Conclusion

ไม่มีข้อกังขาครับสำหรับประสิทธิภาพ ความแรง และความสวยงามของการ์ด NVIDIA GeForce GTX TITAN X ตัวนี้ ด้วยความสามารถของ GPU ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุด แรมที่ติดตั้งบนการ์ดมาให้มากมายถึง 12 กิ๊กกะไบท์ที่พร้อมรองรับเกมส์ยุคใหม่ที่มีกราฟฟิกสวยงามบนพื้นฐานของความละเอียดระดับ 4K ลื่นไหลทุกเกมส์ครับ เฟรมเรทระดับ HIGH Preset ขึ้นไปนี่สมบูรณ์แบบมาก ไม่มีสะดุดหรือแล๊คมากวนใจแต่อย่างใด นั่นยังไม่พอครับ อัตราการกินไฟนั้นต่ำเพียงสี่ร้อยกว่าวัตต์ และแม้ว่าคุณจะทำการโอเวอร์คล๊อกขึ้นไปแล้ว ระบบใหญ่ๆที่ผู้ทดสอบใช้นั้นก็ยังเรียกไฟจากเต้ารับไปไม่เกินห้าร้อยวัตต์ครับ

.

มามองในเรื่องของความร้อนกันบ้าง มองได้สองมุมครับ คือหากปล่อยการ์ดทำงานที่ความเร็วมาตรฐาน เมื่อมีโหลดนั้นจะทำให้การ์ดทำงานมากขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงประมาณ 80 องศา รอบพัดลมที่วิ่งเพียงอ่อยๆประมาณ 30 เปอร์เซนต์ก็จะเริ่มทำงานครับ จุดนี้อาจจะมองว่าร้อนไปนิดนึงแต่หากจะพิจารณาในแง่ของเสียงรบกวนนั้นก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี หากใครที่มองว่าร้อนไป ไม่ยากครับ ใช้โปรแกรมพวก MSI Afterburner หรือ EVGA Precision X แล้วเข้าไปปรับแต่งโพรไฟล์พัดลมเอาได้เลย ความร้อนก็อย่างที่ผมได้ทดลองให้ดูในหน้าก่อนๆครับ ลดลงร่วมยี่สิบองศาเลยทีเดียว

.

สรุปตรงนี้เลยแล้วกันครับว่า จากผลการทดสอบไม่ว่าจะเป็น 3DMark และเกมส์เทสที่ทำการเทสจริงๆ นั่งเล่นจริงๆบนความละเอียด 4K และ Full HD นั้น ไม่มีอาการสะดุดหรือหนืดอีกต่อไปหลังจากที่ก่อนหน้านั้นการ์ดรุ่นใหญ่ๆที่วางตลาดทั้งสองค่ายไม่สามารถทำได้ แต่ NVIDIA GeForce GTX TITAN X นั้นสบายมาก รวมถึงความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของการ์ดระดับ Gaming Flagship ด้วยแล้ว สาวกไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

.

..

.

.

ขอบคุณที่ติดตาม

เชน

.

.

ขอขอบคุณ

NVIDIA TW