MSI GeForce RTX™ 4070 VENTUS 3X OC 12G GDDR6X Review
Share | Tweet |
สวัสดีครับ วันนี้เวลาดี มาพบกับบทความทดสอบประสิทธิภาพการ์ดจอกันอีกครั้งนะครับ วันนี้เราได้มีโอกาสที่ได้พูดถึงการ์ดระดับกลางรุ่นใหม่ค่าย NVIDIA โดยวันนี้จะมาจากแบรนด์ MSI รุ่น MSI GeForce RTX™ 4070 VENTUS 3X OC สำหรับตัวการ์ดนี้มีความสวยงามพอสมควร ก่อนอื่นเรามาดูรายละเอียดต่างๆของเทคโนโลยีกันเล็กน้อย
.
GeForce RTX™ 4070 นั้นถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของ GPU AD104 ซึ่งจะอัดแน่นไปด้วย 5,888 CUDA Core ที่มี 29 FP32 Shader-TFLOPS ด้าน Tensor Core นั้นมีมาที่ 466 เพื่อที่จะใช้ประมวลผล AI และ DLSS รวมถึง RT Core เจนเนอร์เรชั่นที่ 3 ที่ที่จะช่วยผลักด้นพลัง ray-traced ด้านแรมนั้นมีติดตัวมาให้พอสมควรครับที่ 12 กิ๊กกะไบท์แบบ GDDR6X และเหมือนๆกับการ์ดในซีรีย์ RTX 4000 นะครับ จะมีเทคโนโลยีชูโรงดังนี้
- New Streaming Multiprocessors (SM) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสามารถแปลงพลังงานเพิ่มขึ้นสองเท่า
- Tensor Core Generation 4th ช่วยให้เราได้ใช้และแปลงเทคโนโลยี AI เพื่อการเล่นเกมส์ซึ่งจะประกอบไปด้วย NVIDIA DLSS และความสามารถทวีคูณบน NVIDIA DLSS 3
- RT Core Generation 3rd ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ ray tracing ขึ้นถึงสองเท่า
- Shader Excution Reording (SER) SER นั้นช่วยเพิ่มการทำงานของ ray tracing ขึ้นสองเท่าที่จะช่วยให้เฟรมเรทมากขึ้นถึง 44% ในเกมส์ Cyberpunk ด้วยการเปิด RT: Overdrive Mode
- DLSS 3 การปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ในกราฟิกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยการเพิ่มเฟรมที่มีคุณภาพสูงเข้าไป
- NVIDIA Studio ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในการเรนเดอร์ 3 มิติ การตัดต่อวิดีโอ และการสตรีมสด
- AV1 Encoders เจนเนอร์เรชั่นที่ 8 ของ NVIDIA Encoder (NVENC) พร้อมกับ AV1 ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพกว่า H.264 40%
.
NVIDIA GeForce RTX 4070 นั้นก็เหมือนกับ GPU ในตระกูล RTX 40 ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม Ada ที่ผสมผสาน Shader Execution Reordering (SER), RT Core Engine รุ่นใหม่ และ DLSS 3 ที่เป็นพลังหลักให้เล่นเกมส์ได้แรงกว่าการ์ด RTX 3070 บนเกมส์ใหม่ๆที่กำลังพูดถึงในขณะนี้เช่น Racer RTX และ Cyberpunk 2077 ด้วยโหดม RT: Overdrive
DLSS 3 ประมวลผลเฟรมใหม่และเฟรมก่อนหน้าเพื่อดูว่าฉากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร DLSS 3 สร้างเฟรมใหม่ทั้งหมด โดยไม่มีการประมวลผลไปป์ไลน์กราฟิกแบบเดิม เพิ่มประสิทธิภาพเกมของคุณได้ถึง 4 เท่า
RTX GPU มีโปรเซสเซอร์พื้นฐานสามตัว - shader ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ ที่ NVIDIA ได้เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว, RT Cores เพื่อเร่ง ray tracing และ ray bounding box รวมถึง AI ที่เรียกว่า Tensor Cores
การใช้พลังงาน GPU มีความสำคัญพอๆกับเมตริกอื่นๆ เช่น FPS และ Latency การทดสอบและค่าเฉลี่ยของพลังในเกมและการตั้งค่าต่างๆ จะช่วยให้เห็นภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เกมเมอร์จะได้สัมผัส ตัวอย่างตารางด้านบนคือการใช้พลังงานของ NVIDIA GPU หลายๆรุ่น ในกรณีการใช้งานหลายรูปแบบ รวมถึงการไม่ได้ใช้งาน ในขณะที่ TGP ของ RTX 4070 คือ 200W GPU จะทำงานในระดับพลังงานที่หลากหลายขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งานนั้นๆ
จากตารางแสดงการใช้พลังงานเฉลี่ยของ GeForce RTX 4070 ในตัวอย่างด้านบนไม่เคยถึง 200W แม้แต่ที่ความละเอียด 4K, RTX 4070 GPU นั้นใช้พลังงานน้อยมากที่ 1080p เนื่องจาก Ada ประหยัดพลังงานมากกว่ามาก อัลกอริทึมการเพิ่มของเรายังคงเพิ่ม MHz จนกว่าจะถึงขีดจำกัด แต่เนื่องจาก Ada ต้องการพลังงานโดยรวมน้อยลง เราจึงไปถึงขีดจำกัดอื่นๆ ก่อน เช่น สัญญาณนาฬิกา/แรงดันไฟฟ้าสูงสุด และเราสามารถลดระดับพลังงานโดยรวมเพื่อประหยัดพลังงาน แม้ที่ความละเอียด 1440p การใช้พลังงานของ GeForce RTX 4070 ยังต่ำกว่าระดับพลังงาน TGP อยู่ค่อนข้างมาก สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าทุกเกมต้องการระดับพลังงาน GPU ที่แตกต่างกัน และแตกต่างกันไปตามการตั้งค่ากราฟิกและความละเอียดหน้าจอที่แตกต่างกัน การใช้พลังงานของ GPU จะแปรผันคล้ายกับ fps
.
.
..