สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com วันนี้ผมมีรีวิวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดในแบรนด์ดังของทาง MSI มาให้ท่านได้ชมกันครับกับซีรี่ย์ GP ที่เป็นอีกรุ่นที่สวยงามบางเบากันครับ ในชื่อรุ่น MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO ด้วยดีไซน์ที่สวยงามกับรูปทรงที่ปราดเปรียวมาพร้อมไฟคีย์บอร์ดแบบ RGB และ Silver Lining Printed keys ที่สวยงามพร้อมปรับแต่งสีสรรและโหมดการทำงานได้อย่างมากมายครับ ในส่วนของขุมพลังนั้นเป็นซีพียู Intel Core i7 7700HQ และ การ์ดจอ GTX 1060 6GB GDDR5 ที่ขับเคลื่อนพลังให้การเล่นเกมส์ที่ลื่นไหลพร้อมรองรับ VR อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย ด้วยหน้าจอขนาด 17.3″ Full HD (1920×1080) กับรีเฟรสเรทที่สูงถึง 120 Hz Refresh Rate ทำให้ภาพนั้นลื่นไหลสะใจคอเกมส์มิ่งอย่างแน่นอนกันเลยทีเดียวครับ ในส่วนของฟีเจอร์นั้นก็จัดเต็มให้แบบครบครันเหมือนเช่นเคย อาทิ RGB Gaming Keyboard , Silver Lining Printed keys , Cooler Boost 4 Technology , VR ready , Dragon Center , WTFas , NVMe M.2 SSD , Nahimic 2+ 3D sound technology , Killer Gigabit LAN Controller + Killer Shield + 802.11 ac , Matrix Display supporting 4K output พร้อมจัดเต็มให้คอเกมส์มิ่งให้อย่างเต็มรูปแบบกันเลยครับ ในวันนี้ทดสอบแบบจัดเต็มให้ท่านได้ชมกันเช่นเคยครับ แต่ก่อนอื่นเราไปชมรายละเอียดฟีเจอร์จากทางเว็บไซต์ของ MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO กันก่อนสักเล็กน้อยครับ

INTRODUCTION

เราไปชมรูปร่างหน้าตาตัวเครื่อง  MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO  กันต่อเลยครับ

MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO  Appearance

ตัวกล่องนั้นสวยงามด้วยโลโก้มังกรแดงอันเป็นเอกลักษณ์ให้อย่างสวยงาม

มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ให้มาก็มีตัวเครื่อง MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO สายไฟอแดปเตอร์สายไฟชาร์ต adapter 6-Cell , 41 Whr   แผ่นไดร์เวอร์ คู่มือต่างๆครับ

ตัวเครื่องนั้นสีดำเป็นเอกลักษณ์มีตราโลโก้ MSI อยู่ตรงกลางตามแบบฉบับ MSI GP ซีรี่ย์ครับ ดีไซน์นั้นเป็นรูปแบบใหม่ที่ลายคาดสีแดงนั้นจะหยักขึ้นมาด้านบนทั้งสองฝั่งครับ

ตัวเครื่องนั้นแข็งแรงครับเพราะทำจากโลหะอลูมิเนียมเคลือบอย่างดีทนทานมากๆ  aluminum alloy design

ดีไซน์นั้นออกแบบมาสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ครับ สวยงามแนวเครื่องบินสเตลนั่นเองครับ

ขนาดตัวเครื่อง 419 x 287 x 29~32 mm ครับ น้ำหนักโดยรวม 2.7kg กิโลกรัมครับ ขนาดกำลังพอเหมาะครับเล่นเกมส์สนุกกับหน้าจอใหญ่ๆ

ดีไซน์นั้นสวยงามไปนั่งเปิดที่ไหนนี่ดูเท่ห์เลยครับ

ด้านท้ายก็จะเป็นช่องระบายความร้อนทั้งสองฝั่งครับ

เปิดใช้งานแล้วสวยงามโดดเด่นเลยครับ หน้าจอแสดงผล นั้นเป็นแบบ 17.3″ FHD (1920×1080), 120Hz, 5ms, Wide-View จัดเต็มเพื่อคอเกมส์มิ่งที่แดสงผลด้วยความเร็วสูงถึง 120Hz เพื่อคอเกมส์มิ่งโดยเฉพาะครับกับค่า Response time ต่ำๆเพียง 5ms เท่านั้น เล่นเกมส์ลื่นไหลสบายตาแน่นอนครับ

ตัวเครื่องเมื่อเปิดทำงานก็จะมีไฟแสดงผลทั้งคีย์บอร์ดที่ออกแบบใหม่เป็นรายแรกของโลกที่เป็น RGB และ Silver Lining Printed keys

หน้าจอก็บางเฉียบครับ

แสงไฟคึย์บอร์ดแบบ RGB ถือเป็นจุดเด่นของซีรี่ย์ GP นี้เลยครับ อลังการครับ

สเปคและฟีเจอร์ต่างๆบอกไว้อย่างชัดเจนครับ โดยสเปคการทำงานของเครื่องประกอบด้วยซีพียู  7th Gen. Intel® Core™ i7 processor Core i7 7700HQ การ์ดจอ GeForce® GTX 1060 with 6GB GDDR5  รุ่นนี้เป็นรุ่นการ์ดจอ 6GB ครับ จะมี 3-6GB  แรม DDR4-2400 32GB up to 32GB Single Channel ให้มา 1ตัวนะครับท่านสามารถอัพเกรดเพิ่มได้ ชิบเซ็ต Intel® HM175 และ M.2 SSD 1x M.2 SSD Combo (NVMe PCIe Gen3 x4 / SATA ) , HDD 1x 2.5″ SATA HDD จัดเต็มพร้อมใช้งานและอัพเกรดความแรงเพิ่มกันได้ครับ

ปุ่มควบคุมต่างๆอยู่ด้านข้างบนเครื่องครับ ปุ่ม Power , Cooler Boost 4 Technology , และปุ่มปรับไฟคีย์บอร์ด ทั้งหมด 3ปุ่มครับ

ด้านท้ายก็มีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ทั้งสองด้านครับ ด้วยระบบ Cooler Boost 4 Technology ที่เย็นสะใจกันเลยครับ

ช่อง USB ทั้งสองฝั่งมีไฟแสดงผลสีส้มออกมาให้ด้วยครับ สวยงามและง่ายต่อการใช้งานมากๆ ด้านข้างทั้งสองด้านก็มีช่องระบายความร้อนและบรรดาพอตช่องเชื่อมต่อด้านข้างซึ่งประกอบด้วย Killer Gb LAN , 802.11 ac Wi-Fi + Bluetooth v4.2 , 4x 2W Speaker , 1x Mic-in , 1x Headphone-out (SPDIF) , 1x Type-C USB3.1 Gen2 , 2x Type-A USB3.0 , 1x Type-A USB2.0 , 1x RJ45 , 1x SD (XC/HC) , 1x (4K @ 30Hz) HDMI , 1x Mini-DisplayPort ให้มากันเยอะมากเลยครับ ด้านหลงเป็นช่องระบายอากาศพร้อมช่องแบตเตอรรี่ 6-Cell , 41 Whr

ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ

...

Test Setup

SYSTEMS
.CPU	..Intel Core i7 7700HQ GEN 7TH
.Thermal Grease	..Stock
.SMotherboard	. Intel® HM175
.Memory	..DDR4 2400 MHz , Single Max 32GB Dual ,
.Graphic Card	. Nvidia GeForce GTX 1060 6GB GDDR5
.Harddisk	..M.2 SSD Combo (NVMe PCIe Gen3 / SATA) , HDD1x 2.5″ SATA HDD
.CPU Cooler	..Cooler Boost 4 Technology
.Power Supply	.. adapter 6-Cell ,  41Whr
.Operation System	..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น Intel Core i7 7700HQ GEN 7TH ทำงานร่วมกับการ์ดจอ Nvidia GeForce GTX 1060 6GB GDDR5 รุ่นใหม่ล่าสุดเลยครับ แรมDDR4 ขนาดความจุ 8GB Single 1แถว บัส 2400Mhz เป็นสเปคการทำงานถือว่าไม่ธรรมดาครับ ถ้าใส่แรมไปอีกตัววิ่ง DUAL นี่แรงขึ้นมากกว่านี้เยอะเลยครับ

บรรยากาศขณะทำการทดสอบ ไฟคีย์บอร์ดสวยงามอลังการมากๆและก็กดง่ายมากๆการตอบสนองดีเยี่ยมมากๆครับ

CPU-Z

สเปกซีพียูที่ใช้งานก็คือ Intel Core i7 7700HQ ความเร็ว 2.8 GHz, 6 MB L3 Cache, up to 3.8GHz ไฟเลี้ยงซีพียู Vcore 1.05V บัสแรม DDR4 2400MHz, ความจุ 32GB กราฟฟิกการ์ดเป็น GeForce GTX 1060 6GB GDDR5 แถมยังสามารถโอเวอร์คล๊อกได้อีกด้วย เรามีผลทดสอบในช่วงท้ายแบบจัดเต็มให้ท่านได้ชมเหมือนเช่นเคยครับ

GPU-Z

การ์ดจอเป็น GTX 1060 6GB DDR5 ครับ แรงรองรับเกมส์ใหม่ๆกินสเปคได้อย่างสบายๆครับ

เราไปชมรายละเอียดของซอฟแวร์ในการใช้งานกันสักเล็กน้อยครับ

Software

MSI DRAGON CENTER สามารถดูสถานะการทำงานต่างๆของระบบได้อย่างครบถ้วนครับ รวมทั้งอุณหภูมิในการทำงานของ CPU และ GPU ปรับแต่งการทำงานในส่วนอื่นๆได้อย่างครบถ้วนเลยครับ

สามารถใช้มือถือปรับแต่งควบคุมการทำงานก็ได้ครับ

ปรับแต่งโหมดการทำงานตามการใช้งานของเราครับ มีให้เลือกหลากหลายมากๆ ทั้งดหมดประหยัดพลังงาน เน้นประสิทธิภาพ และโหมดโอเวอร์คลีอก

MSI SCM ซอฟแวร์หน้าหลักกับใช้งานการปรับแต่งสถานะพร้อมทั้งดูระบบการทำงานต่างๆของตัวเครื่องครับ

ระบบเสียง Nahimic Ver2 ก็มีให้ปรับแต่งเอาใจคอเกมส์มิ่งเหมือนเช่นเคยครับ

การปรับแต่งไฟ RGB คีย์บอร์ดก็มีเช่นกันครับ

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1M 1Thread, 32M 1Thread & 32M 8Threads

SuperPI 1M 1Thread

SuperPI 32M 1Thread

HyperPI32

สำหรับ ชุดทดสอบ SuperPI1MBจบไปที่ 10.47วินาที , 32MB จบไป 9นาที 33.692วินาที  ส่วน HyperPI32 ก็แรงผ่านหมดทุกการทดสอบครับ แรงเยี่ยมเลยครับ

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 & Fritz Chess Benchmark

Fritz Chess อยู่ที่ 28.58และ Winrar อยู่ที่ 7094 KB/s แรงมากครับ

FRYRENDER

FRYRENDER รันแล้วอยู่ที่ 5นาที 21วินาทีครับ เร็วเยี่ยม

Corona 1.3 Benchmark

Corona Benchmark ก็เรนเดอร์ได้ที่เวลา 4นาที 55วินาที เวลาเร็วทำได้ดีเลยครับ

AIDA64 Extreme

AIDA64 Cache & Memory Benchmark

AIDA64 MEM ก็แรงตามมาตรฐานแรม Dual Channel บัส 2400Mhz ครับ ทั้งแบรนดวิธต่างๆการอ่านเขียนอยู่ที่ 17556MB/s และ 17292MB/s กับบัส 2400Mhz DDR4 8GB ทั้งการอ่าน/เขียนตามมาตรฐานใส่แรมแบบ 1ตัว Single Chanel ครับ ถ้าใส่สองตัว Dula ประสิทธิภาพดีกว่านี้อีกเท่าตัวเลยครับ

เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ

Cinebench 10

Cinebench 11.5

Cinebench 15

Cinebench ซีรี่ย์ก็เรนเดอร์กันได้ดีเยี่ยมทั้ง 4หัว และ 1หัว เรนเดอร์ได้แรงดีครับตามมาตรฐานครับ

เราไปชมผลทดสอบ 3D กันต่อเลยครับ

PCMark8

PCMark8 อยู่ที่ 3753คะแนน แรงดีครับ

PCMark10

PCMark10 อยู่ที่ 3792คะแนน แรงมากๆครับ

3DMark11

3Dmark11 อยู่ที่ 11699คะแนน แรงดีครับ

3DMark Fire Strike

3DMark Firestrike กดไป 9837คะแนนครับ แรงเยี่ยมมาก

VRMark

VR Mark คะแนนอยู่ที่ 5467คะแนน รองรับการใช้งาน VR อย่างเต็มรูปแบบครับ ลื่นไหลแน่นอน

Unigine2 Superposition

Unigine2 ก็รันได้แรงๆในคอนฟิกแบบ Extreme อยู่ที่ 2116คะแนนแรงเยี่ยมครับ กับคอนฟิกใน DX12

เราไปชมผลทดสอบด้าน Storage กันต่อเลยครับ

Storage Benchmark

ในส่วนของการเก็บข้อมูลนั้น MSI GE73VR 7RE Raider  นั้นให้ M.2 SSD ขนาด 120GB มา 1ชุดครับ กับ HDD 1TB มาอีกชุดครับ โดยท่านสามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ในภายหลัง เราไปชมผลทดสอบกันเลยครับ

AS SSD Benchmark

AS SSD คะแนนการอ่านและเขียนอยู่ที่ 128MB/s , 101MB/s แรงตามมาตรฐาน HDD ขนาด 2.5นิ้วทั่วๆไปครับ

CrytalDiskMark 3.0.3

Crytal DiskMark การอ่านเขียนทะลุ 123MB/s , 118MB/s แรงครับ

Anvil’s Storage Utilities 1.1.0 Benchmark

Anvil’s Storage Utilities 1.1.0 ทั้งการอ่านเขียนก็ใช้ได้ทั้งการอ่านเขียนครับ

ATTO Disk Benchmark

ATTO DISK ก็ทำได้ดีครับ เฉลี่ย 130-120MB/s

เราไปชมผลทดสอบของเกมส์กันต่อเลยครับ

Assassin’s Creed Origins

AC Origin เกมส์ใหม่ๆภาพสวยๆก็สามารถเปิดคอนฟิกได้เต็มๆครับ แต่ถ้าให้ดีใช้คอนฟิกที่เหมาะสมระดับสูงๆไม่ต้องจัดเต็มมากก็จะลื่นไหลแบบสุดๆอย่างแน่นอน แต่ถ้าเปิดสุดหมดก็ยังสร้างเฟรมเรตได้มากถึง 46เฟรมเรตกันเลยทีเดียวครับ

Tom Clancy’s Ghost Recon Wildlands

Tom Clancy’s Ghost Recon Wildlands เกมส์ใหม่ๆคอนฟิกปรับแบบสุดหมด ก้เล่นได้แรงๆที่ 53เฟรมเรตครับ แรงเยี่ยมมากๆ

Grand Theft Auto V

GTA V จัดหนักปรับแบบเปิดสุดหมดในระดับ Full HD 1920*1080 Config High AAX4 ,  DX11 ,  เฟรมเรตอยู่ที่ 54ฟรมเรตเลยครับ แรงลื่นไหลเลยครับ ในคอนฟิกที่เปิดเต็มสวยงามไม่มีปิดบัง

Dawn of War III

เกมส์ใหม่ๆอย่าง Dawn of War III ปรับ Full HD คอนฟิกแบบจัดเต็ม High แบบเต็มๆไม่หมกเม๊ดก็แรงอยู่ที่ 55เฟรมเรต ในคอนฟิกจัดเต็ม กับเกมส์วางแผนภาพสวยๆครับ แรงลื่นไหลมากครับ

Rise of the Tomb Raider

Rise of the Tomb Raider เกมส์ใหม่ DX12 ปรับคอนฟิก High แบบจัดเต็มก็เล่นได้อย่างลื่นไหลครับ อยู่ที่ 56เฟรมเรต แรงลื่นเลยครับ

Ashes of the Singularity

Ashes of the Singularity  ก็เล่นได้อยู่ที่ 41เฟรมเรตในคอนฟิกระดับ Extreme

HITMAN : Enter a World of Assassination

Hitman คอนฟิกปรับสุดหมดระดับความละเอียด Full HD ระดับ medium ในโหมด DX12 อยู่ที่ 61เฟรมเรตครับ

Far Cry Primal

FARCRY Primal ปรับคอนฟิก High ความละเอียด Full HD เปิดสุดหมดทุกอย่าง อยู่ที่ 56เฟรมเรต แรงลื่นไหลเล่นเกมส์สบาย

SNIPER ELITE III

Sniper V3 ปรับแบบ Ultra ปรับสุดหมดอยู่ที่ 49เฟรมเรตครับ แรงมากๆครับ

Tom Clancy’s Rainbow Six Siege

Rainbow Six ก็เล่นได้ลื่นไหลครับ อยู่ที่ 105เฟรมเรต แรงสุดๆครับ

เราไปชมผลทดสอบด้านอุณหภูมิและพลังงานกันบ้างครับ

Temparature

โดยในการทดสอบ MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO กับระบบระบายความร้อนซึ่งจัดเต็มด้วยระบบ Cooler Boost 4 Technology นั้นจะเย็นขนาดไหนครับเมื่อใช้งานกับซีพียูรุ่นใหม่อย่าง Intel Core i7 7700HQ และการ์ดจอ GTX 1060 6GB DDR5  ในการระบายความร้อนจะเอาอยู่หรือไม่เราไปชมกันแบบละเอียดยิบทั้งการทดสอบกับซีพียูและกราฟฟิกการ์ดกันเลยครับ

Prime95 Test Result

Cooler Boost 4 Technology

ในการทดสอบอุณหภูมิของซีพียูครับ โดยรัน Prime95 ให้ซีพียูวิ่งสุดทุกคอร์เป็นเวลา 10นาที อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 84องศาครับ แต่จะป้วนเปี้ยนทำงานกันอยู่ที่ 81-84 องศาฯ ครับในโหมดที่ใช้งานระบบระบายความร้อนแบบ Auto แต่ถ้าใช้ระบบระบายความร้อนด้วยเทคโนโลยี Cooler Boost 4 Technology แล้วนั้นฟูลโหลดอยู่ที่ 74-77องศาฯเท่านั้นครับ เย็นลงกว่าเดิมถึง 10องศาฯเลยครับถ้าวัดความร้อนแบบสูงสุด ส่วน Idle ที่จะเย็นลงมาซึ่งถ้าเปิดแบบ Auto จะอยู่ที่ 50องศาฯ และ Cooler Boost 4 Technology อยู่ที่ 44องศาฯ เท่านั้นเองครับ เรียกได้ว่าเย็นจัดทั้ง Idle และ Fulload ครับ สามารถที่จะควบคุมความร้อนได้ดีทั้งแบบใช้งานจริงรันแบบเต็ม 100ตลอดทั้งซีพียุและการ์ดจอหมดปัญหาเรื่องความร้อนไปได้เลยครับ

GPU Furmark Test

Cooler Boost 5 Technology

ในการทดสอบอุณหภูมิของการ์ดจอครับ โดยรัน Furmark ทิ้งเอาไว้ 5-6นาที อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 67องศาครับ ในโหมดธรรมดา แต่ถ้าใช้ระบบ Cooler Boost 4 Technology ความร้อนอยู่ที่ 62องศาฯครับ ก็ต่างกัน 5องศาฯเลยครับ ถือว่าเย็นลงอย่างมากเลยครับเมื่อเปิดใช้งาน Cooler Boost 5 Technology อย่างเต็มรูปแบบ

Imtec Battery Mark 1.1

ในส่วนของการทำสอบแบตเตอรรี่ 93เปอร์เซ็นนี่ใช้ได้นาน 1ชั่วโมง 49นาทีครับ

BatteryMon

สำหรับ Batmon เทสแบบทั่วไปแล้วนั้นแบตอึดอยู่ได้นานถึง 2ชั่วโมง 34นาทีกันเลยทีเดียวครับ

เราไปชมผลทดสอบในการ Overclock กันต่อเลยครับ

Overclock

โดย MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO ตัวเครื่องนี้นั้นสามารถโอเวอร์คล๊อกกราฟฟิการ์ด (GPU) เพิ่มความแรงกันได้อย่างง่ายๆครับ ด้วยการใช้งาน MSI Dragon Center ในโหมดการปรับแต่งการใช้งาน Turbo Mode ท่านสามารถเข้าไปเซ็ตค่า OC กราฟฟิการ์ดได้ครับ โดยในการทดสอบผมได้โอเวอร์คลีอกแบบสุดหมดให้ท่านได้ชมเลยครับว่า MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO  นั้นสามารถโอเวอร์คล๊อกแบบจัดเต็มได้แบบเต็มที่และใช้งานได้จริงอย่างมีเสถียรภาพ โดยปรับได้สุดทั้งค่า GPU ครับ โอเวอร์คลีอกกันสุดหมดอยู่ที่ GPU +200Mhz และ VRAM +350Mhz ครับ เราไปชมผลทดสอบกันเลยครับ

GPU-Z

ความเร็วที่ได้จะอยู่ที่ Clock 1605Mhz memory 2177Mhz Boost 1871Mhz ลากกันสุดแม๊กจัดเต็มเทสให้ท่านได้ชมกันครับสำหรับขา OC  เดี๋ยวเราไปชมผลทดสอบครับว่าปรับแล้วจะแรงเพิ่มขึ้นมากน้อยขนาดไหนไปชมกันเลยครับ

Fire Strike

3DMark11 อยู่ที่ 12253คะแนน แรงขึ้นมาเลยครับ ใช้งานกันได้จริงๆแรงได้แบบง่ายๆสบายๆครับ

เราไปชมผลสรุปกันเลยครับ

Concluions

ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบโน๊ตบุ๊ค MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO ที่เป็นโน๊ตบุ๊คเกมส์มิ่งซีรี่ย์ GP กับขุมพลัง Intel Core i7 7700HQ และกราฟฟิการ์ด GTX 1060 6GB DDR5 ที่ประสิทธิภาพนั้นแรงเล่นเกมส์กินสเปคใหม่ๆได้อย่างสบายๆครับ ด้วยรูปร่างดีไซน์ที่สวยงามปราดเปรียวแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยความคงทนของวัสดุที่ใช้บรรดาโลหะอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่เป็นเคสตัวเครื่องที่เน้นความทนทานในการใช้งาน รวมไปถึงไฟแสดงผลแบบ RGB ของคีย์บอร์ดที่เป็นเอกลักษณ์สร้างความสวยงามได้เป็นอย่างดี ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ 17.3นิ้ว Full HD (1920×1080) ที่เหมาะกับการเล่นเกมส์หรือใช้งานมากๆมาพร้อมรีเฟรชเรทที่สูงถึง 120 Hz Refresh Rate และค่า Response time ต่ำๆเพียง 5ms เท่านั้น ซึ่งเหมาะกับบรรดาเกมส์เมอร์มากๆครับ ในส่วนของการทดสอบก็ตามที่ท่านได้เห็นแล้วครับว่าสามารถใช้งานกับบรรดาโปรแกรมต่างๆทั้งการเรนเดอร์ ประมวลผล 3D ได้อย่างสมบรูณ์แบบกับซีพียูตัวแรงอย่าง Intel Core i7 7700HQ และการ์ดจอ GTX 1060 6GB ที่สามารถเล่นเกมส์ใหม่ๆได้อย่างสบายๆพร้อมใช้งานคอนฟิกในระดับสูงๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเล่นได้อย่างลื่นไหลแน่นอนครับ ในส่วนของฟีเจอร์นั้นก็จัดเต็มให้เหมือนเช่นเคยครับกับซีรี่ย์นี้ไม่ว่าจะเป็น RGB Gaming Keyboard , Silver Lining Printed keys , Cooler Boost 4 Technology , VR ready , Dragon Center , WTFas , NVMe M.2 SSD , Nahimic 2+ 3D sound technology , Killer Gigabit LAN Controller + Killer Shield + 802.11 ac , Matrix Display supporting 4K output ครบครันพร้อมรับมือเกมส์เมอร์ขาแรงจริงๆ ในส่วนของเรื่องอุณภูมิก็ทำได้อย่างดีเยี่ยมครับในระบบ Cooler Boost 4 Technology ที่เย็นทั้งการใช้งานแบบ AUTO และ Cooler Boost 4 ใช้งานกันได้สบายไม่ต้องเป้นกังวลครับว่าจะแฮงค์หรือร้อนเกินไป ถือเป็นโนีตบุ๊คเกมส์มิ่งที่มีความครบเครื่องอีกรุ่นครับเหมาะสำหรับยูสเซอร์ที่เน้นความเป็น Hi End ในระดับกลางๆกับซีพียูและการ์ดจอที่เกมส์มิ่งได้ทุกเกมส์ในปัจจุบันกับหน้าจอที่ใหญ่ 17.3นิ้วพร้อมรีเฟรชเรทที่สูงถึง 120 Hz Refresh Rate เล่นเกมส์กันแบบภาพลื่นไหลพร้อมรองรับ VR อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย MSI GP72MVR 7RFX LEOPARD PRO เป็นตัวเลือกที่ต้องพิจารณากันเลยครับถ้าท่านมีงบในใจอยู่ไม่เกิน 5หมื่นบาท โดยราคาวางจำหน่ายจะอยู่ประมาณที่ 45XXXบาทเท่านั้นครับ สำหรับในวันนี้ผมก็ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

..

…

…

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

Special Thanks.

MSI

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!