NVIDIA APAC Media Summit 2009 @ Dusit Thani Huahin
Share | Tweet |
…มา ถึง Show case จากทาง NVIDIA กันบ้างครับ ในด้านของตลาดเอนเตอร์ไพรส์ NVIDIA ในช่วงนี้ จะมุ่งเน้นนำเสนอเทคโนโลยี ของชิป TESLA รวมไปถึง Quadro ตัวล่าสุดในรุ่นต่างๆ สำหรับงานระดับองค์กรใหญ่ๆ และงานกราฟฟิคดีไซน์ระดับสูง
…Tesla GPU Computing Solution
…TESLA 10 series เป็น ชิป GPU ยุคที่ 10 ของ nVIDIA เนื่องด้วยความสามารถของ GPU ที่สามารถประมวลผลแบบขนาน ได้ดีกว่า CPU มาก จะเห็นในสไลด์ด้านบนว่า ภายใน GPU นั้น จะมี Processor core มากถึง 240 cores ด้วยกัน และมีความสามารถในการประมวลผล มากถึง 1 Teraflops จึงทำให้เกิดแนวคิด ที่จะนำชิป GPU มาใช้ช่วยในการประมวลผลงานที่มีความซับซ้อนในแบบฉบับของ Super Computer ที่มักจะนำไปใช้ในงานคำณวนทางวิทยาศาสตร์ และการออกแบบ Simulation ต่างๆ
…หาก นึกภาพไม่ออก ก็ขอให้นึกถึงกราฟฟิคตระกล GT200 ที่เห็นกันอยู่ในตลาดนั้นแหละครับ ว่า GPU นั้น มีความสามารถในการประมวลผล มากแค่ไหน TESLA ก็คือเทคโนโลยี ที่นำเอาชิป GPU เหล่านั้น มาทำการประมวลผลแทน หรือช่วย CPU ในการทำงานที่ซับซ้อนหลายๆอย่าง นั้นเอง
ประสิทธิภาพของ GPU เมื่อเทียบกับ CPU ในยุคปัจจุบัน และก่อนหน้านี้ เราจะเห็นได้ว่า มันมีประสิทธิภาพมากกว่า ซีพียูที่เร็วที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ อยู่หลายช่วงตัวเลยทีเดียว
TESLA นั้น จะมาอยู่ในรูปของ GPU board คือมาเป็นการ์ด อินเตอร์เฟส PCI-E หากนึกภาพไม่ออก เจ้า TESLA card นั้น จะลักษณะคล้ายๆกับการ์ดจอทั่วๆไปนั้นแหละครับ เพียงแค่มันจะไม่มีอินเตอร์เฟสสำหรับต่อ Display คือเป็นการ์ดโล้นๆ สำหรับมาช่วยซีพียู คำณวนงานที่ซับซ้อน
…นอกจากนี้ TESLA ยังมีอยู่ ในรูป Fromfactor แบบ 1U ที่สามารถนำไปอินตริเกรตเข้ากับระบบ Super Computer ในระบบตู้ Rack ได้อย่างง่ายดาย
…ประสิทธิภาพระดับ 933 Gigaflops นั้น หากจะต้องใช้ซีพียู สร้างคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพระดับนี้ เราจะต้องใช้ Quad core Xeon 3.0Ghz มากถึงกว่า เกือบ 10 cpus ในการสร้างประสิทธิภาพ ให้เท่ากับ Tesla 1 GPU ซึ่ง TESLA นั้นถือได้ว่าเป็นนวตกรรม ที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการ Super Computer ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแน่นอน ประหยัดพื้นที่ และพลังงานมากขึ้นด้วยครับ
…โดยทุกวันนี้ มีองค์กรใหญ่ๆมากมาย ประสบความสำเร็จในการนำ TESLA ไปใช้ อย่างเช่น Motorola , Kodak , Chevron และมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆมากมาย
…ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า 1 นักวิจัย 1 Supercomputer คอนเซ็ปต์ นี้ ดูเหมือนจะเป็นไปได้จริง กับ TESLA ครับ ที่นักวิจัย สามารถที่จะมี Super Computer แบบ Tower ที่สามารถตั้งวางบนโต๊ะทำงานได้อย่างสบาย เคลมความสามารถถ้าเทียบกับ Super Computer แบบเก่าๆ แล้วล่ะก็ จะเทียบเท่ากับ CPU แบบปกติ มา Cluster กันมากกว่าถึง 64 Node เลยทีเดียว
…หากจะพูดถึงการนำไปใช้งานล่ะครับ ? NVIDIA นั้นมีคำตอบให้ ด้วยความที่ GPU เดิมนั้นถูกออกแบบมาเพื่องานประมวลผลกราฟฟิค เราจึงต้องมีการเชื่อมต่อระหว่างภาษาคอมพิวเตอร์ปกติ กับเอนจินของ TESLA ด้วยสถาปัตยกรรม CUDA ที่จะเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่าง GPU กับชุดคำสั่ง กล่าวคือ ดั่งที่ผมได้เคยเขียน บท Review ของแพลตฟอร์ม ION ไปแ้ล้ว ว่า CUDA นั้นเสมือนกับสะพานเชื่อมกันระหว่างชุดคำสั่ง กับตัวชิป GPU นั้นเอง
…CUDA นั้น รองรับภาษาที่เป็นที่นิยมของนักพัฒนาทั่วไป อย่างภาษา C C++ OPEN CL รวมไปถึงภาษา Fortran ที่เรียกได้ว่าเป็นภาษาเก่าแก่ และหาคนที่จะใช้ภาษานี้ได้ยากแล้ว ก็ยังคงสามารถนำมาใช้งานบน CUDA ได้ครับ รายละเอียด สำหรับนักพัฒนาที่สนใจ CUDA และการใช้งาน TESLA สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.nvidia.com คลิกเข้าไปดูที่หมวด TESLA ครับ
…NVIDIA ได้แสดงการ Simulation การชนกันของอนุภาค ในทางเคมี ให้พวกเราได้ชมกันครับ เทียบกันระหว่าง ใช้ CPU ในการ Simulation เราพบว่า Frame rate ในการ Simulate นั้น ช้ามาก แต่เมื่อสับไปใช้โหมด GPU ในการจำลอง พบว่า เฟรมเรตขึ้นเพิ่มขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ในการ Simulate
…นอกจากนี้ ยังมีการแง้มๆให้พวกเราได้เห็นถึงสถาปัตยกรรมใหม่ของ GPU ยุคใหม่ ที่จะมาแทนที่ GT200 ด้วยครับ กับ Codename “FERMI” ซึ่งจะเป็นปรากฏการใหม่ของวงการผลิต GPU ด้วยทรานซิสเตอร์มากถึง 3 พันล้านตัว รวมไปถึง Processing Unit มากถึง 512 ยูนิต และเมมโมรีคอนโทรลเลอร์แบบ ECC และปรากฏการใหม่ ที่จะมีการนำ Level 2 Caches แบบที่มีใน CPU มาใช้ในตัว GPU ด้วยครับ รายละเอียด ยังคงมีไม่มากนัก เกี่ยวกับเรื่อง Cache แต่ที่ทาง nvidia ได้กล่าวถึงคือ ตอนนี้ GT200 นั้นมี L1 16kb และใน Fermi นั้น L1 caches จะเพิ่มขึ้นเป็น 64kb เลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องคอยติดตามชมกันครับ ว่า Fermi นั้นจะถูกปล่อยออกมาเมื่อใด