Nvidia Geforce GTX 780 On AMD FX-8350 Performace Test
Share | Tweet |
สวัสดีครับทุกๆท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ช่วงนี้เราพักกระแสแรงๆของซีพียู Intel Haswell กันบ้างครับ ในวันนี้เรามาชมการ์ดจอตัวแรงจากทางค่าย Nvidia ที่เคยรีวิวไปแล้วที่ทางวีม๊อดเทคของเราและเปิดตัวไปแล้วพร้อมกันทั่วโลกนั่นก็คือ Nvidia Geforce GTX 780 ตัวแรงการ์ดจอในระดับ Hi End ที่ใครๆฝันถึง สำหรับในวันนี้จะเป็นการรีดประสิทธิภาพความแรงของ GTX 780 ออกมาแบบสุดๆโดยใช้ซีพียูของทางฝั่ง AMD กันบ้างครับซึ่งก็เป็นซีพียูตัวแรงของทางค่าย AMD ในรุ่น AMD FX-8350 ซึ่งจะมาขับเคลื่อนประสิทธิภาพกราฟฟิกของ GTX 780 ออกมาได้มากน้อยเพียงใดนั้น วันนี้แฟนๆซีพียู AMD ที่ชื่นชอบการ์ดจอทางค่าย Nvidia พลาดไม่ได้อีกแล้วครับ จะแรงกันขนาดไหน ไล่บี้ซีพียูของทางอีกฝั่งหรือไม่ ห้ามพลาดครับ ก่อนอื่นไปชมรายละเอียดของทางผู้ผลิตกันก่อนครับ
..
GeForce GTX 780 นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเปิดเอฟเฟกแบบสุดๆบน resolution แบบ Full HD เพื่อตอบสนองความต้องการของเกมส์เมอร์ตัวยง GTX 780 นั้นประกอบไปด้วย SMX จำนวน 12 ยูนิตซึ่งทำให้จำนวนคูด้าคอร์นั้นมีมากถึง 2304 คอร์ ในส่วนของเมมโมรี่นั้น GTX 780 ได้บรรจุเอาเมมโมรี่คอนโทรลเลอร์แบบ 64 บิตจำนวนหกตัวซึ่ทำให้มีแบนดวิดท์ทั้งหมด 384 บิทบนความจุมากถึง 3 กิ๊กกาไบท์
.
ความ เร็วคอร์มาตรฐานนั้นเซตมาที่ 863 MHz ซึ่งมันจะมีการทำงานของ Boost ขึ้นไปถึง 900 MHz ในแบบปกติ ซึ่งค่าบู๊สนี้จะเป็นค่าเฉลี่ยจะขึ้นอยู่กับความหลากหลายของการเรียกใช้พลัง จากเกมส์ต่างๆหรือแอพพลิเคชั่นนั้นๆ ความเร็วของเมมโมรี่นั้นเซตมาที่ 6008 MHz และเป็นเมมโมรี่แบบ GDDR5
.
มิติ ด้านความยาวของ GeForce GTX 780 นั้นจะอยู่ที่ 10.5 นิ้ว ต้องการไฟเลี้ยงจากหัวต่อพาวเวอร์แบบ PCIe แบบแปดพินหนึ่งหัวและหกพินหนึ่งหัว การเชื่อมต่อจอภาพนั้นจะมี DVI Dual-link จำนวนสองช่อง หนึ่งช่องเสียบจะเป็น HDMI และ DisplayPort อีกหนึ่งช่องเสียบครับ
NVIDIA GeForce GTX 780 นั้นยังใช้คุณสมบัติหลักจาก GK110 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้บนกราฟฟิกการ์ดที่สร้างความตกตะลึงให้กับวงการอ ย่าง GeForce GTX TITAN ไปแล้ว ด้วยโครงสร้างเดียวกันและยังประกอบไปด้วยคูด้าจำนวนมากถึง 2304 คอร์นั้น มันมากกว่าที่มีอยู่บน GeForce GTX 680 ถึง 50% ทั้งนี้ยังรวมถึงขนาดความจุของแรมที่ก็มีมาให้มากกว่า 680 ถึง 50% อีกเช่นกัน นั่นทำให้ GTX 780 นั้นสามารถแสดงผลบนความละเอียดสูงสุดได้อย่างราบรื่นที่สุด
NVIDIA GeForce GTX 780 นำเสนอการพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพอย่างมหาศาล เกมส์เมอร์ที่คิดจะอัพเกรดการ์ดจาก GTX 580 เป็น GTX 780 นั้น คุณจะพบกับประสพการณ์อันน่าตื่นเต้นจากประสิทธิภาพโดยรวมที่สูงขึ้นกว่า 70% และมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ซึงเปิดตัวไปเมื่อปลายปีอย่าง GTX 680 ถึง 34%
และแน่นอนว่า เกมส์เมอร์ที่ลงทุนกับกราฟฟิกการ์ดไฮเอนด์อย่าง NVIDIA GeForce GTX 780 และ 770 นั้น ความคาดหวังก็คือ ปรับสุด ทุกค่าในเกมส์ใช่มั๊ยครับ ซึ่งนั่นจะทำให้อรรถรสในการเล่นเกมส์นั้นถึงที่สุดด้วยเช่นกัน บนเกมส์อย่าง Metro: Last Light ซึ่งใช้ DX11 tessellation เพื่อสร้างคาแรคเตอร์และวัตถุต่างๆในเกมส์ ด้วยการปรับตั้งค่าในเกมส์แบบสุดๆนั้น การร่างโครงสร้างของภาพให้เกิดเป็นสภาวะแวดล้อมและภูมิประเทศนั้นสมจริง เหมือนเราเข้าไปอยู่ในโลกของเกมส์เลย และการใช้งานระบบ PhysX นั้นทำให้ร่องรอยจากความเสียหายจากอาวุธนั้นยังคงอยู่บนพื้นและผนังด้วย
GTX 780 และ 770 นั้นก็ยังออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เรากำลังง่วนอยู่กับมัน ด้วยอย่าง WaveWorks และ FaceWorks ซึ่งตัวเดโมนั้นเรามีแผนจะเปิดตัวในงาน GPU Technology Conference ในปีนี้ครับ
ความสามารถของ NVIDIA GeForce GTX 780 ในเกมส์นั้นสร้างความน่าเล่นอย่างที่สุด และเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเกมส์ Batman Arkham City และ Shogun 2 นั้น GTX 780 มีประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 39 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ในเกมส์ Borderlands 2, Battlefield 3, Far Cry 3, Skyrim และเกมส์อื่นๆนั้นก็ยังเร็วกว่าถึง 25-30% โดยเฉลี่ยบนความละเอียดหน้าจอ 2560×1600
และ ด้วยเทคโนโลยีในการควบรวมความสามารถด้านซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ที่ล้ำยุคนั้นทำ ให้กราฟฟิกการ์ด GeForce GPU สามารถดึงเอาประสิทธิภาพสูงสุดมาแสดงให้เห็นบนหน้าจอ ซึ่งเราใช้งาน Software ตัวนึงที่ชื่อ Frame Capture Analysis Tool หรือ FCAT ซึ่งเป็น Hardware editor ที่สามารถจะวัดเฟรมเรทได้อย่างแม่นยำมาก จากการใช้ FCAT วิเคราะห์นั้น การทำงานของ GeForce GTX 780 แบบ SLI แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพโดยรวมที่สูงขึ้นมากถึง 75% เลยครับ ดังนั้นการ SLI ซึ่งเป็นการอัพเกรดที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุดสำหรับคอเกมส์ตัวยง
GTX 780 นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความเป็นที่สุด เทคโนโลยีเทอร์โบบู๊สแบบเดิมนั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความเร็วคอร์นั้น พุ่งขึ้นไปสูงสุดภายใต้เงื่อนไขของ Power Target แต่หลังจากที่ทีมเอนจิเนียร์ของ NVIDIA ได้วิเคราะห์และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วมีความเห็นว่า ผลกระทบจากอุณหภูมิของ GPU นั้นมีผลกับประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า GPU Power ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้มีการพัฒนา GPU BOOST 2.0 ขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นการปรับเปลี่ยนจากการบู๊สความเร็ว GPU บนพื้นฐาน GPU Power Target เป็น GPU Temperature Target แทน ซึ่ง Temp Target อยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส
.
ใน กรณีนี้ ผู้ใช้งานสามารถใช้ซอฟแวร์ช่วยในการปรับแต่งให้สามารถบู๊สไปได้มากขึ้นนั้น ทำได้โดยการปรับ Temp Target จาก 80 องศา เป็น 85 องศาเซลเซียส GPU จะทำการบู๊สความเร็วขึ้นไปโดยอัตโนมัติจนกระทั้งความร้อนขึ้นไปชน Temp Target ที่เราเซตขึ้นมาใหม่ และนอกเหนือจาก GPU Temp Target แล้ว GPU Boost 2.0 ก็ยังยอมให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถปรับเปลี่ยนความเร็วรอบของพัดลมได้อย่าง อิสระผ่านทาง GPU’s fan curve ซึ่งนั่นเองจะช่วยประคองอุณหภูมิของ core ให้อยู่ภายในสภาวะเงื่อนไขที่ต่างกันออกไปได้อย่างยืดหยุ่นครับ
และ ด้วยความที่ GeForce GTX 780 นั้นใช้พื้นฐานการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดียวกับ GTX TITAN ซึ่งมันจะประกอบไปด้วย copper vapor chamber และ อลูมิเนียมฮีตซิ้งค์แบบสองสล๊อดที่จะได้รับแรงลมพัดผ่านจากพัดลมแบบ Blower นั่นเองเป็นผลทำให้ความดังของเสียงรบกวนนั้นต่ำกว่ากราฟฟิกการ์ดรุ่นก่อน หน้าอย่าง GeForce GTX 580 และ 680 ด้วย
เพื่อ ให้สอดคล้องกับเสียงรบกวนที่ต่ำกว่านั้น เทคโนโลยี GPU Boost 2.0 ก็ได้ถูกพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบควบคุมความเร็วรอบของพัดลมซึ่ง ได้ใช้ชุด adaptive temperature filter และ อัลล๊อกการิทึมที่ช่วยควบคุมความเร็วรอบและ temperature target ตามที่ได้ถูกตัั้งเอาไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้พัดลมพัดแรงเกินความจำเป็นซึ่งจะเป็นต้นเหตุให้ เกิดเสียงรบกวนจากการ์ดมากเกินไปด้วย
สเปกของ GeForce GTX 780
.
ตารางเปรียบเทียบระหว่างรุ่นที่ใกล้เคียง
จากตารางจะเห็นความแตกต่างระหว่าง NVIDIA GeForce GTX 780 กับ TITAN ได้เป็นอย่างดี
.