New 10th Gen Intel Core H-Series Processor Mobile
Share | Tweet |
.
สวัสดีครับ กลับมาพบกับบทความแนะนำ CPU กันอีกครั้งนึง ในช่วงเวลาหลังจากนี้นั้น โน๊ตบุ๊คที่ใช้ CPU Mobile 10th Gen Intel® Core™ processors นั้นจะเริ่มเป็นที่แพร่หลายและสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าออนไลน์ชั้นนำแล้วครับ วันนี้เรามาพูดคุยเพิ่มเติมกันแบบสบายๆซักเล็กน้อยเกี่ยวกับ CPU Core 10th Generation H-Series ที่จะถูกติดตั้งอยู่ในโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆกัน
ภาพรวมของ CPU Core i9-10980HK นั้นจะมีความเร็วบู๊สสูงสุดอยู่ที่ 5.3 GHz โดยที่มากกว่า 60% ของ CPU ที่วางจำหน่ายนั้นสามารถวิ่งได้เกิน 5 GHz ทั้งหมด
ด้วยการออกแบบที่ทำให้มีขนาดเล็กลงนั้นสามารถช่วยให้ตัวเกมส์มิ่งโน๊ตบุ๊คนั้นมีความหนาลดลงจากการใช้งาน CPU Gen 10th H-series นี้ ซึ่งความหนานั้นจะไม่เกิน 20 มิลลิเมตรเท่านั้น ทางด้านการรองรับการทำงานนั้น แน่นอนว่าเกมส์มิ่งโน๊ตบุ๊คนั้นคุณสมบัติก็คือความแรงและความยืดหยุ่นในการทำงาน นั่นเองที่สามารถจะรองรับการทำงานของคุณไม่ว่าจะเป็นงานทั่วๆไป งานด้านคอมเมอร์เชียล หรือจะเป็นงานด้านเวิร์คสเตชั่นก็เอาอยู่ ผสมผสานกับการออกแบบฟอร์มแฟกเตอร์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆที่มาพร้อมกันด้วย
ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยีในวันนี้นั้น เราสามารถเห็นได้อยางขัดเจนทั้งด้านการเล่นเกมส์อย่างจริงจัง การทำงานสร้างสรรในรูปแบบต่างๆ CPU Core i9-10980HK และ Core i-710750H นั้นมีความสามารถสูงกว่า CPU ตัวท๊อปเมื่อสามปีที่แล้วอย่างไม่เห็นฝุ่นเลยครับ ด้วยความสามารถรวมที่สูงกว่าเกือบๆ 50% นั้นจะช่วยให้เราสามารถทั้งเล่นเกมส์และทำงานบนโน๊ตบุ๊คที่จะให้พลังมากกว่า CPU เดสท๊อปเมื่อสามปีก่อน
CPU Gen 10th นั้นเป็นโมไบล์ โพรเซสเซอร์ตัวแรกที่มีความเร็วมากกว่า 5 GHz ซึ่งข้อดีจุดนี้จะช่วยยกระดับการเล่นเกมส์และแอพพลิเคชั่นในยุคปัจจุบันที่อ้างอิงและดึงความสามารถจากความเร็วของโพรเซสเซอร์เป็นหลัก ทำให้การตอบสนองที่รวดเร็วกว่ารวมถึงสมรรถนะที่ดีกว่า
เมื่อเราเทียบเฟรมเรทจากเกมส์ยุคปัจจุบันนี้โดยอ้างอิงจาก CPU Core i9-10980HK ย้อนไปเทียบกับ CPU Core i7-7820HK ที่วางจำหน่ายไปเมื่อสามปีก่อนนั้น จะเห็นได้ชัดครับว่า ด้วยความสามารถและความเร็วของคอร์ที่สูงกว่านั้นจะช่วยยกระดับเฟรมเรทได้สูงกว่า 20-55% เลยทีเดียว
และเช่นกันกับ CPU Core i7 ซึ่งเป็นรุ่นที่รองลงมาก็จะเห็นชัดเจนครับว่าก็ยังมีความสามารถในการยกระดับเฟรมเรทอยู่ในช่วง 30-45%
นอกเหนือจากพลังในการประมวลผลแล้ว ความสามารถในการส่งผ่านข้อมูลในยุคนี้ทั้ง THUNDERBOLT 3 และ INTEL WI-FI 6 (GIG+) นั้นก็จะช่วยให้การส่งผ่านข้อมูลนั้นสูงมากขึ้น
เมื่อการทำงานของ CPU สูงขึ้นแล้ว ถ้านำไปใช้กับ software ที่ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากันก็จะสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นด้วย
.
.
เมื่อเรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆแล้ว โน๊ตบุ๊คนั้นจุดเด่นคือการพกพาไปทำงานนอกสถานที่เป็นหลักใช่มั๊ยครับ และด้วยโน๊ตบุ๊คที่ติดตั้ง CPU Intel Core Gen 10th นั้น เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพเมื่อทำงานด้วยแบตเตอรี่นั้น จะเห็นได้ชัดเจนเลยครับว่า ความสามารถของ CPU Core i5-1035G1 และ Core i7-1065G7 นั้นจะตกลงเพียง 10-20% เท่านั้น และหากมองไปที่ CPU Ryzen 7 เมื่อต้องสลับไปใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน ประสิทธิภาพนั้นตกลงไปค่อนข้างมากเรียกว่าลดลงไปเกือบๆ 50% เลยทีเดียวครับ
บนการทดสอบด้วย SYSmark 25, PCMark 10, WebXPRT 3 รวมถึง application อื่นๆนั้น เมื่อเปรียบเทียบ CPU Core i5-1035G1 และ Core i7-1065G7 กับ Ryzen 7 4700U U-Series ในสถานะการใช้งานจากไฟ AC โดยตรงนั้นจะไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อไหร่ที่ต้องสลับไปใช้งานจากแบตเตอรี่นั้น ทั้ง CPU Core i5-1035G1 และ Core i7-1065G7 นั้นจะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลย
เมื่อเปรียบเทียบอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้น พอจะเห็นได้ว่า Ryzen 7 จะสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าและมีผล Benchmark ที่ดีกว่า
และเมื่อเทียบ Core i5-10300H และ Core i7-10750H กับ Ryzen 7 4800H ก็จะมีผลงานคล้ายกับ Ryzen U-Series ทั้งด้าน performance ที่ Intel จะดีกว่าส่วนระยะเวลาในการใช้งานในโหมดแบตเตอรี่ที่ Ryzen จะอยู่ได้นานกว่า
.
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นครับว่า Intel Gen 10th Core H-Series นั้นคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสายโมไบล์เกมส์มิ่ง หรือสำหรับคอเกมส์ที่ต้องการเล่นเกมส์ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานที่ ในขณะที่ Intel Gen 10th Core U-Series นั้นเป็น CPU ที่ให้พลังแบบไม่มีการประณีประนอมทั้งการทำงานและการพกพาไปไหนมาไหน ซึ่งทั้งสองซีรีย์นี้นั้นหากเราเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราก็จะสามารถช่วยยกระดับการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
.
.
.
.
ขอขอบคุณ
Intel
#SponsoredByIntel