nvidia GeForce GTX 680 Editor’s Day @ Malaysia
Share | Tweet |
และเมื่อ CUDA Cores มีจำนวนมากขึ้นมาอย่างมหาศาลแบบนี้ DX11 Tessellation ก็ย่อมต้องแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างมากมายแน่นอน
เบื้องหลังการประหยัดพลังงานอีกอย่างหนึ่งก็มาจากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “NVIDIA GPU Boost”
ด้วยระบบเพิ่มไฟเลี้ยงอัจฉริยะ จะช่วยให้ใช้พลังงานเท่าที่จำเป็นได้ถึง 10 ระดับ จากเดิมที่มีเพียง 3 ระดับเท่านั้น
…นอกจากจะส่งผลให้ประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยให้สามารถโอเวอร์คล็อคได้มากและไกลกว่าค่าเดิมจากโรงงานผู้ผลิตถึง 20%+ ด้วยระบบระบายความร้อนของเดิมที่มากับตัวการ์ด
ตามด้วยอีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ FXAA ที่จะมาทดแทนการเปิดใช้ Anti-Aliasing แบบเดิมๆ
ภาพตัวอย่าง No Anti-Aliasing
ภาพตัวอย่าง 4X Anti-Aliasing
ภาพตัวอย่าง FXAA ที่จะเห็นว่าเนียนกริปในระดับ ภาพยนตร์ CG 3 มิติ กันเลยทีเดียวครับ
ซึ่ง FXAA นี้ สามารถเปิดใช้ได้ทันทีครับกับไดรเวอร์รุ่นใหม่ของทาง NVIDIA
ตามด้วยเทคโนโลยีใหม่ TXAA ที่ช่วยให้ภาพเนียนสวยงามขึ้นอีก โดยที่ประสิทธิภาพยังคงสูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีอันชาญฉลาดของ TXAA ช่วยให้ภาพในการเล่นเกมส์สวยงามระดับหนังฮอลลีวูดกันเลยครับ
ภาพตัวอย่าง No AA
ภาพตัวอย่าง 8X AA
ภาพตัวอย่าง TXAA จะเห็นได้ว่าเนียนกริประดับภาพถ่ายแต่ให้ประสิทธิภาพเฟรมเรตที่สูงขึ้น เยี่ยมครับ
ยังไม่หมดครับสำหรับเทคโนโลยีใหม่ๆ VSync Mode แบบใหม่เพื่อภาพที่ลื่นไหลกันสุดๆ
…ในการเปิด VSync Mode เพื่อให้เฟรมเรตของเกมส์แมตซ์กับ อัตราการรีเฟรตภาพของหน้าจอซึ่งปรกติจะมีค่าอยู่ที่ 60 FPS ซึ่งถ้าเป็นระบบเดิมๆที่ผ่านมาในอดีตก่อนหน้านี้ จะมีปัญหาดร็อปฮวบไปที่ 30 FPS เป็นบางเวลา ทำให้ความต่อเนื่องลื่นไหลในการเล่นเกมส์จะดูสะดุดไปบ้างนิดๆในบางช่วง ซึ่งทาง NVIDIA ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหานี้ที่มามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแต่อย่างใด
…ด้วยวิธีการแก้ปัญหาด้วยการให้มีการ VSync Off ในบางช่วงแบบอัตโนมัติ ความลื่นไหลก็จะกลับมาได้แบบนุ่มนวลไม่มีสะดุดแบบอดีตอีกต่อไปครับ
ปิดท้ายด้วย 3D Vision Surround รูปแบบใหม่ ที่คราวนี้มาแบบจัดเต็มบนการ์ดตัวเดียวชิปเดียวกันเลยครับ
จัดเต็มกับทุกเกมส์ยอดนิยม ไม่มีข้อยกเว้นเลยครับสำหรับ SLI และ 3D Vision จากทาง NVIDIA
…สุดเทพกับการต่อจอได้มากสูงสุดถึง 4 จอ บนการ์ดตัวเดียว โดยเป็นการเล่นเกมส์แบบต่อเนื่อง 3 จอ และมี Desktop อีกหนึ่งจอสำหรับทำกิจกรรมปรกติทั่วๆไป
…ด้วยรูปแบบการจัดการหน้าจอแบบใหม่ ฃ่วยให้การใช้งานบนหน้า Desktop ง่ายดายและเป็นระเบียบขึ้น โดย Windows taskbar จะสามารถตั้งให้อยู่เฉพาะที่จอกลางได้ และเวลาขยายหน้าต่างวินโดว์ก็สามารถเลือกให้เต็มเพียงจอเดียวได้ เข้าใจความสะดวกสบายของผู้ใช้จอหลายๆตัวดีจริงๆครับ
…และด้วยเทคโนโลยีใหม่ Surround Bezel Peaking ก็ช่วยขจัดปัญหาเดิมๆที่ภาพตรงรอยต่อจอบางส่วนหายไปเพื่อให้ได้ภาพรวม 3 จอที่ตรงตามความเป็นจริง โดยจะมีการเพิ่มคีย์ลัด ให้แสดงภาพบางส่วนที่หายไปให้กลับมาได้ และปิดกลับไปเมื่อไม่ได้ดูเพื่อให้ได้สัดส่วนภาพที่ถูกต้อง ใส่ใจทุกรายละเอียดดีจริงๆครับ
และทีเด็ดปิดท้ายก็คือสามารถเร่งความแรงให้กับเกมส์ได้ด้วยการปิดจอ 2 ข้างในโหมด Surround สุดยอดครับ