MSI GT640 (Core i7 Q720m)

…สวัสดีครับ วันนี้ก็มาเปิดหัวบทความแบบอลังการงานสร้าง กับโน๊ตบุ๊กล่าสุดจาก MSI ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นน้องใหม่ในตลาดโน๊ตบุ๊กบ้านเรากันครับ และที่พิเศษไปกว่านั้น ที่ผมจั่วหัวไว้ว่า Exclusive Review ในวันนี้ เนื่องจาก MSI GT640 ที่เราได้รับมานั้น เป็น Engineering Sample จาก MSI ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊กรุ่นที่ใช้ซีพียู Core i7 Mobile เครื่องแรกที่เราจะทำการทดสอบกันที่เว็บไซต์แห่งนี้นั้นเองครับ และต้องขอบอกไว้เลยว่า มีการทดสอบกันแบบ Extreme กว่าที่ผมเคยทำมาอย่างแน่นอน

…โดย MSI GT640 นั้น จะเป็นโน๊ตบุ๊กรุ่นจอ 15 นิ้ว หนึ่งในตระกูล G series ที่จะมีตั้งแต่ GX623 ที่มีราคาย่อมเยาว์ (เป็นขุมพลัง Core 2 Duo) และ GT series จะมีในรุ่น GT640 และ GT740 ที่จะใช้ซีพียู Core i7 ล่าสุดจากอินเทลเป็นขุมพลังหลักนั้นเองครับ ซึ่งในครั้งนี้เราได้รับ GT640 มาในช่วงของก่อนงาน Commart เพียงประมาณ 4-5 วัน ได้ลองมาเล่น จะเป็นอย่างไร ก็ลองมาชมกันครับ

Processor	Intel Core i7 Q720-M 1.6ghz (Turbo boost Up to 2.8Ghz)
Chipset	Intel PM55
Memory	4GB DDR3 Dual chanel
Graphics Adapter	NVIDIA Geforce GTS250M
Display	15.4″ (1680×1020)
Harddisk	320gb 7200rpm SATA2
Optical Drive	DVD-RW
Network	Intel WiFi Link 5100 AGN (IEEE802.11 draft N & B/G)
Connection Port	4in 1 cardreader, USBx2, HDMI, VGA, RJ45, RJ11(Fax/Modem) eSATA(Combo), Mini Firewire, PCIE slot
Battery	4800mAh
Weight	2.7kg (Include Batterry)
OS	Windows 7 Home Premium

กล่าวถึงเสป็คกันเล็กน้อยก่อนเข้าสัมผัสตัวเครื่องนะครับ ในเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบเนื่องจากเป็น Engineering sample ซึ่งมันจะติดตั้ง Windows 7 Ultimate มาให้ แต่ในเครื่องขายจริง จะขายตามเสป็คด้านบน ซึ่งต่างกันแค่ Windows 7 Home premium เท่านั้นครับ

ความเร็วของซีพียู เนื่องจากซีพียูนั้นจะมีการเปลี่ยนความเร็วขึ้นลง ตามการทำงานของ Turbo boost อยู่ตลอดเวลา ผลจึงเป็นดังภาพ

GT640 นั้น ถือได้ว่าเป็น notebook ไฮเอนด์จาก MSI รุ่นหนึ่ง ที่เน้นการใช้งานในเชิง Desktop replacment หรือ Mobile Gaming ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 15 นิ้ว และน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก

ตัวบอดี้นั้น ทำให้ผมเองหวั่นไหวครับ เพราะวัสดุส่วนใหญ่นั้นเป็นโลหะ (น่าจะเป็นอะลูมิเนียม) เกือบทั้งตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องนั้นดูแข็งแรง บึกบึน และเนื่องจากมันไม่ใช่ผิว Glossy จึงทำให้ดูแลรักษา่ง่ายนั้นเอง

ลวดลาย เส้นสายของตัวเครื่องนั้น อาจจะดูมีเหลี่ยมสันที่บึกบึน แต่ก็แฝงไปด้วยเส้นสายโค้งมน ชวนให้หลงไหลได้ครับ แถบคาดสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ตัวเครื่องนั้นดูโดดเด่นไม่เรียบจนเกินไป

เมื่อกางฝา …

ให้ดูอีกมุมหนึ่ง กับความลงตัวของบอดี้ ในส่วนของ Hand rest ออกแบบมาค่อนข้างดีครับ ตำแหน่งของทัชแพดนั้นจะถูกวางไว้ตรงบริเวณคีย์บอร์ดหลัก เนื่องจาก GT640 นั้นมี Numpad มาให้ด้วย จึงทำให้การใช้งานนั้นสะดวกสบายเหมือน Desktop ทั่วไป แต่มีจุดที่ผมคิดว่าอาจจะทำให้คนที่ซีเรียสกับฟีลในการใช้งานรำคาญก็คือ ตัว Handrest นั้นเป็นวัสดุโลหะ ซึ่งใช้งานไปนานๆ จะร้อน ยิ่งเฉพาะในวันที่มีอากาศร้อนจัดในบ้านเรา อาจจะทำให้รู้สึกรำคาญข้อมือได้บ้างครับ แต่ก็มีข้อดีที่มันช่วยระบายความร้อน อุปกรณ์ภายในได้ดีนั้นเอง

ทัชแพด ขนาดพอเหมาะดีมาก ใครที่ชอบใช้ทัชแพด อาจจะหลงรักได้ครับ กับเสียงปุ่มกดทัชแพด ที่ฟังดูแล้วไม่กรอบแกรบ เหมือนเครื่องพลาสติกทั่วไป

คีย์บอร์ดฟูลไซส์ … ปุ่ม fn มันมาอยู่แทนปุ่ม ctrl อีกแล้วครับท่านผู้ชม

Console ก็มีปุ่มให้กดเล่นครบครันครับ ทั้ง Wireless Bluetooth แยกกัน และเว็บแคมรวมไปถึงปุ่ม play / pause ต่างๆ และมี Hot key ให้ 1 ปุ่ม แต่น่าเสียดายที่ไม่มีปุ่มควบคุมโวลุมเสียงมาให้

W A S D เป็นเบสิกของคอเกม FPS ทั้งหลายครับ ก็มีการเน้นสีแดงมาให้โดดเด่น

พอร์ตด้านซ้ายจะมี RJ11 สำหรับแฟกซ์/โมเดม และ USB รวมไปถึงช่องซาวการืดที่รองรับ Digital output รองรับเสียงสำหรับ headphone 7.1 รองรับโดย SRS ครับ ส่วนตัวไดร์ฟ optical ยังคงเป็นไดร์ฟแบบ DVD-RW

อีกด้านหนึ่งจะเป็นตำแหน่งของช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ช่อง Firewire, PCIE slot รวมไปถึง USB และ eSATA ที่สามารถเสียบ USB ได้ (เป็น combo port) การ์ดรีดเดอร์ และ RJ45 สำหรับ LAN

ด้านหลังก็ยังคงมีพอร์ตครับ เป็นเรื่องของ Display ทั้งหมด ทั้ง HDMI และ DSUB

อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ บานพับที่มีความแข็งแรงมั่นคงซึ่งโดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊ก Consumer ทั่วไปจะนิยมใช้บานพับรูปตัว L แต่ว่าใน GT640นั้นจะเป็นบานพับ เหมือน Notebook พวก enterprise ที่จอมันจะสามารถกางได้เกือบ 180 องศา

แบตเตอร์รี่ขนาดไม่ใหญ่โตนัก แค่ 4800mAH เองครับ (ฮ่าๆ)

ฝาสามารถถอดออกมาได้แทบทุกส่วนเลยทีเดียว เราจะเห็นเส้นฮีทไปป์ แยกกันสองเส้นระหว่างกราฟฟิคชิป กับ CPU

น้ำหนักรวมแบตเตอร์รี่ 2.73 กิโลกรัม

รวมสายชาร์จ 3.543 กิโลกรัม นับได้ว่า แท่นชาร์จนั้น หนักพอสมควรครับ เพราะจากที่ผมอ่านเสป็คบนฉลาก เจ้าแท่นชาร์จนี้ สามารถให้ out put power ได้ถึง 120watt !! เลยทีเดียว กับโน๊ตบุกที่ค่อนข้างจะซดไฟอย่าง GT640

Performance & Overclock !!

- รายละเอียดจาก CPUZ

…กล่าวถึงเสป็คกันก่อนที่จะชมผลการทดสอบ ตัว GT640 นั้น จะใช้ซีพียู Core i7 Q720 ซึ่งจะเป็นรุ่นที่ตัดแคช L3 ลงจาก 8mb ในรุ่นท๊อป เหลือเพียง 6mb ในตระกูลนี้ และจะมีความเ็ร็วดีฟอล์ทที่ 1.6Ghz แต่เราจะสังเกตได้ว่าขณะจับภาพ CPUZ นั้นมันวิ่งที่ความเร็ว 2.65 นั้นแสดงให้เห็นถึงฟีเจอร์ Turbo boost ที่จะทำการปรับความเร็วให้สูงขึ้น(ด้วยตัวคูณ) ในขณะที่ตัวซีพียูนั้นไม่มี work load ในแบบ Multi task หนักๆ เช่น เมื่อใช้งานซีพียูเพียง 1 คอร์ Turbo boost ใน i7 mobile ก็จะเร่งความเร็วไปได้สูงถึง 2.8 ghz หรือคิดเป็น 75% จากความเร็วเดิม นอกจากงาน single thread แล้ว งาน multi task ที่มีเพียง 2 หรือ 4 threads ตัว turbo boost จะยังคงเพิ่มความเร็วให้ เป็นเสต็ปตัวคูณ ตั้งแต่ 13 ถึง 21 เลยทีเดียว ตามความเหมาะสมของความสามารถตัว CPU

…ส่วนอื่นๆ คือ GTS250M จากในภาพ จะเห็นได้ว่า GPUZ นั้นยังคงไม่รู้จักเจ้ากราฟฟิครุ่นนี้ดีนัก แต่จากการค้นหาข้อมูลของผม ก็พบว่า GTS250 นั้น จะมี แกนประมวลผลภายใน ถึง 96 แกน นั้นคือ คงจะไม่เหมือนกับตัว GTS250 บนเดสก์ทอพที่มีแกนถึง 128 แกนครับ

- Overclock result

…กับการปรับ FSB ด้วยโปรแกรม SET FSB อ้างอิงจาก clock gen เบอร์ ICS9LPRS133BKLF ด้วยการลองผิดลองถูกของตัวผมเอง หากใครคิดจะไปจับจอง G series ที่เป็น i7 ก็สามารถใช้ค่านี้ในการปรับ FSB เล่นได้เลยนะครับ และแน่นอนว่า เสถียร out of the box กับ Super PI 32m 8 threads !! และเปิด turbo boost ไว้ด้วย ซีพียูนั้นจะทำงานที่ความเร็ว bclk 155mhz และความเร็วฐานจากเิดิม 1.6 ก็จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 1.85ghz เลยทีเดียว !

- Super PI 1m

Overclock

ในรูปนี้ turbo boost เร่งไปถึง 3.2ghz เลยทีเดียว (สังเกตใน CPUZ)

Stock

ประสิทธิภาพก็ตามเนื้อผ้าครับ เพราะว่า Super PI นั้น เป็นโปรแกรมที่เป็นลักษณะ Single Task จึงทำให้ตัวซีพียูนั้นถูกเร่งความเร็วไปกว่า 3.2ghz

- HD Tune (HDD read performance)

ด้วยพลัง WD Scorpio Black ขนาด 2.5 นิ้ว SATA2 รอบจัดถึง 7200rpm !! กราฟแบบนี้ HDD 3.5″ รุ่นเก่าๆนี่มีหนาวครับ

- Cinebench R10

Stock

Overclock

จะ เห็นได้ว่า คะแนนในส่วนของ Single CPU render กับ Render พร้อมกัน 8 คอร์นั้น มีความต่างกันเพียงแค่ราว 2.6 เท่าตัวแค่นั้นเองครับ เนื่องจากในโหมด single cpu นั้น จะได้อานิสงส์ความแรงจาก Turboboost ช่วยเร่งความเร็วให้เร็วขึ้น

Batterry Eater (95 - 5%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน

คลิกที่กราฟเพื่อดู HTML ของโปรแกรมทดสอบ

1 ชั่วโมง 8 นาที กับเครื่องที่กินไฟมหาศาล แต่มีแบตเตอร์รี่เพียง 4800mAh ก็ฟังดูสมเหตสมผลดีครับ

ในส่วนของเกมนั้น ก็ถือได้ว่าทำผลงานออกมาได้ดีเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊กไฮเอนด์ในยุคก่อน

Devil May Cry4 DX10 1280×720 (STOCK)

Devil May Cry4 DX10 1280×720 (Overclock)

หลังจาก overclock แล้ว ผมก็พบว่า Framerate นั้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหายเหมือนกันครับในการทดสอบเล่นเกม

SoSoft Sandra

d

PCmark 05 Stock

PCmark 05 Overclock

หลังจากโอเวอร์คลอก นั้น ดูเหมือนจะเกิดความผิดพลาดของโปรแกรม PCmark05 ครับ คือคะแนน CPU และ memory นั้นเพิ่มขึ้น แต่ไม่ทราบว่าทำไมคะแนน HDD และอื่นๆนั้นดรอปลงพอสมควรเหมือนกัน จึงทำให้ได้เป็นผลอย่างที่เห็น

PCmark Vantage 32bit (Stock)

PCmark Vantage 32bit Overclock

ส่วน Vantage นั้นปกติดีครับ จะเห็นว่าคะแนน benchmark นั้นพุ่งขึ้นไม่มาก

3Dmark06 Stock

3Dmark06 Overclock

รวมไปถึง 3Dmark 06 เช่นกัน คะแนนนั้นพุ่งขึ้นสู้เกม Devil may cry ไม่ได้ครับ

3Dmark Vantage (Stock)

3Dmark Vantage Overclock

.

…และแล้วก็จะต้องมาถึง บทสรุปของ GT640 กันครับ ประสิทธิภาพ นับเป็นจุดเด่นจุดขายของ GT640 เลยทีเดียว ประสิทธิภาพของ Core i7 บนโนตบุกนั้น เรียกได้ว่า ถึงแม้จะแรงกว่า Core 2 รุ่นเดิมๆ แต่หากจะหวังผลว่าจะให้แรงพุ่งกระฉุดแบบในเดสก์ทอพนั้น ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ก็ถือได้ว่าสามารถแสดงประสิทธิภาพของซีพียู Quad core ที่มี logical core มากถึง 8 cores ได้อย่างดี และสมเหตุสมผล สิ่งที่น่าสนใจคือ ความฉลาดของตัวซีพียูในการจัดการ Threads ที่ป้อนเข้าไปให้มันทำงาน ทั้งเรื่องของ Turbo boost เมื่อจับกับ Windows 7 แล้วก็จะสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ และระหว่างการใช้งาน ผมเองก็รู้สึกได้ถึงความลื่นไหลในวินโดวส์ 7 ที่ดีมาก นอกจากนี้ กราฟฟิค GTS250M นั้น ก็ยังให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่ากราฟฟิคตลาดทั่วๆไปหลายรุ่น จึงนับได้ว่า ประสิทธิภาพของ MSI GT640 ตัวนี้อยู่ในระดับ Hi end จริงๆครับ

…เรื่องของบอดี้ และการใช้งาน ตัวบอดี้นั้น หนักถึง 2.7 กิโลกรัม นับได้ว่าเ็ป็นขนาดปกติที่เรามักจะเจอในโนตบุกไซส์นี้ (อาจจะบางกว่าหลายค่ายด้วยซ้ำ) และด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ดี (อะลูมิเนียม) ในหลายๆจุด ทำให้ตัวเครื่องดูดีน่าใช้ และดูมีราคาขึ้นมามาก จุดที่น่าชมเชนอีกหนึ่้งจุดคือบานพับจอ ที่สามารถกางได้เกือบ 180 องศา แข็งแรงดี ต่างจากโน๊ตบุ๊กตลาดทั่วไปที่มักจะเป็นบานพับตัว L ที่กางได้ไม่มากนักครับ

…ฟีเจอร์อื่นๆที่ติดตัวมา ก็เรียกได้ว่า ให้มาไม่กั้ก ทั้งพอร์ตเชื่อมต่อ (ลองไปอ่านเสป็คดูนะครับว่ามันเยอะแค่ไหน) รวมไปถึงที่เด็ดสุดๆก็เป็นการรองรับหูฟังแบบ 7.1 SRS พร้อมมี Digital Output ในตัว เข้ากับความเป็นโน๊ตบุกเพื่อความบันเทิงและเล่นเกมได้เต็มตัวจริงๆ

…สำหรับข้อเสียที่หนีไม่พ้นสำหรับเครื่องบอดี้อะลูมิเนียมก็คือความร้อนที่มันจะแผ่ออกมาบน hand rest ที่จะทำให้เรารู้สึกได้ด้วยมือ เวลาเล่นไปนานๆ และแบตเตอร์รี่ ที่ใครๆก็อาจจะบอกว่า เครื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่ต้องอยู่ได้นานก็ได้ แต่ก็ขอนิดหนึ่งครับ 4800mah ดูเหมือนจะน้อยเกินไปสำหรับ i7 จริงๆ รวมไปถึง รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เช่นตัวปุ่ม fn ที่ดันไปอยู่แทนที่ ctrl เสียอย่างนั้น ทำให้คนบางคนเช่นผม ที่คุ้นเคยกับปุ่ม ctrl ที่อยู่ตำแหน่งมาตรฐาน เผลอกดผิดเอาบ่อยๆครับ

ทั้งหมดนี้ คุณจะได้มันมาครอบครอง ในราคา 64xxx บาท ครับ และในช่วงนี้ ก็จะมีตัวเครื่อง แสดงอยู่ที่บู้ต MSI ณ งาน Commart ตัวบู้ตจะอยู่ใน Prinary Hall บล๊อก P19 ใครสนใจ ก็ลองแวะไปชมกันได้ครับ

.

.

.

ขอขอบคุณ MSI Thailand

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!