INTEL CORE i9 12900K PROCESSOR REVIEW
Share | Tweet |
…สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้ก็เป็นวันเปิดตัวซีพียู INTEL CORE i9 12900K อย่างเป็นทางการซึ่งจะสามารถลงผลทดสอบ Performace ประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ได้ครับและเป็นวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกด้วยครับ ซึ่งก่อนหน้านี้บรรดาสาวกอินเทลนั้นต่างรอคอยซีพียูรุ่นนี้หรือที่เราทราบกันดีในรหัส Intel Alder Lake ในรุ่นที่ 12 หรือ 12th Gen Core ขนาดสถาปัตย์ 10nm ที่มีจำนวนคอร์มากถึง 16C/24T ความเร็ว 3.7Ghz - 5.2Ghz ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแบบไฮบริดจ์คอร์ที่เป็นการทำงานระหว่างคอร์ใหญ่+คอร์เล็กร่วมกันหรือ P-Core + E-Core ที่จะช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานและในเรื่องของพลังงานอีกด้วยครับ
…
…สำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่ทางอินเทลได้นำเสนอก็คือระบบไฮบริดจ์ที่มีคอร์ใหญ่แบบ Performance Core (P-core) ใช้คอร์ซีพียู Golden Cove และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) ใช้คอร์ซีพียู Gracemont ในการทำงาน ที่ควบคุมด้วยระบบ Intel Thread Director ที่เป็นเหมือนเลเยอร์ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง OS Scheduler ของซีพียูคอยทำหน้าที่แจ้งสถานะการทำงานของแต่ละคอร์ เพื่อให้ระบบ OS Schedule นั้นเลือกการใช้งานของแต่ละคอร์ตามความเหมาะสมของการใช้งานของโปรแกรมที่ทำงานนั่นเองครับ ทำให้การทำงานนั้นเป็นไปตามการใช้งานของโปรแกรมในการใช้งานอย่างเหมาะสมอีกทั้งเป็นการประหยัดพลังงานไปในตัวอีกด้วยครับกรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานคอร์ทุกคอร์กับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะงานมัลติเทรดและอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ถือเป็นจุดเด่นของทางอินเทลในซีพียูยุคใหม่ที่นำระบบไฮบริดจ์มาใช้งานในเจนเนอรเรชั่นนี้เลยครับ
…
ด้วยอัตราการบริโภคไฟที่ 125W สูงสุดที่ 225W พร้อมซ๊อกเก็ตใหม่ล่าสุด LGA1700 และรองรับ LGA1800 ที่ใช้งานกับเมนบอร์ดชิปเซ็ตใหม่อย่าง Z690 รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับแรม DDR5-4800 และรองรับแรม DDR4 ได้ในเมนบอร์ดบางรุ่น รองรับ PCIe Gen 5 จำนวน x16 เลน รองรับ Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6E สำหรับรายละเอียดเชิงลึกก็ตามข้อมูลด้านล่างได้เลยครับ
INTRODUCTION
ซีพียู INTEL CORE i9 12900K ในรหัส Alder Lake นั้นเป็นซีพียูสถาปัตย์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบบไฮบริดจ์คอร์ คอร์เล็ก+คอร์ใหญ่ ที่ใช้ระบบ Intel Thread Director ในการทำงานครับ พร้อมชุดคำสั่งใหม่อย่าง Intel® SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel® AVX2
ซีพียู INTEL CORE i9 12900K ในรหัส Alder Lake ขนาดสถาปัตย์ 10nm ที่มีจำนวนคอร์มากถึง 16C/24T แคชมากถึง 30MB กันเลยทีเดียว
ในรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ซ๊อกเก็ตใหม่ LGA 1700 ครับและมีรุ่น Mobile และ Ultra Mobile รวมอยู่ด้วย
เทคโนโลยีใหม่แบบไฮบริดจ์ที่มีคอร์ใหญ่แบบ Performance Core (P-core) ใช้คอร์ซีพียู Golden Cove และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) ใช้คอร์ซีพียู Gracemont ในการทำงาน ด้วยระบบ Intel Thread Director ที่เป็นเหมือนเลเยอร์ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง OS Scheduler ของซีพียูคอยทำหน้าที่แจ้งสถานะการทำงานของแต่ละคอร์ เพื่อให้ระบบ OS Schedule นั้นเลือกการใช้งานของแต่ละคอร์ตามความเหมาะสมของการใช้งานของโปรแกรมที่ทำงานนั่นเองครับ จึงทำให้ซีพียู Alder Lake นั้นจะมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้นในงานรองรับงานที่หลากหลายและที่สำคัญประหยัดในเรื่องของพลังงานไปได้มากเลยครับกับการใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องทำงานกันทุกคอร์นั่นเองครับ
ซีพียู Alder Lake มาพร้อมแรม DDR5-4800 และจะมีบางรุ่นที่รองรับแรม DDR4 ได้อีกด้วยครับ
รองรับ PCIe Gen 5 จำนวน x16 เลน และ PCIe 4.0 ได้ในเมนบอร์ดบางรุ่นครับ
รองรับ Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6E
Product Appearance
ตัวกล่องมาในกล่องสีฟ้าสดใสโดดเด่นด้วยโลโก้ Intel Core อันเป็นเอกลักษณ์ครับ
ดีไซน์นั้นแตกต่างจากเดิมมากครับ ตัวกล่องที่ใหญ่และสามารถมองเห็นกล่องบรรจุภัณฑ์ด้านใน
ด้านในบรรจุกล่องใส่ซีพียูที่เป็นซิลิคอนสีทองสวยงามอลังการกันเลยครับ
ด้านหลังบอกสเปกการทำงานของตัวซีพียู
ตัวกล่องนั้นไม่มีฮีตซิงค์แถมมาให้นะครับ
แกะกล่องออกมาก็จะเจอคู่มือและกล่องซิลิคอนสีทองสวยงามบรรจุตัวซีพียู INTEL CORE i9 12900K เอาไว้ครับ
เมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับซีพียูด้านในครับ
ตัวซีพียูขนาดจะใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้านี้ครับ ด้วยซ๊อกเ็ตใหม่ LGA1700 และขนาดของ DIE ที่เพิ่มขึ้นทำให้ขนาดใหญ่ตามไปด้วยครับ ขนาดอยู่ที่ 37.5 mm x 45 mm (W x D x H) : 14.00 x 13.20 x 16.50 cm น้ำหนักอยู่ที่ 0.46 KG
หน้าสัมผัสยังเป็นแบบเดิมครับ Land grid array หรือ LGA1700 เหมือนรุ่นก่อนๆ ครับ
ตัวซีพียู Alder Lake รุ่น Core i9 12900K เปรียบเทียบกับ Core i9 11900KF รุ่นก่อนหน้าครับ ขนาดต่างกันพอสมควรเลยครับ
ด้านหลังก็เช่นกันครับขนาดแตกต่างกันแน่นอนครับว่าไม่สามารถใช้งานร่วมกันกับเมนบอร์ดรุ่นเดิมหรือรุ่นใหม่ได้อีกแล้ว
ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ
...
Test Setup
SYSTEMS | |
.CPU |
.INTEL CORE i9 12900K |
.Thermal Grease | .Noctua NT-H2 THERMAL PASTE |
.Motherboard | . ASUS ROG MAXIMUS Z690 EXTREME |
.Memory | ..KINGTON FURY BEAST DDR5 5200Mhz 32GB |
.Graphic Card | . ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL |
.Harddisk | . Plextor M6PRO 256 / KINGSTON SSD 256GB |
.CPU Cooler | ..Water Cooling |
.Power Supply | ..ANTEC 1300W Platinum |
.Operation System | ..Windows 10 64-bit |
รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น INTEL CORE i9 12900K รุ่นใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับเมนบอร์ดตัวแรง ASUS ROG MAXIMUS Z690 EXTREME ของทาง ASUS รุ่นใหม่ล่าสุดดีไซน์สวยงามแรงแบบจัดเต็มร่วมกับกราฟฟิกการ์ด ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL จากทางเอซุสครับ
บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
CPU-Z
ในส่วนของความเร็วที่ใช้งานจริงของซีพียู INTEL CORE i9 12900K จะอยู่ที่ความเร็ว 3.2Ghz บูตแบบ Intel® Thermal Velocity Boost ที่ความเร็วสูงสุดที่ 5.2Ghz ความเร็ว All Core 4.9Ghz ถ้าเปิดบูตแบบสูงสุด PL จะอยู่ที่ 5.3Ghz - 5.4Ghz กันเลยครับ แคช 30 MB Intel Smart Cache บัสแรม DDR5 5200Mhz CL40-40-40-80-120 2T 1.25v ผมทดสอบตามค่า XMP ที่วิ่งกันที่บัส 5200Mhz ได้สบายๆด้วยแรม KINGTON FURY BEAST DDR5 5200Mhz 32GB ตัวแรงของเราในวันนี้ครับ ในส่วนของ Vcore นั้น Idle จะวิ่งอยู่ที่ประมาณ 0.75v ในส่วนของการทำงานเต็มที่จะวิ่งอยู่ที่ 1.28v ในแบบ Fulload ครับ การ์ดจอในตัวซีพียูใช้งานเป็น Intel UHD Graphics 770 รุ่นใหม่ล่าสุด อัตราบริโภคไฟอยู่ที่ 125W และอัตราบริโภคไฟสูงสุดอยู่ที่ 241 W
GPU-Z
ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรง
INTEL CORE i9 12900K Core & Threads
INTEL CORE i9 12900K จำนวนคอร์ที่แสดงการทำงานจะเป็น 16/24 เทรดครับ ทำงาน ALL Core ที่ P-Core Performance-cores ความเร็ว 4.9Ghz ครับ E-Core Efficient-cores ความเร็ว 3.7Ghz ทุกคอร์การทำงานครับ แต่ความเร็วสูงสุดของ Performance-core Max Turbo Frequency 5.1Ghz ครับ Efficient-core Max Turbo Frequency 3.9Ghz และ Intel® Turbo Boost Max Technology 3.0 Frequency 5.2Ghz ตามลำดับครับ
รายละเอียดจาก AIDA64
เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ
SuperPI 1MB
SuperPI 32MB
HyperPI 32M 16Thread
สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 6.951วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 5นาที 51.844 วินาที HyperPI 32MB ก็ผ่านหมดแรงแบบนิ่งๆใช้งานกันได้จริงอย่างมีเสถียรภาพครับ
ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ
wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark
wPrime นั้นก็ทำเวลาได้ดีเยี่ยมครับ 52วินาที ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 47142KB/s ในส่วนของ Fritzchess Benchamrk อยู่ที่ 81.5คะแนน แรงระดับหัวแถวทำได้ดีเยี่ยมครับ
X264 FHD
ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 105.36FPS แรงเยี่ยมมากๆครับ
Corona 1.3 Benchmark
Corona เรนเดอร์ทำเวลากันได้เร็วมากๆครับ ทำงานครบทุกเทรดทั้ง 16คอร์ ที่เวลา 57วินาที แรงสุดยอดเลยครับ
FRYRENDER X64
Fryrender ก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพครับ เวลาอยู่ที่ 57วินาที เรนเดอร์ได้เร็วมากๆครับ
V-RAY Benchmark
V-Ray Benchmark ทำการเรนเดอร์ซีพียูอยู่ที่ 27627คะแนน แรงสุดยอดมากครับ
Google Chrome : JetStream2
Google Chrome : JetStream2 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 218คะแนนครับ
Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1
Google Chrome : Mozilla Kraken 1.1 โปรแกรมทดสอบเว็บบราวเซอร์ก็ทำคะแนนอยู่ที่ 512คะแนนครับ
AIDA64 Cache & MemoryBenchmark
ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 76604 MB/s , 74173MB/ 72219 MB/s กับบัสแรม 5200Mhz ซึ่งประสิทธิภาพอ่าน/เขียนทะลุ 76-74K ทั้งคู่ครับ แรงเยี่ยมมากครับ
Video Render Test
Blender Render 2.82
ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 ประสิทธิภาพที่ทำออกมานั้นยอดเยี่ยมมากๆครับกับการเรนเดอร์กราฟฟิกแอนนิเมชั่นที่ทำเวลาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวอยู่ที่ 1นาที 28วินาทีเท่านั้นครับในไฟล์ไม่ใหญ่มาก และไฟล์ใหญ่ๆอยู่ที่ 10นาที 26วินาทีเท่านั้นเอง ประสิทธิภาพงานเรนเดอร์นี่มาเต็มแน่นอนครับ
Adobe Premiere Pro 2020
Adobe Premiere Pro 2020 โปรแกรมตัดต่อวีดีโอยอดนิยมในการเรนเดอร์ใช้งานจริงก็แรงระดับหัวแถวเลยครับ อยู่ที่เวลา 4นาที 10วินาทีกันเลยครับ แรงเร็วมากๆเลยครับ
Sony Vegas Pro 13
Sony Vegas Pro 13 โปรแกรมตัดต่อวีดีโอยอดนิยมอีกหนึ่งโปรแกรมครับ INTEL CORE i9 12900K ก็ยังสร้างประสิทธิภาพการเรนเดอร์ที่ทำได้ดีกว่าคู่แข่งอีกแล้วครับอยู่ที่เวลา 5นาที 07นาทีครับ เร็วแรงเยี่ยมมากๆเลยครับ
เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ
Cinebench 23
โปรแกรม Cinebench 23 เวอร์ชั่นล่าสุดเรนเดอร์ไปที่คะแนน 27331คะแนน แรงเยี่ยมทั้งคู่เลยครับ ซึ่งซีพียู Intel 12th Gen นั้นเราจะเห็นได้ชัดเลยครับว่าประสิทธิภาพ Single Core นั้นแรงกว่าเดิมมากๆ หรือเทียบง่ายๆ แรงกว่าซีพียูทุกรุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันกันเลยทีเดียว
เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ
PCMark10
PCMark10 อยู่ที่ 7301คะแนนครับ
3DMark Vantage
3DMark Vantage คะแนนอยู่ที่ 101261คะแนน แรงระดับหัวแถวเลยครับ สุดยอดจริงๆ
3DMark11
3Dmark11 รวมอยู่ที่ 37487คะแนนแรงเยี่ยมไปเลย
3DMark 2013
Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 31116คะแนน แรงมากๆครับด้านกราฟฟิก
3DMark Time Spy คะแนนรวมอยู่ที่ 13756คะแนน แรงเยี่ยมจริงๆ
Unigine2
Unigine2 อยู่ที่คะแนน 7727คะแนน แรงมากๆ ครับ
เราไปชมผลทดสอบเกมส์มิ่งกันต่อเลยครับ
Gaming Test
เรามาชมผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันครับ ซึ่งซีพียู Intel 11th Gen นั้นทาง Intel ได้โปรโมทว่าคือซีพียูที่ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมส์ได้อย่างโดดเด่นเพื่อคอเกมส์เมอร์กันโดยเฉพาะ สำหรับซีพียู INTEL CORE i9 11900KF นั้นถือว่าเป็นซีพียูในรุ่นท็อปและมีความโดดเด่นในเรื่องของเกมส์มิ่งมากกันเลยทีเดียวด้วยประสิทธิภาพการทำงานจะเล่นเกมส์ได้ลื่นไหลขนาดไหน เราไปชมเลยครับ
DIRT 5
เกมส์ DIRT5 ปรับสุดหมดอยู่ที่ 82เฟรมเรทครับ แรงลื่นสุดๆ
Horizon Zero Dawn
Horizon Zero Dawn อยู่ที่ 112เฟรมเรทแรงมากๆ เลยครับ
Grand Theft Auto V
GTA V เกมส์ยอดนิยมในตำนาน ปรับสุดหมด Full HD ระดับ Ultra อยู่ที่ 106เฟรมเรตเลยครับ แรงระดับหัวแถว
Metro Exodus
Metro Exodus เปิดเต็ม Ultra Full HD อยู่ที่ 89เฟรมเรตครับ แรงลื่นไหลจริงๆ นำทุกรุ่นซีพียูครับ
Ashes of the Singularity
Ashes of the Singularity เกมส์ที่ซัพพอต DX12 เกมส์แรกๆที่กินสเปคพอสมควรอยู่ที่ 135เฟรมเรตครับ ขับพลังการ์ดจอได้อย่างแรงลื่นไหล
Shadow of the Tomb Raider
Tomb Raider เล่นได้แรงๆเปิดสุดหมดที่ 165เฟรมเรตครับ แรงสุดๆครับ
FARCRY5
FARCRY5 อยู่ที่ 173เฟรมเรตแบบคอนฟิกเปิดสุดหมดครับ แรงระดับหัวแถวเล่นกันได้อย่างลื่นไหลสุดๆเลยครับ
FINAL FANTASY XV
FINAL FANTASY XV เกมส์ออนไลน์ชื่อดังกราฟฟิกสุดอลังการอยู่ที่ 11802คะแนน แรงลื่นไหล
เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันต่อเลยครับ
Overclock INTEL CORE i9 12900K
เรามาชมผลทดสอบในการโอเวอร์คล๊อกกันครับ ซึ่งบรรดาสาวกอินเทลคงอยากทราบความแตกต่างของซีพียูใน Intel 12th Gen หรือรุ่นที่ 12 นี้จะโอเวอร์คล๊อกไปได้ไกลไหมและนิ่งที่เท่าไหร่ กับซีพียู INTEL CORE i9 12900K รุ่น K ที่โอเวอร์คล๊อกกันได้อย่างอิสระ โดยผมได้โอเวอร์คล๊อกไปที่ความเร็ว 5.1Ghz ไฟเลี้ยงที่ 1.23V ได้อย่างมีเสถียรภาพครับแบบ All Core ทุกคอร์ครับ เรียกได้ว่าประสิทธิภาพการโอเวอร์คล๊อกนั้นทำได้ดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคยตามมาตรฐานอินเทลครับผม
SuperPI 1MB
SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 7.308วินาที เร็วเยี่ยมเลยครับ
X264 อยู่ที่ 111.9FPS แรงมากๆ ครับ
Cinebench R23
Cinebench R23 อยู่ที่ 29016คะแนนครับ แรงสุดๆ
3DMark Fire Strike อยู่ที่ 38268คะแนน แรงมากๆ ครับ
3DMark 2013
ผลทดสอบด้านกราฟฟิกก็แรงมากครับ Fire Strike อยู่ที่ 30799คะแนน Time Spy 13867คะแนน โอเวอร์คล๊อกแล้วประสิทธิภาพ 3D แรงเยี่ยมเลยครับ
เราไปชมผลทดสอบอุณหภูมิและอัตราบริโภคไฟกันต่อเลยครับ
Temperature & Power Consumption
อุณหภูมิในการทำงานของซีพีย INTEL CORE i9 12900K กับชุดน้ำเปิดทดสอบด้วยโปรแกรม Prime95 สุดโหดรันกันยาวๆ 10นาทีเต็ม Idle อยู่ที่ 28-30องศาฯครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์อยู่ที่ 71-84องศาฯเท่านั้นเองครับ ถือว่าเย็นครับ ในห้องที่ไม่เปิดแอร์ในหน้าร้อนอุณหภูมิ 30องศาฯ + กันเลยครับ
อัตราการบริโภคไฟนั้นเมื่อใช้งานเต็มระบบ Idle จะอยู่ที่ 102W TDP ครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์ 8C/16T จะอยู่ที่ 380W TDP ครับ นี่คืออัตราการบริโภคไฟของซีพียู INTEL CORE i9 12900K ที่ทำงานอย่างเต็มระบบในการใช้งานจริงครับ ถ้าเทียบกับรุ่นเดิมก็กินไฟเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 50W + ครับใน Fulload
เราไปชมผลทดสอบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆส่งท้ายกันเลยครับ
Maximum Overclock
CPU-Z
โดยในการทดสอบผมโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆ กับซีพียู INTEL CORE i9 12900K ที่ความเร็ว 5.5Ghz Vcore 1.37v NB 5100Mhz บัสแรม 5200Mhz ซึ่งประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกถือว่าทำได้ดีเยี่ยมมากเลยครับกับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา กดกันได้ไกลมากเลยครับสำหรับซีพียูรุ่นใหม่ Intel 12th Gen นักโอเวอร์คล๊อกที่เน้นสร้างสถิติก็คงชื่นชอบกันอย่างแน่นอนครับ ในเรื่องของการโอเวอร์คล๊อกสำหรับเจนเนอร์เรชั่นก็ยังคงมาตรฐานเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเลยครับ
Overclock 5.5Ghz
SuperPI 1MB
SuperPI 1MB อยู่ที่เวลา 6.674วินาทีครับ แรงสุดยอดจริงๆ
SuperPI 32MB
SuperPI 32MB เร็วแรงในระดับ 5นาที ซึ่งแต่ก่อน 29.244วินาที เร็วแรงสุดยอดมากๆ
เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ
Conclusion
…ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ INTEL CORE i9 12900K ที่ถือเป็นซีพียูระดับ Mainstream ที่ดูแล้วพลังที่ออกมามันน่าจะเรียกว่า HEDT ซ่ะมากกว่านะครับในซีพียูซีรี่ย์ Intel 12th GEN รุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นรุ่นพิเศษในรุ่น K ที่โอเวอร์คล๊อกกันได้อย่างอิสระที่ถือเป็นรุ่นท็อปสุดของทาง Intel ที่เปิดตัวกันในวันนี้ครับ โดยซีพียูที่ผมทำการทดสอบนั้นเป็นซีพียูตัวขายปลีกทั่วไปจริงๆ เลยครับกับประสิทธิภาพที่ผู้ซื้อนั้นจะต้องได้เจอแบบนี้จริงๆ โดยในการทดสอบแบบเดิมๆ นั้นประสิทธิภาพการใช้งานนั้นต้องบอกว่าแรงมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเลยครับด้วยจำนวนคอร์ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 16C/24T รุ่นเดิมอย่าง Core i9 11900K อยู่ที่ 8C/16T ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามาใหม่แบบไฮบริดจ์ซีพียูรุ่นแรกที่นำเอา Performance Core (P-core) ใช้คอร์ซีพียู Golden Cove และคอร์เล็ก Efficient Core (E-core) ใช้คอร์ซีพียู Gracemont ในการทำงานที่ออกแบบได้อย่างลงตัวจริงๆ ครับ กับประสิทธิภาพการทดสอบที่ออกมานั้นแรงแซงคู่แข่งแทบทุกการทดสอบจริงๆ ยิ่งการทดสอบแบบเรนเดอร์ กราฟฟิก ประมวลผลหรือเกมส์มิ่งก็ทำได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมากครับสามารถขับพลังกราฟฟิกออกมาได้อย่างลื่นไหลและเต็มประสิทธิภาพอย่างมาก ใครที่เน้นซื้อมาเล่นเกมส์หรือตัดต่อวีดีโอนี่คุ้มเลยครับ ใช้งานกันได้เต็มประสิทธิภาพทุกคอร์กันจริงๆ
…
…อีกจุดเด่นจริงๆ ที่ตอนแรกผมแอบเป็นกังวลก็คือเรื่องความร้อนที่ตอนแรกมองว่าด้วยตัวขนาดซีพียูและ DIE ซีพียูที่ใหญ่ขึ้นสถาปัตย์ที่ใหม่และเป็นรุ่นแรกเลยคาดการณ์ว่าตัวซีพียูจะร้อน แต่ผิดคลาดเลยครับกับผลทดสอบและการใช้งานจริงนั้นเย็นเฉียบมากๆ เลยครับกับห้องที่ไม่ได้เปิดแอร์นะครับธรรมชาติล้วนๆ ที่อุณหภูมิ 27-30องศาฯ ใช้งานจริง Idle อยู่ที่ 28-30องศาฯเท่านั้นครับ Fullload แบบทดสอบโหดๆ โปรแกรม Prime 95 ก็อยู่ที่ 70-80องศาฯ เท่านั้นเองครับถ้าเทียบกับรุ่นก่อนถือว่าเย็นลงกว่าเดิมครับกับชุดน้ำเปิดหม้อน้ำ 4ตอนธรรมดาทั่วไป ถือได้ว่าเย็นสบายๆ เลยนะครับ เสียดายที่ผมไม่มีฮีตซิงค์ลมที่มีขา LGA1700 ก็คงจะทดสอบให้ท่านได้ชมกันอีกรอบเร็วๆ นี้ แต่ผมมองว่าชุดน้ำทั่วไป 2ตอนหรือฮีตซิงค์ลมรุ่นใหญ่ก็คงเอาอยู่ครับไม่เป็นปัญหา อันนี้โอเคเลยครับเรื่องความร้อนสำหรับใครที่เป็นกังวล ในเรื่องของอัตราบริโภคไฟถ้าฟูลโหลดก็อยู่ที่ 381W ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง Core i9 11900KF อยู่ที่ 332W ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นมา 50W ครับในการใช้งานจริงตาม System ที่ผมใช้งานนะครับ บางท่านอาจจะต่ำกว่านี้เพราะพัดลมหม้อน้ำผม 8ตัว แต่ถ้าท่านไม่ได้โหลดหนักหรือใช้งานมากนั้นตัวซีพียูจะใช้แค่ E-Core แทนครับทำให้ประหยัดไฟมากๆ ครับ Idle ผมแค่ 100W เท่านั้นในการใช้งานจริงถ้าเทียบกับรุ่นเดิมกินไฟน้อยลงกว่าชุดเดิมอีกครับ
…ใน
…ในเรื่องของการโอเวอร์คล๊อกนั้นผมเองก็ยังไม่คล่องเท่าไหร่ครับอาจจะต้องศึกษาอีกนิดในเรื่องของแรมซึ่งคงต้องไปค้นหาชิปแรมและไบออสที่ใหม่ๆ กว่านี้มาทดสอบอันอีกครั้งความเร็ว 6000-7000Mhz+ คงทำได้ไม่ยากครับ แต่ประสิทธิภาพแบบเดิมๆ ของแรม DDR5 ก็ถือว่าแตกต่างจาก DDR4 พอสมควรเลยครับเรียกได้ว่าแรงขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย สำหรับการโอเวอร์คล๊อกซีพียูก็จะแยกเป็น 2ส่วนก็คือ P-Core คอร์ใหญ่ และ E-Core คอร์เล็กครับจะต้องแยกกันปรับจูนคนละส่วนจะไม่ได้ใช้งานร่วมกันครับระบบไฟก็จะแยกเช่นกัน ในเรื่องของประสิทธิภาพการโอเวอร์คล๊อกก็ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดและชุดระบายความร้อนด้วยน้ำของท่านด้วยครับ แต่เล่นกันนิ่งๆ เสถียรๆ นั้นก็จะอยู่ที่ความเร็ว 5.1Ghz แบบ All Core / P-Core และ 4.0Ghz All Core / E-Core ครับ ที่สามารถใช้งานได้จริงก็ถือว่า IPC นั้นทำได้ดีนะครับยังคงมาตรฐานที่ 5Ghz+ ได้อย่างสบายๆ และอัดกันแบบเต็มๆ ทะลุ 5.5Ghz ได้อย่างสบายๆ ตามที่ท่านได้เห็นกันในบททดสอบครับ
..
…ก็ถือเป็นซีพียูที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2021 ได้อย่างน่าประทับใจอีกรุ่นครับสมกับที่บรรดาสาวกอินเทลได้รอคอยกันครับกับประสิทธิภาพที่ต้องบอกว่าแรงกว่าคู่แข่งในเกือบทุกๆด้านแล้วทั้งในเรื่องของการเรนเดอร์ ประมวลผล กราฟฟิกและเกมส์มิ่ง INTEL CORE i9 12900K ทำออกมาได้อย่างโดดเด่นและแรงเต็มประสิทธิภาพจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีแบบไฮบริดจ์ที่นำเอาคอร์ใหญ่+คอร์เล็กผสมกันได้อย่าลงตัวและใช้เทคโนโลยีระบบ Intel Thread Director ที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบรูณ์แบบกับการใช้งานเป็นอย่างมากครับ อีกทั้งยังมีชุดคำสั่งใหม่อย่าง Intel® SSE4.1, Intel® SSE4.2, Intel® AVX2 เอาไว้รองรับการทำงานและพร้อมใช้งานร่วมกับ Windows 11 รุ่นใหม่ล่าสุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยครับ ถือเป็นซีพียูที่ออกมาต่อกรกับคู่แข่งได้อย่างสมศักดิ์ศรีกันเลยครับพร้อมมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งในหลายๆ ด้านเพิ่มเข้ามาทั้งการเรนเดอร์ ประมวลผล ถอดรหัส กราฟฟิก และเกมส์มิ่งที่วางจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย ถือเป็นการโต้กลับของอินเทลในช่วงก่อนสิ้นปีได้อย่างสวยงามอีกครั้งครับหลังจากที่เป็นผู้ตามมาหลายรุ่นแล้วในช่วงหลังๆ เรียกได้ว่าการกลับมาของอินเทลในครั้งนี้ทำให้ตลาดซีพียูนั้นจะดุเดือดขึ้นอีกแน่นอนครับ ด้วยขุมพลังเทคโนโลยีใหม่ที่ทางอินเทลมีแผนวางเอาไว้ใช้งานกันแบบยาวๆ ด้วยประสิทธิภาพที่ออกมาทั้งโดดเด่นครบเครื่องทุกการใช้งานตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานทั่วไป ครีเอเตอร์ เกมส์เมอร์ สตรีมเมอร์ เรียกได้เลยครับว่าซีพียู INTEL CORE i9 12900K นั้นเป็นซีพียูรุ่นท็อปที่กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ของอินเทลได้อีกครั้งในรอบหลายปีเลยทีเดียวครับ
…
…โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 23,XXXบาท ท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ
…
ราคา 23,XXXบาท Price $589.00 - $599.00 USD
..
…
…
ขอบคุณที่ติดตาม
Dodge Vmodtech
.
.
Special Thanks.
INTEL