024
โปรแกรม Cinebench 23 เวอร์ชั่นล่าสุดเรนเดอร์ไปที่คะแนน 35542คะแนน ส่วน Single Core อยู่ที่ 2121คะแนน แรงเยี่ยมมากๆ ครับ ส่วน Cinebench 2024 ก็แรงเยี่ยมเช่นกันครับ ในการทดสอบเรนเดอร์ซีพียู
เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ
PCMark10
PCMark10 อยู่ที่ 8951คะแนนครับ แรงยอดเยี่ยมมากๆ เลยครับ
3DMark11
3Dmark11 รวมอยู่ที่ 39567คะแนน แรงเยี่ยมระดับหัวแถวกันเลยครับกับประสิทธิภาพด้านกราฟฟิก 3D
3DMark 2013
Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 33434คะแนน แรงเยี่ยมมากครับด้านกราฟฟิก 3D แรงในระดับหัวแถวกันอีกแล้ว
3DMark Time Spy คะแนนรวมอยู่ที่6820คะแนน แรงเยี่ยมมากๆกับผลทดสอบ DX12 แรงกันในระดับหัวแถวนำกันเลยครับ
Speed Way
ผลทดสอบใหม่อย่าง Speed Way อยู่ที่ 2977คะแนน แรงเยี่ยมเลยครับ
Unigine2
Unigine2 อยู่ที่คะแนน 7785คะแนน แรงเยี่ยมเช่นกันครับ
เราไปชมผลทดสอบเกมส์มิ่งกันต่อเลยครับ
Gaming Test
เรามาชมผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันครับกับซีพียู INTEL CORE i7 14700K รุ่นใหม่ล่าสุดรุ่นที่ 14 นั้นจะมีความแรงขับพลังเกมส์มิ่งหรือใช้งานเล่นเกมส์ได้แรงมากน้อยขนาดไหนสมกับที่ทางอินเทลเคลมเอาไว้ว่าเป็นซีพียูสำหรับเล่นเกมส์ของปีนี้กันเลยครับ เราไปชมกันเลยครับ
FARCRY6
FARCRY6 ปรับสุดหมด Ultra อยู่ที่ 134เฟรมเรตครับ แรงระดับหัวแถวกันเลยครับกับเกมส์กินสเปกเล่นได้อย่างลื่นไหล
DIRT 5
เกมส์ DIRT5 ปรับสุดหมดอยู่ที่ 90เฟรมเรทครับ แรงเยี่ยมครับ
Horizon Zero Dawn
Horizon Zero Dawn อยู่ที่ 126ฟรมเรท แรงเยี่ยมระดับหัวแถวอีกแล้วครับ
Grand Theft Auto V
GTA V เกมส์ยอดนิยมในตำนาน ปรับสุดหมด Full HD ระดับ Ultra อยู่ที่ 113เฟรมเรตแรงกันสุดๆ อยู่ระดับหัวแถวกันอีกครั้ง
Metro Exodus
Metro Exodus เปิดเต็ม Ultra Full HD อยู่ที่ 103เฟรมเรตครับ แรงจัดจริงๆ
Ashes of the Singularity
Ashes of the Singularity เกมส์ที่ซัพพอต DX12 อยู่ที่ 141เฟรมเรตครับ แรงยอดเยี่ยมมากๆ ครับ
Shadow of the Tomb Raider
Tomb Raider เล่นได้แรงๆเปิดสุดหมดที่แรงทะลุ 192เฟรมเรตครับ
Red Dead Redemption 2
Red Dead Redemption 2 อยู่ที่ 95เฟรมเรตแบบคอนฟิกเปิดสุดหมดครับ แรงลื่นไหลสุดๆ
FINAL FANTASY XV
FINAL FANTASY XV เกมส์ออนไลน์ชื่อดังกราฟฟิกสุดอลังการอยู่ที่ 13037คะแนน แรงเยี่ยมเลยระดับหัวแถวอีกแล้วครับ
เราไปชมผลทดสอบอุณหภูมิและอัตราบริโภคไฟกันต่อเลยครับ
Temperature & Power Consumption
เรามาชมอัตราการบริโภคไฟของซีพียู INTEL CORE i7 14700K เมื่อใช้งานเต็มระบบ Idle จะอยู่ที่ 125W TDP ครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์ 20C/28T จะอยู่ที่ 483W TDP ครับ ก็ถือเป็นว่ากินไฟพอสมควรครับในพีคโหลดสูงสุดถือว่ากินไฟมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงพีคสูงสุดครับในรุ่นนี้เพราะจำนวนคอร์ที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ
Temperature
อุณหภูมิ Idle อยู่ที่ 30-33งศาฯ ครับ ส่วนฟูลโหลดอยู่ที่ 95-100องศาฯ ครับ ถือว่าค่อนข้างเย็นใช้ได้ครับถ้าเทียบกับความเร็วและความแรงที่เพิ่มขึ้น ถ้าใครจะใช้งานต้องหาชุดน้ำ AIO 2ตอนขึ้นไปหรือฮีตซิงค์รุ่นใหญ่เท่านั้นครับ
เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกใช้งานจริงกันเลยครับ
Overclock
เรามาชมผลทดสอบในการโอเวอร์คล๊อกกันแบบเน้นใช้งานจริงกันต่อเลยครับกับซีพียู INTEL CORE i7 14700K รุ่นใหม่ล่าสุดว่าจะโอเวอร์คล๊อกใช้งานจริงกันได้เท่าใดกันซึ่งความเร็วที่ผมโอเวอร์คล๊อกใช้งานได้แบบเสถียรๆ ใช้งานกันได้จริงแบบยาวๆ ตลอดการทดสอบอยู่ที่ความเร็ว 5.5Ghz ไฟเลี้ยง 1.35v ครับ บัสแรมวิ่งที่ 7200Mhz ตลอดการทดสอบ ถือได้ว่าประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกนั้นทำออกมาได้ดีเยี่ยมมากๆ ครับก็แทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมนักครับ (13700K) อยู่ที่ 5.5Ghz ในการใช้งานจริง สามารถทดสอบในความเร็วกัระดับ 5.5Ghz ที่ใช้งานกันได้จริงอย่างเต็มประสิทธิภาพ ขาโอเวอร์คล๊อกน่าจะชอบใจกันไม่น้อยเลยทีเดียวครับกับค่าประสิทธิภาพการโอเวอร์คล๊อกที่ทำได้ในระดับนี้ เราไปชมผลทดสอบกันเลยครับว่าจะแรงมากน้อยขนาดไหนไปชมกันเลยครับ
CPU-Z
จัดแบบนิ่งๆ เสถียรๆ INTEL CORE i7 14700K โอเวอร์คล๊อกใช้งานกันที่ความเร็ว 5.5Ghz Vcore 1.35v บัสแรม DDR5 7200Mhz ใช้งานกันได้จริงในความเร็วกันสูงๆ ได้สบายๆ
SuperPi 1MB
Superpi 1MB อยู่ที่เวลา 5.964วินาทีแรงเยี่ยมมากๆ เลยครับ
SuperPi 32MB
SuperPI32MB อยู่ที่เวลา 4นาที 57.968วินาทีครับ เร็วมากๆ เลยครับ
X264 FHD
X264 FHD อยู่ที่ 133Fps แรงสุดยอดเลยครับ
Cinebench 23
Cinebench 23 อยู่ที่ 36264คะแนน ประสิทธิภาพพลังเรนเดอร์แรงสุดยอดมากครับเมื่อโอเวอร์คล๊อกแล้ว
3DMark11
3DMark11 อยู่ที่ 48671คะแนน แรงสุดยอดครับ
3DMark Fire Strike
3DMark Fire Strike อยู่ที่ 42274คะแนนขับพลังกราฟฟิกออกมาได้แรงทุกการทดสอบจริงๆ
เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆ ส่งท้ายกันเลยครับ
Maximum Overclock
INTEL CORE i7 14700K Overclock 6.2Ghz DDR5 7200Mhz
CPU-Z
ผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆ กับซีพียู INTEL CORE i7 14700K รุ่นรองท็อปตัวแรงของเราในวันนี้ ซึ่งวันนี้จัดเต็มจับกดกันแบบสุดๆ โดยหลายๆท่านคงอยากทราบถ้ากดกันแบบโหดๆ จัดกันหนักๆ แล้วนั้นจะไปสุดที่เท่าไหร่กันแน่กับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดาครับ โดยผมจัดเต็มๆ เอาใจสาวกอินเทลกันแบบสุดๆ ได้ที่ความเร็ว 6.2Ghz แบบ All Core วิ่งทุกคอร์นะครับบัสแรม DDR5 7200Mhz อัดกันทะลุ 6.2Ghz กันแบบแรงๆ ซึ่งรุ่น i7 13700K นั้นผมทำได้ที่ 6.1Ghz ถือว่าแรงขึ้นกว่าเดิมครับประสิทธิภาพโอเวอร์คล๊อกกดกันได้ไกลกันจริงๆ เราไปชมผลทดสอบกันสักเล้กน้อยครับว่าพลัง 6.2Ghz จะแรงเร็วมากน้อยขนาดไหน
SuperPi 1MB
SuperPi 1MB อยู่ที่ 5.273วินาทีครับ เร็วระดับ 5วินาทีต้นๆ เท่านั้นครับกับความเร็วระดับ 6.2Ghz สุดยอดกันมากๆ ครับ Intel 14th Gen รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ถูกใจสายโอเวอร์คล๊อกขาโหดกันอย่างแน่นอน
Memory Overclock DDR5 8000Mhz
ในส่วนของบัสแรมนั้นก็สามารถโอเวอร์คล๊อกทะลุความเร็ว DDR5 8000Mhz ได้อย่างสบายๆ เลยครับ เรียกได้ว่าแรงทั้งซีพียูและบัสแรม ในคอนฟิกแรมแน่นๆ DDR5 8000Mhz CL 46-52-52-95-147-2T กดบัสแรมได้สูงๆ ทะลุ 8000Mhz+ กันได้ง่ายๆ สำหรับ Intel 14th Gen แรงทั้งบัสแรมและซีพียุเลยครับ ยอดเยี่ยมมากๆ
เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ
Conclusion
…ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ INTEL CORE i7 14700K ที่เป็นซีพียูรุ่นรองท็อปในเจนเนเรชั่นที่ 14 ของทางอินเทลในรหัส Raptor Lake Refresh รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สร้างประสิทธิภาพความแรงได้อย่างน่าประทับใจกันแบบต่อเนื่องเลยครับถ้าใครวางแผนจะใช้รุ่น Core i7 นั้นผมว่าน่าจะคุ้มขึ้นเยอะเลยครับกับจำนวนคอร์ที่ให้มาเพิ่มขึ้น 20C/28T รุ่นก่อน 13700K อยู่ที่ 16C/24T กับความเร็ว 5.5Ghz ใช้งานจริง 5.3Ghz All Core ที่ถือเป็นซีพียูระดับ Mainstream ในสถาปัตย์ Intel 7 สถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง x86 รุ่นใหม่ล่าสุดที่พกพาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง (Performance hybrid architecture) ด้วยประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้นมากถึง 23% เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ระดับแถวหน้าของคู่แข่ง และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น Intel® Application Optimization (APO) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแอปพลิเคชัน ควบคู่ไปกับการกำหนดเวลาเธรดในการใช้งาน Intel® Thread Director รวมทั้งฟีเจอร์ Intel® XTU AI Assist ใหม่สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่ได้รับคำแนะนำโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และรองรับความเร็ว DDR5 XMP ที่มากกว่า 8,000 เมกะทรานสเฟอร์/วินาที (MT/S) เอาใจสายโอเวอร์คล๊อกเอาไว้อีกด้วย ที่สำคัญ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 14 ยังคงสามารถใช้งานร่วมกับชิปเซ็ต Intel® ซีรีส์ 600 และ 700 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถอัพเกรดระบบเดิมได้อย่างง่ายดายเพียงอัพเดทไบออสให้เมนบอร์ดของท่านในเวอร์ชั่นใหม่สุดก็ใช้งานกันได้ต่อแบบคุ้มๆ แล้วครับ
.
มาชมในเรื่องที่เป็นจุดเด่นของทางอินเทลที่ได้นำเสนอมาก็คือประสิทธิภาพโอเวอร์คล๊อกกันครับ INTEL CORE i7 14700K นั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ สมกับที่ทางอินเทลการันตีเอาไว้จริงๆ ด้วยการใช้งานแบบโอเวอร์คล๊อกใช้งานจริงในเรทความเร็ว 5.5Ghz ได้แบบนิ่งๆ ไฟเลี้ยงแค่ 1.35v บัสแรม 7200Mhz ตลอดการทดสอบได้อย่างมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังกดกันแบบเต็มๆ กันทะลุ 6.2Ghz ได้แบบสบายๆ อีกด้วย รวมทั้งบัสแรมก็โอเวอร์คล๊อกได้สนุกกดกันทะลุ DDR5 8000Mhz กันได้สบายๆ เลยครับเมื่อใช้งานกับเมนบอร์ด ASUS ROG STRIX Z790-A GAMING WIFI II รุ่นใหม่ล่าสุดของทางเอซุส ในส่วนของการบริโภคไฟหรือพลังงานก็ต้องบอกว่ากินไฟเยอะขึ้นกว่าเดิมครับเพราะตัวซีพียู INTEL CORE i7 14700K มีจำนวนคอร์ที่มากขึ้นกว่าเดิมและความเร็วที่สูงขึ้นก็ถือเป็นเรื่องปกติครับ เรื่องอุณหภูมิผมแน่นำเป็นชุดน้ำ AIO 2ตอนขึ้นไปหรือฮีตซิงค์ระดับ Hi End ตัวใหญ่ครับจึงจะเหมาะสมและรีดประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่
.
ถ้าให้สรุป INTEL CORE i7 14700K รุ่นรองท็อปในรหัส Raptor Lake Refresh รุ่นใหม่ล่าสุด ก็คงต้องใช้คำพูดเดิมเมื่อตอนรีวิว 13700K ครับ ก็คงต้องบอกว่ารุ่นนี้เป็นซีพียูระดับท็อปที่ยังคงมาตรฐานความแรงเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นและต่อยอดความแรงได้อย่างยอดเยี่ยมสมบรูณ์เข้าไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี Intel 7 แบบไฮบริดจ์ที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกันจริงๆ โดดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมส์ที่ทำเฟรมเรทแรงระดับหัวแถวทุกการทดสอบใครจะซื้อมาเล่นเกมผมมองว่าคุ้มเลยครับหรือจะซื้อมาทำงานทั่วไปสายครีเอเตอร์ ตัดต่อวีดีโอ เรนเดอร์ ประมวลผล ถอดรหัส ถือว่าคุ้มเลยครับเพราะให้จำนวนคอร์มามากเลยทีเดียว 20C/28T ในจุดนี้ผมค่อนข้างชอบเลยครับ การโอเวอร์คล๊อกที่ยังคงมาตรฐานเอาไว้ได้ดีเยี่ยมโอเวอร์คล๊อกง่ายจูนง่ายและมีความสเถียรค่อนข้างดีมากๆ กดกันได้ไกลทั้งตัวซีพียูและแรม ถ้าถามผมว่าเหมาะกับการอัพเกรดไหม ถ้าท่านใช้ Core i5 หรือ i7 อยู่ผมว่าโอเคเลยครับราคาเท่าเดิมกับเจนเนเรชั่นเดิมตอนเปิดตัวให้คอร์มากเยอะขึ้นความเร็วเพิ่มขึ้นและโอเวอร์คล๊อกได้นิ่งขึ้นกว่าเดิม ต้องถามใจตัวท่านเองล่ะครับว่าคุ้มค่าไหมแต่ส่วนตัวผมแล้ว INTEL CORE i7 14700K ยังเป็นซีพียูที่มีเสน่ห์ Core i7 กับราคาไม่แพงเวอร์เกินไปอัพเกรดก็ใช้งานได้ยาวๆ อีก 1ปีเต็มถึงตกรุ่นผมว่าถ้าซื้อมาทำงานกอรปกับเล่นเกมน่าจะคุ้มเลยครับใช้กันได้อีกยาวๆ กับราคาวางจำหน่ายอยู่ที่18,290บาทครับ หวังว่าจะถูกใจสาวก Intel กันนะครับแล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ
…
ราคา 18,290บาท
..
…
…
ขอบคุณที่ติดตาม
Dodge Vmodtech
.
.
Special Thanks.
INTEL